[นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu 33 แทรกซึมสมาคมหญิงสาว! (ตอนปลาย)

ตอนที่ 33 แทรกซึมสมาคมหญิงสาว! (ตอนปลาย)

<ความเดิมตอนที่แล้ว>

อิชชิกิ ยู ซึ่งโทวโกะบอกมาว่า ‘ในการที่จะดึงดูดความรู้สึกของคาเรนนั้น ถ้าได้รับความนิยมในกลุ่มผู้หญิงมากขึ้นก็จะดีนะ’

โทวโกะจึงวางแผนว่า ‘จะเปิดโอกาสให้เหล่าผู้หญิงมารวมตัวกัน เมื่อนั้นให้แสร้งว่าบังเอิญเข้ามาร่วมวงด้วย แล้วเรียกคะแนนจากพวกเธอ’

ยูไปยังสถานที่ที่ผู้หญิงคนสำคัญในชมรม 4 คนรวมตัวกัน คว้าโอกาสที่จะพูดคุยกับเหล่าสาว ๆ ที่นั่น

 

 

“สุดยอดเลยอะ อิชชิกิคุง คุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้ด้วย”

 

คุณอายากะพูดอย่างประทับใจ

นอกจากนี้คุณคาซุมิก็เอ่ยต่อ

 

“อิชชิกิคุงเนี่ย สมกับที่อยู่เอกวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จริง ๆ พวกแอปเอยโปรแกรมเอยนี่เชี่ยวชาญมาก ฉันเองเวลามีการบ้านโปรแกรมมิ่งพวกนี้จะให้เขาช่วยตลอดเลยล่ะ”

 

“ถ้างั้น ครั้งหน้าช่วยสอนฉันหน่อยได้มั้ย? ฉันก็มีงานโปรแกรมมิ่งเหมือนกัน งานหยาบพอตัวเลยอะนะ”

 

คนที่ขอก็คือคุณมินะที่โน้มตัวมาข้างหน้า

 

“ถ้างั้นฉันด้วยนะ! ตารางเรียนเทอมหน้ามีโปรแกรมมิ่งซะด้วยสิ ต้องแย่แน่ ๆ เลย อิชชิกิคุง ขอร้องล่ะนะ?”

 

กับคุณยูริ ชั้นปีหนึ่งคณะพาณิชยศาสตร์

 

“ฉันเองก็อยากจะขอร้องด้วยเหมือนกันนะ โปรแกรมอะไรเนี่ยไม่เคยทำมาก่อนเลย คิด ๆ อยู่ว่ามันทำยังไงน่ะ”

 

คนที่ว่าก็คือคุณอายากะ ชั้นปีหนึ่งคณะเศรษฐศาสตร์

จากนั้นรุ่นพี่โทวโกะก็เอ่ยปากเป็นครั้งแรก

 

“ถ้าทุกคนได้อิชชิกิคุงช่วยเรื่องการบ้านโปรแกรมมิ่งล่ะก็ ถือว่าช่วยฉันเหมือนกันค่ะ ฉันน่ะ เทอมนี่้ตารางเรียนค่อนข้างยุ่งมาก ภาระงานของฉันเองก็ล้นเหลือพอตัวเลยค่ะ”

 

พูดอย่างธรรมดา

เพราะผมนั่งอยู่ตรงนี้ รุ่นพี่โทวโกะเลยไม่ค่อยมองมาทางผมสักเท่าไร

ให้ความรู้สึกว่า ‘ฉันไม่ค่อยใส่ใจอะไรเท่าไร’

 

“จนถึงตอนนี้ชั้นได้แต่ให้โทวโกะแบกมาตลอดเลย ถ้าต้องให้ช่วนกระทั่งตอนยุ่งเนี่ยคงจะแย่เลยนะ ฉันว่า”

 

คุณมินะพูด

 

“แต่ว่า ถ้าขอร้องอิชชิกิคุงได้ล่ะก็ คงช่วยลดภาระให้โทวโกะได้ด้วยเนอะ”

 

คุณมานามิพูด

ผมเองก็ตอบไปอย่างเป็นมิตร

 

“ถ้าให้ผมช่วยได้ล่ะก็ เรียกหาผมได้ตลอดเลยนะครับ ผมเองถ้ามีคาบเรียนโปรแกรมของศิลปศาสตร์เองก็จะได้ไม่เป็นปัญหาด้วยครับ”

 

เป็นการแสดงออกเฉพาะจุดขายอย่างเดียว

 

“เย้~! อิชชิกิคุง ขอบใจนะ”

 

“อิชชิกิคุงเองก็คุ้นเคยกับแอปมือถือด้วยสิ ถ้าสนิทกันให้เร็วกว่านี้ก็ดีสิ”

 

“ฉันเองก็คิดเหมือนกัน ถ้าได้คุยเรื่องพวกนั้นตั้งแต่ต้นก็น่าจะดีเนอะ”

 

“ให้คาเรนเอาไปกินอยู่คนเดียวเสียของแย่เลยเนอะ”

 

“พูดอะไรอย่างนั้นไม่ได้นะ!”

 

ผมผ่อนด้วยความโล่งอก

ดูเหมือนว่า ‘แผนการสร้างความนิยมในกลุ่มผู้หญิง’ จะประสบความสำเร็จ

 

จากนั้นรุ่นพี่โทวโกะมองไปที่นาฬิกาข้อมือ แล้วก็ทำท่าเคาะลงไปสองที

เป็นสัญญาณว่า ‘ลุกไปได้แล้ว’

 

รุ่นพี่โทวโกะว่าไว้ ‘ในการคุยกับผู้หญิง จังหวะการถอนตัวนี่สำคัญ’

จังหวะเหมาะที่สุดในการถอนตัวออกไปก็คือตอนที่ผู้หญิงคิดว่า ‘อยากจะคุยมากกว่านี้อีกสักหน่อย’

ถ้านั่งแช่ไปเรื่อยล่ะก็ กลุ่มผู้หญิงเขาจะคิดเอาได้ว่าน่าเกลียดจัง

 

“ถ้างั้น ผมขอตัวเท่านี้ครับ”

 

พูดเสร็จก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้

 

“เอ๋ ไปซะแล้วหรอ?”

 

“เรื่อย ๆ อีกสักหน่อยก็น่าจะดีน่า”

 

เหล่าสาว ๆ บอกมาอย่างนั้น ผมตอบไปอย่างเสียไม่ได้

 

“พอดีมีนัดกับเพื่อนน่ะครับ ก่อนหน้านั้นกะว่าจะซื้อหนังสือเตรียมไว้ใช้เรียนด้วยน่ะครับ”

 

ผมตอบไปอย่างนั้น

แน่นอนครับ มันเป็นเรื่องโกหก

 

“งั้นหรอ เสียดายจังเนอะ”

 

“ไว้คราวหน้า มานั่งคุยชิว ๆ กันนะ”

 

“เจอกันที่ชมรมนะ”

 

“ลาก่อนน้า! อะ เรื่องงานโปรแกรมมิ่ง ฝากด้วยนะ”

 

ผมโค้งนิด ๆ ให้พวกเธอที่เอ่ยอย่างนั้น แล้วออกจากที่ตรงนั้นไป

ถ้าเป็นไปตามที่รุ่นพี่โทวโกะบอก ทุกอย่างคงจะเป็นไปได้สวย

ไว้โทรไปถามผลลัพธ์ทีหลังก็แล้วกัน

 

 

 

“ความรู้สึกวันนี้ดีมากเลยค่ะ”

 

พอตกดึก ผมที่โทรไปหารุ่นพี่โทวโกะ ประโยคแรกที่ได้ยินก็คืออย่างว่า

 

“หลังจากนั้น ถึงจะมีแต่พวกฉันที่นั่งคุยกันก็เถอะ ทุกคนให้คะแนนประเมินเธอในทางที่ดีเลยล่ะค่ะ”

 

“ขอบคุณมากครับ แต่ว่าเรื่องนี้ ต้องขอบคุณรุ่นพี่โทวโกะเลยนะครับ”

 

ถึงจะปลื้มใจที่ได้รับคำชมก็จริง แต่จะให้ภาคภูมิใจต่อหน้าคนที่วางแผนเรื่องทั้งหมดขึ้นมาให้ก็คงจะไม่ได้

 

“ไม่หรอกค่ะ เรื่องที่ทำให้สิ่งที่ฉันพูดเป็นจริงได้อย่างราบรื่น สีหน้ายิ้มแย้ม การพูดคุยอย่างเป็นธรรมชาติของเธอ ประเด็นพวกนั้นแหละที่ทำให้ผู้หญิงทุกคนที่นั่นประทับใจมาก ให้เธอมั่นใจกับตัวเองได้เลยค่ะ”

 

แหม ได้รุ่นพี่โทวโกะบอกมาอย่างนั้น อย่างเขินเลยนะเนี่ย

 

“นอกจากนี้ ที่เข้าข้างคุณคาเรนก็ดูเหมาะสมดีด้วยค่ะ ยังอยู่กับแฟนสาวโดยไม่หลงไปตามเสียงรอบข้าง พูดได้อย่างไม่ฝืนใจ จำนวนคำก็เหมาะสมด้วย”

 

งืม~ มันก็เพราะรุ่นพี่โทวโกะบอกมาว่า ‘ในการคุยกับผุ้หญิง ให้มุ่งอยู่กับคำตอบที่ได้กลับมา อย่าเป็นฝ่ายพูดเองให้มากเกินไป’ ก็เถอะ

อีกอย่าง เรื่องพูดคุยกับคนที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะกับผู้หญิงแล้วเนี่ย ผมไม่ถนัดเลย

 

“เพราะอย่างนั้นเหล่าผู้หญิง แทบจะอยู่ข้างอิชชิกิคุงเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าเรื่องที่คุณคาเรนนอกใจความแตกขึ้นมาล่ะก็ เธอคงจะโดนรุมสะกำแน่นอนค่ะ ‘ทำไมถึงได้ทรยศหักหลังแฟนหนุ่มที่คอยปกป้องอย่างดีขนาดนี้ได้ลงคอกัน'”

 

“ถ้างั้นก็จะดีเลยครับ ความคิดของเหล่าผู้หญิงเข้าข้างทางผมมากน้อยแค่ไหนนี่ ค่อนข้างเรื่องใหญ่เลยครับ”

 

อันที่จริงผมก็กังวลเรื่องนั้นอยู่เหมือนกัน

‘ตบหน้าด้วยวิธีการที่โหดร้ายที่สุด ในเวลาที่อีกฝ่ายตกหลุมรักเรามากที่สุด’ อาจจะเป็นวิธีการล้างแค้นที่สุดยอดที่สุดก็จริง แต่ก็เกรงว่าคนรอบข้างจะสงสารอีกฝ่ายแล้ว ‘โหดร้ายที่สุด! ไม่เห็นจะต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยก็ได้นี่?’

 

เรื่องที่ว่าคาโมกุระ ‘ไปแอบแซ่บกับแฟนสาวของรุ่นน้อง’ คงไม่มีหนุ่มที่ไหนมาสงสารมันหรอก

 

แต่กับเหล่าผู้หญิงคงจะไม่เข้าใจ

แม้ผมคิดว่าผู้หญิงที่เห็นด้วยกับคาเรนจะไม่มีเลยก็เถอะ แต่ได้ยินมาว่าผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความเห็นอกเห็นใจสูงมาก

อาจจะมีผู้หญิงที่เห็นคาเรนร้องไห้แล้วคิดว่า ‘ไม่เห็นจะต้องทำกันถึงขนาดนั้นก็ได้นี่? แบบนั้นน่าสงสารคาเรนจะตาย’ ขึ้นมาก็ได้

ถ้ามีคนที่ปกป้องคาเรนออกมาล่ะก็ ดาเมจของการล้างแค้นอาจจะเหลือครึ่งเดียวเสียก็ได้

 

ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะเรียกสติคาโมกุระกับคาเรนให้ถึงที่สุด

 

“จริงด้วยนะ อยากจะให้ผู้หญิงส่วนใหญ่เข้าข้างพวกเราให้ได้ค่ะ เรื่องนั้นเองฉันก็คิด ๆ มาบ้างหน่อยแล้ว ไว้มาคุยกันครั้งหน้าก็แล้วกันค่ะ”

 

เรื่องนั้นก็คิดไว้แล้วเหมือนกันสินะ

ถ้ายกให้รุ่นพี่โทวโกะล่ะก็นะ ไม่มีทางพลาดไปได้แน่

 

“ถ้างั้น”

 

“อะ เดี๋ยวก่อนครับ”

 

ผมรีบเรียกหารุ่นพี่โทวโกะ ซึ่งกำลังจะตัดสายไปอยู่แล้ว

 

“อะไรหรอ?”

 

“เปล่าครับ คือเรื่องการบ้านของผมก่อนหน้านี้น่ะครับ… ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องนิดหน่อยครับ”

 

“การบ้าน?”

 

“ครับ เรื่องรายงานซ่อมเรื่อง ‘คุณสมบัติของเด็กผู้หญิงน่ารัก’ น่ะครับ”

 

“ได้ข้อสรุปอะไรขึ้นมาแล้วหรอ?”

 

เป็นน้ำเสียงที่ดูคาดหวังขึ้นมานิดหน่อย

 

“ตัวผมเองมีคำตอบอยู่ในใจแล้วครับ แต่ว่าเรื่องนั้น จะว่าผมอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถนัดน่ะครับ…”

 

รุ่นพี่โทวโกะเงียบไป

 

“เพราะงั้นรุ่นพี่โทวโกะครับ ครั้งหน้าช่วยมากับผมสักวันนึงได้ไหมครับ?”

 

“เอะ กับฉันหรอ?”

 

รุ่นพี่โทวโกะตอบกลับมาด้วยเสียงตกใจที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

 

“ครับ ผมคิดว่า ‘ความน่ารัก’ ของแต่ละคนแตกต่างกันไปครับ แล้วก่อนหน้านี้ผมถึงได้เผลอพูดแต่ประเด็นทั่ว ๆ ไปไปน่ะครับ ครั้งหน้าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผมอยากจะตอบคำถามเรื่อง ‘ความน่ารัก’ ที่เหมาะเจาะกับรุ่นพี่โทวโกะครับ”

 

ผมค่อนข้างจริงจัง

มันคือผลลัพธ์ ของสิ่งที่คิดมาโดยตลอดตั้งแต่ก่อนหน้านี้

 

รุ่นพี่โทวโกะไม่พูดอะไรอยู่พักหนึ่ง

อีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์ รู้สึกได้ถึงความอึ้งไปของเธอ

 

“ขอร้องล่ะครับ ถ้าครั้งนี้รุ่นพี่คิดว่า ‘ผมพูดอะไรไม่เข้าท่า’ อีกล่ะก็ ถึงตอนนั้นค่อยถอดใจเลิกคิดถึงผมไปเลยครับ”

 

ถึงอย่างนั้นรุ่นพี่โทวโกะก็นิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง

ทว่าก็ยัง

 

“—— เข้าใจแล้วค่ะ ——“

 

เพียงหนึ่งคำ เสียงดังมาจากทางโทรศัพท์

 

“ขอบคุณมากครับ!”

 

เสียงผมสะท้อนกลับไปโดยไม่ทันคิด

 

“แล้ว จะให้ไปด้วยกันเมื่อไรหรอ?”

 

“ผมสะดวกตอนไหนก็ได้ครับ เอาที่รุ่นพี่โทวโกะสะดวกเลยครับ”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นวันอาทิตย์หน้าดีไหมคะ? วันนั้นฉันว่างทั้งวันเลยค่ะ”

 

“โอเคครับ! ถ้าอย่างนั้นวันอาทิตย์หน้า ฝากตัวด้วยนะครับ เรื่องเวลาไว้จะติดต่อไปทีหลังนะครับ ไว้ผมจะคิดเตรียมไว้ว่าจะไปไหนยังไงนะครับ!”

 

“อื้ม ทราบแล้วค่ะ ถ้างั้นเป็นวันอาทิตย์หน้านะคะ…”

 

เอ่ยจบสายก็ตัดไป

 

เอาล่ะ เท่านี้ก็เรียบร้อย

จากนี้ผมก็แเหลือแค่ดำเนินการตามแผนเท่านั้น

จากนั้นก็โน้มน้าวในรุ่นพี่โทวโกะ ให้ผมได้เป็น ‘คู่ที่จะได้อยู่ด้วยกันในวินาทีสุดท้าย’ ให้จนได้!

 

ผมนึกด้วยปณิธานอันแรงกล้า

Options

not work with dark mode
Reset