พราวฟ้า 30 เป็นตัวของตัวเอง

ตอนที่ 30 เป็นตัวของตัวเอง

“พูดอย่างกับคุณจะมากับฉันอย่างนั้นแหละ” พราวฟ้าพูดแหย่เขาเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเอง เขาไม่ได้แปลว่าจะมากับเธออีกหรอกใช่ไหม

“ถ้าเธออยากมา ฉันก็จะพามา” แต่ความเข้าใจของเธอมันถูก ลูซเป็นผู้ชายที่ไม่อ้อมค้อมเลยสักนิด

พราวฟ้าไม่รู้จะพูดอะไรยังไงต่อ เลยได้แต่หันหน้าเข้าหาหน้าต่างบานใหญ่ เยี่ยมชมธรรมชาติ ลูซเห็นอาการเก้อเขินของเธอทำให้เขาหัวเราะเบาๆ

เขาเองก็ไม่กวนอะไรเธออีก ปล่อยให้เธอดื่มด่ำกับสองข้างทางเต็มที่ มีบ้างบางครั้งที่เขายกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเธอ

ลูซพาหญิงสาวแวะชมธรรมชาติและเก็บภาพสวยๆ ให้เธอเต็มไปหมด พราวฟ้าเองก็ชอบในการนำทางขอไกด์กิตติมศักดิ์ เขาเป็นเจ้าบ้านที่ดีมาก พาเธอแวะแต่ที่สวยๆ

การเดินทางของวันนี้จบลงอย่างราบรื่น โดยตอนแรกพราวฟ้าคิดว่าจะค้างคืนแต่เมื่อมีชายหนุ่มไปด้วยเธอเลยต้องเปลี่ยนแผน ไม่ได้นั่งรถไฟไปสุดสายตามที่แพลนไว้ แต่กว่าจะกลับมาถึงคอนโดก็มืดค่ำ

โดยมีลูซเดินมาส่งเธอที่หน้าคอนโด

อากาศเย็นลงจนร่างบางต้องห่อตัว

“คุณกลับยังไงคะ”

“คงเดินกลับไปเอารถที่มหาลัย” เธอพยักหน้า เธอยืนส่งเขาจนกว่าเขาจะเดินออกไป แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังไม่ไป เลยคิดว่าเธอลืมอะไรไปรึเปล่านะ ใช่สิ เธอลืมขอบคุณเขาไปเลย ไม่ได้เรื่องจริงๆ พราว

“ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้ เอาไว้ฉันเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ” เธอคิดว่าคงไม่มีอะไรดีไปกว่าเลี้ยงข้าวตอบแทนเขา

“เปลี่ยนเป็นวันนี้ได้ไหม”

“คะ? ”

“ฉันไม่ได้กินอะไรทั้งวัน หิว” พราวฟ้าตาโต

“จริงเหรอคะ ทำไมไม่บอก” เธอลืมนึกเรื่องนี้ไปเลย เพราะตัวเองกินข้าวแล้วก่อนที่จะออกไป เลยไม่รู้สึกหิว

พราวฟ้ายกกำปั้นทุบหัวตัวเองแรงๆ ให้กับความไม่ได้เรื่องของตัวเอง

“ขอโทษนะคะที่ไม่ได้ถามคุณเลย” ลูซหัวเราะเบาๆ กับใบหน้าสำนึกผิดของหญิงสาว

“อยากกินอาหารไทย ทำให้กินได้ไหม” เขาแจ้งความประสงค์ของตัวเอง

“อาหารไทยเหรอคะ”

“อืม วันนั้นบอกทำเป็น” เธอไม่คิดว่าเขาจะสนใจเรื่องของเธอด้วย

“ทำเป็นค่ะ คุณอยากทานอะไรล่ะคะ บอกฉันมาได้เลย” พราวฟ้าถามอย่างแข็งขัน เธออยากตอบแทนเขาจริงๆ ที่เขาพาเธอเที่ยววันนี้แถมยังจ่ายค่าตั๋วรถไฟให้อีก

“เอาที่เธอคิดว่ามันอร่อย”

“โอเคค่ะ แต่ฉันต้องเดินไปซื้อของที่ซูเปอร์ข้างหน้านั้นก่อนนะคะ เพราะบนห้องขาดของไปหลายอย่าง”

ดีที่แถวนี้มีซูเปอร์ที่ขายวัตถุดิบหลายๆ ชาติเพราะมีเด็กต่างชาติมาเรียนที่นี่เยอะ เธอเลยไม่ลำบากถ้าอยากกินอาหารไทย

“เอาสิ”

“คุณทนได้แน่นะ” พราวฟ้าเงยหน้าถามคนที่เดินเคียงข้าง

“ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”

“มันไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าอ่อนแอไม่อ่อนแอนะคะ แต่มันคือความหิวต่างหาก ไม่งั้นเขาจะพูดเหรอคะว่าความหิวไม่ปรานีใคร” ลูซขมวดคิ้วกับคำพูดของเธอ ตอนแรกเขาไม่เข้าใจพอทบทวนอีกรอบเขาถึงก็เข้าใจความหมายของมัน

“เหรอ” คำตอบกลับมาสั้นๆ ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะย่นจมูกใส่ นี่เขาไม่ได้กำลังกวนเธอใช่ไหม

“หึ” ลูซหัวเราะเบาๆ ในลำคอ ทำให้พราวฟ้าตวัดสายตามองเขา

“หัวเราะทำไมคะ”

“ฉันดีใจนะที่เธอไม่เกร็งแล้วเวลาที่คุยกัน”

กึก

ขาเรียวชะงักทันทีที่เขาพูดแบบนั้น จนลูซอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาพูดผิดตรงไหน

“หรือฉันเข้าใจผิด เธอยังกลัวฉันอยู่”

“บอกแล้วไงคะว่าไม่ได้กลัว ฉันแค่ไม่รู้ว่าจะพูดคุยกับคุณยังไง” พราวฟ้าส่งค้อนให้เขาแล้วเดินต่อ

“เหรอ แล้วตอนนี้ละ”

“ก็ธรรมดาค่ะ ไม่ได้เกร็งเหมือนอย่างตอนแรก”

“ฉันดีใจที่เธอเป็นตัวของตัวเอง”

คราวนี้พราวฟ้าหยุดเดินจริงๆ คำพูดของเขาทำให้เธอฉุกคิดขึ้นมา ภาพของวันนี้ทั้งวันแล่นเข้ามาในหัว

เป็นตัวของตัวเองงั้นเหรอ

“อะไร ฉันพูดผิดอีกแล้วเหรอ” ลูซหันไปถามเธอ

“เปล่า…เปล่าค่ะ” พราวฟ้าไม่พูดอะไรอีก เดินเข้าไปในซูเปอร์เพื่อเลือกของ ลูซเองก็ไม่ได้กวนเธอเหมือนกัน แต่เขาก็เข็นรถเข็นตามหลังเธอ ให้เธอหยิบจับของที่ต้องการมาใส่

พราวฟ้ามีความคิดหลายอย่างวนเวียนอยู่ในหัว ตั้งแต่การกระทำของเธอวันนี้หรือตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่

เป็นตัวของตัวเอง คำพูดของลูซยังรบกวนเธอไม่ไปไหน การที่เธอมาเริ่มต้นใหม่ที่นี่ การที่ไม่มีอะไรมากดดันหรือทำให้เธอคาดหวัง ทำให้เธอเป็นตัวของตัวเองงั้นเหรอ

ทำให้เธอกล้าแสดงออกในสิ่งที่อยากทำ อย่างนั้นใช่ไหม

ปากบางคลี่ยิ้มอย่างมีความสุข เป็นอย่างนั้นจริงๆ สินะ นี่คือตัวตนของเธอ

“พอแล้วค่ะ ไปจ่ายเงินกัน” ถึงเคาน์เตอร์จ่ายเงิน พราวฟ้าเห็นเขากำลังจะหยิบกระเป๋าเงินออกมาเธอก็รีบร้องห้าม

“ไม่ต้องเลยค่ะ ฉันจ่ายเอง” ลูซชะงัก

“โอเค” ยักไหล่ให้หญิงสาว ก่อนกระเป๋าเงินใบสีดำถูกเก็บไว้เหมือนเดิม

ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ลูซขึ้นมาบนห้องของเธอ ความรู้สึกมันแตกต่างไปจากครั้งแรกมาก เพราะครั้งนี้เขามาเป็นแขกของเธอจริงๆ

“ไปนั่งรอก่อนนะคะ ฉันจะเข้าไปทำอาหารให้ทาน”

“ให้ช่วยไหม” มีคนอาสา

“ทำเป็นเหรอคะ” พราวฟ้าเลิกคิ้วถามอย่างแปลกใจ

“น่าจะเป็นนะ”

คำพูดของเขาทำให้เธอหัวเราะเบาๆ

พราวฟ้าไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือของเขา เมนูที่เธอจะทำวันนี้คือ น้ำพริกกะปิ กับไข่เจียว และแกงเขียวหวาน แค่สามเมนูนี่ก็พอ เพราะกลัวว่าจะกินไม่หมด

“คุณล้างผักนะคะ” พราวฟ้านำผักที่จะใช้เป็นส่วนประกอบอาหารและเป็นกับแก้มมาให้เขาล้างซึ่งลูซก็รับมาโดยไม่ขัด

“ตกลงว่าจะทำอะไรกิน” ลูซหันไปถามหญิงสาว

พราวฟ้าอมยิ้มในปากก่อนจะตอบเขา

“มีน้ำพริกกะปิ ไข่เจียว และแกงเขียวหวานค่ะ คุณเคยทานไหมคะ”

ลูซพยักหน้า เขารู้จักเมนูพวกนี้ เพราะที่บ้านเคยทำ

“ได้นะ แม่ฉันเคยทำให้กิน ถึงช่วงหลังๆ จะไม่ได้กินบ่อยก็เถอะ” พอได้ยินแบบนั้นพราวฟ้าก็เบาใจหน่อย

“ดีค่ะ ฉันจะได้ไม่ต้องห่วงว่าคุณจะท้องเสีย”

“ฉันไม่เคยท้องเสียเพราะอาหารไทยหรอกไม่ต้องห่วง”

“ดีจัง แล้วเมนูไหนที่คุณได้ทานบ่อยสุดคะ”

พราวฟ้าหั่นเนื้อไปด้วย หันไปพูดคุยกับเขาด้วย

บรรยากาศตอนนี้ระหว่างเธอกับลูซเหมือนจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น พราวฟ้าไม่รู้สึกเกร็งแล้วจริงๆ เวลาอยู่ใกล้เขา ยิ่งทั้งสองได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันยิ่งทำให้ทั้งสองคนรู้จักกันมากขึ้น

ไม่มีการกดดัน หรือเกร็งเหมือนครั้งแรกที่เจอกัน

มันมีความรู้สึกอื่นเข้ามาแทนที่ นั้นคือความรู้สึกสบายใจ ใช่พราวฟ้าสบายใจเวลาอยู่กับผู้ชายคนนี้ เธอเป็นตัวของตัวเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

มันน่าเหลือเชื่อมากสำหรับเธอ เธอไม่คิดว่าเธอจะเปิดใจรับเพื่อนใหม่ที่เป็นผู้ชายได้ไวขนาดนั้น

พราวฟ้าไม่คิดว่าความรู้สึกนี้ของเธอจะเป็นความรัก แต่นิยามมันว่าเป็นความรู้สึกที่ได้เพื่อนใหม่มากกว่า เพื่อนผู้ชายคนที่สองนอกจากอะตอม เพื่อนที่ทำให้เธอเป็นตัวของตัวเอง เวลาอยู่กับเขา เธออยากคิดแบบนี้กับลูซ

“น่าจะเป็นต้มยำกุ้งนะ” คำตอบของเขาไม่ผิดจากที่พราวฟ้าคาดเดาไว้นัก ว่าเขาจะต้องทานต้มยำกุ้งบ่อยสุด เพราะมันเป็นเมนูขึ้นชื่อของประเทศไทยสำหรับชาวต่างชาติ

“ฉันเดาไม่ผิดเลยค่ะ เมนูวันนี้เลยไม่มีต้มยำกุ้งแต่เป็นแกงเขียวหวานแทน”

“รสชาติมันจะหวานๆ เหมือนชื่อใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ ว่าแต่คุณทานเผ็ดได้ไหมคะ”

“ได้นะ ฉันชอบอาหารรสจัด”

“เยี่ยมค่ะ เพราะฉันก็ชอบรสจัดเหมือนกัน”

สองหนุ่มสาวคุยกันไปทำกับข้าวไปด้วย ดูเหมือนช่องว่างของทั้งคู่จะลดลงเรื่อยๆ ลูซเองก็สังเกตหญิงสาวอยู่ตลอดการพูดคุยกัน

เธอมีอะไรที่น่าดึงดูสำหรับเขามากจริงๆ

หลังจากช่วยกันทำ อาหารทุกอย่างก็ถูกวางไว้ตรงหน้า น้ำพริกกะปิถูกจัดเรียงอย่างสวยงามด้วยผักเท่าที่จะหาได้

“ลองชิมดูค่ะ ว่ากินได้จริงๆ รึเปล่า” พราวฟ้ายังไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าเขาจะกินน้ำพริกกะปิได้เพราะกลิ่นกะปิแรงมาก

ลูซเอาช้อนเตะๆ แล้วชิม เขาจำได้ว่าแม่เคยทำเมนูนี้ให้เขาชิมเหมือนกัน รสชาติแสบลิ้น เปรี้ยว หวาน รวมทั้งกลิ่นที่คับคลั่งอยู่ในปากเพียงแค่แตะเบาๆ

พราวฟ้าเดาสีหน้าของเขาไม่ถูก เพราะปกติลูซก็มีสีหน้าเรียบเฉยอยู่แล้ว เขาเป็นคนที่อ่านยากคนหนึ่ง

“เป็นไงคะ”

“พอได้”

“ฉันว่าฉันไปทำแกงจืดให้คุณอีกหนึ่งอย่างดีกว่า” คำว่าพอได้ของเขาเธอไม่มั่นใจเอาซะเลย

“ไม่ต้อง ฉันกินได้ มันก็ไม่ได้แย่” พราวฟ้าหน้ามุ่ย

“ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่อร่อย ไม่ถูกปากคุณหนิคะ”

ลูซเลิกคิ้วมองกิริยาท่าทางใหม่ของหญิงสาวที่เขาพึ่งจะได้เห็น ก่อนจะหัวเราะเบาๆ

“นี่เธอกำลังงอนฉันอยู่เหรอ” พราวฟ้าตาโตเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอเผลอทำท่าทางแบบไหนเขาถึงคิดแบบนั้นนะ

“เปล่า..เปล่าสักหน่อย” เสียงตอบกลับมาตะกุกตะกักยิ่งทำให้คนฟังหัวเราะออกมาเสียงดัง

“จริงเหรอ แต่หน้างอนี่มันคืออะไร”

“จริงสิคะ ไม่พูดกับคุณแล้ว ถ้ากินไม่ได้ก็กินไข่เจียวกับแกงเขียวหวานไปแล้วกันนะคะ” พูดจบสาวเจ้าก็ก้มหน้าก้มตาตักข้าวเข้าปากโดยไม่ยอมพูดอะไรอีก

ลูซหัวเราะในลำคออีกครั้งกับท่าทางของเธอ ไม่แซวเธออีก

การรับประทานอาหารผ่านไปด้วยดี ถึงเวลาที่ชายหนุ่มต้องกลับ

“คุณจะเดินกลับไปที่มหาลัยเพื่อเอารถเวลานี้เหรอคะ”

ตอนนี้มันดึกมากแล้วจริงๆ ประตูมหาลัยคงปิดหมดแล้ว

“ฉันโทรให้เพื่อนมารับแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก” ปากบางเม้มเข้าหากันอยากโต้ตอบเขาไปนัก ว่าเธอไม่ได้ห่วงเขาซะหน่อย

“ค่ะ งั้นฉันเดินลงไปส่ง”

“อืม”

พราวฟ้าเดินลงมาส่งชายหนุ่มด้านล่าง ประจวบกับมีรถสปอร์ตคันหรูจอดเทียบหน้าคอนโดพอดี คนขับเปิดประตูรถออกมามองทั้งสองคน

“ว้าว สวัสดีครับน้องพราวคนสวย” เสียงทักทายทำให้พราวฟ้าหันไปมอง และโบกมือทักทายเขา

“สวัสดีค่ะ คุณเอวาน”

“ครับ แล้วนี่…” เอวานชี้นิ้วไปที่ทั้งสองคนสลับกันไปมา แต่ลูซก็ไม่ได้ให้ความกระจ่างกับเพื่อน เขาหันไปพูดกับหญิงสาวโดยไม่สนใจเพื่อน

“เธอขึ้นห้องเถอะ”

“ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะสำหรับวันนี้” พราวฟ้าถือโอกาสขอบคุณเขาอีกครั้ง

“อืม ขอบคุณเธอเหมือนกันสำหรับอาหาร ไว้ฉันจะส่งภาพมาให้”

“ค่ะ บายค่ะ” พราวฟ้าโบกมือลาชายหนุ่มและเพื่อนของเขาที่มองเธอยิ้มๆ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน

“อะไรยังไงเพื่อน” เอวานไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปหลังจากที่ลูซขึ้นมานั่งบนรถเขาก็เปิดปากถามทันที ถึงขนาดขึ้นไปบนห้องหญิงสาวขนาดนี้ความสัมพันธ์คงไม่ธรรมดา และคนอย่างลูซคงไม่ปล่อยให้ผู้หญิงรอดเกินสามวัน

“ไม่ยังไง”

“จริง”

“อืม”

“นายสนใจเธอ” เอวานหันไปถามเพื่อน

“ก็แค่เพื่อนของน้องสาว” ลูซตอบกลับเสียงเรียบ แต่มีหรือที่คนเป็นเพื่อนมาตั้งหลายปีจะไม่รู้จักนิสัยเพื่อน

พราวฟ้า

พราวฟ้า

Score 10
Status: Completed

ความรักที่เธอทุ่มเทให้เขาทั้งกายและใจ เขากลับผลักไส ร้ายกาจกับเธอสารพัด ทำทุกทางเพื่อให้เธอออกไปจากชีวิต ความรักมันเกิดขึ้นได้กี่ครั้งกัน โปรดส่งคนที่มอบความรักความอบอุ่นมาให้เธอที

Options

not work with dark mode
Reset