[นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu 22 ตัดสินวันชี้ชะตา! (ตอนต้น)

ตอนที่ 22 ตัดสินวันชี้ชะตา! (ตอนต้น)

วันจันทร์ต่อมา เวลาบ่ายสามโมง

ร้านกาแฟซึ่งอยู่แถวสถานีซึ่งห่างจากตัวมหาลัยฯ

สถานที่แรกที่ผมเคยคุยเรื่องนี้กันกับรุ่นพี่โทวโกะ

ผมมาก่อนเวลานัด 10 นาที

รุ่นพี่โทวโกะก็มาก่อนนัด 5 นาที

 

“มาก่อนเวลาเสมอเลยนะคะ”

 

รุ่นพี่โทวโกะที่เห็นตัวผมอยู่ ก็เอ่ยขึ้นมาพลางนั่งลงตรงเก้าอี้

 

“ไม่อยากให้รุ่นพี่โทวโกะต้องรอน่ะครับ”

 

พอผมตอบไปอย่างนั้น

 

“ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นก็ได้นะ”

 

เธอยิ้มเจื่อน ๆ

 

ผมโล่งใจนิดหน่อย

เธอยังเป็นรุ่นพี่โทวโกะคนดีคนเดิม

 

ค่ำคืนวันเสาร์ รุ่นพี่โทวโกะร้องไห้ปลดปล่อยความรู้สึกออกมา

ทำให้ได้เห็นส่วนที่อ่อนไหวของเธอเป็นครั้งแรก

อีกทั้งในใจของผม สัมผัสได้ถึงตัวตนของเธอที่เปลี่ยนไป

บางทีรุ่นพี่โทวโกะเอง หากเกิดรู้สึกว่าบางอย่างของผมเปลี่ยนไปล่ะก็ เกรงว่าตั้งแต่ตอนนั้นมาพวกเราจะยังเจอหน้ากันไม่ได้เหมือนอย่างเคยหรือเปล่า

 

“เอาล่ะ สำหรับเรื่องแผนการต่อจากนี้……”

 

หลังจากที่สั่งชามะนาว รุ่นพี่โทวโกะก็ตัดบทขึ้นมา

 

“เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเทตสึยะกับคุณคาเรนไปนอกใจกันจริง ๆ ฉันเองไม่คิดจะคบกับเทตสึยะต่อไปอีกแล้วค่ะ”

 

“ครับ ผมก็เหมือนกัน”

 

ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน

ผมไม่อาจจะเสแสร้งทำเป็นคบกันให้คาเรนหลอกให้เสียโง่อย่างนี้ต่อไปได้อีกแล้ว

 

“สำหรับเรื่องเวลาที่ว่า ‘พออีกฝ่ายตกหลุมรักมากที่สุด ก็สั่งสอนคุณแฟนด้วยการไปนอนกับคนอื่น’ ที่เคยเล่าให้ฟังตั้งแต่ต้นนั้น……”

 

ขณะที่ผมกำลังกดดัน รุ่นพี่โทวโกะก็ยั้งคำต่อไปไว้……

 

“ให้เป็นวันคริสต์มาส อีฟ ค่ะ”

 

“เอ้ะ?”

 

ผมหลุดเสียงไปด้วยความตกใจ

คริสต์มาส อีฟ นี่ไม่เร็วไปหน่อยหรือ?

นี่ก็ปลาย ๆ เดือนตุลาฯ แล้ว เหลือเวลาอีกแค่สองเดือนเท่านั้น

จริงอยู่ ถ้าหากถูก ‘บอกเลิกอย่างโหดร้าย’ ในคืนวันคริสต์มาส อีฟ ที่เหล่าคู่รักต่างใช้เวลาร่วมกันนั้น คงจะส่งผลกระทบอย่างสาหัสสำหรับคุณแฟนเลยทีเดียว

 

“อะไรหรอ? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”

 

รุ่นพี่โทวโกะมองผมด้วยนัยน์ตาสืบเสาะ

 

“เปล่าครับ ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับแต่ว่า จนถึงตอนนั้นผมจะทำให้คาเรนชอบถึงขนาดที่ไม่อยากจะจากกันไปได้หรือเปล่าน่ะครับ”

 

ความรู้สึกของคาเรนในตอนนี้นั้น ไม่ว่าจำทำยังไงก็ห่างเหินจากผมไปเสียแล้ว

 

“ไม่มั่นใจเลยใช่ไหมคะ ว่าจะทำให้คาเรนหลงรักได้ภายในสองเดือน?”

 

“ครับ แบบว่าเพราะเรื่องที่โทรไปหาเมื่อวันก่อน ตอนนี้ความรู้สึกของคาเรนคงจะโอนเอนไปทางรุ่นพี่คาโมกุระไปแล้วน่ะสิครับ”

 

“ยังใจปลาซิวไม่หายเลยนะคะ”

 

รุ่นพี่โทวโกะพูดอย่างผิดหวังนิดหน่อย

 

“เรื่องมันไม่ใช่เพราะว่า ‘ตอนนี้’ หรอกค่ะ เวลาคบกันมาได้สามเดือนเนี่ย เป็นทางแยกของความสัมพันธ์ของสองคนเลยนะ ว่าจะยังลุกโชนอยู่ต่อไป หรือจะเย็นชืดจืดจางลงน่ะ”

 

“งั้นหรอครับ?”

 

“อย่างน้อยเท่าที่ฉันรู้ หนึ่งเดือน สามเดือน ครึ่งปี ปีหนึ่ง สามปีประมาณนี้ เป็นช่วงเวลาที่มาให้คู่รักคิดกันเอาว่าจะเลิกกันไหมน่ะค่ะ”

 

โห~ ผมคิด

มาบ่อยอยู่พอสมควรเลยนะนี่

 

“คู่รักที่เดือนเดียวเลิกที่ว่าเนี่ย ก็คือกรณีที่คิดว่า ‘คบกันเพราะอารมณ์พาไป แต่แล้วมันก็ไม่ใช่’ เพราะฉะนั้นถึงได้มีคนที่ไม่ถือว่ากำลังคบกันอยู่เยอะพอสมควรเลย”

 

อารมณ์พาไปเหรอ

ยิ่งไปกว่านั้น ‘ไม่ถือว่าคบกันอยู่’ นี่มันใจดำเกินไปหน่อยมั้ย?

 

“สามเดือนเนี่ย ถ้าเคมีของทั้งคู่เข้ากัน ต่างคนก็จะเห็นด้านดีของอีกฝ่าย เป็นช่วงเวลาที่ความรักจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น กลับกันถ้าหากว่าเคมีไม่เข้ากัน ก็จะเห็นแต่ด้านแย่ ๆ รู้สึกว่า ‘คนนี้น่ะไม่เหมาะหรอก’ จนกลายเป็นเย็นชากันไป”

 

จะว่าไปแล้ว ก็คงจริงอย่างว่า

 

“อิชิดะคุงกับคุณคาเรนเอง ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงสามเดือนอยู่นี่คะ? เธอคิดยังไงกับคุณคาเรนหรอคะ? ก่อนที่จะมารู้เรื่องนี้น่ะ?”

 

ก่อนที่จะจับได้ว่า ‘คาเรนกับคาโมกุระนอกใจกัน’ หรอ?

 

“นั่นสินะครับ ผมว่าผมค่อนข้างคลั่งรักคาเรนเลยล่ะครับ เป็นแฟนสาวคนแรกของผมด้วย แม้ว่าที่จริงแล้วตอนที่คบกันก็รู้สึกว่า ‘ต่างไปจากที่เคยคิดไว้’ อยู่ก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าไม่เข้ากันขนาดนั้นน่ะครับ”

 

พอพูดไป ทำให้นึกถึงวันที่เคยมีความสุขกับคาเรน

หัวใจมันก็เต้นตึกตักตึกตักจนเจ็บ

ทว่า……

 

“งั้นสินะ ‘คนแรก’ มันก็พิเศษหน่อยเนอะ……”

 

คำพูดที่ดูเศร้า ๆ ของรุ่นพี่โทวโกะ แทงใจผมดัง ‘ตึกตัก!’ ขึ้นมาแรง ๆ

สะเทือนใจหนักกว่าที่เจ็บปวดกับคาเรนหลายเท่า

 

——ว่าแล้วเชียว รุ่นพี่โทวโกะ กับรุ่นพี่คาโมกุระนั้น——

 

พอนึกขึ้นมาอย่างนั้น ก็รู้สึกหายใจไม่ออกราวกับออกซิเจนในปอดพลันหายไปในบัดดล

 

“แต่ที่เธอบอกว่ารู้สึกไม่เข้ากันอย่างนั้น คุณคาเรนเองก็อาจจะรู้สึกมากกว่านั้นก็ได้นะคะ เธอในตอนนี้น่ะ จังหวะเวลานี้ถ้า ‘ทำให้แฟนสาวชอบ’ ไม่ได้ แล้วหลังจากนี้คิดว่าจะมั่นใจว่าจะทำให้ชอบได้หรอ?”

 

ประโยคท้ายเหมือนจะใส่ความจิกกัดไว้ด้วย

 

จริงด้วย นั่นสินะ

ปัญหาเรื่องนี้รอเวลาต่อไปก็แก้อะไรไม่ได้

กลับกันหากปล่อยให้เวลาเนิ่นผ่านไปนานเข้า อาจจะเป็นเราเองที่จะเสียเปรียบ

แต่ว่า…

 

“เข้าใจที่รุ่นพี่โทวโกะจะสื่อครับ จริงอยู่ถ้าผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยแบบนี้ ทุกอย่างมันจะไม่มีทางดีขึ้นได้”

 

รุ่นพี่โทวโกะพยักหน้าเงียบ

 

“แต่ว่าความรู้สึกของแฟนสาวที่กำลังห่างเหินกันอยู่นั้น ผมคิดว่าการที่จะดึงมันกลับมามันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่าย ๆ เลยนะครับ”

 

“มันก็คงจะไม่ง่ายจริง ๆ แหละค่ะ แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ฉันว่ายังมีโอกาสอยู่แน่นอน”

 

พอผมทำหน้าตาดูไม่น่าเชื่อ รุ่นพี่โทวโกะจึงอธิบายต่อไป

 

“คุณคาเรนยังซ่อนเรื่องเทตสึยะกับเธออยู่ใช่ไหมล่ะคะ? สรุปก็คือตัวคุณคาเรนเองก็ยังคิดว่า ‘ตัวจริง ณ ตอนนี้ก็ยังเป็นอิชชิกิคุง’ อยู่นะ”

 

อืม เรื่องนั้นก็คิดว่าคงจะอย่างนั้นแหละ

 

“จริงอยู่ที่ความรู้สึกของเธอตอนนี้เอนเอียงไปทางเทตสึยะเป็นส่วนใหญ่ แต่ว่าทางเทตสึยะเอง ตอนนี้ก็ไม่ได้คิดจริงจังกับคุณคาเรนขนาดนั้นหรอกค่ะ”

 

ผมมองรุ่นพี่โทวโกะอีกครั้ง

นี่ไม่ใช่ความมั่นใจจนเกินไปเสียด้วย

ลำพังแค่ดูจากภายนอก คาเรนเทียบชั้นกับรุ่นพี่โทวโกะไม่ติด

ไม่ว่าต่อให้คาเรนจะสวม ‘หน้ากากเด็กสาวน่ารัก’ สักแค่ไหนก็ตาม

 

“ตัดสินจากนิสัยปกติของเทตสึยะก็ได้แล้วล่ะค่ะ เรื่อง ‘ไปเที่ยว’ ครั้งนี้เองก็ด้วย คุณคาเรนบอกกับเธอทำนองว่า ‘คิดไปแล้วว่าจะไปเที่ยวแน่’ แต่เทตสึยะบอกประมาณว่า ‘อาจจะได้ไป’ แค่นั้น สรุปก็คือเรื่องวางแผนไปเที่ยวก็แล้วแต่ขึ้นอยู่กับว่าฉันคิดเห็นยังไงนั่นแหละค่ะ”

 

จริงด้วย

ถ้าหากรุ่นพี่โทวโกะบอกกับคาโมกุระว่า ‘อย่าไปนะ!’ ล่ะก็ แผนที่ว่าก็คงจะล่มเลยทีเดียว

 

“ถ้าเรื่องเที่ยวที่คิดไว้แล้วว่าต้องสนุกแน่ ๆ ถูกฝ่ายชายยกเลิกขึ้นมาล่ะก็ คิดว่าฝ่ายหญิงจะคิดยังไงล่ะ? ฉันสามารถควบคุมตรงนี้ได้อยู่นะคะ”

 

รุ่นพี่โทวโกะพูดราวกับไม่มีอะไร

 

สุดยอด~ดแท้ รุ่นพี่โทวโกะ

แต่แทนที่จะบอกว่าสมแล้ว กลับรู้สึกน่ากลัวขึ้นมานิดหน่อยยังไงไม่รู้แหะ

Options

not work with dark mode
Reset