ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 620 แม่หม้ายจอมอาฆาตกับอี้เติง

ตอนที่ 620 แม่หม้ายจอมอาฆาตกับอี้เติง

ตอนที่ 620 แม่หม้ายจอมอาฆาตกับอี้เติง

เยี่ยเว่ยหมิงเห็นแล้วอดขมวดคิ้วไม่ได้ ถามเสียงต่ำว่า “นี่มันเรื่องอะไร”

น้องดาบตอบเสียงเข้ม “ค่ายกลของสระมังกรดำยังควบคุมกลางอากาศได้ด้วยหรือ เมื่อครู่นี้ข้าลองกระโดดไปบนที่สูงเพื่อหาตำแหน่งของคนพูด แต่หลังจากกระโดดจากพื้นสามจั้ง จู่ๆ ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันประหลาด ปราณแท้ในร่างกายก็ถูกพลังนี้รบกวนเช่นกัน ถึงได้ตกลงมา…

…อาจเป็นจริงอย่างที่นางพูด ถ้าอยากจะบินเข้ามาที่นี่เป็นเรื่องง่าย แต่ถ้าอยากออกไป กลับไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”

สะพานสวรรค์น้อยอุทานตกใจแล้วถามว่า “เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่เท่ากับว่าพวกเราวางกับดักพี่ใหญ่เยี่ยหรอกหรือ ทำให้เขามาถูกขังอยู่ในสถานที่ผีๆ แบบนี้ด้วยกัน”

“หากเป็นคนทั่วไป บางทีอาจเป็นกำดักจริงๆ แต่สำหรับเจ้ามือปราบหน้าเหม็นคนนี้ ไม่ใช่หรอก” น้องดาบกลับมีความมั่นใจต่อเยี่ยเว่ยหมิงเต็มเปลี่ยน กล่าวอย่างมั่นใจว่า “ค่ายกลเส็งเคร็งนี่ พวกเราสองคนอาจจะทำอะไรไม่ได้ แต่ข้าไม่เชื่อหรอกว่ามันจะทำอะไรเจ้ามือปราบหน้าเหม็นได้”

“นับว่าเจ้าสายตาเฉียบแหลม!” เยี่ยเว่ยหมิงยกนิ้วหัวแม่มือให้น้องดาบ กดไลก์ให้สายตาเฉียบคมของนางพร้อมเอ่ยว่า “ในเมื่อต้นไม้ของที่นี่คืออุปสรรคขวางทาง เช่นนั้นพวกเราก็เชิญช่างไม้มาสักคน ตัดต้นไม้ที่นี่ให้นาง เท่านี้ค่ายกลก็ย่อมพังไปเอง”

“ตัดต้นไม้? ฮ่าๆๆ…” เมื่อได้ยินสิ่งที่เยี่ยเว่ยหมิงพูด ผู้หญิงคนนั้นก็ราวกับได้ยินเรื่องตลกขำขัน หลังจากหัวเราะอยู่นาน ถึงได้บอกว่า “หากพวกเจ้าคิดว่าทำเช่นนั้นได้ ก็ลองดูได้เลย…

…แต่อย่าหาว่าข้าไม่เตือนพวกเจ้านะ ค่ายกลนี้ของข้ากินพื้นที่หลายลี้ อีกทั้งต้นไม้ในป่าก็สลับตำแหน่งทุกสิบนาที หากพวกเจ้าคิดจะตัดต้นไม้เพื่อเก็บกวาดหนทาง นั่นคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย”

น้องดาบได้ยินแล้วเถียงกลับทันที “เช่นนั้นพวกเราค่อยๆ ตัดก็ได้ ขอเพียงพวกเราตัดไม้หมดทั้งป่าแล้ว เจ้าจะสลับตำแหน่งอย่างไรก็ได้”

ผู้หญิงคนนั้นได้ยินแล้วหัวเราะเยาะอีกครั้ง “ตัดไม้หมดทั้งป่า? ได้สิ!”

ฟังจากน้ำเสียงที่ไม่แยแสอย่างเดียว ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่หวาดกลัวเพราะมีที่พึ่งพิง “แต่ข้าก็ต้องเตือนพวกเจ้าอีกสักหน่อย ว่าต้นไม้ในป่านี้จะรีเฟรชใหม่ทุกสองชั่วยาม…

…นอกเสียจากพวกเจ้าจะหาทางตัดต้นไม้ในป่านี้ให้หมดภายในเวลาสี่ชั่วโมงได้ ไม่เช่นนั้น ต่อให้พวกเจ้าจะตัดมากเท่าไร มันก็จะรีเฟรชเพิ่มขึ้นเท่านั้น ทั้งสามจะลองดูหน่อยไหมล่ะ”

“เอ่อ…”

ฟังออกว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดโกหก อีกทั้งวิธีการพูดของนางก็สอดคล้องกับตรรรกะของเกม หากนางคิดจะโกหก NPC ก็ใช้ศัพท์เกมคำว่า ‘รีเฟรช’ โกหกไม่ได้อยู่แล้ว

หลังจากน้องดาบลังเลครู่หนึ่งก็หันไปมองเยี่ยเว่ยหมิงอีกครั้ง “เจ้ามือปราบหน้าเหม็น เจ้าคิดว่าทำอย่างไรดี”

เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มบางๆ “พวกเจ้ายังจำจวนอ๋องจ้าวได้ไหม”

สะพานสวรรค์น้อยได้ยินแล้วเอามือปิดปากด้วยความตกใจทันที “พี่ใหญ่เยี่ย นี่ท่านหมายความว่าจะใช้ไฟเผาป่าหรือ แต่พวกเรายังอยู่ในป่านะ หากเผาแล้ว เกรงว่าพวกเราจะ…”

“ไม่เป็นไรหรอก!” เยี่ยเว่ยหมิงหยิบพลั่วเหล็กออกมาแล้วบอกว่า “ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้า ตอนที่ข้าอยู่ต้าหลี่ ข้าได้เรียนทักษะปล้นสุสานจากหัวเฮ่อเกิ้น แม้ที่นี่จะไม่มีสุสานให้ปล้น แต่ขุดอุโมงค์ให้พวกเราสามคนซ่อนตัวก็ไม่น่าจะมีปัญหา…

…ยิ่งไปกว่านั้น…” พอกล่าวถึงตรงนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าเยี่ยเว่ยหมิงก็เริ่มเปลี่ยนเป็นไร้ศีลธรรม “เมื่อครู่นางก็บอกแล้วว่าต้นไม้ในค่ายกลนี่จะสลับตำแหน่งทุกสิบนาที หรือพูดได้อีกอย่างว่า ขอเพียงพวกเราจุดไฟที่นี่ เผาป่าตรงหน้าให้วอด หลังจากนั้นสิบนาที ต้นไม้ที่ติดไฟก็จะสลับตำแหน่งไปอยู่ที่อื่น อีกสิบนาที ทั้งป่าก็จะกลายเป็นทะเลเพลิง…

…อิงตามความเร็วนี้ ข้ากล้ารับประกันได้เลยว่าใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ป่าทั้งผืนนี้ก็จะวอดวายกลายเป็นขี้เถ้าขาวแล้ว!”

“หยุดนะ!” ไอรีนโนเวล

เมื่อได้ยินแผนการวางเพลิงของเยี่ยเว่ยหมิงโดยละเอียด ในที่สุดสตรีที่พูดจาเหน็บแนมคนนั้นก็กระสับกระส่ายแล้ว นางส่งเสียงห้ามทันที ป่าไม้ที่ขวางอยู่ตรงหน้าทั้งสามคนแยกออกเป็นสองฝั่งทันที เพียงไม่กี่อึดใจก็เกิดทางเดินที่ตรงแน่วสายหนึ่ง

จากนั้นทั้งสามก็เห็นแม่หม้ายจอมอาฆาตที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุร้ายราวกับทั้งโลกติดหนี้นางสามเท่าเดินออกมาจากทางเดินพร้อมถามว่า “พวกเจ้าสามคนจิตใจชั่วร้ายอำมหิตนัก ไม่น่าเชื่อว่าจะมาเผาป่าของข้า”

ขณะมองแม่หม้ายจอมอาฆาตที่หน้าตาเหมือนคนอายุสิบแปดสิบเก้าที่ไม่เคยผ่านการแต่งงานมาก่อน เยี่ยเว่ยหมิงก็ยักไหล่อย่างจนใจ “ใครใช้ให้เจ้าขังพวกเราไว้ที่นี่ ไม่ยอมปล่อยไปล่ะ…

…ในเมื่อพวกเราออกไปไม่ได้ ก็ย่อมต้องคิดหาทางเอาชีวิตรอดสิ…

…การอนุรักษ์ป่าไม้เป็นคุณธรรมอันงดงามอยู่แล้ว แต่ข้าก็รู้สึกว่าชีวิตคนสำคัญกว่า”

แม่หม้ายจอมอาฆาตคนนั้นได้ยินแล้วหน้าเปลี่ยนสี แต่สุดท้ายก็ยังอดทนไว้ ไม่ได้อาละวาดออกมา นางบอกว่า “ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปก็ได้ แล้วก็สัญญาด้วยว่าจะไม่เอาเรื่องที่พวกเจ้ามาทำร้ายจิ้งจอกเก้าหางของข้า ทั้งยังจะถ่ายทอดวิทยายุทธ์ของข้าให้พวกเจ้าด้วย แต่พวกเจ้าต้องช่วยข้าสังหารคนคนหนึ่ง”

น้องดาบได้ยินแล้วตาเป็นประกายทันที “ฆ่าใคร”

“อี้เติง!”

[ติ๊ง! คุณพบภารกิจลับ ‘สังหารอี้เติง’]

สังหารอี้เติง: ไปยังที่ซ่อนของอี้เติงไต้ซือแล้วสังหารเขาระดับภารกิจ: 6 ดาว

รางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์ 1000000 แต้ม ค่าตบะ 100000 แต้ม หักค่าวีรบุรุษ 2000 แต้ม รางวัลตำราลับท่าร่างระดับกลาง ‘พลังปลาไหล’

จะรับภารกิจหรือไม่

……

หลังจากเห็นข้อแจ้งเตือนจากระบบ ทั้งสามก็สบตากันแวบหนึ่ง เยี่ยเว่ยหมิงออกคำสั่งในช่องแชททีมทันที จากนั้นน้องดาบกับสะพานสวรรค์น้อยก็เคลื่อนไหวพร้อมกัน

น้องดาบอ้อมไปด้านหลังทางซ้ายของแม่หม้ายจอมอาฆาต ดาบโลหิตอยู่ในมือ ใช้สันดาบไถลเบาๆ บนเส้นผมงามดุจเส้นไหม เตรียมใช้ ‘เคล็ดวิชาดาบโลหิต’

ส่วนสะพานสวรรค์น้อยก็อ้อมไปด้านหลังฝั่งขวาของแม่หม้ายจอมอาฆาต กระบี่ชิงชัยและดาบพระจันทร์เย็น อาวุธล้ำค่าสองชิ้นปรากฏอยู่ในฝ่ามือของนางแล้ว

แม่หม้ายจอมอาฆาตเห็นแล้วตกตะลึง ถามอย่างไม่พอใจว่า “พวกเจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร”

“หมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ” เยี่ยเว่ยหมิงแสยะยิ้ม “ก่อนอี้เติงไต้ซือออกบวช ชื่อเดิมคือต้วนจื้อซิง ราชันทักษิณ หนึ่งในห้ายอดฝีมือแห่งใต้หล้า เลเวลหนึ่งร้อยแปด…

…ถ้าให้พวกเราตั้งทีมไปรนหาที่ตายที่นั่น ไม่สู้สังหารเจ้าก่อนดีกว่า แล้วก็ค่อยเผาป่าผืนนี้ อย่างน้อยสำหรับพวกเรา แผนการนี้ก็ไม่มีความเสี่ยงใดๆ ทั้งยังจะได้รับ ‘พลังปลาไหล’ ที่เจ้าบอกด้วย…

…ที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่โดนหักค่าวีรบุรุษด้วย!…

…หากเจ้าเป็นพวกเรา แล้วเจอทางเลือกเช่นนี้ เจ้าจะทำอย่างไร”

แล้วก็ยังมีเหตุผลอีกนิดหน่อย แต่เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้พูดออกมา

นั่นก็คือ เขาเคยอ่านกลยุทธ์ของอินปู้คุยมาก่อน รู้สึกไม่ชอบตัวละครอิ๋งกู นี่ก็คือหนึ่งในสาเหตุที่เขาเลือกลงมือกับอิ๋งกู

ระหว่างที่พูด ในฝักกระบี่สาสน์พุทธะที่อยู่ข้างหลังเยี่ยเว่ยหมิงก็เปล่งเสียงเสียงคาถาอันน่าเกรงขามอีกครั้ง พร้อมเอ่ยว่า “ฆ่าคนเพื่อปกป้องชีวิต…”

“อามิตาภพุทธ!”

ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงเตรียมจะใช้กระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงสังหารแม่หม้ายจอมอาฆาตที่ไร้ยางอายคนนี้ เสียงคาถาในฝักกระบี่สาสน์พุทธะกลับถูกขัดจังหวะด้วยนามพระพุทธเจ้าที่ดังขึ้นมากลางอากาศ

จากนั้นทั้งสามก็เห็นหลวงจีนจีวรเหลืองรูปหนึ่งปรากฏตัวอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา

บนศีรษะของเขามี ค่าสเตตัส BOSS ที่โดดเด่นลอยขึ้นมา

[อี้เติง]

หนึ่งในห้ายอดฝีมือแห่งใต้หล้า เดิมทีเป็นฮ่องเต้ต้าหลี่ หลังจากออกผนวชแล้วมีฉายาว่าอี้เติง

เลเวล: ???

พลังชีวิต: ???/???

กำลังภายใน: ???/???

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Score 10
Status: Completed
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!

Options

not work with dark mode
Reset