[นิยายแปล] Ore no iinazuke ni natta jimiko, ie de wa kawaii shika nai 7 ถึงผมจะเป็นมนุษย์สุดเหงาแต่เธอก็ยังคิดว่าผมนอกใจอยู่ดี

ตอนที่ 7 ถึงผมจะเป็นมนุษย์สุดเหงาแต่เธอก็ยังคิดว่าผมนอกใจอยู่ดี

วันนี้ผมออกจากบ้านพร้อมกับยูกะเหมือนตามปกติ 

ลำดับแรก ผมมองซ้ายขวาเพื่อดูรอบตัว หลังจากที่ผมมั่นใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ ผมก็เริ่มเดินอย่างช้าๆ

“วันนี้ชั้นก็ได้ไปโรงเรียนกับยูคุงอีกแล้ว~”

“นั่นเป็นการทักทายยามเช้าแบบนึงเหรอ”

“มันเป็นวลีที่ชั้นอยากจะพูดมาตลอดน่ะ! คู่แต่งงานที่ไปโรงเรียนด้วยกันมันน่าตื่นเต้นนะ!”

“ชั้นไม่เคยได้ยินใครพูดแบบนั้นเลย… วลีอะไรล่ะนั่น? แล้วพวกเราก็ยังไม่ได้แต่งงานกันด้วย”

พวกเรายังคงสนทนาอย่างไร้สาระต่อไประหว่างที่มุ่งหน้าไปโรงเรียน

เมื่อใดก็ตามที่พวกเราอยู่ในบริเวณที่เงียบหรือไร้ผู้คน ยูกะมักทำตัวไม่ต่างกับเวลาอยู่ที่บ้าน ที่จะมีชีวิตชีวาและกระฉับกระเฉง 

ในตอนนี้ ผมของเธอรวบอยู่ในทรงโพนี่เทลพร้อมกับใส่แว่นอยู่เหมือนกับที่โรงเรียน

สีหน้าของเธอสดใสและมีความสุข เป็นสีหน้าที่มีให้กับแค่ผมเพียงเท่านั้น 

แต่พอเราเริ่มที่จะใกล้ถึงโรงเรียนมากขึ้น พวกเราก็ทำให้แน่ใจที่จะแยกจากกันอย่างช้าๆ 

ยิ่งเราทำแบบนี้มากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังทำอะไรฉาวโฉ่อยู่ แต่ช่างเถอะ

*

ในทุกๆวัน ยูกะกับผมใช้ชีวิตในโรงเรียนโดยที่ไม่ได้แสดงความสนิทสนมต่อกัน

[ยูคุง มองมาทางนี้สิ!]

แต่บางครั้งยูกะก็ส่งข้อความไลน์มา พยายามหลอกล่อให้ผมติดกับ

ด้วยความมุ่งมั่นและการตัดสินใจที่หนักแน่น ผมจึงเมินข้อความของเธอ

[โถ่ มองมาทางนี้ซี่ โม่วววว]

ขอร้องละ หยุดเถอะ…

ทุกคนคงจะสงสัยถ้าผมมองไปทางเธอ

แล้วผมก็คงต้องหาคำโกหกที่ฟังขึ้นอีก…

“ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นล่ะ หืม?”

ผมตกใจเพราะมาสะได้ลุกไปจากที่นั่งเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว

อยู่ดีๆก็มีคนมายันที่ไหล่ผม

“…นิฮาระซัง”

“ไงซาคะตะ!”

เธอยิ้มกว้างและนำหน้าเข้ามาใกล้ผมโดยปราศจากการลังเลใดๆ

ผมรีบหันหน้าหนีด้วยความตกใจ

“ใกล้ไป ใกล้ไปแล้ว!”

“ไม่เห็นเป็นไรนี่? ถ้านายไม่ขยับก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก… แต่ถ้านายขยับเราก็อาจจะเผลอจูบกันก็ได้นะรู้มั้ย?”

“บอกเลยนะนั่นน่ะไม่โอเคเลย”

“ฮ่าๆๆ! งั้นถ้าเป็นแบบนี้ก็โอเคใช่มั้ย?”

เธอคงจะสนุกแน่ๆที่เห็นผมตกใจ

เฮ้อ… นี่แหละเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงรับมือกับเธอยาก

นิฮาระ โมโมะโนะ

เธอเป็นหนึ่งในเด็กผู้หญิงไม่กี่คน… จริงๆเป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวในห้องที่คุยกับผมอย่างเป็นกันเอง 

รูปลักษณ์ของเธอมีเอกลักษณ์ที่น่าดึงดูดหลายอย่าง 

เธอมีผมยาวสีน้ำตาล แล้วคุณก็สามารถเห็นหน้าผากของเธอโผล่ออกมาจากใต้นั้นได้

ดวงตาของเธอสดใสและโต คงจะเป็นเพราะเครื่องสำอางที่เธอใช้

เสื้อของเธอปลดกระดุมออกมากกว่าทั่วไปเล็กน้อย และถูกดันออกมาจากข้างใน คงเพราะบริเวณหน้าอกของเธอมันแน่นไปหน่อย

เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่แต่งตัวเหมือนกับสาวแกล

สาวแกลเป็นคนประเภทextrovert ที่จะสนิทสนมกับทุกคน 

แต่ถ้าคุณเข้าใจความคิดของพวกเธอผิดแล้วเผลอทำอะไรแปลกหรือไม่เป็นที่ยอมรับ พวกเธอก็จะเป็นศัตรูกับคุณในทันที ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความเลวร้ายสุดๆได้ 

ถ้าให้สรุป นั่นคือความอันตรายของสาวแกล… แต่มันก็เป็นแค่สิ่งที่ผมคิดเกี่ยวกับพวกเธอ 

ผมพยายามที่จะทำตัวกับนิฮาระซังอย่างระแวดระวังให้มากสุดเท่าที่จะทำได้ แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง เธอก็ยังคงคุยกับผมอยู่…ไม่หยุด

“ยังไงก็เถอะ ไม่ใช่ว่าช่วงนี้นายมองรอบห้องเรียนบ่อยเหรอ? ปกตินายจะต้องออกไปนอกหน้าต่างหรืออะไรทำนองนั้นนะ”

“ทำไมถึงรู้ว่าชั้นมองอะไรอยู่ล่-… ช่างมันเถอะ”

“มีอะไรเหรอ? มีคนที่ชอบแล้ว? ทำไมไม่ลองปรึกษาโอเน่ซังตรงนี้ล่ะ?”

“หมายความว่ายังไง ‘โอเน่ซัง’ เนี่ย? พวกเราอายุเท่ากันไม่ใช่รึไง?”

“อืมม ชั้นเป็นโอเน่ซังข้างในน่ะ นี่ซาคะตะ พุ่งเข้ามาในอ้อมอกของโอเน่ซังเลยสิ!”

เธอกางแขนออกกว้าง และหน้าอกของเธอที่ใหญ่และเด่นชัดก็เด่นมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก 

ก็นะ เพราะว่าผมเป็นสุภาพบุรุษ…

ผมจึงแอบส่องเล็กน้อย แล้วผมก็รีบผละสายตาออก

ควรจะมีใครสักคนมาสรรเสริญผมที่อุตส่าห์ห้ามตัวเองได้นะเนี่ย

“โม่วว… นายเป็นคนที่ยุ่งยากซะจริงนะเนี่ย”

“เอ๋?! ดะ-เดี๋ยวสิ!”

ผมรู้สึกได้ถึงก้อนเด้งดึ๋ง2 ก้อนบนแขนขวาของผม 

อ่าา… นุ่มซะจริง… นี่ผมอยู่บนสวรรค์หรือเปล่านะ?

…เดี๋ยว! ไม่ใช่ว่าแบบนี้แย่แล้วเรอะ?!

ผมรีบสะบัดเธอออก แต่เธอก็ยังเกาะติดผมอย่างแน่นและไม่ยอมปล่อยผม

ทุกครั้งที่ผมขยับแขน ผมรู้สึกได้ถึงความนุ่มและเด้ง แล้วสติของผมก็เริ่มที่จะเลือนลางออกไปเรื่อยๆ

นิฮาระซังหัวเราะที่เห็นผมรู้สึกตื่นเต้นและตื่นตระหนก

“เย่ ชั้นชนะ! นายควรจะยอมรับอ้อมกอดของชั้นซะดีๆแล้วก็เพลิดเพลินไปกับมันนะ!

“รู้มั้ย… มันอยู่ในใจชั้นมาสักพักแล้ว แต่ทำไมเธอถึงมายุ่งกับชั้นตลอดเลยล่ะ?”

นิฮาระซังตกอยู่ในห้วงความคิดระหว่างที่กอดแขนของผม 

จากนั้นเธอก็ยิ้มกว้าง

“เพราะว่าชั้นอยากจะเห็นซาคะตะที่สดใสและขี้เล่นอีกครั้งน่ะสิ”

“โห…”

คำพูดของเธอทำให้ผมรู้สึกขยะแขยงจริงๆ 

มีแค่สองคนที่ไปโรงเรียนมัธยมต้นเดียวกับผม 

คนแรกคือ คุราอิ มาสะฮารุ หรือมาสะ 

และอีกคนคือ… นิฮาระ โมโมะโนะ

ทุกคนในโรงเรียนมัธยมปลายรู้จักผมในฐานะว่าเป็นคนที่ไม่โดดเด่นเลยแม้แต่น้อย เป็นคนที่กลมกลืนไปกับฉาก

แต่นิฮาระซังเธอรู้จัก ‘ผม’ ก่อนมัธยมปลาย 

เธอรู้ว่าผมเคยเป็นคน extrovert เป็นคนที่ว่าง่ายๆก็คือศูนย์กลางของห้อง 

แล้วเธอก็ยังรู้เกี่ยวกับการสารภาพรัก การที่ผมโดนปฏิเสธอย่างจัง และการที่ผมขังตัวเองไว้ที่บ้านอีก… จนสุดท้ายกลายเป็นคนมืดมนที่ซ่อนอยู่แต่ในเงา

“ทำไมนายไม่พูดให้มากกว่านี้เหมือนที่นายเคยเป็นล่ะ? ทำไมตอนนี้มาทำตัวโดดเดี่ยว? เป็นจูนิเบียวหรืออะไรแบบนั้นเหรอ?”

ผมไม่รู้ว่าอะไรมันน่าขำขนาดนั้น แต่นิฮาระซังก็เริ่มที่จะหัวเราะออกมาอย่างดัง

ผมจึงถือโอกาสสลัดนิฮาระซังออกแล้วลุกจากที่นั่ง

“เฮ้อ… สาวแกล extrovert แบบเธอชอบมาทำตัวถึงเนื้อถึงตัวตลอดเลย แล้วบางคนก็อาจจะเข้าใจผิดได้ เพราะงั้นเธอควรที่จะเลิกทำแบบนั้นนะ”

“เอ๋? ชั้นไม่ใช่สาวแกล extrovert หรอกนะรู้มั้ย?”

“แล้วเธอเป็นอะไรล่ะ?”

“คนบ้านนอก introvert มืดมนไง”

พูดอะไรของเธอเนี่ย?

จะเอาจริงๆทำไมต้องเป็นคนบ้านนอกด้วย? คนบ้านนอกไม่ได้ตรงข้ามกับสาวแกลสักหน่อย 

“จริงๆแล้วชั้นไม่ได้ทำตัวถึงเนื้อถึงตัวกับทุกคนหรอกนะรู้มั้ย? ชั้นไม่ใช่ผู้หญิงง่ายหรอก”

ระหว่างพูดแบบนั้น นิฮาระซังปิดกันอกของเธอด้วยแขนพร้อมกับป่องแก้มของเธอออก

จากนั้นเธอนำริมฝีปากมาไว้ใกล้ที่หูผม 

“…ชั้นเป็นแบบนั้นกับแค่ซาคะตะละ”

“ห้ะ?! หมายความว่าไงน่ะ?!”

“ฟุ ฮ่าๆๆ! ซาคาตะ นายดูตื่นเต้นมากเลยละ!”

นิฮาระซังเริ่มที่จะหัวเราะออกมาเสียงดังอีกแล้ว

เฮ้อ… 

ผมรับมือกับสาวแกลไม่ได้ ผมรู้สึกถึงแผลเก่าที่กำลังจะเปิดอีกรอบเลย…

ผมอยากจะเปิดโทรศัพท์แล้วก็เสพยูนะจังประจำวันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้…

ในระหว่างที่ผมกำลังมีความคิดพวกนั้นอยู่…

จากที่นั่งที่ไกลออกไป ผมรู้สึกได้ถึงสายตาแห่งความตายอันเยือกเย็นทิ่มแทงทะลุผม 

และตรงนั้น ผมก็เห็นยมบาลกำลังจ้องผมอยู่ 

เธอไม่ใชาวาตานาเอะ ยูกะที่ไร้อารมณ์และแข็งทื่ออีกต่อไป

ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะอารมณ์ไม่ดีสุดๆ 

ผมหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นอย่างกระวนกระวายแล้วเปิด LINE 

[โอ๊ะ? ยูคุงสนิทกับนิฮาระซังเหรอ?]

[เอ่อ… ชั้นว่านายใกล้ชิดกับนิฮาระซังไปหน่อยนะ ช่วยเว้นระยะห่างสักนิดได้มั้ย?]

[นายมองที่หน้าอกเธอเหรอน่ะ?]

[หน้าอกเธอไปโดนนายใช่มั้ย]

[คงคิดได้แต่เรื่องหน้าอกสินะ?]

[ไปแต่งงานกับหน้าอกไป]

[คนบ้า]

ข้อความเริ่มที่จะเย็นชาลงเรื่อยๆ เหมือนกับเธอในตอนนี้ แหงอยู่แล้วว่าผมจะต้องเสียวสันหลังวาบ 

ทำไงดี… เพราะสาวแกลนั่น ผมเลยกำลังจะต้องเผชิญวิกฤตการณ์กับภรรยาผมเร็วๆนี้…

*

ผมกำลังกลับบ้านจากโรงเรียน 

ผมข้ามทางแยกแล้วหันขวา

จากนั้นผมหยุดเดิน แล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีครามที่สดใส 

เหมือนตามปกติ ไม่มีใครที่สัญจรบนถนนเส้นนี้ 

“ยูคุง”

ระหว่างที่ผมกำลังจ้องมองท้องฟ้าอย่างว่างเปล่า ยูกะก็มาถึงช้ากว่าเล็กน้อย 

แก้มของเธอนั้นป่องออกมาเล็กน้อย และเธอก็กำลังกำหมัดอยู่อย่างแน่น

เธอโกรธอยู่แน่ๆเลยละ…

“อย่างแรกเลย ขอให้ชั้นอธิบายสถานการณ์ก่อนได้มั้ย?”

“ด๊าาย ไหนว่ามา”

“นิฮาระซังรู้จักชั้นตั้งแต่สมัยชั้นอยู่ม.ต้น ก็เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงมายุ่งกับชั้นอยู่ตลอดทั้งๆที่ไม่มีเหตุผลอะไรเลย เธอก็แค่ชอบมาล้อชั้น… เอาจริงๆชั้นค่อนข้างมั่นใจเลยว่าเธอไม่ได้คิดอะไรกับชั้นมากกว่าของเล่นหรอก”

“…งั้นนายคงไม่ได้ทำอะไรจริงๆ เพราะนิฮาระซังก็เป็นคนเข้าหานายก่อนด้วย คงช่วยไม่ได้ละนะ แล้วชั้นก็ไม่เคยห้ามนายให้ไปคุยกับผู้หญิงคนอื่นด้วย”

แก้มของยูกะนั้นป่องออก

แทนที่จะโกรธ ผมกลับรู้สึกเหมือนว่าเธอแค่งอน

“แต่… นิฮาระซังก็ยังไม่แฟร์อยู่ดี…”

“ไม่แฟร์เหรอ? หมายความว่ายังไงน่ะ?” 

“อือออ…ยังไงก็เถอะ! เธอไม่แฟร์เลยอะ!”

ยูกะป่องแก้มออกมามากกว่าเดิม แล้วเธอก็วางมือลงบนหน้าอกหน้าใจขนาดกำลังดีของเธอ

อ่า…พอคิดดูแล้ว ข้อความไลน์ของเธอมันก็เกี่ยวกับหน้าอก

“ขนาดโมเดลยูนะยังใหญ่เลยสินะ ในเกมบอกว่าเธอมีขนาด f คัพ เธอเป็นเด็กนักเรียนมต้น แล้วความสูงก็ยังแค่ 147 cm แต่ถึงยังงั้น หน้าอกของเธอก็เป็นถึงอาวุธมหาประลัยเลย เธอคือการผสมผสานอย่างลงตัวของความน่ารักและเซ็กซี่ ความไม่สมดุลระหว่างความใสซื่อของเธอที่เหมือนเด็ก กับร่างกายที่โตเป็นผู้ใหญ่มันช่างยากจะหักห้ามใจเลยละนะ….”

“ยูคุง… รู้เรื่องอะไรบ้างมั้ยเนี่ย?”

…ก็จริง ชั้นขอโทษ

เมื่อกี้ผมไม่นึกถึงอะไรเอาซะเลยจริงๆ…

ผมเงียบไปในระหว่างนี้ รอให้ยูกะพูดอะไรซักอย่าง

“…เอ๋!”

B O I N G

ทันใดนั้นเองผมรู้สึกได้ถึงสัมผัสนุ่มนิ่มบนแขนของผม 

ใช่แล้วละ ดูเหมือนว่ายูกะกำลังเกาะแขนผมอยู่อย่างแน่น 

ผมของยูกะนั้นถูกรวบอยู่ในทรงโพนี่เทล และผมก็ได้กลิ่นน้ำหอมออกตระกูลส้ม มาจากเธอ 

ผมรู้สึกได้ถึงความร้อนของยูกะจากแขนของเธอ 

ยูกะมองผมตาชี้แล้วพูดออกมาเบาๆ:

“มันไม่ใหญ่เท่าใช่มั้ยล่ะ…”

“เอ่อ… หมายความว่าไงน่ะ?”

“ถึงมันจะไม่ใหญ่เท่าหน้าอกของนิฮาระซังหรือหน้าอกของยูนะจัง แต่ถ้าของชั้นก็น่าจะพอดีอยู่นะ?”

ยูกะดันร่างของเธอใส่แขนผมอย่างแน่น 

ความรู้สึกนุ่มนิ่มบนแขน ไม่ได้หลอมละลายไปกับแขนของผมอย่างเดียว แต่รวมไปถึงในหัวผมด้วย

อัตราการเต้นหัวใจของผมพุ่งทะลุ แล้วผมก็ไม่สามารถจะหายใจปกติได้อีกต่อไป 

ผมหมดคำพูดเนื่องจากหัวใจที่สั่นระรัว แต่เหมือนยูกะจะเข้าใจผิดแล้วเธอก็บุ้ยปาก

“ว่าแล้วเชียว ชอบใหญ่กว่านี้สินะ? นักพากย์คนอื่นเคยบอกชั้นมาว่ายิ่งใครมีหน้าอกใหญ่ เด็กผู้ชายก็จะยิ่งชอบ…”

“อุตสาหกรรมนักพากย์มันมีแต่คนที่พูดอะไรไร้ประโยชน์แบบนั้นหมดเลยรึไงเนี่ย?! มันแล้วแต่คนชอบไม่ใช่เหรอ?!”

“ชั้นชอบยูนะจังที่ตัวเธอ! ไม่ใช่หน้าอก!”

ถึงแม้ว่าผมจะพยายามดิ้นรนปฏิเสธหลักการของเธอ ยูกะก็ไม่ได้ดูเหมือนจะเชื่อที่ผมเถียง

“บูวว… จำเอาไว้เลยนะยูคุง”

ยูกะเลิกเกาะที่แขนผมแล้วแลบลิ้นใส่ผม

“เดี๋ยวชั้นจะต้องใหญ่กว่านี้แน่!”

เฮ้อ… ทำไมเธอถึงต้องพยายามไปแข่งขนาดนมวะเนี่ย?

สำหรับตอนนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะหายจากอารมณ์เสียก่อนหน้าแล้ว งั้นก็คงไม่เป็นไรมั้ง 

แต่… ผมควรจะจำเอาไว้ให้ดีสินะ…

ถึงเราจะพูดเรื่องอนิเมะหรืออะไรแบบนั้น ผมก็ไม่ควรที่จะหยิบยกเรื่องหน้าอกเวลาคุยกับยูกะ เพราะนั่นมันอาจจะแย่แน่ๆ

 

ถ้าชอบก็มาตามเพจเล้ยยย จัดมาเด๊ะเบิ้มๆ 

https://www.facebook.com/OnlyhiraR

[นิยายแปล] Ore no iinazuke ni natta jimiko, ie de wa kawaii shika nai

[นิยายแปล] Ore no iinazuke ni natta jimiko, ie de wa kawaii shika nai

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset