ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 1080 เจ้าบอกว่าใครโกง

ตอนที่ 1080 เจ้าบอกว่าใครโกง

ตอนที่ 1080 เจ้าบอกว่าใครโกง

โครม!

สีแดงและน้ำเงินปะทะกันอย่างดุเดือด! เปลวเพลิงลุกท่วมทุกทิศทาง!

อย่างใดก็ตามไหมคงวายุนี้ไม่ได้ทะลวงผ่านลูกไฟนี้โดยตรง

แต่ตรงชายขอบของมันมีเปลวเพลิงสีแดงกระจายอยู่ทั่วแล้ว!

เปลวเพลิงนั้นลุกลามอย่างรวดเร็ว!

เจียงจื่อหยวนตกใจอย่างมาก นางสะบัดมือออกอย่างรุนแรง!

ด้านบนของไหมคงวายุมีประกายสว่าง!

ในตอนนั้นเองเหมือนกับมีเกล็ดน้ำแข็งสั่นสะท้าน!

เปลวเพลิงเหล่านั้นถูกระงับ แล้วมอดดับไป

แต่นี่เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น

ลูกไฟขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้ามันเหมือนกับกำแพงที่ไม่สามารถทะลวงผ่านไปได้!

มันขวางอยู่ด้านหน้าของไหมคงวายุ!

เจียงจื่อหยวนคิดในใจฝีเท้าซวนเซ รีบออกจากตำแหน่งเดิม จากนั้นก็วิ่งไปทางอื่น!

ในขณะเดียวกันไหมคงวายุก็สับเปลี่ยนตำแหน่งกลางอากาศ จากนั้นก็เริ่มโจมตีโดยตรง ก่อนจะพัวพันลูกไฟลูกนั้นเอาไว้!

หลังจากนั้นไม่นาน ตำแหน่งตรงกลางของลูกไฟก็มีไหมคงที่นั้นปกคลุมเอาไว้!

แกว๊ก!

ถวนจื่อส่งเสียงดัง! ปีกทั้งสองข้างของมันกระพือขึ้น

จากนั้นก็พุ่งตรงเข้าไปหาทันที!

ลมพายุสาดซัด!

เจียงจื่อหยวนคิดว่าแย่แล้ว ดังนั้นจึงรีบวางม่านพลัง

ในขณะเดียวกันนางก็สะกิดปลายเท้าถอยไปด้านหลัง!

แกร๊ก!

ถวนจื่อพังม่านพลังด้วยกรงเล็บเพียงข้างเดียว!

เจียงจื่อหยวนเกิดความสงสัยในใจขึ้นมา

ตู๋กูเยว่เป็นแค่จอมยุทธ์ระดับเจ็ดไม่ใช่หรือ แต่อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่นางทำพันธสัญญาด้วยจะแข็งแกร่งขนาดนี้เลยหรือ!?

นางสะบัดแขนเสื้อหนึ่งข้าง!

ไหมคงวายุลอยไปหาถวนจื่อด้วยลมปราณเย็นยะเยือก!

ทันทีที่มันขยับเข้ามาใกล้ สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้น!

…นั่นคือพลังสายฟ้าที่เจียงจื่อหยวนรวบรวมเอาไว้ด้านบน!

ตู๋กูเยว่ยังไม่ทะลวงผ่านอาณาเขตเทพเซียน

ถ้าเช่นนั้นอสูรศักดิ์สิทธิ์ในพันธสัญญาของนางก็ไม่มีทางรับพลังนี้ได้อย่างแน่นอน!

ในขณะที่ความคิดนั้นปรากฏขึ้นมาในหัวของเจียงจื่อหยวน นางก็เห็นว่ากษายะหางวายุที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไม่หลบหลีกเลยแม้แต่น้อย

มันพุ่งตรงเข้าไปหาไหมคงวายุ!

พรึ่บ…

คาดไม่ถึงว่าด้านบนของไหมคงวายุถูกถวนจื่อกรีดเป็นรู!

“เป็นไปได้อย่างใด!?”

เจียงจื่อหยวนตกใจอย่างมาก!

แต่นางกลับไม่รู้ว่าถวนจื่อ ไม่ได้เป็นกษายะหางวายุมาตั้งแต่กำเนิด

มันก็เคยผ่านทันฑ์สวรรค์มาก่อนแล้ว ในที่สุดก็สามารถปลดผ่าน และก้าวข้ามสู่ระดับนี้ได้

ดังนั้นมันจึงไม่รู้สึกกลัวทันฑ์สวรรค์

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าฉู่หลิวเยว่จะไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพ แต่ภายในร่างกายมีพลังศักดิ์สิทธิ์!

อาศัยเพียงพลังเหล่านี้ ก็สามารถทำให้ถวนจื่อแสดงพลังที่แข็งแกร่งออกมาได้!

เมื่อเห็นว่ากระบวนท่านี้ไม่ได้ผล เจียงจื่อหยวนจึงรีบตัดสินใจอย่างรวดเร็ว คว้าไหมคงวายุมาขว้างไว้ที่ด้านหน้าตัวเอง!

ในขณะเดียวกันนั้นเอง นางก็ขยับถอยหลังไปหลายก้าว หลับตาลง ประสานมือทั้งสองข้างไว้ด้านหน้า ลมปราณรอบกายก็พุ่งสูงขึ้น!

พลังดั้งเดิมสีน้ำเงินกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ที่ฝ่ามือของนาง

ในเวลาเดียวกันนั้น กลางหน้าผากของนางก็มีสัญลักษณ์แปลกๆ ปรากฏขึ้น!

มันคือสัญลักษณ์ของเซียนสุ่ยหลิง!

ในตอนนั้นเองแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ราวกับสืบเชื้อสายมาจากบรรพกาลก็พวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรง

“นางจะใช้พลังแห่งสัญลักษณ์ของนางหรือ?!”

“คิดไม่ถึงว่ากษายะหางวายุตัวนี้จะบีบบังคับให้นางต้องใช้พลังนี้…”

“อสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นแข็งแกร่งมาก แต่หลังจากที่เจียงจื่อหยวนออกกระบวนท่านี้ การประลองก็สิ้นสุดลงแล้ว ต้องบอกก่อนว่าเมื่อใช้พลังจากสัญลักษณ์ ผู้บำเพ็ญเพียรจะสามารถแสดงพลังที่มากกว่าระดับพลังของตัวเองได้!”

ฉู่หลิวเยว่หรี่ตามอง นางก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังสงครามจากบนร่างของเจียงจื่อหยวนได้เล็กน้อย

ระลอกคลื่นสายนี้ มันแผ่กระจายออกมาจากร่างกายของเจียงจื่อหยวน

หลังจากนั้นลำแสงสีน้ำเงินก็พุ่งออกมาจากสัญลักษณ์กลางหน้าผากของนาง!

โครม!

ลำแสงสีฟ้าเหล่านั้นกลายเป็นจุดมากมายนับไม่ถ้วน โดยมีเจียงจื่อหยวนเป็นศูนย์กลาง และกระจายออกไปรอบๆ!

ไม่ว่าลำแสงสีฟ้านั้นจะผ่านไปที่ใด อากาศนั้นจะถูกแช่แข็ง!

หลังจากนั้นไม่นานลำแสงสีฟ้าที่อยู่รอบตัวนางก็รวมตัวกันกลายเป็นลูกบอลขนาดใหญ่!

อีกทั้งถวนจื่อก็ติดอยู่ตรงกลางด้วย!

ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ กำหมัดขึ้น แล้วจ้องภาพเหตุการณ์ด้านหน้า

นี่มัน…

พลังของสัญลักษณ์หรือ?

พรึ่บ!

เจียงจื่อหยวนเบิกตากว้าง

“ตัดอู๋หยวน!”

ทันทีที่สิ้นเสียง ประกายดาบแสงสีน้ำเงินก็พุ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางทันที!

พรึ่บ!

กระแสเสียงแหลมหนึ่งเสียงแหวกอากาศ!

ในวินาทีนั้นเองประกายดาบนั้นก็พุ่งตรงไปที่ถวนจื่อ!

ถวนจื่อต้องการดิ้นรนให้หลุดพ้นจากสถานการณ์ตรงหน้า แต่การเคลื่อนไหวของมันนั้นช้ามาก

เพราะว่าพลังสัญลักษณ์ของเจียงจื่อหยวนนั้นทำให้ระดับพลังของนางก้าวเข้าสู่ระดับเทพ อีกทั้งยังมีแรงกดดันที่น่าหวาดกลัว!

ถวนจื่อไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันเลย!

ประกายดาบนั้นเร็วมาก!

ชั่วพริบตาเดียวก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าถวนจื่อแล้ว

และกำลังจะตัดคอของถวนจื่อ!

เจียงจื่อหยวนยกริมฝีปากเยาะเย้ย หัวเราะเสียงเย็น

…อสูรศักดิ์สิทธิ์แล้วอย่างใด?

เจ้านายไม่มีฝีมือ ท้ายที่สุดแล้วมันก็ยังอ่อนแอ!

ในขณะเดียวกันนั้นเอง เงาดำสายหนึ่งพุ่งออกมาอย่างกะทันหัน พุ่งผ่านอาณาเขตเทพเซียนสีน้ำเงิน ขวางอยู่ตรงหน้าของกษายะหางวายุ!

โครม!

ประกายดาบสีน้ำเงินปะทะเข้ากับพลังนั้น เสียงกระแทกดังสนั่น!

เจียงจื่อหยวนได้รับการสะท้อนกลับ หน้าอกสั่นสะท้าน นางกระอักเลือดออกมา!

นางเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความโกรธระคนตกใจ แต่กลับเห็นว่ามี อินทรีสีดำตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ขวางการโจมตีของนางเอาไว้อยู่!

เมื่อนางเห็นรูปร่างของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน เจียงจื่อหยวนก็เบิกตากว้าง และอุทานออกมาอย่างไม่สามารถกลั้นไว้ได้

“อินทรีสามตา?”

ขนสีดำขลับ รูม่านตาเรียวเล็กเต็มไปด้วยความเย็นชา และเฉียบคม ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวจนเสียวสันหลังวาบ…

นี่มันอสูรศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน…อินทรีสามตา!?

คนอื่นๆ ในท้องพระโรงก็ตกตะลึงกับภาพเหตุการณ์นี้เช่นกัน

เดิมทีสู้กันอยู่ดีๆ เมื่อเห็นว่าเจียงจื่อหยวนกำลังจะชนะแล้ว เหตุใดจู่ๆ อินทรีสามตาถึงปรากฏกายออกมาเล่า!?

อินทรีสามตาสยายปีกออกทั้งสองข้าง!

โครม!

แรงกดดันที่น่าตกใจก็กระจายออกมา!

ลำแสงสีทองสว่างพร่างพราวลอยออกมาจากรูม่านตาเรียวเล็ก!

ลำแสงนั้นคมกริบราวกับกระบี่ พร้อมตัดอาณาเขตเทพเซียนสีน้ำเงินที่อยู่ด้านหน้าจนขาด!

เจียงจื่อหยวนเห็นท่าไม่ดี จึงรีบขยับตัวหนีทันที!

นางเร็วแล้ว แต่อินทรีสามตาเร็วกว่า!

ชั่วพริบตาเดียวลำแสงสีทองก็พุ่งตรงออกไป!

เจียงจื่อหยวนตกใจอย่างยิ่ง รีบดึงไหมคงวายุมาขวางที่ด้านหน้าอย่างร้อนรน!

แต่ไหมคงวายุสามารถช่วยขวางเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด ก่อนจะแตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!

เสียงอื้ออึงดังลั่น!

เจียงจื่อหยวนเจ็บปวดทั่วสรรพางค์ วิงเวียน มึนงง เกือบจะหมดสติล้มพับไป!

“จื่อหยวน!”

เจียงเห่อเทียนลุกพรวดขึ้นทันที!

“ประมุขเจียง”

หรงซิวที่นั่งอยู่ด้านบนก็พูดขึ้นอย่างเกียจคร้าน

“หากท่านขึ้นไปในตอนนี้ ก็เท่ากับว่าท่านยอมแพ้แทนเจียงจื่อหยวน”

เสียงฝีเท้าของเจียงเห่อเทียนหยุดชะงักไปทันที ก่อนจะมองไปทางคราบเลือด และใบหน้าที่ซีดขาวของเจียงจื่อหยวน เขากำหมัดกรอด จนมีเสียงกร๊อบแกร๊บดังขึ้น

ในตอนนั้นเอง เขาก็รู้สึกเกลียดแค้นตู๋กูเยว่จนถึงที่สุด!

เจียงจื่อหยวนเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขา หลายปีมานี้นางไม่เคยโดนใครทำร้ายจนมีสภาพนี้มาก่อน!

แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ก่อนจะตะโกนไปทางตู๋กูเยว่

“ตู๋กูเยว่! ต่อหน้าฝ่าบาทและธารกำนัล คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าใช้วิธีสกปรกเช่นนี้!”

ฉู่หลิวเยว่หรี่ตาหันมามอง

“วิธีสกปรก? ขอถามประมุขเจียง ข้าทำอันใดผิดไปหรือ?”

“นี่คือการประลองของเจ้าและจื่อหยวน คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะเชิญตัวช่วยอื่นมา! เจ้า…”

“ประมุขเจียงเข้าใจผิดแล้ว”

ฉู่หลิวเยว่พูดขัดจังหวะของเขา พร้อมกล่าวขึ้นยิ้มๆ

“นี่คืออินทรีสามตา และก็เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ในพันธสัญญาของข้า”

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

Score 10
Status: Completed
กล่าวได้ว่าชีวิตของ ฉู่หลิวเยว่ นั้นช่างแสนอาภัพ แม้เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลฉู่แต่กลับเป็นผู้ที่มีชีพจรไร้สามารถ ไม่อาจฝึกพลังใดได้จึงทำให้ถูกคนรังแกมาตั้งแต่เล็ก แม้แต่องค์รัชายาทที่เป็นคู่หมั้นก็ยังไม่เคยมาดูแลและคิดแต่จะถอนหมั้นกับนาง ชีวิตของฉู่หลิวเยว่คงดำเนินต่อไปเช่นนั้น หากน้องสาวคนดีของนางไม่ส่งนักฆ่ามาเพื่อสังหารนางทำให้ดวงวิญญาณแค้นของ ซั่งกวนเยว่ ได้เข้ามาครอบครองร่างนี้แทน คนไร้ค่าอย่างนั้นรึ นางที่เป็นอดีตองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้แตกฉานด้านการแพทย์และเป็นผู้มากพรสวรรค์แห่งแคว้นย่อมไม่อาจยอมรับคำสบประมาทนี้ได้จริงๆ! ในเมื่อพวกเขาล้วนดูถูกผู้อ่อนแอ นางก็จะแสดงให้เห็นว่าคนอ่อนแอผู้นี้แหละจะเหยียบพวกเขาให้จมดินได้อย่างไร! ควบคุมสัตว์เทพอสูร หลอมรวมพลัง เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และยาพิษ เพื่อยื้อชีวิตเหล่ามนุษย์และทวยเทพ! นางขอสาบาน นางจะทำให้คนที่เคยทรยศเหยียดหยามนางพวกนั้นได้รับกรรมอย่างสาสมเป็นร้อยเท่าพันทวี! ตอนแรกทุกคนเตือนเขาว่า “ท่านหลีอ๋อง บุตรสาวที่ตระกูลฉู่ทอดทิ้งผู้นั้นไม่คู่ควรกับพระองค์!” ต่อมาทุกคนกลับเย้ยหยัน “องค์ชายผู้อ่อนแอ ไม่คู่ควรกับองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้สูงส่ง!”

Options

not work with dark mode
Reset