บทชีวิตใหม่ 1

ตอนที่ 1

บทที่ 1 เกิดใหม่ในปี 1998

 

 

ทันทีที่ถานเสี่ยวเทียนก้มหน้าลงเขาก็เห็นใบมีดสีขาวราวกับหิมะพุ่งออกมาจากหน้าอกพร้อมกับลูกศรสีเลือดที่พุ่งตามออกมา

 

 

ความเจ็บปวดที่รุนแรงปะทุออกมาจากหัวใจของเขา

 

 

อ๊าก!

 

 

ทันใดนั้นเขาก็เอนตัวล้มลงกับพื้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ร่างสูงกว่า 1.8 เมตรพยายามอ้าปากกว้างเหมือนกับปลาที่กำลังพยายามสูดอากาศอย่างตะกละตะกลาม

 

 

ฉันจะตายแล้วงั้นเหรอ ‘มู่หยูเธอทำแบบนี้ได้ยังไง?’

 

 

อากาศที่สูดเข้าไปทำให้เขากลับมามีสติอีกครั้ง เมื่อถานเสี่ยวเทียนลืมตาขึ้นเขาก็รีบใช้มือซ้ายปิดบาดแผลที่หน้าอกและยื่นมือขวาไปที่เอวอย่างรวดเร็วและในเวลาเดียวกันก็หมุนตัวคุกเข่าลงข้างหนึ่งพร้อมกับมองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง

 

 

มองไปที่หน้าอก มันยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไร้ซึ่งบาดแผลใดๆ มีดหายไปแล้วและที่มือขวาของเขาก็ว่างเปล่า… ปืนเองก็หายไปด้วย?

 

 

ถานเสี่ยวเทียนตกตะลึง เม็ดเหงื่อเย็นเยียบปกคลุมไปทั่วหน้าผากของเขาทันที

 

 

เขาพบว่าตัวเขาในตอนนี้นั้นกำลังนั่งอยู่ที่ด้านหลังของห้องเรียนที่สว่างไสว ใบหน้าที่คุ้นเคยประมาณ 40 – 50 คนกำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยการแสดงออกที่แตกต่างกัน ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขามันช่างเป็นภาพที่สวยงามและน่าคิดถึงราวกับภาพฝันเสียเหลือเกิน

 

 

เสื้อยืด Hermes สีขาวเปื้อนเลือดถูกแทนที่ด้วยชุดกีฬาสีน้ำเงินขาวโดยมีคำว่า “โรงเรียนมัธยมแห่งแรกเมืองซานเฉิง (山城一中) ” พิมพ์อยู่ที่หน้าอกด้านซ้าย

 

 

ที่มุมขวาล่างของกระดานดำตรงหน้าห้องมีคำเขียนไว้ว่า “เหลือเวลาอีก 109 วันก่อนสอบเข้าวิทยาลัย”

 

 

ในสนามเด็กเล่น เสียงเพลงที่คุ้นเคยล่องลอยเข้ามา

 

 

มาเลย! มาเลย!

 

 

ภายใต้แสงจันทร์สีเงิน ภายใต้วัยเยาว์ตลอดไป!

 

 

ถานเสี่ยวเทียนหลับตาลงอีกครั้งและจมลงไปกับเสียงดนตรีราวกับล่องไปในสายน้ำที่เย็นฉ่ำ ถ้าความตายเป็นความฝันที่สวยงามเช่นนี้ เขาก็พอใจกับมันมากแล้ว!

 

 

“เสี่ยวเทียน นายไปเรียนทำท่าแบบนั้นมาจากไหน? หนัง 007 งั้นเหรอ?! นายจะเอาปืนออกมาด้วยหรือเปล่า?” เสียงหนึ่งดังเข้ามาปลุกเขา

 

 

ทันทีที่ลืมตาขึ้น ถานเสี่ยวเทียนก็เห็นใบหน้าใหญ่กำลังจ้องมองมาที่หน้าของเขาพร้อมกับหัวเราะ

 

 

จางต้าเผิง!

 

 

เมื่อเห็นเจ้าอ้วน ชื่อนี้ก็ปรากฏขึ้นในใจของถานเสี่ยวเทียนโดยอัตโนมัติ

 

 

หลังจบปลาย เพื่อนร่วมชั้นของเขาคนนี้ก็ไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยและกลายเป็นอาจารย์ธรรมดาทั่วไปคนหนึ่งและหลังจากสองปีของการเป็นครู เขาก็เปลี่ยนไปเล่นการเมืองด้วยความพยายามของเขา หลังจากคลุกคลีอยู่ในวงการนานกว่า 10 ปีในที่สุดเขาก็ได้ก้าวขึ้นสู่ระดับหัวหน้าเขต

 

 

แต่ทำไมเขาถึงยังเด็กแบบนี้? ทำไมถึงดูอ่อนเยาว์ขนาดนี้? หนวดเคราของเขาหายไปไหนหมด?

 

 

ขณะที่ถานเสี่ยวเทียนกำลังสับสนก็มีมือหนึ่งยื่นเข้ามาทางตัวเขาและพยายามจะดึงเขาขึ้น ชายร่างผอมที่มีสิวบนใบหน้าก้มมองเขาด้วยความกังวล “เสี่ยวเทียนนายนอนละเมองั้นเหรอ? ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้วลุกขึ้นมาเถอะ”

 

 

คนคนนี้คือหม่าเหว่ย เขาคือรองหัวหน้าหน่วยตำรวจอาชญากรรม ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขาเหมาะที่จะเป็นตำรวจจริงๆ

 

 

แต่ทำไมเขาถึงกลายเป็นเด็ก?

 

 

ถานเสี่ยวเทียนรู้สึกสับสนอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขายังอยู่ในวิลล่าของแก๊งค้ายาที่สามเหลี่ยมทองคำอยู่เลย และตัวตนของเขาก็ถูกเปิดเผย… ผู้หญิงคนนั้น… มู่หยูเข้าถึงตัวเขาในพริบตาได้ยังไง?

 

 

ที่นี่คือที่โรงเรียนมัธยมแห่งแรกเมืองซานเฉิงตอนก่อนการสอบเข้าวิทยาลัยในปี 1998 งั้นเหรอ?

 

 

โดยไม่ต้องรอให้ความคิดของถานเสี่ยวเทียนได้ทำงานต่อ จางต้าเผิงและหม่าเหว่ยก็ช่วยพยุงเขาลุกขึ้นกลับมาที่ที่นั่งของเขา ที่มุมด้านบนของโต๊ะนักเรียนมีรอยสลักคำว่า “ความอดทนอันยิ่งใหญ่” สลักอยู่โดยไม่มีใครรู้ว่าเป็นรุ่นพี่คนไหนที่เป็นคนสลักเอาไว้

 

 

ตอนนี้น่าจะเป็นเวลาอาหารกลางวันเพราะมีกล่องอาหารกลางวันมากมายที่ส่งกลิ่นหอมออกมาวางอยู่บนโต๊ะของนักเรียนอื่นๆ

 

 

จางต้าเผิงจับน่องไก่ครึ่งหนึ่งไว้ในมือและแทะมันจนน้ำมันเต็มปากแล้วพูดว่า “เสี่ยวเทียน ไก่ผัดซอสของพ่อนายนี่อร่อยที่สุดแล้ว”

 

 

ถานเสี่ยวเทียนหยิบน่องไก่ขึ้นมาแล้วส่งมันเข้าปาก เคี้ยวได้ไปสองครั้งกลิ่นของซอสผสมกับใบยี่หร่าและงาคั่วก็ฟุ้งเต็มปากของเขาทันที ใช่แล้ว! รสชาติแบบนี้มันคือเมนูเด่นของร้านก๋วยเตี๋ยวตระกูลถาน น่องไก่ผัดซอสสูตรพิเศษเฉพาะของถานเยว่จินพ่อของเขา

 

 

เขาไม่ได้กินไก่ที่พ่อของเขาทำมาหลายปีแล้ว

 

 

เมื่อถานเสี่ยวเทียนเคี้ยวเนื้อน่องไก่หมดคำ จางต้าเผิงก็กินอาหารของเขาหมดไปแล้ว ถานเสี่ยวเทียนตามเขาไปที่ห้องน้ำพร้อมกับกล่องอาหารกลางวันในมือ

 

 

ในห้องน้ำเต็มไปด้วยนักเรียนที่กำลังล้างกล่องอาหารกลางวันของตนเอง ถานเสี่ยวเทียนเข้าแถวรอสักพักก่อนที่จะถึงคิวของเขา ยังไม่ทันที่น้ำเย็นจะโดนมือ ถานเสี่ยวเทียนก็เริ่มรู้สึกว่าความฝันนี้มีบางอย่างผิดปกติ… หลังจากล้างกล่องอาหารกลางวันเสร็จแล้วเขาก็แอบหยิกไปที่ต้นขาของตัวเองอย่างแรง

 

 

หือ?!

 

 

ถานเสี่ยวเทียนรู้สึกเจ็บปวดราวกับโดนเข็มทิ่มแทง

 

 

นี่… เขาเกิดใหม่งั้นเหรอ?

 

 

ที่มุมห้องน้ำมีกระจกที่มีรอยแตกอยู่สามบาน เงาในกระจกสะท้อนให้เห็นใบหน้าที่ดูกวนประสาทของถานเสี่ยวเทียน

 

 

คิ้วหนาของเขาที่ราวกับจะบินไปในอากาศ ดวงตาที่ลึกล้ำและดูสง่างาม ผิวขาวใสและใบหน้าบอบบาง ผมยาวเล็กน้อยพร้อมกับทรงผมที่เป็นเหมือนเอกลักษณ์ในอดีตของเขา ตอนนี้ใบหน้าของเขาได้กลายเป็นเด็กหนุ่มที่สดใสไปแล้ว

 

 

แต่ถึงอย่างนั้น ดวงตาของถานเสี่ยวเทียนนั้นกลับดูลึกลับราวกับบ่อน้ำลึกที่ไม่มีสิ้นสุด ซึ่งดูไม่เข้ากับใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเขาเลยแม้แต่น้อย ดวงตานี้ดูราวกับเป็นของชายวัยกลางคนผู้ผ่านประสบการณ์มามากมาย

 

 

ถานเสี่ยวเทียนปลดกระดุมเสื้อของเขา รอยสักรูปดอกฝิ่นที่หน้าอกที่อยู่คู่กับเขาตั้งแต่ตอนที่มู่หยูบังคับให้เขาสักตอนที่เขาเริ่มแฝงตัวเข้าสู่องค์กรค้ายาหายไปแล้ว

 

 

ถานเสี่ยวเทียนอยากจะหัวเราะ แต่ก็หัวเราะไม่ออก

 

 

ในชีวิตก่อนหน้านี้เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียนก่อนที่เขาจะจบการศึกษา 3 เดือนจนทำให้เขาไม่ได้สอบเข้าวิทยาลัย มันจึงทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปเข้าร่วมกับกองทัพ หลังจากนั้นในช่วงที่เขาไปพักร้อน เขาก็ได้พบกับมู่หยูลูกสาวของพ่อค้ายาเสพติด มู่หยูตกหลุมรักถานเสี่ยวเทียนสุดหล่อตั้งแต่แรกเห็น ด้วยเหตุนั้นถานเสี่ยวเทียนจึงร่วมมือกับตำรวจและใช้มู่หยูเป็นเครื่องมือเพื่อแฝงตัวเข้าไปเป็นสายลับในแก๊งค้ายาเสพติดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเส้นทางชีวิตที่ยากลำบากเขาก็ได้เริ่มต้นตั้งแต่นั้นมา

 

 

กลับมาที่ห้องเรียน ถานเสี่ยวเทียนใช้เวลาทั้งเที่ยงเพื่อนึกถึงสองสิ่ง

 

 

1.คือเหตุผลที่เขากลับมาเกิดใหม่

 

 

2.คือวันนี้คือวันที่ 19 มีนาคม 1998 อีก 109 วันก่อนการสอบเข้าวิทยาลัย

 

 

ถานเสี่ยวเทียนอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น นี่มันน่าเหลือเชื่อมาก!

 

 

ความจำของเขาดีมาก เขาจำการระเบิด 519 ครั้งในตลาดหุ้นในปี 1999 ได้อย่างชัดเจน ทั้งความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและฟองสบู่อินเทอร์เน็ตในปี 2001 ทั้งวิกฤตตลาดกระทิง 3 ตั้งแต่ปี 2005 จนถึง 2007 และราคาอสังหาทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้นหลังจากนั้น เขายังรู้ผลการแข่งขันฟุตบอลโลกทุกครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาร่วมถึงการถือกำเนิดของ Bitcoin ในปี 2009 และความบ้าคลั่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต…

 

 

“คราวนี้ฉัน… ฉัน…” ถานเสี่ยวเทียนทุบโต๊ะด้วยหมัดที่กำแน่น ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว

 

 

หม่าเหว่ยสะดุ้งตื่นและกลอกตามาที่เขา “นายเป็นบ้าอะไร?” จากนั้นเขาก็ฟุบหลับไปอีกครั้ง

 

 

ความทรงจำที่ห่างไกลนั้นชัดเจนมาก แต่ความทรงจำใกล้ๆ กลับพร่ามัว ถานเสี่ยวเทียนกุมศีรษะของเขาทำสมาธิเพื่อนึกถึงเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตก่อนนี้เขาถูกไล่ออกเพราะเขาทุบตีผู้อำนวยการ แต่สาเหตุนั้นมันเกิดมาจากการที่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั้นพยายามที่จะใส่ร้ายเขา เธอคนนั้นจะมาสร้างปัญหาที่นี่เมื่อไหร่? เขาจำได้ว่ามันเป็นเดือนมีนาคมและเธอก็เป็นชนวนที่ทำให้เขาต้องล้มเหลวในการสอบเข้าวิทยาลัย คราวนี้มันจะต้องแตกต่างออกไป

 

 

“นักเรียน ขอถามหน่อยได้ไหมว่าถานเสี่ยวเทียนอยู่ในชั้นเรียนของพวกเธอหรือเปล่า?” เสียงผู้หญิงที่แผ่วเบาดังมาจากประตูด้านหลัง

 

 

เสียงดังดึงดูดนักเรียนหลายคนให้หันกลับไปมอง โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่จ้องมองด้วยสายตาตกตะลึง

 

 

หญิงสาววัยยี่สิบปลายๆ ที่มีริมฝีปากสีแดงยืนอยู่ที่ประตู เธอกำลังก้มลงสอบถามนักเรียนคนหนึ่งที่นั่งอยู่หลังห้องเรียน หน้าอกของเธอสั่นไหวไปมาอย่างงดงาม ใต้กระโปรงสั้นลายเสือดาวมีขาขาวที่โดดเด่นชวนมอง

 

 

“เธอคนนั้นคืออี้จื่อฮวาแห่งตงเหมินไม่ใช่เหรอ? เธอมีชื่อเสียงมากเลยนะ” นักเรียนบางคนที่รู้จักเธอเริ่มกระซิบกัน

 

 

“ทำไมเธอถึงมีชื่อเสียงงั้นเหรอ?”

 

 

“เงียบปากไว้อย่าถามคำถามโง่ๆ เธอมาถามหาถานเสี่ยวเทียนแบบนี้ ฉันกลัวว่ากำลังเกิดอะไรไม่ดีขึ้น!”

 

 

นักเรียนคนที่ถูกหญิงสาวถามยกมือขึ้นและชี้มาที่ถานเสี่ยวเทียนด้วยความสับสนและกลิ่นหอมก็โชยผ่านเขาไปทันที หญิงสาวรีบเดินมาทางถานเสี่ยวเทียน

 

 

ถานเสี่ยวเทียนตื่นตัวตั้งแต่เธอเข้าห้องเรียนมาแล้ว ‘เชี่ย! วันนี้คือวันที่เธอมา นี่กะจะไม่ให้เหล่าซือคนนี้ได้พักหายใจเลยหรือยังไง?!’ (เหล่าซือในรูปประโยคแบบนี้ใช้สำหรับแทนตัวเอง)

 

 

“เจ้าอ้วนตื่น! หม่าเหว่ยตื่นสิ! เกิดเรื่องแล้ว!” ถานเสี่ยวเทียนตบจางต้าเผิงและหม่าเหว่ยที่กำลังหลับสนิทให้ตื่นจากฝัน ตอนแรกทั้งสองโกรธมาก แต่เมื่อเห็นหญิงสาวท่าทางตุ้งติ้งกำลังเดินเข้ามา ดวงตาของพวกเขาก็สว่างขึ้นและลมหายใจของพวกเขาก็เร็วขึ้นด้วย

 

 

“เสี่ยวเทียน วันนั้นนายลืมของไว้ที่บ้านฉัน วันนี้ฉันเลยเอามันมาคืนให้นายแล้วฉันก็ซักให้แล้วด้วยนะ” หญิงสาวตุ้งติ้งก้มหน้าลงพร้อมกับทำท่าทางเขินอาย เธอยื่นมือออกมาพร้อมกับกางเกงในชายสีน้ำเงินและโบกสะบัดมันไปมาราวกับธงที่สะบัดตามสายลม

 

 

นักเรียนทุกคนในห้องตกใจและรีบมองมาที่ถานเสี่ยวเทียนโดยพร้อมเพรียงกัน บางคนดูหมิ่นเขา ในขณะที่บางคนก็อิจฉาเขา

 

 

ห้องเรียนราวกับเต็มไปด้วยแมลงวันหลายหมื่นตัว (เสียงซุบซิบ)

 

 

“โอ้พระเจ้า ถานเสี่ยวเทียนกับผู้หญิงคนนั้น… ไร้ยางอายมาก!” เด็กผู้หญิงบางคนหน้าแดงและผิดหวังในตัวถานเสี่ยวเทียนอย่างมาก

 

 

“ไม่มีทาง! ถานเสี่ยวเทียนเป็นคนที่หล่อที่สุดในโรงเรียน คนที่แอบชอบเขาในโรงเรียนนี้นั้นอาจจะไม่ถึง 100 แต่ก็ต้องเกิน 50 อย่างแน่นอน ในเมื่อเป็นแบบนั้นแล้วเขาจะไปหาผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง? ฉันไม่เชื่อหรอก!” เด็กสาวบางคนไม่เชื่อ

 

 

จางต้าเผิงชี้ไปที่ถานเสี่ยวเทียนแล้วทำท่าทางผิดหวัง “นี่นายแอบไปกินข้าวก่อนโดยไม่คิดจะชวนเราเลยใช่ไหม?”

 

 

ในที่สุดถานเสี่ยวเทียนก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นอย่างไร้เดียงสา แต่ในใจจริงๆ เขาแทบอดไม่ไหวที่จะตีเธอให้ตาย

 

 

“คุณป้าครับ ผมไม่รู้จักคุณ! คุณจำคนผิดหรือเปล่าครับ?”

 

 

หญิงสาวตุ้งติ้งกัดฟันอย่างลับๆ และคิดในใจว่า ‘ไอ้หนูอย่าหาว่าฉันใจร้ายเลยนะ ถ้าหากในวันนี้ฉันไม่ทำลายชื่อเสียงของแก มันจะกลายเป็นฉันเองที่ต้องลำบาก’

 

 

ด้วยมือขวาที่แข็งแกร่ง เธอคิดจะคว้าไปที่คอเสื้อของถานเสี่ยวเทียนแล้วพูดว่า “ถานเสี่ยวเทียนอย่าพยายามปฏิเสธมัน! มันก็แค่เงินไม่กี่ร้อยหยวน… “

 

 

แต่ก่อนที่มือของเธอจะได้สัมผัสตัวเขา ถานเสี่ยวเทียนก็สะบัดนิ้วของเขาฟาดมาที่หลังมือของเธอด้วยความเร็วที่มองเห็นได้จนมีรอยแดงปรากฏขึ้นและกลายเป็นแผลช้ำ

 

 

หญิงสาวตุ้งติ้งกรีดร้องพร้อมกับนั่งยองๆ กุมมือของเธอ

 

 

‘เด็กคนนี้แข็งแรงมาก มือของเธอเจ็บราวกับถูกแส้ฟาดเข้าอย่างแรง’

 

 

“คุณกำลังพูดถึงอะไรผมไม่รู้เรื่อง! แล้วผมก็ยังเป็นนักเรียนอยู่ กรุณาอย่ามาแตะต้องตัวผม!” ถานเสี่ยวเทียนมองลงไปที่หญิงสาวตุ้งติ้งพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า

 

บทชีวิตใหม่

บทชีวิตใหม่

Score 10
Status: Completed

เกิดใหม่ปี 1998

เต้นรำภายใต้สายลมแห่งการเงิน

แหวกว่ายทามกลางกระแสน้ำแห่งไอที

ความมั่งคั่งถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นยักษ์

ด้วยฝ่ามือที่เรียกลมเรียกฝนนี้

ฉันจะตบโลกทั้งใบให้สั่นสะเทือน

Options

not work with dark mode
Reset