ยอดรักชายาอัปลักษณ์ 246 ได้ส่วนประกอบยา

ตอนที่ 246 ได้ส่วนประกอบยา

เสียงนกเค้าแมวที่ร้องดัง ท่ามกลางความเงียบงันเช่นนี้ชวนให้ขนลุก ป้อมปราการทั้งสองเมืองแสงไฟส่องสว่าง ต่างเฝ้าระวังป้องกันอย่างเข้มงวด

 

 

ประตูเมืองเหิงโส่วแง้มเปิดเป็นช่องเล็ก หนิงอวี้สวมชุดคลุมดำ พลิกตัวขึ้นบนหลังม้า นายพลชุดเกราะดำสีหน้ากังวล เขาพูด “หากท่านายพลรู้เรื่องนี้…”

 

 

“ข้าจะรีบกลับมาโดยเร็ว”

 

 

ยังไม่ทันสิ้นคำ ม้าก็ร้องเสียงแหลมแล้ววิ่งควบออกประตูบานใหญ่มหึมาไป ประตูบานใหญ่สีแดงชาดค่อยๆ ปิดลง หนิงอวี้สะบัดแส้บังคับม้าวิ่งออกไปยังตำบลเล็กๆ แห่งหนึ่งของชายแดน ท่านหมอบอกไว้ พืชชนิดนี้เติบโตอยู่บนยอดเขาที่สูงชันหายากและล้ำค่ามาก ในตลาดทั่วไปยากจะหาได้แต่อาจจะพอออกไปเก็บหาพร้อมชาวเขาได้

 

 

——

 

 

เมื่อเห็นท้องฟ้าค่อยๆ สว่าง หลิวเถี่ยจู้จุดไฟเทียนไขแบกกระบุงยาขึ้นบนหลัง เขาเปิดประตูออกก็เห็นกลางลานมีคนผู้หนึ่งพร้อมม้าอีกตัวยืนอยู่ ม้าตัวตระหง่านสูงใหญ่ขนเงามันขลับ คนในชุดคลุมสีดำใช้หมวกคลุมปกปิดใบหน้าเอาไว้ มองเห็นเพียงคางอันเรียวงามของนางเท่านั้น

 

 

ทว่า ชั่วอึดใจเดียว มือที่ถือโคมไฟอู่ของเขาก็เริ่มสั่นเทา บนเอวของคนผู้นี้ มีกริชเหน็บเอาไว้ ภายใต้แสงเทียนที่ส่องกระทบ สะท้อนบนร่างกายครึ่งหนึ่งของเขา

 

 

 “นำทางข้าไปหามัน!”

 

 

คนในชุดดำล้วงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา หลิวเถี่ยจู้รับมาอย่างสั่นเทาพอเห็นชัดว่าคืออะไรก็ส่ายหน้า

 

 

“นายท่าน สมุนไพรนี้พบอาจพบแต่ไม่อาจเสาะ ข้าน้อยจนปัญญาโดยแท้ คงต้องอาศัยดวงเท่านั้น”

 

 

หนิงอวี้ชำเลืองกระบุงยาบนหลังเขาทีหนึ่งแล้วผินกายกลับ

 

 

“พาข้าไป หาสมุนไพรนี้ได้จะตอบแทนเจ้าด้วยเงินทองนับพันชั่ง”

 

 

หลิวเถี่ยจู้โน้มกายลง หยิบโคมไฟขึ้นมาอย่างรีบร้อน แล้วรีบวิ่งนำทางออกไป

 

 

ทางภูเขาเต็มไปด้วยโคลนตม หนิงอวี้อดไม่ได้ที่จะย่นคิ้ว แต่ก็ทำได้เพียงอดทนเอาไว้ นางชำเลืองขึ้น เห็นท้องฟ้าเริ่มเป็นสีขาว ในใจก็เป็นกังวลขึ้นมาอย่างห้ามมิได้

 

 

เดินลัดเลาะไปตามป่ากว่าครึ่งชั่วยาม ชุดคลุมดำของนางถูกน้ำค้างเกาะจนชุ่ม คราบโคลนเปรอะเลอะเป็นจุดไปทั่ว คนนำทางผู้นั้นค้นหาเท่าไรก็ไม่พบ ฝีเท้าเขาเร็วขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ว่าเขากำลังร้อนใจเช่นกัน

 

 

ขณะที่นางลงจากหลังม้า รอบข้างล้วนมืดสนิท ได้ยินว่าคนเก็บสมุนไพรล้วนตื่นแต่เช้าเดินทางฝ่าน้ำค้างในยามเช้า ทันใดนั้นเอง เมื่อแสงเทียนถูกจุดขึ้นสว่างกลายเป็นจุดสว่างเพียงแห่งเดียวท่ามกลางความมืด ดังนั้นนางจึงจูงม้าเดินเข้าไปรออยู่กลางลาน

 

 

“ยังต้องอีกนานเท่าไร”

 

 

เสียงที่กดต่ำฟังดูเย็นชาแสดงให้รู้ว่าหมดความอดทน หนิงอวี้มุ่นหัวคิ้ว ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป หากฟ้าสางแล้วนางต้องกลับเข้าเมือง ภายใต้สายตาผู้คนที่จับจ้องจะปลอดภัยได้อย่างไรกัน

 

 

หนำซ้ำ หากถ้าบิดาฟื้นขึ้นมารู้เรื่องนี้เข้า ต้องเดือดดาลเป็นห่วงอย่างแน่นอน หากจิตใจร้อนรนเป็นกังวล อาการป่วยคงคงหายช้ายิ่งขึ้น

 

 

 “นายท่าน ขอท่านรออีกสักหน่อย ข้าน้อยกำลังหาอยู่แต่ด้วยว่าสมุนไพรนี้หายากยิ่งนัก…อยู่นี่เอง!”

 

 

คิ้วที่ขมวดแน่นของหนิงอวี้ค่อยๆ คลายออก นางเหลียวตามเสียงไปก็เห็นต้นไม้ต้นหนึ่งโผล่ยื่นออกมาอย่างอ่อนแอท่ามกลางพุ่มหนาม

 

 

หนิงอวี้ล้วงกระดาษนั้นออกมาเทียบดู เมื่อแน่ว่าใช่สมุนไพรที่ต้องการ นางไม่ได้ยินดีแต่กลับถามไปว่า “สมุนไพรชนิดนี้ไม่ได้เติบโตอยู่ที่สูงชันหรือ”

 

 

คนเก็บสมุนไพรหยิบจอบเล็กๆ ออกมาจากกระบุงยาแล้วพยักหน้าตอบ “อืม แต่ก็มีบางส่วนที่เติบโตอยู่ที่เชิงเขา สภาพแวดล้อมต่างกันไม่มาก ดังนั้นบนเชิงเขาก็อาจมีพืชชนิดนี้งอกงามได้”

 

 

 “นายท่านร้อนใจเช่นนี้ ข้าน้อยคาดว่าคงมีเรื่องเร่งด่วน หากเดินทางไปยอดเขาเพื่อหายา หนทางยาวไกล…” คนเก็บสมุนไพรดวงตาเบิกโพลง “อย่านะ นายท่าน!”

 

 

หนิงอวี้ได้ยินเสียงร้องอย่างตกตะลึง แต่มือนางยังคงขยับไม่หยุด นางกุมกริชในมือตัดกิ่งหนามเหล่านั้น ทว่า เมื่อกริชเคลื่อนไปด้านหน้าจนกิ่งหนามถูกตัดขาด มือนางกลับถูกกิ่งหนามเกี่ยวบาดเป็นแผลนับไม่ถ้วน

 

 

ทันใดนั้นเลือดก็ไหลออกมา หนิงอวี้ขบฟันชักมือออก หลังมือนางถูกบาดจนเหวอะ เลือดไหลหลั่งออกมา หยดลงบนด้ามกริช ไหลตามร่องกริชไปยังปลายกริช เลือดสดๆ ที่หยาดลงบนกิ่งหนามสีดำสนิท ราวกลับดอกกุหลาบที่เบ่งบานท่ามกลางกิ่งหนาม

 

 

 “นายท่าน รอก่อน ให้ข้าน้อยทำเถอะ!”

 

 

หนิงอวี้ไม่กล่าวสิ่งใด นางฉีกผ้าจากชายเสื้อออกมาหนึ่งชิ้นใช้มืออีกข้างพันผ้าแล้วใช้ฟันกัดมัดเป็นปมจนแน่น เลือดสดไหลซึมออกจากผ้าสีดำ ราวกับหนิงอวี้ไม่ได้ใส่ใจ มือนางกุมกริชแล้วฟันลงพุ่มหนามอีกครั้ง

 

 

หลิวเถี่ยจู้คอยมองอยู่ด้านข้างอย่างหวั่นใจ ทันใดนั้นเขาก็พบว่าคนผู้นี้เป็นสตรีนางหนึ่งจึงอดไม่ได้ที่จะทำเสียงจิ๊จ๊ะอยู่ในปาก

 

 

มือขวาที่พันด้วยผ้าถูกเกี่ยวขาด ในจังหวะที่ขาดหลุดออกมานั้น ในที่สุดหนิงอวี้ก็จัดการกับกิ่งหนามที่อยู่รายรอบต้นยานั้นจนเรียบ หลิวเถี่ยจู้รีบเดินเข้าไปโดยเร็วแล้วใช้จอบขุดขึ้นมา

 

 

หนิงอวี้กำต้นพืชเล็กๆ ต้นนั้นแน่น มุมปากเผยรอยยิ้มน้อยๆ ออกมา ขาบิดาจะได้รับการรักษาแล้ว! หนิงอวี้เอาต้นพืชนั้นวางลงในถุงแพรอย่างระมัดระวังแล้วผูกติดกับสายเข็มขัด

ยอดรักชายาอัปลักษณ์

ยอดรักชายาอัปลักษณ์

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 70  อ่านนิยาย ตอนที่ 71 – 140 อ่านนิยาย ตอนที่ 141 – 245 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


เพราะต้องการอำนาจทหารในมือนาง หนิงอวี้ จึงถูกหลอกให้แต่งงานกับบุรุษกลับกลอก ไม่นานก็ถูกหักหลัง แม้แต่บิดามารดาและคนรับใช้คนสนิทยังถูกตัดศีรษะ จบลงด้วยการดื่มยาพิษจากลาโลกนี้ไปอย่างน่าเวทนา

แต่นางกลับพบว่าตนตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงชีวิตก่อนแต่งงาน ภาพฉากในอดีตปรากฏขึ้นมาใหม่อีกครั้งดั่งความฝัน สิ่งเดียวที่คอยตอกย้ำว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นความจริงก็คือบาดแผลบนใบหน้านาง เพราะบทเรียนในกาลก่อนสอนนางแล้วว่าชาติภพนี้มิอาจโง่งมเฉกเช่นเดิม นางจึงเลือกแบกรับฐานะ ‘ชายาอัปลักษณ์’ แล้วแต่งงานกับ เว่ยหยวน ท่านอ๋องร่างกายอ่อนแอผู้ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็น โดยหารู้ไม่ว่าจะได้รับรู้ถึงรสชาติของความรักล้ำลึกที่มิเคยได้สัมผัสเลยในอดีต...

และเมื่ออำนาจถูกส่งมอบให้ถูกคน หนทางแห่งการแก้แค้นก็ดูเหมือนจะมิได้ยากเย็นถึงเพียงนั้น!

Options

not work with dark mode
Reset