พระชายา 5 ข้อตกลง

ตอนที่ 5 ข้อตกลง

บรรยากาศบนโต๊ะเสวยสร้างความอึดอัดแก่เหล่าข้ารับใช้ยิ่งนักเมื่อผู้สูงศักดิ์ทั้งสองต่างคนต่างเงียบพระพักตร์เรียบเฉยของทั้งสองพระองค์ระหว่างเสวยไม่มีคำหวานตรัสเอาใจพระสวามีจากพระชายาเพียงครึ่งคำ

หลังจากนางกำนัลเก็บโต๊ะเสวยเรียบร้อยแล้วทั้งสองก็ยังนั่งนิ่งมิตรัสสิ่งใด พระเนตรคมจ้องมองไปยังสตรีที่ขึ้นชื่อว่าเป็นชายาอย่างถูกต้องด้วยสายพระเนตรไม่พอพระทัยชัดเจน

ร่างบางสวมอาภรณ์สีขาวใบหน้าเล็กผิวขาวซีดจนดูกลมกลืนไปกับชุด ข่าวลือเรื่องที่นางป่วยมาตั้งเเต่เด็กเห็นทีจะจริง

“เปิ่นหวางมาในวันนี้เพราะมีเรื่องจะตกลงกับเจ้า”

น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยออกมาก่อนเมื่อเห็นนางยังนั่งนิ่ง

“เพคะ”

“เปิ่นหวางมีคนรักอยู่แล้วและจะแต่งนางเข้ามา”

“เพคะ”

“เจ้าจงอยูในส่วนของเจ้าอย่าได้ไปวุ่นวายที่ตำหนักใหญ่”

“เพคะ”

“นี่เจ้าพูดคำอื่นไม่เป็นเลยงั้นรึ”

น้ำเสียงหงุดหงิดมิพอใจเอ่ยขึ้นมาไม่เคยมีสตรีใดที่อยู่ต่อหน้าพระองค์แล้วจะมิเขินอายพูดจาออดอ้อนแต่กลับสตรีจืดชืดนางนี้กล้าดีอย่างไรมาเมินพระองค์

“เป็นเพคะ ทรงต้องการเพียงเท่านี้ใช่หรือไม่เพคะ”

“หลักๆ ก็มีแค่นี้แต่คิดออกเพิ่มเมื่อใดจะให้คนนำมาแจ้ง แล้วอย่าได้คิดนำเรื่องในคืนนี้ไปทูลเสด็จแม่เล่าไม่งั้นอย่าหาว่าเปิ่นหวางไม่เตือนเจ้า”

“เพคะ”

“นี่เจ้า!! ”

“หากมิทรงมีสิ่งใดแล้ว หม่อมฉันขอตัวไปสวดมนต์ก่อนนะเพคะ น้อมส่งชินอ๋อง”

ยังมิทันที่ร่างสูงจะกล่าวสิ่งใดออกมาอีกร่างระหงนั้นก็เดินลับสายตาไปเสียแล้ว

วรกายสูงส่งเดินออกจากตำหนักอย่างโมโหพระพักตร์บึ้งตึงจนองครักษ์คนสนิทอดที่จะเอ่ยถามมิได้

“ทรงตกลงกันมิได้หรือพะยะค่ะ”

“หึ ได้! ได้ดีเสียด้วย”

“แล้วทรงกริ้วอันใดพะยะค่ะ”

“ช่างนางชีนั่นเถิด ไป กลับตำหนัก”

หรงไจ้ได้แต่แปลกใจในอาการของท่านอ๋องที่ปกติพระองค์เป็นคนพระทัยเย็นสุขุมอยู่เสมอ ทำไมเพียงสตรีตัวเล็กๆ อย่างชินหวางเฟยจะทำให้ทรงเสียกิริยาเช่นนี้ได้

ตำหนักหลันเทียน

ร่างระหงที่สวดมนต์เสร็จแล้วกลับเข้ามาในห้องบรรทมเพื่อผลัดเปลี่ยนอาภรณ์และล้างหน้าก็เห็นนางกำนัลทั้งสองยืนทำหน้ากระเง้ากระงอดอยู่ก็อดยิ้มออกมามิได้

“เป็นอันใด พวกเจ้าทำหน้าพิลึกจริง”

“พระชายาเพคะยังจะมามีอารมณ์ขันได้อีก ทำไมทรงเดินหนีท่านอ๋องไปแบบนั้นเล่าเพคะ”

“ก็พระองค์ทรงบอกว่ามีเรื่องจะตรัสเพียงเท่านั้น”

“โถ่ พระชายาเพคะ”

“ช่างพระองค์เถิด เสี่ยวฮุ่ยไปเอาตำราพระสูตรมาข้าจะคัดตำราต่อสักหน่อย”

“เพคะ”

ทั้งสองได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตกแล้วอย่างนี้เมื่อใดพระชายาของพวกนางจะเป็นที่โปรดปรานสักทีเล่า

จวนตระกูลหลาน

หลานกุ้ยอิงที่เก็บตัวเงียบอยู่ในเรือนมาหลายวันผู้คนต่างคิดว่านางกำลังเศร้าโศกเสียใจนั้น กำลังนั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์เมื่อได้ฟังรายงานจากสาวใช้คนสนิทที่เล่าถึงสถานการณ์ในวังเสิ่นหยางกง

“นางกำนัลจื่อเยียนส่งข่าวมาบอกว่าพระชายาเฉินถูกจัดให้อยู่ตำหนักห่างจากตำหนักใหญ่ไกลโขเลยเจ้าค่ะแล้วท่านอ๋องก็มีรับสั่งไม่ให้นางเข้าไปตำหนักใหญ่ก่อนได้รับอนุญาตด้วยเจ้าค่ะเพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่าสตรีที่สำคัญกับชินอ๋องที่สุดคือคุณหนูของบ่าวคนเดียว”

ริมฝีปากบางเคลือบสีชมพูอ่อนงดงามยกยิ้มมุมปากอย่างสาใจ

“วันนี้ท่านอ๋องเสด็จมาหรือไม่”

“เสด็จมาเจ้าค่ะ ตอนนี้ทรงประทับรอคุณหนูอยู่ที่ห้องโถงฮูหนินเอกกับนายท่านต้อนรับอยู่เจ้าค่ะ”

“มาช่วยข้าแต่งตัววันนี้ข้าจะให้พระองค์พบแล้ว”

ตลอดเวลาหลายวันมานี้ชินอ๋องทรงเสด็จมาหานางทุกวันแต่นางก็แสร้งใจแข็งไม่ให้พระองค์เข้าพบ เห็นแก่วันนี้มีข่าวดีนางจะยอมพบพระองค์ เพียงได้พบนางเห็นน้ำตานางสักหน่อยออดอ้อนพอเป็นพิธีก็ทรงยอมนางทุกอย่างแล้วเพราะในพระทัยของพระองค์มีเพียงนางเท่านั้น นางยอมรับว่าผิดหวังอยู่บ้างที่ไม่ได้แต่งเข้าวังอ๋องเป็นหวางเฟยตามที่คาดไว้ แต่พอคิดดูอีกทีแต่งเข้าในฐานะใดก็ไม่ต่างกันในเมื่อพระทัยของพระองค์อยู่กับนาง ต่อไปตำแหน่งใดบ้างพระองค์จะให้นางไม่ได้ ผู้ใดขัดขวางนางก็แค่กำจัดมันออกไปให้หมด

ร่างเล็กบอบบางเดินเข้ามาในห้องโถงของจวนใบหน้างามหมองเศร้าใจคนที่มองอยู่รู้สึกสงสารจับใจ

“ถวายพระพรชินอ๋องเพคะ”

ร่างสูงลุกขึ้นมาประคองนางไปนั่งเก้าอี้ข้างๆ วรกายทันที

“อิงเออร์ เจ้ายอมออกมาพบพี่แล้ว”

“เอ่อ ในเมื่ออิงเออร์มาแล้วกระหม่อมกับฮูหยินคงต้องขอตัวก่อนพะยะค่ะ”

“ตามสบายเถิดใต้เท้าหลาน”

“ทูลลาพะยะค่ะ/เพคะ”

ลับร่างสามีภรรยาเจ้าของจวนพระหัตถ์หนาก็คว้ามือบางจึ้นมาจับไว้

“พี่คิดถึงเจ้า”

“หม่อมฉันก็คิดถึงพระองค์เพคะ”

“ไปเรือนเจ้าเถิด พี่มีเรื่องจะคุยกับเจ้าอีกอย่าง…”

น้ำเสียออดอ้อนกรุ้มกริ่มหยอกล้อนางจนแก้มเนียนแดงเรื่อ

“หยุดนะเพคะ ทรงตรัสอันใดก็ไม่รู้”

เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบาอย่างเขินอายก่อนลุกเดินออกไปทันทีร่างสูงสรวลเบาๆ อย่างชอบพระทัยลุกเดินตามร่างบางไปอย่างรวดเร็ว

“อิงเออร์ รอพี่ก่อน”

Options

not work with dark mode
Reset