ยอดรักชายาอัปลักษณ์ 349 หนิงอวี้คนดีของข้า / 350 “รักเจ้ามาทั้งสองชาติ” เว่ยหยวนกล่าว / 351 คลื่นเสียงแห่งรัก

ตอนที่ 349 หนิงอวี้คนดีของข้า / ตอนที่ 350 “รักเจ้ามาทั้งสองชาติ” เว่ยหยวนกล่าว / ตอนที่ 351 คลื่นเสียงแห่งรัก

ตอนที่ 349 หนิงอวี้คนดีของข้า

 

 

แสงจันทร์ส่องกระทบบนกายอย่างอ่อนโยน หนิงอวี้นั่งเหม่อกลางลานอยู่ตามลำพัง ความกังวลคละเคล้าไปกับความโกรธเคือง การตำหนิตัวเองเริ่มหลุดออกจากสัมปชัญญะไปเรื่อยๆ

 

 

“นายหญิง คุณชายร้องให้ไม่หยุดเลยเจ้าค่ะ”

 

 

หงหลิงน้ำเสียงกังวล หนิงอวี้มุ่นหัวคิ้วแล้วเดินตามหลังนางไป

 

 

“เหตุใดหรือ”

 

 

หงหลิงเหลียวกลับหมายจะเอ่ยคำ วินาทีถัดมาก็เห็นคนชุดดำผู้หนึ่งมุดออกมาจากมุมมืด หนิงอวี้ย่นคิ้ว ยกมือขึ้นดึงแขนเสื้อหงหลิง แต่บริเวณด้านหลังลำคอกลับรู้สึกเจ็บอย่างรุนแรง

 

 

ทุกอย่างมืดลง เห็นเพียงหงหลิงค่อยล้มลงกับพื้น ในสัมปชัญญะวินาทีสุดท้าย นางกุมแขนเสื้อหงหลิงไว้แน่นแล้วส่งเสียงในคอหนึ่งที

 

 

“แค่กๆ”

 

 

หนิงอวี้ถูกน้ำเย็นอ่างหนึ่งสาดจนสะดุ้งตื่น สัมปชัญญะที่เลือนรางค่อยๆ กลับคืนมา ก็เห็นชายผู้หนึ่งสีหน้าโหดเ**ยม บนหน้าเขาเต็มไปด้วยรอยมีดดูน่ากลัว แต่ก็ยังพอเห็นใบหน้าเดิมของเขาได้

 

 

“อวี้เอ๋อร์ จำข้าได้หรือไม่”

 

 

ชายหนุ่มยกมุมปากยิ้ม รอยแผลยาวบนหน้าถูกรั้งขึ้น ดูน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก หนิงอวี้จ้องคนผู้นั้นอยู่นาน จึงพูดออกมาเสียงเบาสองคำว่า “เว่ยหลิง”

 

 

หากเป็นเช่นนี้ ก็นับว่านางแพ้ราบคาบ เว่ยหลิงได้ยินดังนั้นก็ยิ้มชัดยิ่งขึ้น เขาเงยหน้าหัวเราะออกมาอย่างคลุ้มคลั่ง เสียงหัวเราะดัง ฮ่าๆๆ สะท้อนกังวานไปทั่วห้องที่มืดสลัว หนิงอวี้มุ่นหัวคิ้วไม่พอใจ น้ำเย็นๆ บนหน้าไหลหยดลงมา หนิงอวี้กระพริบตาอย่างลำบาก น้ำเย็นยังคงเกาะอยู่ที่หางตานาง

 

 

“เจ้าดูสิ! ต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ!” เว่ยหลิงหยุดหัวเราะขึ้นมาทันใด ยื่นมือไปชี้รอยมีดบนหน้าพลางขยับเข้ามาประชิดหนิงอวี้ “เป็นเพราะเจ้า! เป็นเพราะเจ้า! สมคบคิดกับเจ้าคนชั้นต่ำอย่างเว่ยหยวนมาเล่นงานข้า”

 

 

หนิงอวี้ช้อนตาขึ้นมองดูท่าทีอันคลุ้มคลั่งอย่างเย็นชา เขา ดูเหมือนจะวิปลาสไปแล้ว เบื้องหน้าเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง เขาฉีกทึ้งเสื้อตนอย่างคลุ้มคลั่ง

 

 

“เจ้าพูด! นางชั่ว เพราะเหตุใด เพราะเหตุใด” เว่ยหลิงก้าวถอยสองสามก้าวอย่างไม่ยอมเชื่อ ครั้นแล้วก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าฉายแววโหดเ**้ยม “ข้ารักเจ้า! แต่เจ้ากลับทรยศข้า! มาทรยศข้าเพื่อเจ้าคนชั้นต่ำนั่นได้”

 

 

“นางชั่วอย่างเจ้า ช่างเหมาะสมกับเจ้าคนชั้นต่ำนั่นนัก!”

 

 

หนิงอวี้ไม่พูดอะไร มองดุเขาคลุ้มคลั่งอยู่เงียบๆ ปวดหน่วงบนศีรษะ นางพยายามทำให้ตนได้สติตื่น เชือกที่มัดไว้คือเชือกหนังวัวแช่น้ำมัน ยากที่จะดิ้นหลุดได้

 

 

“ไม่ต้องลองดิ้นหรอก ข้ารู้ว่าเจ้าวรยุทธสูงส่ง จึงได้เตรียมเชือกหนังวัวนี้มาโดยเฉพาะ”

 

 

หนิงอวี้ชำเลืองขึ้น พยายามสะกดอารมณ์ถามออกไป “เจ้าคิดจะทำอะไรกัน”

 

 

“ฮ่าๆๆ” เว่ยหลิงหัวเราะเสียงดัง มองหน้าหนิงอวี้อย่างประหลาดใจ ครั้นแล้วก็ส่ายหน้าพูดขึ้นเสียงดัง “ข้าหรือ ก็อยากให้พวกเจ้าตายอย่างไรเล่า! ให้เจ้าคนชั้นต่ำนั่นชดใช้ทุกสิ่งที่แย่งไปจากข้า”

 

 

ทันทีที่สิ้นเสียง ประตูก็ค่อยๆ ถูกผลักเปิด เด็กรับใช้หนุ่มสวมชุดผ้าหยาบก้มตัวก้มหน้า รีบเดินเข้ามา “องค์ชาย พาตัวมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

 

 

หนิงอวี้ขนตาสั่นระริก หันหน้ากลับก็เห็นว่าที่ข้างประตูมีเงากายสูงเพรียวร่างหนึ่งอยู่ ในห้องที่มืดสลัว แต่นางยังคงมองเห็นริมฝีปากขาวซีดของเขา หน้าแดงก่ำดูผิดปกติที่สุด

 

 

“เจ้ามาแล้ว! น้องชายตัวดีของข้า!” เว่ยหลิงปรบมือระเบิดเสียงหัวเราะ เดินเข้าไปสองสามก้าวแล้วตบบ่าเขา เว่ยหยวนอยู่นิ่งไม่ขยับ ปล่อยให้เขาทำทีหยาบช้ารุนแรงต่อตน

 

 

เกิดเสียงดังขึ้น เสียงนั้นคือเสียงกระดูกแตกร้าว เว่ยหลิงหดมือกลับ มองดูเว่ยหยวนใช้มือกุมแขนอย่างสะใจเต็มประดา

 

 

“คนชั้นต่ำก็คือคนชั้นต่ำ! ให้ตายอย่างไร ก็เปลี่ยนสายเลือดชั้นต่ำในตัวเจ้าไม่ได้”

 

 

แต่ละถ้อยคำ ดังขึ้นพร้อมเสียงครวญในลำคลอ เว่ยหยวนถูกต่อยหมัดหนึ่งจนคว่ำกับพื้น ไม่สามารถดิ้นพ้นจึงได้แต่รับหมัดเต็มๆ

 

 

เลือดกระเซ็นขึ้น เลอะไปบนปกเสื้อเว่ยหยวน เลอะกำปั้นทั้งคู่ของเว่ยหลิง หนิงอวี้เห็นเขาเหวี่ยงหมัดไม่หยุด ในที่สุดก็เสียการคุมสติ นางกรีดร้องเสียงแหลม “หยุดนะ! เว่ยหลิงเจ้าหยุดนะ!”

 

 

ทันทีที่พูดจบ เว่ยหลิงก็ยั้งหมัดหายใจหอบ แต่ยังคงอารมณ์คึกอยู่

 

 

“ข้าลืมเจ้าไปเสียได้! ถ้าไม่ใช่เจ้า มันจะยอมออกมาตามลำพังแต่โดยดีได้อย่างไร”

 

 

“อวี้เอ๋อร์คนดีของข้า ข้ารักเจ้า”

 

 

เว่ยหลิงหันกายกลับ ค่อยๆ เดินเข้ามา เขามองใบหน้านางอย่างสนอกสนใจ

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 350 “รักเจ้ามาทั้งสองชาติ” เว่ยหยวนกล่าว

 

 

“แค่กๆ” เว่ยหยวนสำลักเลือดที่กลบไปทั้งปากออกมา เขาค่อยๆ ยื่นมือไปค้ำกับพื้น หมายจะลุกขึ้นยืน “ปล่อยนางไป…มีเรื่องอะไร…แค่กๆ…ก็มาลงที่ข้านี่”

 

 

“ลงที่เจ้าหรือ ฮ่าๆๆ เจ้าคิดว่าข้าเป็นไอ้งั่งหรือ คนที่เจ้ารักที่สุด” เว่ยหลิงยกมือช้อนคางหนิงอวี้ขึ้นแล้วหันไปยิ้มร้ายให้กับเว่ยหยวน “ก็คือนางไม่ใช่หรือ”

 

 

หนิงอวี้ก้มหน้าลงก็เห็นว่าบนมือเขาเลอะเป็นจุดๆ ด้วยคราบเลือด น้ำตาเอ่อรื้น ด้วยเลือดของเว่ยหยวนที่เลอะ คางนางจึงเปียกชื้น

 

 

แสงเงินสาดผ่านปลาบหนึ่ง กริชถูกชักออกจากฝัก เว่ยหลิงถือกริชในมือแล้วยื่นไปแนบลำคอนางพลางหัวเราะขึ้นเบาๆ “วิธีจะแก้แค้นเจ้าคนชั้นต่ำที่ดีที่สุด ก็คือฆ่าเจ้าเสีย”

 

 

ยังไม่ทันขาดคำ เขาก็ยกมือแทงเข้ามา วินาทีถัดมา เว่ยหยวนก็ลุกขึ้นพุ่งเข้ามาขวางหน้าหนิงอวี้เอาไว้ หนิงอวี้อึ้งงันกับที่ มองดูกริชด้ามนั้นเสียบเข้ากลางอกเว่ยหยวน

 

 

เลือดไหลชุ่มเสื้อย้อมเป็นดวงใหญ่ๆ ดวงหนึ่ง เว่ยหยวนมือข้างหนึ่งกุมกริชเอาไว้ มืออีกข้างบีบคอเว่ยหลิง หนิงอวี้ก้มหน้า น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมา

 

 

“ท่านเป็นอย่างไรบ้าง เว่ยหยวน ท่านเป็นอย่างไรบ้าง”

 

 

เว่ยหลิงเหวี่ยงหมัดทั้งคู่พยายามดิ้นให้หลุด สีหน้าบึ้งตึงขึ้นเรื่อยๆ เสียงกระแทกประตูดัง ปัง ทหารชุดเกราะหนาจำนวนนับไม่ถ้วนบุกเข้ามา

 

 

“ฝ่าบาท!”

 

 

มั่วหลีตระโกนเสียงดังหนึ่งที แล้วทะยานเข้ามารวบตัวเว่ยหลิงไว้

 

 

เชือกบนมือหนิงอวี้ถูกฟันขาด นางกอดเว่ยหยวนไว้ในอ้อมกอดพลางยื่นมือที่สั่นเทาไปเช็ดมุมปากเขา คราบเลือดเลอะปลายนิ้ว หนิงอวี้ร้องไห้ตะโกนออกมา “รีบไปตามหมอหลวงมา! รีบไปตามหมอหลวงมา…”

 

 

“อวี้เอ๋อร์ ข้า…ข้าเกรงว่า…”

 

 

“ไม่ได้”

 

 

หนิงอวี้ส่ายหน้า นางกุมมือเขาไว้แล้วสะอื้นไห้ออกมาเบาๆ

 

 

เว่ยหยวนค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบหน้านาง “อวี้เอ๋อร์ ข้าปิดบังเจ้าอยู่เรื่องหนึ่ง”

 

 

“ไม่เป็นอะไร ท่านอย่าพูดอะไรอีก ขอร้องท่านล่ะ เว่ยหยวน ขอร้องท่านล่ะ อย่าจากไปนะ ได้หรือไม่ ข้าไม่อยากอยู่คนเดียวเพียงลำพัง”

 

 

“ข้ากลับมาเกิดใหม่”

 

 

หนิงอวี้สะดุ้งโหยง มองไปยังเว่ยหยวนอย่างไม่อยากจะเชื่อ ชั่วอึดใจเดียวเขาก็ยกมุมปากขึ้นยิ้ม “รักเจ้ามาทั้งสองชาติ ไม่เคยเสียใจเลย”

 

 

“ท่านแม่ทัพหนิง! ท่านจะเข้าไปไม่ได้นะขอรับ!”

 

 

หนิงอวี้ขมวดคิ้ว สะบัดแขนหมายจะบุกเข้าไป แต่นางกลับถูกองครักษ์ที่อยู่ด้านข้างขวางเอาไว้ หงหลิงวิ่งก้าวสั้นตามมา เห็นนางโชกไปด้วยเลือดก็กรีดร้องขึ้น “นายหญิง ท่านได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเจ้าคะ”

 

 

หนิงอวี้ได้ยินก็นิ่งอึ้งอยู่พักใหญ่ ได้แต่จ้องนิ่งไปบนนิ้วมือที่เลอะด้วยเลือดของตน เขารู้…แล้วทำไมไม่เกลียดนาง ทั้งที่นางเคยเป็นตัวต้นเหตุทำให้เขาตายแท้ๆ

 

 

หงหลิงเห็นนางไม่ตอบ ก็ดึงแขนเสื้อนางอย่างร้อนใจ หนิงอวี้ค่อยๆ เลื่อนสายตาขึ้น ครั้นแล้วก็ยิ้มเศร้า หากไม่ใช่เพราะนางออกจากวัง เว่ยหลิงก็ไม่มีทางบังคับเว่ยหยวนได้เด็ดขาด

 

 

ห่างกันเพียงประตูกั้น เว่ยหยวนเอนกายพิงหัวเตียง ก้มหน้าลงปลดเสื้อ เสื้อที่เปื้อนด้วยเลือดถูกปลดออก บนหน้าอกมิใช่รอยมีด แต่กลับเป็นถุงหนังถุงหนึ่งที่เหนียวเหนอะหนะไปด้วยคราบเลือด

 

 

“เยี่ยม”

 

 

เว่ยหยวนหัวเราะเบาๆ เขาสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเว่ยหลิงแต่แรกแล้ว แต่ไม่กล้าที่จะกำจัดเขาทิ้ง หากไม่ใช้ชีวิตเข้าช่วย เกรงว่ายากที่จะทำให้หนิงอวี้เปลี่ยนความคิดได้

 

 

เขายืนอยู่ในมุมมืด แอบสังเกตเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ซ้ำยังคอยกระตุ้นส่งเสริมมันด้วย เรื่องยาคราวก่อน เขาทำการประมาทมากไป ครั้งนี้ต้องไม่พลาดเป็นอันขาด

 

 

“มั่วหลี สะสางเรื่องนี้ดีหรือยัง”

 

 

มั่วหลีพยักหน้า ยื่นมือวาดผ่านลำคอ เว่ยหยวนเปลือยอกท่อนบน ปล่อยให้หมอหลวงจัดการเช็ดทำความสะอาด

 

 

หวาดกลัวและกังวลถึงขีดสุด ทั้งยังได้รู้ความจริงเรื่องสองภพชาติ อวี้เอ๋อร์ยามนี้ คงเสียใจและเป็นกังวล กำลังตำหนิตนเองอยู่แน่นอน

 

 

วิธีการอาจจะขี้ขลาด แต่นับว่าได้ผล เว่ยหยวนกางฝ่ามือดูลายเส้นที่เลือดไหลเลอะ ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ไม่ยอมให้เจ้าหนีไปเด็ดขาด

 

 

 

 

ตอนที่ 351 คลื่นเสียงแห่งรัก

 

 

“นายหญิง ฝ่าบาททรงรักษาตัวสามวันแล้ว ไยท่านไม่ไปเข้าเฝ้าสักหน่อยเล่าเพคะ”

 

 

หนิงอวี้ได้ยินก็มุ่นหัวคิ้วยื่นมือไปยกน้ำชาขึ้นมาดื่มจนหมดในอึกเดียว หลังจากสงบอารมณ์ได้แล้ว นางก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ยิ่งคิดยิ่งแปลก

 

 

เว่ยหลิงเป็นแค่นายพลผู้แพ้พ่ายในมือเขาตั้งนานแล้ว ไยจึงมาซ่อนตัวอยู่ข้างจวนขุนพลได้โดยไม่มีร่องรอยอะไรเลยแม้แต่นิด ตอนที่หมอหลวงทำการรักษา ผู้คนก็ขวางนางไว้โดยไม่ใส่ใจธรรมเนียม

 

 

กังวลจนฟุ้งซ่าน…หนิงอวี้ขบริมฝีปาก หากนางสงบสติอีกหน่อย อาจจะมองอะไรบางอย่างเปลี่ยนไปก็ได้ ความคาดเดานับร้อยในใจ กลับไม่มีอะไรอ้างอิงได้แม้แต่น้อย

 

 

หนำซ้ำ เว่ยหยวนยังบอกว่า เขารักนางมาสองชาติ ต่อให้ตายเพราะนาง ก็จะไม่มีคำกล่าวโทษเลยหรือ หนิงอวี้ลูบคลึงจอกในมือเล่นไปมาอย่างใจเย็น ภาพรอยยิ้มอันอ่อนโยนของเขายังในความทรงจำ

 

 

เว่ยหยวนรักนางเพียงใดนั้น ไม่ต้องถามถึงอดีต แต่ว่าความรักนี้ นางไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร หรือแม้กระทั่ง ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขา

 

 

“นายหญิง ท่านได้ยินที่หงหลิงพูดอยู่หรือไม่เจ้าคะ”

 

 

หงหลิงหยุดปอกองุ่นแล้วถามขึ้นพลางกระทืบเท้า หนิงอวี้นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็พยักหน้ารับ

 

 

หงหลิงแค่นเสียงออกจมูกหนึ่งทีแล้วสะบัดแขนเสื้อเดินจากไป หนิงอวี้ถอนใจยาว สุดท้ายนางก็ไม่กล้า จนกระทั่งน้ำชาในกาถูกดื่มจนหมด ท้องฟ้าก็เริ่มกลายเป็นสีส้มแดง

 

 

หนิงอวี้ค้ำโต๊ะหินลุกขึ้นยืนก็เห็นหงหลิงวิ่งก้าวสั้นเข้ามา

 

 

“นายหญิง คุณชายน้อยร้องไห้ไม่หยุดเลยเจ้าค่ะ ท่านต้องไปหานะเจ้าคะ”

 

 

ตามหลักแล้ว เวลานี้อันเอ๋อร์ควรจะนอนหลับอยู่อย่างสนิท หนิงอวี้ไม่สนใจความคิดอื่น นางเดินตรงไปยังเรือน เสียงฝีเท้าด้านหลังเงียบหายไป หงหลิงคงตามมาไม่ทันถูกทิ้งอยู่ด้านหลัง

 

 

เมื่อผลักประตูเข้าไป กลับเห็นเทียนจุดอยู่ทั่วทั้งลาน ใต้ต้นไม้กลางลาน มีห่านกระดาษแขวนอยู่นับร้อยนับพันตัว พับด้วยกระดาษหลายสีสันหลากลวดลาย ขยับไหวไปตามสายลม

 

 

หนิงอวี้นิ่งอึ้ง ประตูไม้ข้างหลังนางถูกปิดลง ชายหนุ่มในชุดขาวผู้หนึ่งออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ เขาคือเว่ยหยวน เว่ยหยวนอุ้มอันเอ๋อร์ไว้ในอ้อมกอด ชำเลืองขึ้นส่งยิ้มมายังนาง

 

 

รอยยิ้มเขาดูอ่อนโยนอย่างที่สุด เหมือนกับวันนั้นที่พบกัน ณ สำนักชี และเหมือนกับวันนั้นที่เขาแต่งงานกับนาง หรือนานกว่านั้น เขาเคยยืนอยู่ในมุมลับส่งยิ้มให้นาง เพียงแต่ ตอนนั้นนางไม่ได้สังเกต

 

 

“…อาการบาดเจ็บของท่านเป็นอย่างไรบ้าง”

 

 

“ไม่เป็นอะไร”

 

 

“ทางที่ดี…พัก…ผ่อนให้มากๆ”

 

 

เพียงประโยคสั้นๆ กลับพูดอย่างติดขัด หนิงอวี้หลุบสายตาลงหน้าแดงไปถึงใบหู กำลังรู้สึกโกรธความเขินอายของตัวเอง

 

 

“อืม” เว่ยหยวนพยักหน้า เขาเดินเข้าไปสองสามก้าวแล้วจูงมือหนิงอวี้ หนิงอวี้ปล่อยให้เขาจูงมืออย่างเก้ๆ กังๆ แล้วพูดขึ้นประโยคหนึ่งว่า “ท่านไม่ถือโทษข้าหรือ”

 

 

ทำไมจึงไม่โกรธ ทั้งๆ ที่นาง…พรากทุกสิ่งไปจากเขา หนิงอวี้ช้อนตาขึ้น เห็นมุมปากเว่ยหยวนยกยิ้มจางๆ แต่กลับยิ้มออกมาดูอ่อนโยนอย่างมาก เขาก้มหน้าลงแล้วจุมพิตลงบนหน้านางหนึ่งทีอย่างสนิทสนม

 

 

“ไยต้องถือโทษโกรธเจ้า”

 

 

“ข้า…ข้าทำให้ท่านตาย”

 

 

หากไม่ใช่เพราะการช่วยเหลือของนาง ด้วยวิธีการของเว่ยหยวน คงไม่มีทางเพลี่ยงพล้ำถึงเพียงนี้เด็ดขาด

 

 

“ข้าตายเพราะเจ้าเพียงหนึ่งครั้ง แต่รอดได้เพราะเจ้าถึงสองครั้ง ไม่ว่าสิ่งใด ขอเป็นเพียงสิ่งที่เจ้ามอบให้ ข้าล้วนแต่ชอบทั้งนั้น” เว่ยหยวนใช้มือข้างหนึ่งช้อนหน้านางขึ้น “เพื่อเจ้า การมีชีวิตอยู่นั้นช่างน่ายินดี เพื่อเจ้า แม้ตายก็ขอยอมรับอย่างสงบ”

 

 

ชั่ววินาทีหนึ่ง ภาพในความทรงจำก็ปรากฏขึ้นชัด ภาพชายหน้าตาหล่อเหลาในชุดขาวทับซ้อนกับเด็กชายที่เลอะด้วยโคลนทั้งตัว หนิงอวี้ยกมุมปากยิ้มน้ำตาไหลรินออกมา ยิ้มที่ดูเหมือนไม่ยิ้ม และความปิติที่ไม่แสดงออกมา

 

 

——

 

 

ในวันที่ราชวงศ์ใต้จัดพระราชพิธีแต่งตั้งฮองเฮาขึ้นอีกครั้งนั้น ดอกไม้ต่างพากันบานสะพรั่ง เหล่านกสกุณานับหมื่นออกโบยบิน ผู้คนในโลกต่างโจษจัน ว่านี่ลางมงคล ฮองเฮาผู้นี้คือผู้ที่ฟ้าดินกำหนดมา

 

 

ทูตราชวงศ์เหนือถือคำสั่งของมู่หรงเหยียนฮองเต้พระองค์ใหม่ นำเอาของขวัญอวยพรนับหมื่นชิ้นและสารขอสงบศึกถาวรระหว่างสองราชวงศ์เข้ามา เขายืนอยู่ข้างพรมกำมะหยี่แดง เห็นชายกระโปรงแดงสีแดงสดกุ๊นขอบทองค่อยๆ เฉียดผ่านไป

 

 

ลือกันว่า ฮองเฮาแห่งราชวงศ์ใต้เป็นหญิงผู้มีความสามารถอันพิศวง แม้ไม่ได้พบเจอตัวจริงแต่ก็รู้ได้ว่าเรื่องราวนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องหลอกลวง

ยอดรักชายาอัปลักษณ์

ยอดรักชายาอัปลักษณ์

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 70  อ่านนิยาย ตอนที่ 71 – 140 อ่านนิยาย ตอนที่ 141 – 245 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


เพราะต้องการอำนาจทหารในมือนาง หนิงอวี้ จึงถูกหลอกให้แต่งงานกับบุรุษกลับกลอก ไม่นานก็ถูกหักหลัง แม้แต่บิดามารดาและคนรับใช้คนสนิทยังถูกตัดศีรษะ จบลงด้วยการดื่มยาพิษจากลาโลกนี้ไปอย่างน่าเวทนา

แต่นางกลับพบว่าตนตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงชีวิตก่อนแต่งงาน ภาพฉากในอดีตปรากฏขึ้นมาใหม่อีกครั้งดั่งความฝัน สิ่งเดียวที่คอยตอกย้ำว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นความจริงก็คือบาดแผลบนใบหน้านาง เพราะบทเรียนในกาลก่อนสอนนางแล้วว่าชาติภพนี้มิอาจโง่งมเฉกเช่นเดิม นางจึงเลือกแบกรับฐานะ ‘ชายาอัปลักษณ์’ แล้วแต่งงานกับ เว่ยหยวน ท่านอ๋องร่างกายอ่อนแอผู้ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็น โดยหารู้ไม่ว่าจะได้รับรู้ถึงรสชาติของความรักล้ำลึกที่มิเคยได้สัมผัสเลยในอดีต...

และเมื่ออำนาจถูกส่งมอบให้ถูกคน หนทางแห่งการแก้แค้นก็ดูเหมือนจะมิได้ยากเย็นถึงเพียงนั้น!

Options

not work with dark mode
Reset