บ่วงมาร 27

ตอนที่ 27

คนตัวโตที่กำลังโกรธจัดแสยะยิ้มหยัน มองหล่อนราวกับต้องการจะฆ่าให้ตายคามือ “ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ จะได้เห็นทาสแท้ของผู้หญิงร่านรักแบบเธอหรือนาริกา…”

“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ เดนนิส… ได้โปรดฟัง…” หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ แต่เขาไม่ยอมเชื่อ

“มันฟังไม่ขึ้นหรอก… ในเมื่อฉันเห็นกับตาได้ยินกับหู…” น้ำเสียงของเดนนิสเลือดเย็นยิ่งนัก เขาพูดกับหล่อนเพียงแค่นั้นก็หันไปจัดการกับเดวิดที่กำลังตะเกียกตะกายหนีฝ่าเท้าหนาหนักอย่างไม่คิดออมแรง เดวิดอ่วมเลยทีเดียวกว่าจะหนีพ้นอุ้งมือมัจจุราชอย่างเดนนิสออกไปได้

และเมื่อเขาจัดการกับเดวิดเสร็จ พ่อคนตัวโตก็หันมาจ้องหน้าเขม็ง “เธอคือรายต่อไป… มานี่…” กายสาวของหล่อนถูกกระชากลากถูให้ตามเขามาที่รถอย่างไร้ความปรานี เมื่อถึงรถเขาก็จับหล่อนยัดเข้าไป จากนั้นเขาก็กระชากเสื้อสีดำซึ่งเป็นชุดฟอร์มของคนขับรถออกจากกาย และก้าวขึ้นมาในทันที

“เดนนิส… ฟังริก้าก่อน…”

เขาแสยะยิ้มอยู่หลังพวงมาลัยรถ “ผู้หญิงอย่างเธอมันแพศยาเสียยิ่งกว่าอีตัวตามซ่องซะอีก… นัดแฟนเก่ามาระเริงในสวนสาธารณะ นี่หากฉันไม่ได้เป็นคนขับรถมา เธอมิสวมเขาให้ฉันแล้วเหรอ…”

“ริก้าไม่มีทางทำแบบนั้น… เดวิดกับริก้าจบกันไปแล้ว…”

เขาหัวเราะอีกแล้ว “จบหรือ แต่ที่ฉันเห็น เธอกับมันยังรักกันอย่างแนบแน่นเช่นเหมือนเดิม… เอ่อ ไม่สิ มากกว่าเดิมเสียอีก”

เดนนิสไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมจะต้องรู้สึกเดือดดาลแทบบ้าแบบนี้ด้วย แค่เห็นนาริกาถูกผู้ชายคนอื่นกอด ก็แค่กอด… เขาพยายามเตือนสติตัวเอง พยายามจะทำให้อารมณ์ของตัวเองเย็นลง แต่… เขาทำไม่ได้ เพียงแค่คิดว่านาริกายังรักไอ้หมอนั่นอยู่ เขาก็แทบเป็นบ้าซะแล้ว

“วันนี้ฉันจะทำให้เธอรู้ว่า… เธอน่ะเป็นสมบัติของใคร…”

“ไม่นะ เดนนิส… ได้โปรดอย่าทำร้ายริก้าเลย…”

ใบหน้างามที่เจิ่งนองไปด้วยคราบน้ำตาส่ายไปมา เสียงสะอื้นไห้เล็ดลอดออกมาจากปากของหญิงสาวอย่างต่อเนื่อง หล่อนไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนี้ ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย น้ำตาไม่รู้มาจากไหนนักทะลักทลายออกมาราวกับเขื่อนแตก มือบางพยายามยกขึ้นป้ายมันทิ้งแต่ยิ่งเช็ดมันก็ยิ่งไหลออกมาไม่หยุด

“ได้โปรดฟังกันบ้าง…”

และไม่ว่าหล่อนจะอ้อนวอน ร้องขอมากมายแค่ไหน แต่ผู้ชายที่กำลังโกรธจัดอย่างเดนนิส โอซิล ก็ไม่มีทางฟังคำอธิบายใดๆ จากปากของหล่อนอีก เขายังคงขับรถไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าไปที่ไหนสักที่ที่เขาจะให้เป็นที่ลงทัณฑ์ผู้หญิงที่เขาเกลียดสุดใจแบบหล่อน

ทำไมหัวใจถึงได้เจ็บเจียนตายแบบนี้นะ…?

ไม่ช้ารถคันงามที่มีคนขับเป็นจอมมารก็แล่นมาหยุดที่ทุ่งหญ้ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เขาจอดรถและก้าวลงไปทันที นาริกาตัวสั่นเทาเมื่อได้เสียงแห่งหายนะดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และไม่ช้าประตูฝั่งที่หล่อนนั่งอยู่ก็ถูกกระชากออก พร้อมๆ กับร่างของหล่อนที่ถูกลากลงไปอย่างไม่ปรานีปราศรัย

“จะทำอะไรคะ ปล่อยนะ…?!”

“ก็ร่านนักไม่ใช่หรือ ฉันก็จะจัดให้ยังไงล่ะ จะเอาให้หมดแรงต้องคลานกลับบ้านกันเลยแหละ…”

ไม่มีความเมตตาอยู่ในกระแสเสียงของเดนนิสเลย นาริกาน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด เมื่อเขาลากหล่อนจนเจ็บระบมเมื่อถูกผลักให้ล้มลงกับพื้นหญ้าเต็มแรง เขาตามลงมานั่งข้างๆ ใช้มือใหญ่ข้างหนึ่งตรึงไหล่ข้างหนึ่งของหล่อนเอาไว้ ส่วนอีกมือขึ้นก็จัดการตลบกระโปรงตัวสวยให้ขึ้นไปกองที่หน้าท้องแบนราบอย่างไม่รั้งรอ

“อย่านะ… ได้โปรดอย่าทำแบบนี้… คุณกำลังเข้าใจผิด… ริก้ากับเดวิดไม่มีอะไรกัน”

เขาแสยะยิ้มเลือดเย็น “ฉันไม่สนใจหรอกว่าเธอกับมันจะมีอะไรกันหรือเปล่า ที่ฉันสนใจก็คือการระบายความใคร่ใส่ร่างกายของเธอต่างหาก…”

แล้วเดนนิสก็หัวเราะออกมา เสียงนั้นมันไม่ผิดเพี้ยนจากเสียงของปีศาจร้ายเลยแม้แต่นิดเดียว นาริกาสะอื้นไห้เมื่อมองเห็นชะตากรรมของตัวเองชัดเจน

“อย่าทำแบบนี้… อย่าทำ…”

“ต่อให้เธอร้องจนขาดใจตาย ฉันก็ไม่คิดจะหยุด… ฉันจะเอาเธอตรงนี้ จะเอาจนว่าจะพอใจ…” คนตัวโตพูดออกมาด้วยความเหี้ยมโหด ดวงตาคมกริบเต็มไปด้วยกองไฟ ความคั่งแค้นบงการให้เขาทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้หญิงตรงหน้าเจ็บปวด ไม่เว้นแม้กระทั่งข่มเหงให้หล่อนมีสภาพไม่ผิดไปจากโสเภณี

“เพราะในสายตาของฉัน… เธอมันก็แค่อีตัวชั้นต่ำ…”

เจ็บจนจุกพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว หญิงสาวปล่อยน้ำตาให้ไหลพรากออกมาตามแก้มนวล นอนนิ่งราวกับตัวเองกำลังจะสิ้นลมหายใจ ไม่ใส่ใจอีกแม้ว่าตอนนี้จะเห็นเดนนิสรูดซิปกางเกงลงแล้วปลดปล่อยเจ้าท่อนกายอวบใหญ่ที่ตื่นตัวเต็มที่ออกมา

“อย่ามาทำเป็นท่อนไม้กับฉัน… เพราะต่อให้เธอสลบไปตอนนี้ ฉันก็จะไม่หยุด…”

แล้วต้นขาของหล่อนก็ถูกดันให้แยกออกจากกัน เนินสาวที่อยู่ภายใต้กางเกงชั้นในถูกมือหนาใหญ่ตะโบมบีบเคล้นอย่างหยาบคาย สาวน้อยหลับตานิ่ง กัดปากแน่นเพื่อข่มทุกความรู้สึกเอาไว้ภายในอก แม้จะรู้สึกซาบซ่านวาบหวามขึ้นมาอย่างรุนแรงแค่ไหนก็ตาม

“เธอชอบมัน…”

คนตัวโตย้ำพร้อมๆ กับใช้นิ้วคลึงเกสรรักผ่านเนื้อผ้าบางๆ หนักหน่วง และเมื่อเห็นหน้างามแดงก่ำขึ้นก็ระบายยิ้มสะใจออกมา

“เธอต้านทานมันไม่ได้หรอก เธอต้องการมันแทบขาดใจ…”

และคนป่าเถื่อนก็ใช้นิ้วรั้งขอบกางเกงชั้นในให้เลื่อนไปรวมกันอีกฝั่งหนึ่ง จากนั้นก็จัดการสอดเสียบท่อนกายใหญ่โตเข้าไปหาโดยไม่คิดจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าชิ้นใดออกแม้แต่ชิ้นเดียว ชายหนุ่มสูดปากแรงๆ เมื่อความแน่นหนั่นหวานฉ่ำรัดรึงซะทุกทิศทาง เขาขยับแรงๆ ส่ายวนจากนั้นก็อัดกระแทกเข้าไปอย่างไม่ปรานี นาริกาเสียวซ่านยิ่งนัก อยากจะร้องอยากจะส่ายรับแรงกระแทกของสามีให้สะใจ แต่ความใจร้ายของเขาที่ซัดเข้าใส่ตลอดเวลานั้นก็ทำให้หญิงสาวเลือกที่จะนอนนิ่งๆ ปล่อยให้ตัวเองจมปลักอยู่กับความปวดร้าวเพียงอย่างเดียว

“อย่านอนเป็นท่อนไม้สิ… ส่ายรับฉัน ทำแบบเมื่อคืนไง…”

เดนนิสพูดอย่างหงุดหงิด  คิดจะประชดฉันหรือไง”

หญิงสาวกลืนก้อนสะอื้นลงไปในลำคอก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงห่างเหิน ดวงตาที่มองเขานั้นเต็มไปด้วยความว่างเปล่า

“อีตัวไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้นหรอกค่ะ”

“รู้ก็ดีแล้วนี่… งั้นร้องให้ดังๆ เวลาฉันอัดเข้าใส่น่ะ…” แล้วเขาก็ทำอย่างที่พูดจริงๆ เขากระแทกกระทั้นเข้าใส่เต็มๆแรง หลายครั้งติด นำพาความเสียดเสียวเข้าใส่กายสาวอย่างรุนแรง นาริกาเกือบจะหลุดเสียงครางออกไปอยู่แล้ว ดีนะที่สะกดกลั้นมันเอาไว้ได้ทัน

“เด้งสิ… ส่ายรับฉันสิ…”

เขาสั่งเสียงแหบพร่า แต่หล่อนไม่ทำตาม ตอนนี้ทุกอย่างมันคือฝันร้ายสำหรับหล่อน เดนนิสทำร้ายหล่อนเกินไป เขาทำราวกับว่าหล่อนไม่มีจิตใจอย่างนั้น เขาโกรธ เขาเคือง แล้วเขาก็เลือกที่จะลงโทษหล่อนด้วยวิธีต่ำช้า ในสถานที่น่าสะอิดสะเอียนแบบนี้ ในทุ่งหญ้ากว้าง… มีเพียงต้นหญ้าเท่านั้นที่รองรับผิวกายของหล่อนเอาไว้ หากไม่ใช่ผู้ชายที่ตัวเองรักทำหล่อนคงไม่เจ็บปวดมากมายขนาดนี้

“ระยำ!”

ในที่สุดเดนนิสก็ไม่สามารถต่อบทรักได้จนจบ ชายหนุ่มผลุนผลันแยกกายออกด้วยความเดือดดาล เขารูดซิปเก็บความอลังการที่ยังไม่ได้ปลดปล่อยของตัวเองทันที จากนั้นก็หันมาจัดการกับกางเกงชั้นในของหล่อนให้เข้าที่ ก่อนจะตามด้วยกระโปรงตัวสวย

“จะนอนให้ฉันเอาอีกรอบหรือไง ลุกขึ้นมา!”

นาริกาที่หัวใจแตกสลายจนไม่มีชิ้นดีแล้วค่อยๆ ขยับกายลุกขึ้นนั่ง เดนนิสสบถครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความเดือดดาลแปลกใจตัวเองเหลือเกินที่รู้สึกคล้ายกับกำลังจะเป็นบ้า เพียงแค่เห็นแม่สาวน้อยตรงหน้าแสดงความเย็นชาใส่ ความจริงเขาจะต้องหัวเราะสิ จะต้องดีใจที่สามารถย่ำยีศักดิ์ศรีของเจ้าหล่อนให้แตกสลายคามือได้

แต่ความรู้สึกในหัวใจในตอนนี้มันไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่า ‘ดีใจ’ เลยแม้แต่นิดเดียว เขากำลังรู้สึกผิด… ไม่… ทำไมเขาจะต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะ ในเมื่อนาริกาควรจะได้รับโทษนี้หลังจากที่หล่อนบังอาจออกมานัดพบกันอดีตคนรักแบบนี้ เดนนิสพยายามทำใจแข็ง แต่พอเห็นตาแดงๆ น้ำตาใสๆ ของเจ้าหล่อนก็ใจอ่อนยวบ

นาริกาคงจะเจ็บมาก…

ศีรษะแสนทระนงสลัดแรงๆ เพื่อขับไล่ความสงสารที่ไม่ควรจะมีให้กับผู้หญิงร้อยเล่ห์คนนี้ออกไปให้หมด เขาจะต้องร้ายกาจ จะต้องเหี้ยมโหด ให้สมกับความแพศยาของเจ้าหล่อน

“ขึ้นรถซะ!”

คนตัวโตไม่ได้แค่พูดเฉยๆ แต่จับหล่อนยัดใส่รถอย่างไม่ปรานีปราศรัยทันที จากนั้นกายสูงใหญ่กำยำก็ก้าวยาวๆ กลับมานั่งประจำที่ของตนเอง รถคันงามแล่นออกจากทุ่งหญ้ากว้างอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางมีแต่ความเงียบสงัดเท่านั้นที่ครอบงำอยู่ หล่อนได้ยินเสียงเขาคุยโทรศัพท์เร็วๆ สองสามประโยค แต่สมองที่มึนงงของหล่อนไม่สามารถจับใจความใดๆ ได้เลย จนเมื่อรถมาจอดที่หน้าตึกสูงเสียดฟ้าแห่งหนึ่งนั่นแหละหล่อนได้รู้คำตอบของทุกสิ่ง

“ลงไป…”

นาริกาหันไปมองคนตัวโตอย่างไม่เข้าใจ แต่ยังไม่ทันได้ถามเขาก็ชิงตอบออกมาซะก่อน “ลงไปซะ ฉันนัดผู้หญิงอื่นเอาไว้…”

เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางหัวใจ หล่อนจำไม่ได้ว่าตัวเองก้าวลงจากรถตอนไหน และจำไม่ได้ด้วยว่าผู้หญิงอีกคนที่ขึ้นไปนั่งแทนที่หล่อนบนรถของเดนนิสหน้าตาสะสวยแค่ไหน จำได้แค่เพียงสายตาเลือดเย็นของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีในทุกๆ เหตุผลเท่านั้น

‘ลงไปซะ ฉันนัดผู้หญิงคนอื่นเอาไว้’

น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มดั่งเขื่อนที่ทำนบกั้นแตก หัวใจแตกสลายพังพินาศยับเยิน ไม่เคยคิดเลยว่าเดนนิสจะโหดร้ายได้มากมายถึงเพียงนี้ แค่เขาข่มเหงหล่อนกลางทุ่งหญ้าที่เสี่ยงกับสายตาของคนอื่นยังไม่พอ แต่เขายังใจร้ายไล่หล่อนลงกลางทางแล้วหายไปกับผู้หญิงคนอื่น

“ทำไมถึงได้ใจร้ายแบบนี้คะ เดนนิส… ทำไมถึงได้ใจร้ายแบบนี้…” หญิงสาวคู้ตัวกับซอกแคบๆ บนทางเดิน สะอื้นไห้ด้วยความเจ็บปวดอย่างไม่แคร์สายตาของใครอีก เสียงแห่งความเจ็บปวดดังลั่นอยู่ในสมองซึ่งในไม่ช้าหล่อนก็รู้ว่านั่นมันคือเสียงของตัวหล่อนนั่นเอง

เดนนิสขับรถมาได้ไม่กี่เมตรก็จอด จากนั้นก็กระหน่ำกำปั้นลงกับพวงมาลัยรถเต็มแรงหลายทีติดต่อกัน ความรู้สึกสับสนมากมายถล่มยับอยู่ภายในอก สายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและผิดหวังของนาริกาที่มองมานั้นมันทำให้หัวใจของเขาเลือดออก

เขาทำถูกหรือเปล่านะที่ใช้วิธีนี้เล่นงานหล่อน… เพราะไม่ใช่แค่นาริกาคนเดียวหรอกที่เจ็บปวด เป็นเขา…มันคือเขาอีกคนที่เจ็บระทมกับความรู้สึกปวดร้าวนี้

“เป็นอะไรไปคะเดนนิส…”

“ลงไป!”

“อะไรนะคะ ไหนว่าจะ…”

หญิงสาวที่พึ่งได้ก้าวขึ้นมานั่งในรถคันหรูกับผู้ชายที่หล่อระเบิดได้เพียงแค่ไม่ถึงห้านาทีถึงกับอ้าปากค้างเติ่ง ก็เป็นเขาไม่ใช่หรือที่โทรไปตามให้หล่อนมารอที่นี่

“เอานี่เช็คเงินสด ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา…”

เดนนิสจัดการโยนเช็คเงินสดจำนวนกว่าห้าหมื่นบาทใส่หน้าผู้หญิงที่นั่งข้างๆ ก่อนจะไล่ซ้ำด้วยน้ำเสียงอำมหิตน่ากลัวจนคนฟังต้องรีบลนลานควานหาที่เปิดประตูรถ

“ขอบคุณค่ะ แต่จะขอบคุณกว่านี้หากจะไม่หลอกให้ฉันมารอเก้อ…”

เสียงประตูรถถูกปิดลงแรงๆ ตามอารมณ์ของคนที่ก้าวออกไป แต่เดนนิสไม่สนใจ เขาไม่สนใจใครทั้งนั้นแหละในตอนนี้ นอกจาก… นอกจากเมียของเขาคนเดียว

“ริก้า… ผมขอโทษ…”

และรถคันงามก็เคลื่อนที่อีกครั้ง ชายหนุ่มหักพวงมาลัยรถให้กลับไปทิศทางเดิม ไปยังจุดที่นาริกาก้าวลงไป และเมื่อมาถึงเขาก็กวาดสายตามองหาหญิงสาว แต่มองจนทั่วก็ไม่พบแม้แต่เหงา

“บ้าซิบ…”

Options

not work with dark mode
Reset