[นิยายแปล] Breakthrough with the Forbidden Master 12

ตอนที่ 12

ตอนที่12

”…นะ-นี่นายจริงจังหรอ?นายจะ…ฝึกผม”

 

[เอา…ข้าอาจจะเก็บทรงไม่ค่อยอยู่เมื่อกี้ แต่…ข้าเดาว่าข้ามีเวลาเหลือเยอะ และมันคงทำให้ข้าพอสนุกได้บ้าง]

 

”ไม่ แต่จอมมารฝึกลูกของฮีโร่…”

 

[ช่างยอดเยี่ยม! หนึ่งในลูกหลานของผู้กล้าจะด่างพร้อย ฮุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เพื่อที่จะได้เห็นใบหน้าอันสิ้นหวังของเจ้านั่น!]

 

ทีแรกเขายังโกรธหัวร้อนแล้วประกาศว่าจะฝึกผม แต่ตอนนี้กลับมีรอยยิ้มน่ากลัวอยู่บนใบหน้า

 

เพราะว่าเขาคงคิดว่ามันน่าสนใจ หรือไม่ก็เพราะถูกขังไว้นานเกิน แต่ดูทีท่าแล้วเขาก็ไม่ได้มีความคิดที่จะถอนคำพูดเรื่องที่จะฝึกผมเลย แต่ผมก็บอกเจตนาที่แท้จริงของเขาไม่ได้อยู่ดี

 

อย่างไรก็ตามผมยังถูกเกลี้ยกล่อมแรงกระตุ้นนั่น แถมยังต้องถูกบังคับให้ซื้อของสารพัดที่เขาบอกว่าจำเป็นต่อการฝึกอีก

 

”…พวกนี้มัน…เจ็บปวดอะไรแบบนี้…”

 

[เห่ย!]

 

”เรามีเวลาแค่2เดือนใช่มั้ย? เกี่ยวกับเรื่องนี้ และผมก็ไม่คิดว่ามันจะทำให้อะไรดีขึ้นหรอก”

 

[ทั้งหมดเจ้าใช้ความรู้สึกในการคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะการตั้งเพดานกับตัวเอง การเฉิดฉายในการเติบโตตอนเป็นเด็กของเจ้าสิเป็นเรื่องที่น่าคิด]

 

”ไม่…ผมมีปัญหาเพราะผมแกร่งขึ้นไม่เร็วพอ…”

 

ใช่ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม ผมก็ทำเท่าที่ทำได้แล้ว

 

ไม่ใช่แค่ในสถาบันแต่รวมถึงซาดีซก็ช่วยสอนผมและดูการฝึกของผมด้วยตัวเธอเอง

 

อย่างไรก็ตาม เหมือนกับว่าเพื่อปฏิเสธความคิดเหล่านั้น ผมถึงถูกก้าวข้ามด้วยความอัจฉริยะเหล่านั้น

 

มันช่างห่างไกลกับผลที่เกิดจากความพยายามของผมโดยสิ้นเชิง ผมผิดหวังที่ตัวเองเป็นถึง ‘ลูกของผู้กล้า’

 

แล้วผมก็ค่อยๆรู้สึกว่าตัวเองเป็นไองั่ง

 

[ตามที่ข้อคิด เจ้ายังขาดแรงกระตุ้นที่เหมาะสม มันเกิดจากความรู้สึกที่เจ้ารู้สึกว่าห่างไกลจากเป้าหมาย และก็หดหู่ หรือไม่ก็ตอนที่เจ้ารู้ว่ามันไม่ใช่เส้นทางของเจ้าเอง ถ้าทำได้ข้าอยากจะถามเจ้าว่า แผนหรือเป้าหมายในอนาคตของเจ้าคืออะไร?]

 

”เอ๊ะ?”

 

[ในอนาคต เจ้าอยากจะเป็นหรือทำอะไรละ?]

 

มันเป็นเหมือนผู้ใหญ่ถามคำถามกับเด็กน้อยเกี่ยวกับความฝันในอนาคต

 

อย่างไรก็ตาม พอถูกถามอีก ผมกลับไม่สามารถคิดคำที่เหมาะสมได้

 

“มะ-ไม่เอาน่า…ต่อให้นายถามผมเรื่องนั้น…พอเวลาผ่านไป ผมก็คงเป็นอัศวินหลวง แต่…”

 

[มันเป็นสิ่งที่เจ้าตัดสินใจด้วยตัวเองหรอ?]

 

”ไม่ ไม่…ผมไม่รู้…ตะ-แต่…มันแค่…สิ่งที่ทุกคนคิดว่าผมจะเป็น…”

 

[ข้าว่า…มาเริ่มกันที่เรื่องนี้แหละ…]

 

แล้วจอมมารก็ถอนหายใจออกตอนพูดแบบนี้

 

[ถ้าเจ้าไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ภาพในอนาคตของเจ้า เจ้าจะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าจะฝึกไปเพื่ออะไร?]

 

”ไม่ แต่ผม…”

 

[เพื่อที่จะไม่พ่ายแพ้แก่เจ้าหญิงหรือไม่ต้องอยู่บนความคาดหวังของคนอื่น…บางทีมันคงเป็นกรณีที่มาจากจุดที่จะเริ่มมีแรงบันดาลใจมันไม่หนักแน่นพอ]

 

ผมไม่คาดคิดเลยว่าจอมมารจะถามเกี่ยวกับทางเดินหรืออนาคตของผม หรือแม้กระทั่งแรงบันดาลใจก็เหมือนกัน

 

แต่ก็แน่นอนว่าผมไม่ได้เชื่อว่าตัวเองต้องการจะเป็นอัศวิน

 

ตอนผมเป็นเด็ก ผมอาจจะเคยคิดว่าอยากเป็นอย่างพ่อ แต่ตอนนี้ผมก็ไม่ได้คิดแบบนั้นแล้ว

 

”แต่ต่อให้นายถามแบบนั้น…อยู่ดีๆจะมาถามมันก็…ผมไม่รู้หรอก”

 

[อืม อย่างที่ข้าคิดไว้]

 

ผมไม่เคยคิดเกี่ยวกับมันอย่างลึกซึ้งเลย

 

ตอนที่ผมพูดว่ามันไม่มีทางที่จะรู้หรอก ต่อให้ผมตอบไปแบบนั้น จอมมารก็ผงกหัวและกระซิบเบาๆ

 

[ใช่แล้ว งั้นเรามาทำแบบนี้กัน เอาเรื่องอนาคตต่อจากนี้ไปไว้ทีหลัง แรกสุดเรามาตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและตีกรอบเฉพาะที่สามารถนึกจะทำได้ก่อน การฝึกฝนจะเป็นไปตามจุดประสงค์นั้น]

 

”ที่พอจะนึกได้…? ก็เอาชนะเจ้าหญิงไง”

 

[อันนั้นมันธรรมดาอยู่แล้ว ยังไงเจ้าก็ต้องชนะการประลองเรียนจบในอีก2เดือนให้ได้อยู่แล้ว]

 

”เอ๋!?…กระทันหันเกิ๊น…มันมาเป็นงี้ได้ไงเนี่ย?”

 

เขาพูดอะไรที่มันยากมากๆให้เป็นเป้าหมายกับผม ผมชักมึนกับอนาคตและเป้าหมายตัวเองแล้วนี่

 

เอาละ มันคงจะเป็นจุดที่ว่า ชนะเจ้าหญิง=เป็นผู้ชนะ แต่…

 

[และสิ่งต่อมาที่เราต้องการคือพื้นที่ที่จะขับเคลื่อนการกระตุ้นในการฝึกฝน]

 

“การกระตุ้น…จำเป็นด้วยหรอ?”

 

[ตามหลักทั่วๆไปเลย แทนที่จะแค่บอกให้ทำเฉยๆ มันจะมีประสิทธิภาพมากกว่าที่จะมีความมุ่งมั่นในการอุทิศตนกับการฝึก เพราะงั้นมีอะไรที่พอจะกระตุ้นดจ้าบ้างไหม?]

 

ผมรู้สิ่งที่เขาพยายามจะสื่อแล้ว แต่ถ้าผมรู้มัน เรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องที่ผมกังวลน้อยที่สุดไปแล้ว

 

เพราะผมไม่มีอะไรที่จะเป็นตัวกระตุ้นเลย ผมก็เลยนิ่งไปสักพักนึง

 

นอกจากนั้นนะ ผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะเป็นนักรบจักรวรรดิเลยด้วย แถมจักรวรรดิก็สงบอยู่แล้วอีก

 

[การหาแรงกระตุ้นหนะ ไม่ต้องเป็นพวกความคิดทางวิชาการอย่างสันติและความสงบสุขหรอก มันจะดีกว่าถ้าจะคิดเรื่องไม่ค่อยบริสุทธิ์อะนะจริงมั้ย?.

 

”เอ…ไม่ค่อยบริสุทธิ์หรอ?”

 

ในตอนนั้น ผมไม่แน่ใจกับหูตัวเองในสิ่งที่จอมมารผู้ที่เห็นความรู้สึกจริงๆของผมพูด

[ตั้งแต่แรกนะ เพราะว่าคนเราหนะไม่สามารถมีความคิดจิตใจที่สะอาดบริสุทธิตลอดชาติหรอก ยิ่งกว่านั้นนะ มันหายากมากเลยนะที่คนคนนึงจะมีแรงขับเคลื่อนจากสิ่งที่น่าเบื่อและสูงส่งไปตลอด ข้ารู้จักความปรารถนาและความน่าเกลียดของมนุษย์ดีกว่าเจ้าแน่ๆ]

 

”อาใช่ ก็จริง…นั่นคือสิ่งที่นายจะสื่อใช่มั้ย?”

 

[อย่างพวกว่าเจ้าปรารถนาอะไร เงินตรา หรือสัญญาว่าจะให้พ่อเลี้ยงข้าวสักมื้อถ้าชนะ มีอะไรมั้ย?]

 

มันดีกว่าที่จะมีความคิดไม่บริสุทธิมากกว่าเหตุผลสูงส่ง ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยแฮะ แต่มันคงเป็นงั้นสินะ?

 

ยังไงก็ตามผมก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร ถึงมันจะเป็นความคิดที่ดี แต่ปัญหาคือผมไม่ได้อยากกินข้าวกับพ่อ และก็ไม่ได้เดือดร้อยเรื่องเงินด้วย

 

”หืมมม…แรงผลักดันชั่วๆหรอ?”

 

ไม่มีอะไรเข้ามาในหัวเลย ผมก็พึมพัมอยู่อย่างงั้น

 

และแล้ว…

 

”อ่า นายน้อย ยินดีต้อนรับกลับ”

 

ผมกลับมาถึงบ้าน และซาดีซ ที่กำลังทำความสะอาดสวนหน้าบ้านก็ทักทายผม

 

เธอเหลือบมองสิ่งที่ผมถืออยู่ในมือ

 

”นายน้อย นายจะแวะที่ร้านค้าก็ได้นะ แต่…ทั้งหมดนี่มันอะไร? นี่เหมือนว่านายซื้อมาเพียบเลยนะ แต่นายตั้งใจจะทำอะไรถึงซื้อ ‘บันได’ ? ในกระเป๋าคือ…เข็มเย็บผ้า? ไม่สิ เข็มฝัง? ยังไงก็ช่างเราเข้าไปในบ้านก่อนละกันนะ?”

 

ใช่ บันไดเป็นสิ่งที่อยู่ในบรรดาของที่จอมมารบอกให้ซื้อเพื่อใช้ฝึก

 

อย่างที่เธอพูดว่ามีอันนึงในบ้านแล้ว แต่ผมก็ควรมีส่วนตัวสักอัน ‘ไว้ฝึก’ เพราะงั้นผมเลยซื้อมาด้วยเหตุผลบางประการ

 

เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้หรอกว่าจะใช้ทำอะไร แต่จากที่ผ่านๆมา…

 

”อะ-เอ่อ มันแค่นิดเดียว-“

 

”……จะเอามาแอบดูชั้นอาบน้ำใช่มั้ย?”

 

”ไม่ใช่โว้ย! เอามาฝึกนิดๆหน่อยๆเอง”

 

”ห๊ะ?”

 

ซาดีซที่บางทีจะมาดูผมฝึก เอียงคอที่ไม่รู้ว่าผมจะใช้บันไดทำอะไร

 

เออใช่ อุ๊บส์ นั่นแหละ…

 

“ใช่แล้วซาดีซ”

 

”คะ?”

 

“เกี่ยวกับอาหารของผมตั้งแต่วันนี้…ขอผมดูรายการเมนูได้มั้ย?”

 

”……เอ๊ะ!?”

 

ใช่แล้ว นี่ก็เป็นคำสั่งจอมมาร

 

เขาบอกว่าอาหารก็เป็นหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพจากการฝึก และทั้งมื้อเช้า กลางวัน เย็นก็ต้องรอบคอบ

 

แน่นอนว่าผมไม่เคยขอซาดีซเรื่องพวกนี้มาก่อนเพราะงั้นเธอจึงค่อนข้างแปลกใจ

 

”ฉันไม่ว่าหรอกค่ะ แต่…มีอะไรละเนี่ย? นายน้อย นายไม่เคยมีปัญหากับอะไรพวกนี้มาก่อน และก็มักพูดว่าไม่ว่าฉันทำอะไรก็อร่อย ถึงอยากได้ฉันเป็นเจ้าสาว นั่นเลยทำให้นายเก็บกดจากการที่ฉันไม่เคยสนใจความเห็นนายสักเท่าไรหรอ?”

 

”อะ-เอ่อ…มันคือ…ไงก็เถอะ มันก็เพื่อชัยชนะนะ“

 

”……ใช่?”

 

ทั้งหมดนั่นเพื่อชัยชนะใน{การประลองเรียนจบ}ใน2เดือนหน้า…

 

แต่ผมก็ไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมสักเท่าไรหรอก…ผมเดาว่าผมไม่ได้มีแรงขับเคลื่อนที่มากเพียงพอถ้ามองในทางนี้

 

”นายหมายความว่ายังไงที่จะชนะ นายน้อย? เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ถ้านายมีปัญหาอะไร ฉันจะไม่ล้อเลียนนายวันนี้นะ ฉันจะให้คำปรึกษากับนายละกัน แต่ถ้ามันเป็นเหตุผลแผลงๆละก็ นายโดนเล่นแน่”

 

ผมรักซาดีซที่กังวลเกี่ยวกับผม เธอน่ารักจัง…แรงผลักดัน…ไม่บริสุทธิ์…หืมมม!

 

ทันใดนั้นผมก็เกิดความคิดโง่ๆขึ้นมา

 

”นี่ ซาดีซ”

 

”มีอะไรหรอ?”

 

”ในอีก2เดือน…ผมจะมี{การประลองเรียนจบ}”

 

”อืม ฉันรู้แล้ว ฉันจะไปเชียร์นายเอง”

 

เธอคงจะอาละวาดใส่ผม แต่ผมก็จะลอง…

 

”ถ้าผมทำมัน…การแข่งขัน…ถ้าผมได้รางวัลชนะเลิศละก็…”

 

ท้ายที่สุดแล้ว…แค่ครั้งเดียว…ผมอยากจะไปเดตกับซาดีซในชุดลำลองสักครั้ง

 

”เอ๋!? นาย เอ๋? นะ-นายน้อย…? มะ-มันได้ไง? นายหลอนอยู่รึเปล่า? ถ้านายน้อย…ตัวนาย…ชนะ?”

 

เธอคงจะแปลกใจแหละ ผมไม่ได้ดูกะปรี่กะเปร่ามาหลายวันแล้ว และก็ดูยอมแพ้ไปมากแล้วด้วย ซาดีซรู้มากพอที่จะเข้าใจเรื่องพวกนี้

 

จากปากของผม ไอคำว่า”ชนะ” ที่ไม่เคยหลุดจากปากผมมาก่อน ซาดีซจึงมึนงงผิดปกติ

 

และผม…ก็พูด

 

”นี่ ถ้าผมชนะการแข่งขัน…”

 

บ้าเอ้ย โคตรประหม่าเลย!

 

ใช่แล้ว แต่ซาดีซรู้ว่าผมรู้สึกยังไง และ…มันไม่เหมือนว่าเรากำลังจะได้แต่งงานกัน แต่จุดเริ่มต้นเลยคือ เราต้องไปเดต นั่นแหละ

 

ถ้ามันเป็นแค่นั้น ซาดีซต้องทำมันแน่

 

ไปเดต…เดินจับมือกัน…ป้อนข้าวกัน “อาาาา”…กอด จูบ…และหลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับบรรยากาศ…ยามค่ำคืน…

 

”ขอผมจับหน้าอกเธอหน่อยสิ!”

 

”เอ๊ะ!?……เออออ๋?”

 

[โฮ่~…]

 

อะ…?

 

”เอ๋!!??”

 

เชี่ย ไม่ใช่?!

 

”เอ้ย ไม่ ไม่ มันไม่ใช่ ซาดีซ ดะ-เดี๋ยวก่อน ผม…”

 

มันผิดพลาดที่คำในใจของผมมันดันหลุดมาที่ปาก!

 

โอ้ย ซาดีซโกรธแล้วกับรอยยิ้มนั่น แม้แต่จอมมารยังพูดว่า”โฮ่”เลย!

 

”…นายน้อย…อะฟุฟุฟุ โฮะโฮะโฮะโฮะ มันเป็นมุขตลกที่แย่มาก ฉันไม่ควรขำเลย แต่ก็ดันขำ”

 

”โอ้ ฮ่าฮ่า…ผม-ผมขอโทษที มันผิดพลาด…ละ…ลืมมันเถอะ”

 

”…………………”

 

ผมนี่โคตรโง่เง่าเลย! มันต่างกัน…กับซาดีซิผมอยาก…มากขึ้น หมายถึงรักบริสุทธิ์นะ

 

”…………ฉันว่า ก็ได้”

 

”เอ๊ะ?”

 

ไม่!?เอ๊ะ!? เพื่อ?! เอ๊ะ!? เอ๋!? ตะ-ตะกี้ ซาดีซ……เอ๋?!

 

“พูดจริงๆเลยนะ มันเป็นคำขอร้องที่คนที่ชั่วขั้นไหนจะขอได้ และควรจะรายงานนายท่านในประเด็นการคุกคามทางเพศ…แต่…นายน้อยดันทะเล่อทะล่าประกาศชัยชนะ…มันทำให้ใจฉันสั้นไหวไปตอนนั้นเลย”

 

การพูดอย่างนั้น ซาดีซก็มองมาทางผมอย่างจริงจัง

 

”เพราะงั้นมันจะเป็นความลับจากนายท่านละกัน แต่…ถ้านายชนะละก็! นายจะเล่นกับมันทั้งวันก็ได้!”

 

”ห๊ะ!?”

 

”จะบ้าตาย…เจ้าหญิงและคนอื่นๆพยายามที่จะพิสูจนฟูชื่อเสียงทางการรบของจักรวรรดิแก่คนในเมืองหลวงและนานาประเทศด้วยการชนะการประลอง มันเป็นความคิดที่สูงส่งและซื่อตรงที่จะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าพวกเขาจะเป็นผู้นำยุคสมัยหน้า แต่กับนายน้อยดันเป็นหน้าอก…”

 

นี่ผมฟังผิดมั้ย…?

 

แม้ว่าเธอจะมองมายังผมด้วยสายตาเย็นชายังกับผมเป็นหนอนหรือต่ำกว่านั้น เธอจะให้ผมมีความรู้สึกสัมผัสต่อเธอ ไม่ใช่แค่นั้น แต่ยังเล่นได้อิสระทั้งวัน!? เป็นความลับจากพ่อ!? ถ้าผมเป็นผู้ชนะละก็ จริงจังเลย ผมก็จะทำอะไรที่อยากทำกับหน้าอกคู่นั้นได้!?

 

”นายจ้องอะไรห๊ะ? นายจะชนะการประลองไม่ใช่หรอ?”

 

แล้วก็ดูจะอายนิดหน่อย ซาดีซก็ทำความสะอาดเสร็จ และก็กลับเข้าบ้าน

 

ทิ้งผมไว้อยู่หน้าบ้านคนเดียว…

 

”โอ้ โอ้… โอออออออออววววววววว้”

 

โคตรกระปรี่กระเปร่าเลยโว้ย! ผมไม่เคยคิดอะไรแบบนี้มาก่อน!?

 

ถ้าผมชนะ…ถ้าผมชนะอันดับ1 โอกาสในหน้าอกของซาดีซอยู่ที่ผมจะชนะหรือไม่แล้วหละ!?

 

อะไร?รักบริสุทธิ์? มันคืออะไร? ไม่รู้โว้ย! ความรักในหน้าอกยังไม่พออีกหรอ?

 

[…อะ เอ่อ…จากคำแนะนำดูท่ามันดีกว่าสำหรับนายที่จะคิดเรื่องชั่วๆ]

 

จอมมารพึมพำอย่างพอใจ แต่ผมไม่ได้สนมันเลย

 

”จอมมาร! ไม่…เทร ไอน่า! ผม…ผมจะชนะแต่ๆ! เพราะงั้นฝึกผมนะ! ผมจะทำตามที่นายบอก! เพราะงั้น…ได้โปรดน้า!”

 

[…………]

 

เพื่อที่จะแสดงมารยาทกับเทร ไอน่าที่ผมกำลังขอให้ฝึกผมจากนี้ ผมโค้งตัวลงเป็นครั้งแรกหลักจากประบท่าทางให้ถูกต้อง

 

ลูกชายของผู้กล้า ก้มหัวในจอมมาร ช่างประหลาดเสียจริง

 

นับจากนี้ พวกเราอยู่ในความสัแบบศิษย์-อาจารย์

 

และเทร ไอน่า ก็ถอนหายใจด้วยความกังวลเล็กน้อย…

 

[เจ้า เอ่อ อา มาเริ่มกันเถอะ! งั้นในอีก2เดือน เจ้าต้องชนะการประลอง และคนใกล้ตัวเจ้า!]

 

”โอ้ โอ้!”

 

ผมสาบานกับจิตวิญญาณของตัวเอง ว่าผมจะทำให้สำเร็จให้ได้ ต่อให้ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพันก็ยอม

 

 

 

 

หายไปนาน แต่อันนี้แปลไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนหาย ดังนั้นเลยอาจจะคนละภาษากับตอนต่อไปนะคับ555

Options

not work with dark mode
Reset