ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 1085 นาฬิกาไร้กาลเวลา

ตอนที่ 1085 นาฬิกาไร้กาลเวลา

ตอนที่ 1085 นาฬิกาไร้กาลเวลา

เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังก้องกังวานไปทั่วตำหนักศักดิ์สิทธิ์ กระทบเข้าโสตประสาทของทุกคน!

บรรยากาศเงียบกริบ!

ใบหน้าของเจียงจื่อหยวนซีดขาว ในตอนนั้นรู้สึกนางน่าสังเวชมากกว่า ร่างกายสั่นสะท้าน จนเกือบจะล้มลงที่พื้น

เจียงเห่อเทียนรีบพยุงตัวนางขึ้น เมื่อเห็นนางเสียใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง ภายในใจของเขาก็ทั้งโมโหและร้อนรน จนอดเงยหน้าขึ้นแล้วตะโกนไม่ได้

“ฝ่าบาทโปรดระวังคำพูดด้วย! ที่ท่านพูดเช่นนั้น ถือว่าท่านเพิกเฉยต่อเผ่าในพระราชวังเมฆาสวรรค์รู้ตัวบ้างหรือไม่!? ผู้หญิงนอกพรมแดนหนึ่งคน จะให้อยู่ในตำแหน่งพระชายาได้อย่างใด!?”

ตราบใดที่หรงซิวมีสติแม้เพียงน้อยนิด ก็จะรู้ว่าคำพูดเช่นนี้ไม่สามารถพูดต่อหน้าธารกำนัลได้!

ทุกคนรวมถึงตัวพวกเขาเองด้วย ได้มีการตัดสินไว้นานแล้วว่า ตำแหน่งพระชายาจะต้องมาจากเซียนสุ่ยหลิงเท่านั้น!

แต่ทันใดนั้นฝ่าบาทก็พูดเช่นนั้นออกมา นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่!?

แล้วจะให้พวกเขาเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

น้ำเสียงของหรงซิวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่แรงคุกคามที่ปรากฏออกมานั้น ไม่สามารถปฏิเสธได้!

“ข้าบอกว่านางเป็นได้ นางก็เป็นได้!”

“ฝ่าบาท!”

ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งกำหมัดทั้งสองข้างกรอด สีหน้าเย็นชาอย่างมาก!

“ท่านจะเลือกด้วยตัวเองเช่นนี้หรือ!?”

หรงซิวหัวเราะออกมาอย่างกะทันหัน แล้วเลิกคิ้วขึ้น

“หลายปีมานี้ มีหลายครั้งที่ข้าเลือกเดินตามใจตัวเอง หรือว่าผู้อาวุโสทั้งหลายยังไม่ชินกันอีกหรือ?”

ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งสำลักออกมา เขาพูดอันใดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง

คำพูดนี้ของหรงซิวนั้น เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอนจนไม่สามารถเถียงได้

ฐานะของเขานั้นพิเศษอย่างมาก ตอนแรกที่เขาถูกผู้อาวุโสทั้งหลายนำตัวมาจากนอกเขตพรมแดน เดิมทีเขาจะต้องถูกประหารชีวิตแล้ว แต่ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกทุ่มเทรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ กอปรกับพรสวรรค์และชีพจรของเขานั้นเป็นสิ่งหายาก ดังนั้นจึงต้องฝืนเก็บเขาเอาไว้

เขาอยู่ที่พระราชวังเมฆาสวรรค์มาหลายสิบปี ในตอนแรกนั้นเขาเป็นคนที่ไม่ว่าใครก็สามารถรังแกได้ จนกระทั่งในตอนนี้มีตำแหน่งฝ่าบาทที่มั่นคง เท่านี้ก็สามารถทำให้เห็นความฉลาดหลักแหลมของเขาได้แล้ว!

ในตอนนี้ผู้อาวุโสปิดด่านฝึก เขามีอำนาจอยู่เต็มมือ ดังนั้นเขาจึงเผด็จการมากยิ่งขึ้น!

และในตอนนี้คาดไม่ถึงว่าเขาจะแต่งงานกับคนนอกพรมแดน!

เลือดที่ไหลเวียนอยู่ในกระดูกเต็มไปด้วยเลือดต้อยต่ำโสโครก!

แต่ว่าคำพูดเช่นนี้ ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งและคนอื่นๆ ไม่กล้าพูดออกไปต่อหน้า

หรงซิวในตอนนี้ ไม่ใช่หรงซิวในตอนนั้นอีกต่อไปแล้ว!

การคัดเลือกพระชายาดูแล้วน่าสนุกสนาน ยุติธรรมและเปิดเผย แต่ความจริงแล้ว เขาได้เลือกผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นเพียงกลเม็ดของเขาเท่านั้น!

เพื่อ…ให้นางได้รับตำแหน่งอย่างถูกต้องตามประเพณี!

เขาไม่สนใจสายตาคนอื่นด้วยซ้ำ เขาแสดงจุดประสงค์ของตนเองอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา

แล้ว…ใครจะกล้าขวางทางเขา!?

“ฝ่าบาท สิ่งที่ท่านพูดก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล คุณหนูตู๋กูได้ผ่านงานประลองคัดเลือกพระชายาจริงๆ และได้กลายเป็นที่หนึ่ง การได้ตำแหน่งพระชายานั้น ถือเป็นเรื่องสมควรแล้ว”

ผู้อาวุโสเจิ้งฮุยที่ยืนอยู่ด้านหลังผู้อาวุโสอวี๋จิ้งก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

“เพียงแต่ว่า ท่านก็รู้กฎของพระราชวังเมฆาสวรรค์เป็นอย่างดี ตำแหน่งพระชายาจะต้องเป็นสายเลือดที่มาจากอาณาจักรเสิ่นซวี่ มิฉะนั้นแม้ว่าพวกเราจะเห็นด้วย แต่ว่านางก็ไม่สามารถผ่านการทดสอบของตำหนักสักการะเทพ ไม่ใช่หรือ?”

คิ้วของฉู่หลิวเยว่กระตุกเล็กน้อย

บททดสอบของตำหนักสักการะเทพ?

จำเป็นจะต้องเป็นคนที่มีสายเลือดของอาณาจักรเสิ่นซวี่?

ในขณะที่นางกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อย่างเงียบๆ ไปพลาง เสียงที่สงบนิ่งของหรงซิวก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“นั่นหมายความว่า หากนางสามารถผ่านด่านนี้ไปได้ พวกเจ้าก็จะยอมรับฐานะของนางสินะ?”

ผู้อาวุโสเจิ้งฮุยพยักหน้า “แน่นอนอยู่แล้ว”

หรงซิวยิ้มบางๆ

“ดี”

ฉู่หลิวเยว่มองหน้าหรงซิวด้วยความสับสน

ดี?

อันใดเรียกว่าดี ?

นางไม่ได้มีสายเลือดของอาณาจักรเสิ่นซวี่เสียหน่อย!

ต่อให้นางมีชีพจรเทียนจิง แต่ก็ไม่น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้ไม่ใช่หรือ?

แต่หรงซิวเหมือนจะมองไม่เห็นความกังวลและสงสัยของนางเลย เขาสาวเท้ายาวๆ ก้าวลงมา

เขามีรูปร่างสูงใหญ่ ทั่วทั้งร่างสวมชุดคลุมสีดำ ทำให้โครงร่างของเขาดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

ไหล่กว้างเอวสอบ รูปร่างสูงยาวดั่งหยกสลัก

การก้าวเดินแต่ละก้าวนั้น ทั้งเร็วและเบา อีกทั้งยังแฝงไปด้วยรัศมีอันสูงส่งที่ยากจะพรรณนา!

เขาเหมือนเดินออกมาจากในภาพวาด สูงส่งงดงาม ยั่วยวนราวมารร้าย

ฉู่หลิวเยว่จ้องมองไปที่ชายคนนั้นตาไม่กะพริบ คาดไม่ถึงว่านางจะตกอยู่ในภวังค์ จนแทบจะลืมหายใจ

ชายที่อยู่ตรงหน้า ทั้งคุ้นเคยทั้งแปลกหน้า

เขาเคยสวมชุดขาวราวกับหิมะ อบอุ่นอ่อนโยนราวเทพเซียน แต่ในวันนี้ ไม่เพียงสวมชุดสีดำทั้งชุด คาดไม่ถึงว่า เขาจะดูเปลี่ยนไปราวกับคนละคน

ในตอนนั้นสามารถได้กลิ่นคาวเลือดจางๆ ในอากาศ

นั่นคือกลิ่นอายของคนที่คลุกคลีกับความเป็นความตายอยู่หลายปี กุมชีวิตผู้คนอยู่จำนวนไม่น้อย ถึงจะสามารถมีลมปราณเช่นนี้ได้!

เขาคือ หลีอ๋อง หรงซิว

และก็คือโอรสสวรรค์ หรงซิว!

แต่ตอนที่นางมองเข้าไปในดวงตาของเขา เขาก็ยังเป็นเขาคนเดิม

ความอบอุ่นอ่อนโยนเช่นนั้น มอบให้นางเพียงคนเดียว

เขาเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นมือออกมา

“เยว่เอ๋อ ข้าจะไปกับเจ้าเอง”

เขาไม่ได้เรียกแทนตัวเองด้วยคําราชาศัพท์

เขาบอกว่า เขาจะไปกับนาง

สายตาของคนจำนวนไม่น้อยมองตามพวกเขาไป แต่ในสายตาของเขา มีเพียงนางคนเดียวเท่านั้น

ในตอนนั้นเอง ภายในใจของฉู่หลิวเยว่ก็เหมือนมีอันใดพลุ่งพล่านอยู่

มือของเขาที่จับมือนาง ทั้งอบอุ่นและปลอดภัย

“ได้!”

เจียงจื่อหยวนขบริมฝีปากของตนเองจนแน่น

กลิ่นสนิมกระจายไปทั่วทั้งริมฝีปากและฟันของนาง แต่นางกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย

ในตอนนั้นสายตาของนางจับจ้องเพียงชายหญิงสองคนที่จับจูงมือกัน

ทุกคนสามารถมองออกได้อย่างชัดเจน ว่าเขานั้นยื่นมือไปหานางก่อน

เมื่ออยู่ตรงหน้าแม่นางคนนั้น เขาไม่ใช่โอรสสวรรค์ที่สูงส่ง เขาเป็นเพียงชายคนหนึ่งที่ทอดมองหญิงสาวที่รักด้วยแววตาเปี่ยมสุข

เขาไม่เคยใช้สายตาเช่นนั้นมองนางมาก่อน

เมื่อเจียงเห่อเทียนเห็นสีหน้าของนาง เขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วพูดปลอบใจว่า

“จื่อหยวน ไม่ต้องกังวล นางแค่แม่นางนอกพรมแดนคนหนึ่ง ไม่มีทางผ่านด่านตำหนักสักการะเทพไปได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ต่อให้เป็นบรรพบุรุษพระราชวังเมฆาสวรรค์ ก็ไม่มีทางเห็นด้วยที่จะให้แม่นางที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาเป็นพระชายา”

เจียงจื่อหยวนเม้มริมฝีปาก

“แต่ว่า…นางมีวิธีการมากมาย ใครจะรู้แล้วว่าต่อไปนางจะสามารถ…”

ถ้าตู๋กูเยว่ผู้นี้ เป็นคนธรรมดาอย่างฉากหน้าจริงๆ นางจะสามารถทำพันธสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์สองตัวได้อย่างใด!?

ขอให้อยู่ในอาณาจักรเสิ่นซวี่ นางก็ไม่ค่อยได้ยินเรื่องราวแบบนี้มาก่อน!

เจียงเห่อเทียนแค่นเสียงอย่างเย็นชา

“ด่านเหล่านี้ นางสามารถใช้วิธีมั่วๆ ซั่วๆ เอาชนะไปได้ แต่ตำหนักสักการะเทพนั้นเป็นสถานที่แบบใด? ที่นั่นเป็นสถานที่ประดิษฐานวิญญาณบรรพบุรุษทุกท่านของพระราชวังเมฆาสวรรค์! ต่อให้นางมีความสามารถ แต่นางจะสามารถเปลี่ยนสายเลือดของตนเองในตอนนี้ได้เลยหรือ?”

ผู้คนด้านนอกพรมแดนเกิดมาก็มีสายเลือดชั้นต่ำ หากคิดจะเทียบกับอาณาจักรเสิ่นซวี่ ก็ถือว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันแล้ว!

“เจ้ารอดูไปก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวนางก็ต้องพ่ายแพ้กลับมา พ่ายแพ้อย่างหมดรูป!”

เจียงเห่อเทียนเชิดคางขึ้น

“มีผู้อาวุโสอวี๋จิ้ง และผู้อาวุโสทั้งหลายอยู่ ตำแหน่งพระชายา สุดท้ายจะต้องเป็นของเจ้าอย่างแน่นอน!”

เจียงจื่อหยวนพยักหน้าอย่างไม่สบายใจ

ฉู่หลิวเยว่กับหรงซิวจูงมือกันเดินออกจากตำหนักศักดิ์สิทธิ์ และเดินออกมายังสนามด้านนอก

ส่วนด้านหลังก็ยังมีผู้อาวุโสอวี๋จิ้ง และผู้อาวุโสคนอื่นๆ เดินตามมาออกมาเป็นขบวน

คนอื่นๆ ที่อยู่ภายในท้องพระโรงก็ตามมาด้วยความสงสัย กลางสนามมีผู้คนอยู่รอบด้าน

หรงซิวเชิดคางขึ้น

“ที่นั่นคือตำหนักสักการะเทพ ที่ตรงนั้นจะมีนาฬิกาไร้กาลเวลา เมื่อถึงตอนนั้นเพียงแค่วางมือลงไปพร้อมถ่ายเทพลังดั้งเดิม นาฬิกาไร้กาลเวลานี้จะชี้ไปตามพลังสายเลือดภายในร่างกายของเจ้า จากนั้นมันจะปรากฏตัวเลขออกมา”

“หนึ่งคืออ่อนแอที่สุด ส่วนสิบสองคือแข็งแกร่งที่สุด”

—————————-

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

Score 10
Status: Completed
กล่าวได้ว่าชีวิตของ ฉู่หลิวเยว่ นั้นช่างแสนอาภัพ แม้เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลฉู่แต่กลับเป็นผู้ที่มีชีพจรไร้สามารถ ไม่อาจฝึกพลังใดได้จึงทำให้ถูกคนรังแกมาตั้งแต่เล็ก แม้แต่องค์รัชายาทที่เป็นคู่หมั้นก็ยังไม่เคยมาดูแลและคิดแต่จะถอนหมั้นกับนาง ชีวิตของฉู่หลิวเยว่คงดำเนินต่อไปเช่นนั้น หากน้องสาวคนดีของนางไม่ส่งนักฆ่ามาเพื่อสังหารนางทำให้ดวงวิญญาณแค้นของ ซั่งกวนเยว่ ได้เข้ามาครอบครองร่างนี้แทน คนไร้ค่าอย่างนั้นรึ นางที่เป็นอดีตองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้แตกฉานด้านการแพทย์และเป็นผู้มากพรสวรรค์แห่งแคว้นย่อมไม่อาจยอมรับคำสบประมาทนี้ได้จริงๆ! ในเมื่อพวกเขาล้วนดูถูกผู้อ่อนแอ นางก็จะแสดงให้เห็นว่าคนอ่อนแอผู้นี้แหละจะเหยียบพวกเขาให้จมดินได้อย่างไร! ควบคุมสัตว์เทพอสูร หลอมรวมพลัง เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และยาพิษ เพื่อยื้อชีวิตเหล่ามนุษย์และทวยเทพ! นางขอสาบาน นางจะทำให้คนที่เคยทรยศเหยียดหยามนางพวกนั้นได้รับกรรมอย่างสาสมเป็นร้อยเท่าพันทวี! ตอนแรกทุกคนเตือนเขาว่า “ท่านหลีอ๋อง บุตรสาวที่ตระกูลฉู่ทอดทิ้งผู้นั้นไม่คู่ควรกับพระองค์!” ต่อมาทุกคนกลับเย้ยหยัน “องค์ชายผู้อ่อนแอ ไม่คู่ควรกับองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้สูงส่ง!”

Options

not work with dark mode
Reset