บทชีวิตใหม่ 12 สาวงามในชุดแดง

ตอนที่ 12 สาวงามในชุดแดง

บทที่ 12 สาวงามในชุดแดง

ในบ่ายวันศุกร์ นักเรียนที่มีความสามารถด้านกีฬาจากเขตซานเฉิงจะทำการสอบรับรองเพื่อนักกีฬาระดับประเทศ 2 และสนามสอบบาสเกตบอลก็ถูกจัดที่โรงเรียนมัธยมแห่งแรกเมืองซานเฉิง

การสอบจะได้รับ 20 คะแนนและทุกๆ คนก็รู้ดีว่า 20 คะแนนนี้มีค่ามากขนาดไหนเพราะว่า 20 คะแนนนี้ถูกใช้อีกครั้งตอนสอบเข้าวิทยาลัย มันจึงทำให้ใครหลายๆ คนยอมทำทุกๆ อย่างเพื่อที่จะให้บุตรหลานของตนเองได้ใบรับรองนักกีฬาระดับ 2 ใบนี้ แม้ว่าจะต้องโกงก็ตาม

ส่วนถานเสี่ยวเทียนนั้นไม่จำเป็นต้องโกงอะไรทั้งสิ้นเพราะเขาฝึกบาสเก็ตบอลมาตั้งแต่ชั้นประถมและได้กลายเป็นผู้เล่นที่มีทักษะที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่มัธยมต้น จนมัธยมปลายเหล่าแฟนคลับสาวๆ ก็ตั้งฉายาให้เขาว่าเป็น “รุคาว่าแห่งมัธยมปลายซานเฉิง” (รุคาว่า คือ พระรองสุดหล่อของการ์ตูนเรื่องสแลมดังก์)

ในสนามบาสเก็ตบอล ผู้สมัครทั้งหมดจากโรงเรียนต่างๆ จะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ ละสามถึงห้าคน บางคนดูสงบนิ่ง คนพวกนี้ไม่จำเป็นต้องถามก็รู้ว่าพวกเขาต้องเป็นนักกีฬาชั้นแนวหน้าตัวจริงแน่นอน ส่วนบางคนที่กำลังกระสับกระส่ายอยู่ไม่สุขนั้น คนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นคนที่ทางครอบครัวใช้วิธีการที่มิชอบบางอย่างเพื่อให้พวกเขาได้เข้ามาสอบ

และในฐานะโรงเรียนมัธยมชั้นนำในซานเฉิง ทำให้โรงเรียนมัธยมแห่งแรกเมืองซานเฉิงมีผู้สมัครมากที่สุดและมีคุณภาพดีที่สุดในการสอบครั้งนี้

กัปตันทีมถานเสี่ยวเทียนมองสำรวจเพื่อนร่วมทีม เมื่อเห็นว่าในทีมไม่มีหลิวเสี่ยวกวงรวมอยู่ด้วยเขาก็พอใจอย่างมาก เพราะนี่แสดงให้เห็นว่าหลิวจุนได้ถูกตำรวจจับตัวไปแล้วจริงๆ

“ตั้งใจกันหน่อย วันนี้มีข้อสอบ 2 แบบ หนึ่งคือชู้ตลูกโทษให้ได้ 5 ลูกจาก 7 ลูกก็ถือว่าผ่าน และอีกอันเป็นการเลย์อัพง่ายๆ เอาล่ะมาเริ่มวอร์มร่างกายกันได้แล้ว ตราบใดที่จิตใจของพวกนายผ่อนคลาย การสอบพวกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป”

ถานเสี่ยวเทียนยื่นมือข้างหนึ่งออกไป จากนั้นสมาชิกในทีมคนอื่นๆ ก็ยื่นมือออกมาประสานกันไว้ ชายหนุ่มและหญิงสาวนับสิบคนตะโกนสามครั้ง “สู้! สู้! สู้!”

การกระทำนี้กระตุ้นการความนสนใจของผู้ชมและสาวๆ หลายคนตะโกนชื่อถานเสี่ยวเทียนออกมาทันที “ถานเสี่ยวเทียนสู้ๆ !” “รุ่นพี่ถานเก่งที่สุด!”

ถานเสี่ยวเทียนเป็นผู้นำถอดเสื้อและพาผู้เล่นบาสเก็ตบอลทุกคนวิ่งไปรอบๆ สนามบาสเก็ตบอลห้ารอบโดยไม่สวมเสื้อ

เหล่าสาวๆ เมื่อเห็นฉากนี้ก็เกิดอาการคลั่งไคล้อย่างรุนแรง ถ้าหากไม่มีครูของโรงเรียนเข้ามาห้ามเอาไว้ พวกเธอคงจะกระโดดโถมเข้าไปแล้วแน่ๆ

จางต้าเผิงที่เฝ้าดูอยู่ข้างสนามกลอกตาไปมาพร้อมกับพูดอย่างขมขื่น “พี่เทียนก็เกินไป เพราะรูปร่างและหน้าตาที่ดีของเขาทำให้ไม่มีเด็กผู้หญิงคนไหนมองมาที่ฉันเลย”

หม่าเหว่ยเองก็แอบชูนิ้วกลางให้เขาอย่างเงียบๆ

ฉู่ถิงซึ่งอารมณ์ไม่ดีตั้งแต่ตอนแรกอยู่แล้ว เมื่อเห็นเหล่าหญิงสาวมากมายกำลังส่งเสียงเชียร์ถานเสี่ยวเทียน มันก็ยิ่งทำให้เมฆดำบนใบหน้าของเธอหนามากยิ่งขึ้น

ตั้งแต่ที่แม่ของเธอมาที่โรงเรียนครั้งก่อน ฉู่ถิงก็ถูกห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับถานเสี่ยวเทียนอย่างเด็ดขาด แน่นอนว่าฉู่ถิงนั้นไม่มีทางยอมทำตามจนเธอต้องทะเลาะกับครอบครัว แต่ทั้งฉู่เฉียงและหลินว่านหงก็ไม่สนใจคำอธิบายของเธอเลยแม้แต่น้อย

ฉู่เฉียงถึงกับขู่ว่าถ้าชูถิงไม่เชื่อฟัง เขาจะพาเพื่อนๆ ของเขาไปปิดร้านก๋วยเตี๋ยวของถานเสี่ยวเทียน

ชูถิงร้องไห้หนักมาก แต่เธอก็ไม่สามารถขัดคำสั่งของพวกเขาได้และทำได้เพียงแค่เก็บความเศร้าโศกไว้ในใจ

ในตอนนี้เองทีมบาสเก็ตบอลของโรงเรียนมัธยมแห่งแรกเมืองซานเฉิงก็ได้ปรากฏตัวออกมา ในฐานะกัปตันทีม ถานเสี่ยวเทียนตัดสินใจที่จะออกไปสอบเป็นคนแรกเพื่อบรรเทาความกดดันของเพื่อนร่วมทีมของเขา

การสอบอย่างแรกคือการชู้ตลูกโทษ

การชู้ตลูกโทษเป็นเทคนิคที่ง่ายที่สุดในการเล่นบาสเก็ตบอล เพียงแค่ยืนที่หน้าเส้นโทษแล้วชู้ตลูกบาสเข้าไปในห่วง สำหรับผู้เล่นบาสเก็ตบอลแล้วสิ่งนี้ไม่ต่างอะไรจากชิ้นเค้กแสนหอมหวาน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น การต้องมาชู้ตลูกโทษในการสอบแบบนี้มันก็กดดันจิตใจเกินไปจนทำให้ในการสอบก่อนหน้านี้มีนักเรียนหลายๆ คนสอบไม่ผ่าน

ถานเสี่ยวเทียนออกมาชู้ตลูกโทษเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเพื่อนร่วมทีมของเขา เขาจับลูกบาสไว้ในมือและรอจนผู้ตัดสินเป่านกหวีด จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นแล้วชู้ตลูกบาสเข้าไปในห่วง

เสียงเชียร์ดังขึ้น

ถานเสี่ยวเทียนรับลูกบาสลูกต่อไปมาถือไว้ในมือด้วยสีหน้าว่างเปล่า ยกมือขึ้นและชู้ตทำคะแนนอีกครั้ง

ถานเสี่ยวเทียนเป็นราวกับเครื่องจักร ทุกๆ ครั้งที่เขายกมือขึ้นทุกๆ อย่างก็จะกลายเป็นนิ่งสงบ แม้แต่ลมใจของเขาก่อนที่จะชู้ตลูกก็ถูกปรับให้เท่ากันอย่างสมบูรณ์แบบจนสภาวะรอบตัวไม่มีอิทธิพลต่อเขา

ชู้ตแล้วก็ลงห่วงอีกครั้ง

หลังจากชู้ตได้ห้าลูกติดต่อกัน ผู้ตัดสินก็ส่งสัญญาณว่าเขาสอบผ่าน

“พวกนายเห็นไหม? แค่ตั้งสมาธิไปที่ห่วงแล้วก็ชู้ตมันออกไป มันไม่ได้ต่างจากการซ้อมหรอก พวกนายทำได้แน่นอน”

ผลกระทบจากตัวอย่างของถานเสี่ยวเทียนทำให้ผู้เล่นในทีมคนอื่นๆ ทำได้ดี มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่ทำได้ไม่ถึง 5 คะแนน

หลังจากสอบพวกเขาก็ออกมาพักที่นอกสนาม จากนั้นผู้สมัครจากโรงเรียนอื่นก็ปรากฏตัวและเข้าไปสอบต่อจากพวกเขา

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม การสอบชู้ตลูกโทษทั้งหมดสิ้นสุดลงและการสอบรอบที่สองก็เริ่มต้นขึ้น

กลุ่มเด็กชายที่อยู่นอกสนามเริ่มส่งเสียงฮือฮาเพราะในการสอบรอบนี้มีการเปลี่ยนกรรมการ โดยหนึ่งในนั้นคือผู้ตัดสินสาวที่สวยสวมหมวกกันแดดและชุดกีฬาสีแดง เมื่อหน้าตาอ่อนหวานมารวมกับร่างกายอันเร่าร้อน มันจึงช่วยไม่ได้ที่เด็กๆ ทุกคนจะอดใจไว้ไม่ไหว

ทีมบาสเก็ตบอลโรงเรียนมัธยมแห่งแรกเมืองซานเฉิงปรากฏขึ้นอีกครั้งและเสี่ยวเทียนก็เริ่มสอบเป็นคนแรกตามปกติ

กฎการสอบรอบนี้คือการเลย์อัพ

ถานเสี่ยวเทียนคุ้นเคยกับสิ่งนี้เป็นอย่างดี หลังจากที่เขาได้รับลูกบอลจากสาวงามในชุดแดงเขาก็เลี้ยงลูกอย่างรวดเร็วจนผู้ที่ชมอยู่ตื่นตาตื่นใจ เขาก้าวเท้าสองก้าว กระโดดแล้ววางบอลลงที่ปากห่วงอย่างสวยงาม จากนั้นเขาก็สลับไปทำเลย์อัพจากด้านซ้ายแล้วก็ลงห่วงอย่างง่ายดายเช่นเดิม

หลังการสอบ ถานเสี่ยวเทียนออกมายืนอยู่ข้างสนามเพื่อให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมของเขาโดยไม่มีเหงื่อออกมาเลยแม้แต่น้อย

หลังจากการสอบของทีมแรกสิ้นสุดลง ขณะที่ถานเสี่ยวเทียนกำลังจะออกจากโรงยิม ทันใดนั้นสาวงามในชุดแดงก็เดินเข้ามาและจ้องหน้าถานเสี่ยวเทียนโดยไม่พูดอะไรออกมา

เมื่อมองไปที่คู่ดวงตาสีดำตรงหน้า ความตื่นตัวของถานเสี่ยวเทียนก็เพิ่มขึ้นไปถึงจุดสูงสุดทันที

ผู้หญิงคนนี้อันตรายมาก ลมหายใจของเธอเหมือนกับนักฆ่าไม่มีผิด

ผ่านไปครู่หนึ่งสาวงามในชุดแดงก็ชี้ออกไปข้างและพูดว่า “ออกไปคุยข้างนอกโรงเรียนกันเถอะ”

ถานเสี่ยวเทียนพยักหน้าและแอบออกไปข้างนอกเงียบๆ โดยไม่ให้คนอื่นสนใจ

ทางฝั่งตะวันตกของโรงเรียนมัธยมแห่งแรกเมืองซานเฉิงมีตรอกเล็กๆ อยู่ตรอกหนึ่ง ถานเสี่ยวเทียนกำลังนั่งยองๆ สูบบุหรี่รออยู่ที่ทางเข้าตรอก

หลังจากผ่านไปไม่นาน สาวงามในชุดแดงก็มาถึงโดยมีคนรู้จักเก่าของถานเสี่ยวเทียนตามมาด้วย คนคนนั้นก็คืออี้จื่อฮวา (หญิงสาวกลางคืนในบทแรก)

“น้องชายพี่สาวขอบุหรี่ตัวหนึ่งสิ ฉันสูบบุหรี่ในโรงเรียนไม่ได้ ตอนนี้ฉันอึดอัดจนจะแย่แล้ว” ประโยคแรกที่ออกมาจากปากของสาวงามในชุดแดงทำให้ถานเสี่ยวเทียนตกตะลึง เมื่อหยิบบุหรี่ออกมา มันก็ถูกสาวงามในชุดแดงฉวยเอาเข้าไปคาบไว้ในปากหนึ่งมวน เมื่อเห็นอย่างนั้นถานเสี่ยวเทียนก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากช่วยจุดไฟให้เธอ

สาวงามในชุดแดงสูบเข้าไปหนึ่งคำแล้วพ่นควันสีขาวออกมา

ถานเสี่ยวเทียนตกตะลึงอีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้สวยมากและการสูบบุหรี่แบบนี้ก็ยิ่งทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก

เขาเลียริมฝีปากและชี้ไปที่อี้จื่อฮวาแล้วพูดกับสาวงามในชุดแดงว่า “นี่น้องสาว ถ้าน้องมาที่นี่เพื่อแก้แค้นให้กับผู้หญิงคนนั้น…น้องสาวก็ชนะแล้ว ตอนนี้พี่ตกหลุมรักในความสวยของน้องเข้าแล้วจริงๆ”

แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะอายุน้อย แต่เธอก็อายุ 25 ถึง 26 แล้วซึ่งมากกว่าอายุของถานเสี่ยวเทียนในตอนนี้ การที่ถานเสี่ยวเทียนเรียกเธอว่าน้องสาวแบบนี้มันจึงทำให้เธอหัวเราะจนยืนไม่ไหว

ผ่านไปไม่นานสาวงามในชุดแดงก็เงยหน้าขึ้น นัยน์ตาสีพีชจ้องมาที่เขา “น้องชายปากหวานจนทำพี่สาวคนนี้ใจเต้นแรงเลยนะ ไม่รู้ว่ามีเด็กสาวกี่คนแล้วที่หลงเสน่ห์ปากหวานๆ นี้…”

ทันทีที่พูดจบ รอยยิ้มของสาวงามในชุดแดงก็หายไป เจตนาฆ่ามากมายพุ่งออกมาจากแววตาพร้อมกับมีดสีเงินขาวที่ปรากฏขึ้นในมือของเธอ

“งั้นก็อย่าโตไปมากว่านี้เลย”

ด้วยการสะบัดมือ แสงสีเงินพุ่งเข้าใส่ถานเสี่ยวเทียน

บทชีวิตใหม่

บทชีวิตใหม่

Score 10
Status: Completed

เกิดใหม่ปี 1998

เต้นรำภายใต้สายลมแห่งการเงิน

แหวกว่ายทามกลางกระแสน้ำแห่งไอที

ความมั่งคั่งถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นยักษ์

ด้วยฝ่ามือที่เรียกลมเรียกฝนนี้

ฉันจะตบโลกทั้งใบให้สั่นสะเทือน

Options

not work with dark mode
Reset