ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary 262 ฉันไม่ได้แค้นคุณทั้งหมด แต่ฉันจะไม่แสดงความปรานี

ตอนที่ 262 ฉันไม่ได้แค้นคุณทั้งหมด แต่ฉันจะไม่แสดงความปรานี

262 ฉันไม่ได้แค้นคุณทั้งหมด แต่ฉันจะไม่แสดงความปรานี

『ถ้าอย่างนั้นสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ผู้ท้าทายดูเหมือนจะเตรียมตัวเสร็จแล้ว! แค่ผู้ถูกเลือกคนสุดท้ายของเมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ล่าสุดจะแข็งแกร่งแค่ไหนกัน!? การแสดงการต่อสู้เฉือนเลือดเฉือนเนื้อจะเริ่มต้น!』

อะไรที่เพิ่งเริ่มต้นไปเมื่อกี้!? ผมทำให้ตัวเองมีแรงจูงใจเกี่ยวกับทั้งหมดนี่ไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ที่พวกเขาจัดมันมาขนาดนี้แล้ว มาทำนี่กันเถอะ ฉันจะแสดงโลกแห่งความเจ็บให้พวกผู้ท้าทายเวรนั้นเหมือนที่พวกเขาต้องการทุกอย่าง

ผมดึงดาบทื่อสองเล่มที่ผมเลือกก่อนหน้าจากฝักและทำการเดินทางไปสู่กลางสนามการต่อสู้พร้อมการลดทั้งสองมือ ดาบที่พวกเขาเตรียมมาสำหรับการแข่งมีน้ำหนักต่างจากดาบโมเลกุลเดี่ยวของผมเอง แต่มันยังพอได้ แม้ว่าคู่ต่อสู้ผมเป็นนักรบเอลฟ์มากประสบการณ์ พวกเขาไม่ได้เสริมความแข็งแกร่งร่างกายปรกติของพวกเขา

ไม่สำคัญว่าพวกเขาเชี่ยวชาญอาวุธที่เลือกแค่ไหน พะวกเขาน่าจะไม่ได้เร็วไปกว่าผู้เชี่ยวชาญฝ่ายวาดดาบที่เสริมกำลังชีวภาพที่ผมดวลดาบด้วย

“ถ้าอย่างนั้นนายคือผู้กล้าที่ถูกเลือกโดยเมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์คนใหม่หือ”

คนที่พูดกับผมคือนักรบเอลฟ์ชายผู้ดูค่อนข้างหนุ่ม แต่เขาเป็นเอลฟ์ ดังนั้นผมผมไม่แน่ใจว่าอายุจริงของเขาคือเท่าไร เขามีดาบที่ดูคล้ายกับมาเชเต้และสแกนผมจากหัวถึงเท้าด้วยสายตาตัดสิน

“สวัสดี คุณนักรบเอลฟ์ กัปตันฮิโระคือชื่อ”

“โอ้ว ฉันเดลช์ นักรบของตระกูลลูกน้องเผ่ากราโด ตระกูลไดน่า สวัสดี”

หลังจากการแนะนำตัวของเรา นักรบเดลช์แสดงรอยยิ้มไร้เดียงสามีเสน่ห์

“ฉันไม่ได้รู้เรื่องการเมืองหรืออะไรนั่น แต่ฉันเพียงดีใจที่ฉันได้รับโอกาสสู้กับผู้กล้าที่ถูกเลือกโดยเมล็ดของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ผู้กล้าที่ถูกเลือกเป็นไอดอลของนักรบเอลฟ์– ไม่, ของเอลฟ์ชายทั้งหมด เพราะทั้งหมดผู้ชายเอลฟ์ส่วนใหญ่เล่นเป็นผู้กล้าที่ถูกเลือกระหว่างเวลาเล่นเมื่อพวกเขาเป็นเด็กๆ นั่นรวมถึงฉันด้วย แน่นอน”

“เข้าใจแล้ว?”

ผมเริ่มใส่กำลังไปบนแขนที่สบายอยู่เพื่อที่ผมเคลื่อนไหวทันทีได้ทุกช่วงเวลาและลดท่ายืนของผมลงเล็กน้อย

“มันเหมือนฝันที่สามารถดวลดาบกับผู้กล้าในตำนาน…… คุณจะไม่แพ้ง่ายๆแบบนั้น ใช่ไหม?”

“อย่ากังวลพวก ฉันจะซัดนายทั้งหมดล้ม ด้วยความเคารพสูงสุด แน่นอน”

รอยยิ้มไร้เดียงสาของเดลช์เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มดุร้ายในพริบตา

“เอาเลยแล้วลองสิ มาทำนี่เถอะ”

นักรบเอลฟ์ชื่อเดลช์พุ่งเข้าใส่ผมด้วยความเร็วและความคล่องตัวคล้ายกับสัตว์ป่า เข้าใจแล้ว ความเร็วของเขาไม่ได้ดูเหมือนเป็นคนไม่เสริมกำลังปรกติเลยสักนิด ผมว่าเขาเพิ่มพลังตัวเองโดยการใช้เวทมนตร์

“กุ่เออ๋–!?”

เดลชส่งเสียงร้องเจ็บปวดขณะเขาล้มหน้าทื่มและไหลไปบนพื้นสนามแข่งเนื่องจากแรงส่งของการพุ่งของเขา ผมปัดการโจมตีของเขาและตีเขาที่หลังคอตอบโต้

ใช่ แน่นอนมันเร็ว แต่มันยังไม่ดี ผมหมายถึง เขาแค่พุ่งเข้ามาตรงหน้าหลังจากทั้งหมด นั่นแค่ไม่ดีพวก การฟันดาบของเขาค่อนข้างทรงพลัง ใช่ แต่ผมเพียงแค่ต้องปัดป้องและนำแรงส่งที่ปัดไปรับมือกับมัน และนอกนอกจากนี้ไม่มีทางที่การโจมตีของเขาจะเทียบกับเมย์ได้

『โว่ว–!? คุณเดลช์ ผู้ผู้ว่าเป็นนักรบหนุ่มหมายเลขหนึ่งของเผ่ากราโดถูกเอาชนะด้วยแค่การโจมตีทีเดียว!? แค่อะไรเกิดขึ้นกันเนี่ย!? กัปตันฮิโระผู้ถูกเลือกโดยเมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์คนใหม่ ไม่ได้เคลื่อนไหวสักหนึ่งก้าวเลยด้วยซ้ำ!?』

『มันดูเหมือนว่าการโจมตีนักรบเดลช์ถูกปัดด้วยการเคลื่อนไหวที่น้อยที่สุด และจากนั้น เขาถูกเอาชนะโดยการโจมตีสวน มันเป็นการโจมตีที่แม่นยำและคมอย่างน่ากลัว』

ผมมองดูเดลช์ถูกนำไปโดยเจ้าหน้าที่การต่อสู้และจากนั้นหันความสนใจสู่ผู้ท้าทายคนต่อไป คนต่อไปที่ออกมาตัวใหญ่กว่าคู่ต่อสู้คนแรกของผม แม้ว่าเขาใหญ่กว่า เขายังเป็นเอลฟ์ ดังนั้นเขาไม่ได้ใหญ่โตขนาดนั้น เขาประเภทเป็นผอมสูงแต่หุ่นดี

“ฟุมุ ถ้าอย่างนั้นเดลช์แม้แต่ทำหน้าที่เป็นคู่ต่อสู้ดีๆไม่ได้หือ แต่แน่นอนเขาไม่อ่อนแอ”

ขณะเขาพูดชายเดินมาข้างหน้าและนำอาวุธขึ้นมา –หอกสั้น หอกไปถึงแค่หูของผู้ชายคนหนึ่ง ความยาวมันน่าจะประมาณ 180 เซ็นติเมตรหรือประมาณนั้น

“อย่างไรก็ตาม เพราะทั้งหมดเขายังเป็นนักรบหนุ่มเผ่ากราโด เขาอาจมีศักยภาพสูงแต่เขายังต้องไปอีกไกลก่อนไปถึงยอดสูงสุด”

“อะไรเนี่ย? ถ้าอย่างนั้นนายจะบอกฉันว่าเขาเป็นผู้อ่อนแอที่สุดในสี่เทพสวรรค์หรือบางอย่างแบบนั้นเหรอ……?”

“สีเทพสวรรค์?”

“เอ่อ แค่เมินนั่น คุยพอแล้ว มาทำนี่ให้จบๆ”

“ฟุมุนายดูเหมือนมั่นใจ ฉันไม่เหมือนเดลช์”

ระหว่างพูดอย่างนั้น นักรบถือหอกสั้นเดินหน้ารุกอย่างระวัง เขาน่าจะวัดระยะของการเอื้อมของเราแต่ละคนไว้ในใจ ถ้าอย่างนั้นเขาอยากเอาเปรียบความได้เปรียบกับการเอื้อม นั่นเป็นที่อาวุธไปได้ไกลมีประสิทธิภาพเท่าไร มันจะยากที่จะป้องกันการโจมตีที่ทรงพลังและแม่นยำของหอก และขึ้นอยู่กับทักษะผู้ถือ พวกมันก็เร็วตจนดูไม่ทัน นอกจากนี้ แม้ว่าหอกเป็นอาวุธแทง มันไม่เหมือนว่าคนหนึ่งทำการกวาดด้วยมันไม่ได้ ถ้าเหวี่ยง ระยะมันค่อนข้างกว้าง และุถ้าคนนั้นโดนโจมตีด้วยด้ามไม้หรือปลายเหล็กเสริมความแข็งแกร่ง กำลังจะยังคงรุนแรงพอที่จะหักกระดูก

“หนึ!?”

ทันทีเมื่อผมเข้าระยะคู่ต่อสู้และโดนโจมตี ผมเดินหน้าไปข้างหน้าทันที  ผมกะจังหวะมันเพื่อที่ให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถหยุดการโจมตีระหว่างทางได้และเอาเปรียบช่องเปิด ผมไม่ได้รับการโจมตีด้วยหอกตรงๆแต่เล็งไปที่มือที่จับหอกด้วยการฟันแบบกระทัดรัดแทน

“คุ– โก่ะะะ!?”

ปฏิกิริยาตอบสนองของนักรบหอกสั้นค่อนข้างเร็ว เขาดึงหอกกลับไปอย่างเร็วและหมุนตัวไปหันข้างเพื่อเลี่ยงการเหวี่ยงของผม อย่างไรก็ตาม ผมตามด้วยการโจมตีโดยใช้ดาบสั้นในมือซ้าย และโจมตีโดนเต็มๆ เมื่อเขาเกร็งจากการโจมตี ผมหมุนใส่เขาและจบเขาด้วยการโจมตีอีกครั้ง

『เอาอีกแล้ว!? แค่อะไรบนโลกเกิดขึ้น!?』

『นักรบโคล์ตสามารถโจมตีได้ แต่คู่ต่อสู้ของเขาหลบมันระยะเฉียดขน และทันทีนั้น คุณฮิโระปล่อยการโจมตีเร็วสายฟ้าแล่บต่อเนื่องสามครั้ง ครั้งแรกเป็นการหลอก, ครั้งที่สองทำลายท่ายืนของนักรบโคล์ต, และการโจมตีที่สามจบการต่อสู้ พื้นฐานแล้วการโจมตีทั้งสามนั้นถูกปลดปล่อยในพริบตา』

ว้าว นายช่างสังเกตจริงๆ ไม่ใช่หรือ คุณผู้บรรยาย นายกำลังดูบันทึกการต่อสู้ตามเวลาจริงหรือบางอย่างหรือ?

ผมหันออกจากโคล์ตนักรบหอกสั้นผู้พ่ายแพ้และนำดาบยาวขึ้นมาในมือขวาของผม จากนั้นผมชี้ไปสู่นักรบเอลฟ์ที่เหลือผู้กำลังรออยู่สนามแข่งฝั่งตรงข้าม

“สู้พวกน่ายทีละคนมันเสียเวลา แค่มาหาฉันด้วยกัน”

การตอบสนองของพวกเขาต่างๆกัน บางคนแสดงความไม่สบายตัว ระหว่างคนอื่นยิ้มในความสนใจ และคนอื่นบางคนกำอาวุธพวกเขาด้วยกำลังมากขึ้นระหว่างยังไร้สีหน้า และที่เหลือยิ้มอย่างดุร้าย แต่ไม่มีพวกเขาสักคนตอบการยั่วยุซึ่งหน้าของผม

พวกเขาชำเลืองมองกันและทำท่าทางนิดหน่อย จากนั้นพวกเขาเริ่มกระจายออกเป็นขบวนแถวระหว่างเดินหน้ามาข้างหน้า

『คุณฮิโระยั่วยุนักรบผู้เข้าร่วมทั้งหมด!? มันดูเหมือนเหล่านักรบไม่ยินดีที่จะนอนรับการยั่วยุเช่นนั้น!』

『พลังที่แท้จริงของนักรบผู้ได้รับพรจากธรรมชาติแม่นั้นแสดงออกในการต่อสู้กลุ่มดีที่สุด แม้ว่าศัตรูคือคุณฮิโระ ผู้แสดงทักษะและความแข็งแกร่งอันท่วมท้น ฉันไม่คิดว่าเขาจะสามารถหลบลี้หนีการดิ้นรนฉิวเฉียดได้ครั้งนี้』

นักรบเอลฟ์ถือมาเชเต้ก้าวมาข้างหน้าสุดระหว่างผู้ใช้หอกสั้นอีกคนวางตำแหน่งอยู่ข้างหลังเขา กลุ่มของนักรบห้าคนแยกออกไปสามทิศทางและล้อมผมอย่างสมบูรณ์ ผมเดาว่านี่เป็นกลยุทธ์ดีที่สุดของพวกเขาหือ พวกเขาน่าจะใช้ขบวนแถวนี้ล่าสัตว์ป่าอันตรายในป่า ถ้าอย่างนั้น มีแค่ทางเลือกเดียวที่ผมเลือกได้

นั่นคือพุ่งตรงเข้าไปในหนึ่งกลุ่มด้วยตัวเอง

『โว่ว! กัปตันฮิโระเพิ่งกระโดดตรงไปสู่กลุ่มนักรบทางซ้ายของเขา!』

『ขบวนแถวถูกสร้างเพื่อหยุดการพุ่งโจมตีบ้าคลั่งจากริก้าราอู ดังนั้น นักรบที่ดีที่สุดของเราก็รับมือกับการเคลื่อนไหวนั้นได้ด้วยเหมือกัน』

เป็นการตอบการพุ่งกระทันหันของผม กลุ่มทางซ้ายกระจายทันที และปล่อยการโจมตี ณ เวลาเดียวกัน พวกเขาสามคนฟันผมด้วยมาเชเต้ระหว่างอีกสองคนแทงด้วยหอกสั้นใส่ผม คู่ต่อสู้ทั่วไปจะกินการโจมตีระหว่างกันอย่างอื่นแน่นอน อย่างไรก็ตาม ผมไม่ใช่สัตว์ป่า และขบวนแถวของพวกเขาตรงเกินไปที่จะสามารถรับมือกับคู่ต่อสู้มนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การแทงหอกมาจากช่วงเปิดระหว่างขบวนแถวของพวกเขาอ่านออกง่ายเพราะระยะการโจมตีของเขานั้นมีจำกัด และการเหวี่ยงมาเชเต้กว้างก็คาดเดาได้เท่าเทียมกัน และมากกว่านั้นไม่สำคัญว่าการโจมตีพวกเขาเร็วและคมเพียงไร–

“–!”

กับผม พวกมันช้าอย่างน่าปวดใจ

ในพริบตาที่ผมกลั้นหายใจโลกทั้งใบช้าถึงคลาน ตอนนี้ผมเห็นทิศทางของการโจมตีและผมจะเคลื่อนไหวเพื่อตอบโต้อย่างไรอย่างชัดเจน

ผมลอดผ่านการฟันจากมาเชเต้, หลบการแทงหอก, และกดดันนักรบที่อยู่ขวาสุดของผม ผมแน่ใจว่าในสายตาของเขา มันจะดูเหมือนผมเร่งความเร็วกระทันหันและเข้าระยะโจมตีพื้นฐานแล้วในพริบตา ผมทำให้เขากินการโจมตีจากด้ามดาบของดาบผมในกลางหน้าที่ตกใจของเขา ใช้การเด้งกลับด้วยกันกับการโยกข้อมือเพื่อเหวี่ยงดาบยาวในมือขวา และการโจมตีโดนหลังหัวของเอลฟ์ถือมาเชเต้ในกลางขบวนแถว ผมก้าวไปไกลขึ้นและโจมตีเอลฟ์ผู้เหวี่ยงหอกผู้ไร้การป้องกันเด้วยดาบสั้นในมือซ้ายหลังจากทำการโจมตีก่อนหน้าเมื่อเราผ่านกัน ผู้เหวี่ยงหอกอีกคนพยายามรีบโจมตีผมหลังจากเห็นสหายล้มไป แต่ผมตีหอกเขาหลุดจากมือเขาได้อย่างง่ายดาบ

“อะ–!?”

ความตกใจโดยความจริงที่ว่าสหายเขาสามคนทรุดล้มในพริบตาและอีกคนสูญเสียอาวุธไป ผู้เหวี่ยงดาบมาเชเต้ที่เหลืออยู่ตอบสนองไม่ได้เมื่อผมตีเขาล้มด้วยการโจมตีจากดาบยาว ก่อนผมปลดอาวุธเอลฟ์ผู้สามารถดึงมีดออกจากเอวเขาเพื่อพยายามจะต่อสู้ ผมปล่อยการโจมตีหลายครั้งด้วยทั้งสองดาบและทำเขาขยับไม่ได้อย่างเร็ว

『โว่ว!? แค่อะไรกับการเคลื่อนไหวเหล่านั้นก่อนหน้านี่ กลุ่มนักรบทางซ้ายถูกปิดฉากในพริบตา!?』

『แม้แต่ผมก็ไม่เห็นการเคลื่อนไหวเหล่านั้นชัดเจน…… ผมทำได้แค่อธิบายว่าพวกมันน่ากลัว』

ก่อนคนสุดท้ายของห้าคนล้มหมดสติ ผมพุ่งสู่กลุ่มกลางทันที ฮ่าฮ่าฮ่า!

มีอะไร? นายแค่เหมือนหุ่นไล่กาขยับไม่ได้! แต่ฉันจะไม่ยั้งมือ

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu

ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary

ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary

Score 10
Status: Completed
เมื่อผมตื่นขึ้นมา ผมพบว่าตัวเองอยู่ในยานอวกาศ ผมเดาว่าพวกคุณต้องคิดว่าผมพูดไร้สาระที่นี่ แต่ผมก็ไม่มีเบาะแสเลยว่าอะไรเกิดขึ้นกับผมกันแน่ ผมเกือบจะขาดสติ แต่เดชะบุญ ผมสามารถที่จะสังเกตว่าที่นี่คล้ายกับโลกที่อยู่ในเกมที่ผมเล่นไม่นานมานี้จริงๆ ผมฝันอยู่หรือ? ไม่ มันไม่ใช่ฝัน ผมอาจจะถูกส่งไปที่โลกอื่นหรืออะไรบางอย่าง? แต่ไม่ใช้เรื่องพวกนั้นปรกติแล้วจะถูกส่งไปที่โลกแห่งเวทมนตร์ ที่มีเอลฟ์ ดวาร์ฟ มังกร และอะไรพวกนั้นหรือ? ไม่ว่ากรณีไหน ผมไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุสำหรับเรื่องนี้ แต่ผมเดาว่าผมต้องยอมรับความไม่พึงพอใจพวกนี้ และใช้ชีวตอยู่อย่างถูกต้องในโลกนี้ตั้งแต่ตอนนี้ไป มันจะโอเค ผมได้อยานอวกาศที่ผมเชื่อใจมา ดังนั้นผมน่าจะหาเงินได้บ้าง มันจะโอเค! มันต้องโอเค! นี่เป็นเรื่องราวของชายที่ถูกโยนเข้าไปในจักวารอย่างกระทันหัน ด้วยกันกับยานอวกาศส่วนตัวของเขา เขาไปทุกที่กับมัน และช่วยสาวน้อยที่เดือดร้อนในที่เหล่านั้นระหว่างที่ไป จีบกับสาวที่ว่ามานั้น หาเงินในฐานะทหารรับจ้าง ไปสู่การใช้ชีวิตอย่างอิสระและง่ายดาย

Options

not work with dark mode
Reset