[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” 151 บทที่ 8 8

ตอนที่ 151 บทที่ 8 ตอนที่ 8

บทที่ 8 ตอนที่ 8

หลังจากทานอาหารเสร็จ โนโซมุและผองเพื่อนก็ถูกนำไปยังห้องที่เตรียมไว้หลังอาบน้ำ

 

มันเป็นห้องพักแขกนี่โนโซมุเคยมาค้างสมัยตอนช่วยโซเมีย และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีด้วยห้องที่สะอาดตา มีธีมสีขาวบริสุทธิ์

 

ในขณะนั้นโนโซมุนั่งลงบนเตียงที่เตรียมเอาไว้ หลับตาและหายใจเข้าลึกๆสงบสติอารมณ์ปล่อยออร่าตรวจจับออกไป

 

เวทวิญญาณที่โนโซมุได้ร่ำเรียนมาในตอนนี้เขาเริ่มจะทำความคุ้นเคยกับมัน

 

ซอนเน่บอกให้โนโซมุพัก แต่เขาเองก็ไม่ใช่พวกที่จะหลับง่ายๆถ้าไร้ซึ่งการฝึกเลย

 

 

 

「……อืม สุดท้ายแล้วถ้าจะอยากสัมผัสจริงๆก็ต้องปลดพันธการเท่านั้นงั้นเหรอ?」

 

 

 

โนโซมุนั่งสมาธิประมาณยี่สิบนาที แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาไม่ดีนัก

 

สัมผัสได้ถึงตัวตนของมาร์และคนอื่นๆที่อยู่ข้างๆเท่านั้น แต่ที่มากกว่านั้นคือสัมผัสได้ถึงนกที่เกาะอยู่บนต้นไม้ในสวน แต่สัมผัสถึงวิญญาณไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

 

อย่างที่ซอนเน่กล่าว พลังในการพันธนาการของผนึกวิญญาณมันรุนแรงมากจนสามารถตัดขาดโนโซมุจากโลกภายนอกได้

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมว่า ถ้าหากอยากสัมผัสวิญญาณจะต้องปลดปล่อยผนึกออก

 

แต่หากปลดผนึกออก ก็ทำให้เขาต้องควบคุมร่างกายที่รับภาระอย่างหนักเพราะควบคุมพลังไม่ได้

 

ในกรณีนั้น พยายามสัมผัสวิญญาณโดยไม่ปลดผนึก แต่ก็ไม่สามารถรับรู้อะไรได้จนได้แต่ถอนหายใจ

 

ในเวลานั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

 

 

 

「โนโซมุคุง ขอเวลาสักครู่ได้ไหมคะ?」

 

 

 

「เอ๊ะ? ซีน่างั้นเหรอ มีอะไรเหรอครับ?」

 

 

 

ได้ยินเสียงซีน่าผ่านประตู

 

มาหาตอนดึกแบบนี้มีอะไรกันแน่ เขาเปิดประตูและได้แต่ยืนงง เขาเห็นซีน่ายืนหน้าประตูก็อดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจ

 

ซีน่ายืนอยู่ในโถงทางเดินที่มีไฟสลัว พร้อมกับสวมชุดนอนที่มีโทนสีฟ้าอ่อน

 

แก้มของเธอย้อมเป็นสีแดง อาจจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมสีฟ้ายาวเรียบลื่นก็ดูชุ่มชื้น และกลิ่นหอมหวานก็โชยออกมาจากตัวของเธอ

 

และในขณะที่เธอกำลังจับแขนของเธอราวกับพยายามปิดบังเรือนร่างของเธอและมองไปมาด้วยความเขินอาย แต่การจ้องมองของเธอก็มองมาที่โนโซมุตาไม่กระพริบ

 

 

 

「พอดีมีเรื่องอยากจะคุยด้วยน่ะ ขอเข้าไปในห้องได้ไหมคะ?」

 

 

 

「อ่า เอ่อ ได้สิ」

 

 

 

แม้ว่าโนโซมุจะพูดอะไรไม่ออกกับคำขอกะทันหันของเธอ แต่เขาก็พาเธอเข้าห้องมา

 

ซีน่าเดินไปรอบๆห้องสักพัก จ้องมองไปในอากาศ จากนั้นก็นั่งลงตรงขอบเตียงข้างหน้าต่าง

 

โนโซมุขยับเก้าอี้ใกล้ๆเข้ามาใกล้เธอแล้วเขาก็นั่งลง

 

 

 

「โนโซมุคุง มาทางนี้สิ……」

 

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

 

ซีน่าตบเตียงที่ว่างอยู่ข้างๆเธอเพื่อกระตุ้นให้เขามานั่งข้างๆ

 

หลังจากกระพริบตาอยู่หลายครั้ง โนโซมุก็เข้าใจสิ่งที่ซีน่าพูดและเริ่มตื่นตระหนก

 

ขณะที่ซีน่าจ้องมองราวกับอ้อนวอน เขาก็ไปนั่งลงข้างๆซีน่า แม้ว่าตัวเองจะเขินอายก็ตาม

 

ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนแทบจะไม่มีเลย เรียกได้ว่าแทบจะตัวติดกันอยู่แล้ว

 

หัวใจของโนโซมุเต้นแรงเมื่อรู้สึกว่าซีน่าเข้ามาซบไหล่เขา และกลิ่นหอมหวานก็กระทบไปทั่วจมูกเขา

 

 

 

「แล้วมีธุระอะไรงั้นเหรอครับ?」

 

 

 

「โนโซมุคุงช่วงนี้นายได้ฝันแปลกๆบ้างไหม? โดยเฉพาะความฝันเกี่ยวกับมังกรดำนั่น」

 

 

 

สีหน้าของโนโซมุเปลี่ยนไปด้วยความตกใจ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง

 

 

 

「ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?」

 

 

 

「นี่……」

 

 

 

「นั่นมันคริสตัลของมิคาเอลไม่ใช่เหรอ?」

 

 

 

สิ่งที่ซีน่าหยิบออกมาคือคริสตัลที่มีต่างหูสีทองคำ มันเป็นคริสตัลวิญญาณของมิคาเอล

 

 

 

「อืม พอดีฉันได้ยินเรื่องราวส่วนใหญ่จากท่านซอนเน่แล้วน่ะ

 

ถึงตอนนี้ฉันจะมีมันแล้ว แต่ถ้าโนโซมุอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเทียแมตก็ควรจะเป็นคนถือเจ้าสิ่งนี้ไว้」

 

 

 

ซีน่ายื่นคริสตัลไปทางโนโซมุ

 

ตอนที่โนโซมุสัมผัสมิคาเอล หัวใจของเขาก็เต้นแรง แรงกระตุ้นที่จะบดขยี้คริสตัลในมือเพิ่มขึ้นเหมือนลาวาที่ปะทุออกมา

 

การแทรกแซงจากเทียแมตมันชัดเจนมาก โนโซมุหายใจเข้าลึกๆพยายามควบคุมการหายใจ จากนั้นก็เริ่มหายใจออกอย่างช้าๆ

 

เขาหายใจเข้าลึกๆหลายครั้งและในที่สุดก็กลับมาสงบลง ความเกลียดชังได้จางหายไป

 

 

 

「แล้วก็อีกอย่างหนึ่งคือโนโซมุคุงอยากจะใช้เวทวิญญาณใช่ไหมล่ะ?」

 

 

 

「ดังนั้นหากควบคุมพลังของเทียแมตได้……」

 

 

 

โนโซมุมองตรงไปยังซีน่าและจับหน้าอกที่ร้อนผ่าว

 

ไม่มีความสับสน ลังเล ในจิตใจและดวงตาของเขา เขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเทียแมต

 

 

 

「แม้ว่าจะกลายเป็นดราก้อนสเลเยอร์ แต่ก็แทบไม่มีโอกาสได้ใช้เวทวิญญาณเพราะตัวนายแทบจะไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดาในสภาพปกติ แต่สำหรับฉันแล้วก็รู้สึกถึงวิญญาณได้อยู่」

 

 

 

ซีน่าสูดหายใจเข้าลึกๆ

 

คืนแห่งความเงียบงัน ด้วยความมุ่งมั่นในสายตาของเธอ ซีน่าจึงพูดขึ้น

 

 

 

「ฉันจะชี้ทางสว่างให้กับโนโซมุคุงเอง」

 

 

 

ซีน่าคุกเข่าลงบนเตียงแล้วเดินไปรอบๆด้านหลังโนโซมุ

 

 

 

「ถอดเสื้อคลุมออกแล้วโชว์แผ่นหลังให้ฉันดูทีสิคะ」

 

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

 

โนโซมุอ้าปากค้างกับคำพูดของซีน่า

 

โนโซมุได้แต่สงสัยว่าเธอจะทำอะไร แต่เขารู้สึกว่าซีน่าเข้าใกล้ด้านหลังเขามากขึ้น และค่อยๆพับชายเสื้อผ้าของเขาขึ้น

 

 

 

「แบบนี้เหรอ?」

 

 

 

「ทั้งฉันกับนายต่างเชื่อมโยงกันด้วยพันธสัญญา หากพวกเราสองคนยิ่งมีความลึกซึ้งต่อกันและกันมากเท่าไร ก็อาจจะสามารถแบ่งปันความรู้สึกและรับรู้วิญญาณร่วมกันได้」

 

 

 

ซีน่าวางมือลงบนหลังของโนโซมุ ร่างกายของโนโซมุสั่นเทาขณะรู้สึกถึงความเย็น

 

คำพูดของซีน่านั้นก็เป็นไปได้ในทางทฤษฏีเวทวิญญาณวิธีการที่ดีที่สุดคือทั้งสองคนจะต้องใกล้ชิดกันมากๆ และเอลฟ์เป็นเผ่าเดียวที่สามารถสัมผัสถึงภูติได้

 

ปัญหาคือจะสามารถสร้างวงจรวิญญาณอันแข็งแกร่งโดยที่เขาไม่ต้องปลดพันธนาการได้รึเปล่า

 

 

 

「…………」

 

 

 

「อืม」

 

 

 

พลังเวทสีน้ำเงินไหลออกจากร่างของซีน่าและค่อยๆไหลผ่านมือที่สัมผัสตัวโนโซมุ

 

โนโซมุรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ไหลเข้าตัวเขา แต่เขามุ่งความสนใจไปที่การสัมผัสวิญญาณ

 

 

 

「……อะเร๊ะ?」

 

 

 

「……เอ่อ คือผมไม่รู้สึกอะไรเลยนะครับ」

 

 

 

โนโซมุส่ายหัว ราวกับว่าเขาสัมผัสอะไรไม่ได้เลย

 

ซีน่าปล่อยมือของเธอออกจากหลังโนโซมุและกอดอกราวกับคิด

 

 

 

「อืม “พันธนาการวิญญาณ”ทรงพลังเกินไปแล้วมั้ง……」

 

 

 

「งั้นจะยอมแพ้ดีไหม?」

 

 

 

ซีน่าส่ายหัวกับคำแนะนำของโนโซมุ

 

 

 

「ไม่ ถ้าฉันยอมแพ้และให้โนโซมุปลดปล่อยพันธนาการมันจะเป็นความโกลาหลครั้งใหญ่ เพราะฉะนั้นรอสักครู่……」

 

 

 

「? ซีน่า นี่เธอกำลังทำอะไรเนี่ย!?」

 

 

 

เมื่อโนโซมุหันกลับมา เขาเห็นซีน่าที่อยู่ในชุดนอนของเธอ เนินเขาอันเรียบง่ายแต่สวยงามได้รูป สว่างไสวด้วยแสงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่าง

 

นอกจากนี้ซีน่ายังเอานิ้วชี้ของมือซ้ายเข้าปากและกัดมันเข้าไป เลือดสีแดงเข้มหยดลงมาจากนิ้วของซีน่า

 

จากนั้นซีน่าก็จับมือซ้ายของโฯโซมุจากด้านหลังแล้วเอาหัวแม่มือเขาเข้าปากเธอและกัดลงไปในลักษณะเดียวกัน

 

เลือดไหลซึมจากนิ้วของโนโซมุ

 

ซีน่าวางนิ้วชีที่เปื้อนเลือดทับกับนิ้วหัวแม่มือของโนโซมุและเลื่อนมันไปในฝ่ามือของเธอจากนั้นก็โผกอดโนโซมุจากด้านหลัง

 

 

 

「…………」

 

 

 

「เอ๊ะ เอ๋ ทำบ้าอะไรของเธออยู่เนี่ย」

 

 

 

「อย่ามองมาที่ฉัน ตั้งสมาธิซะ」

 

 

 

「เอ่อ แต่ว่าาาาาาา……」

 

 

 

โนโซมุตัวสั่นจากการกระทำของซีน่า

 

ในทางกลับกันซีน่ายังคงแนบแน่นกับหลังของโนโซมุและไม่ขยับและจับมือที่ซ้อนกันไว้แน่น

 

 

 

「ตอนนี้ฉันกำลังเสริมพลังให้พันธสัญญาชั่วคราว ดังนั้นเงียบหน่อยได้ไหม ฉันเองก็เขินเป็นเหมือนกันนะ……」

 

 

 

ด้วยความที่เสียงของซีน่าดังขึ้นและสัมผัสอันนุ่มนิ่มบนแผ่นหลังของเขา โนโซมุเองก็เริ่มที่จะหน้าแดง

 

บนฝ่ามือที่ประสานกัน เลือดที่ไหลออกมาผสมหลอมรวมกัน

 

ความรู้สึกเหนียวๆของเลือดที่ละลายพร้อมกับบรรยากาศผิดศีลธรรมได้ทำให้สติของโนโซมุหลุดลอยไป

 

 

 

「ไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆเหรอครับ?」

 

 

 

「เอาจริงๆมันก็มีวิธีอื่นนะ แต่แบบนั้นฉันยังไม่เตรียมใจเลย จะทำงั้นเหรอ……」

 

 

 

ดูเหมือนว่าจะมีวิธีอื่น แต่มันคงน่าอายกว่านี้แน่ๆ

 

ร่างกายที่เย็นของซีน่าเริ่มร้อนขึ้นและมือของเธอก็กำแน่นมากขึ้น

 

โนโซมุดบิดตัวขณะที่อยู่ในสภาพที่น่าเขินอายเช่นนี้

 

 

 

「อะ อื้อ……」

 

 

 

「ตั้งสติและทำสมาธิให้ได้มากที่สุด หากมีอะไรมากวนใจ ฉันเองก็ไม่สามารถส่งสัมผัสที่รู้สึกได้หรอกนะ」

 

 

 

「อืม เข้าใจแล้ว……」

 

 

 

โนโซมุหายใจเข้าลึกๆหลับตาและพยายามทำใจให้สงบ

 

ในเวลาเดียวกัน โนโซมุก็รู้สึกเหมือนกับจมดิ่งไปกับตัวเอง แต่ตอนที่ความรู้สึกนั้นมาถึงจุดหนึ่ง ก็เปลี่ยนไป

 

ความรู้สึกหดหู่กลายเป็นความรู้สึกที่ร่าเริงและจิตสำนึกของเขาก็เริ่มขยายไปทั่วภายนอก

 

ในเวลาเดียวกัน เขาเริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งในจิตสำนึกที่ถูกขยายออกไป

 

การปรากฏตัวที่จู่ๆก็เพิ่มขึ้น มีสัตว์เล็กๆหลายตัวใต้ชายคาและมีนกที่กำลังหลับอยู่ทางต้นไม้ด้านนอก

 

รู้สึกได้ถึงสัญญาณของสิ่งมีชีวิตมากมาย แต่ว่ามีบางอย่างที่เขาสัมผัสได้มากขึ้นกว่าครั้งก่อน

 

บางอย่างเช่นเมฆหมอกที่ลอยไปอย่างเงียบๆ ในมุมหนึ่งของห้อง

 

 

 

「……อาาา」

 

 

 

「รู้สึกได้รึยัง?」

 

 

 

「อืมรู้สึกเหมือนมีบางอย่างอยู่ตรงนั้น……」

 

 

 

โนโซมุชี้ไปทางมุมห้องที่เขาสัมผัสได้ เมื่อเห็นสิ่งนั้นสีหน้าก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

 

 

「อืม วิญญาณแห่งความมืดกำลังเฝ้ามองเราอยู่ เพราะนายเป็นคนประหลาดยังไงล่ะ

 

 จากตรงนั้นมีวิญญาณแห่งแสงว่างที่ส่องแสงด้วยแสงจันทร์ วิญญาณแห่งสามลมที่กำลังพักผ่อนอยู่บนต้นไม้นอกหน้าต่าง พอจะสัมผัสได้ไหม?」

 

 

 

โนโซมุเริ่มตั้งสติอีกตรั้ง

 

จากนั้นก็รู้สึกถึงบางอย่างที่กระพือปีกในสวนอันหรูหรา สว่างไสวด้วยแสงจันทร์ และบางสิ่งที่วนเวียนรอบกิ่งก้านของต้นไม้ที่มีนกตัวเล็กๆอาศัยอยู่

 

 

 

「อืมมม…..พอสัมผัสได้แล้วล่ะ…แต่ไม่รู้ว่าพวกนั้นกำลังคิดอะไรอยู่……」

 

 

 

「อืม ถ้าให้เดานั่นคือขีดจำกัดของนายล่ะนะ……」

 

 

 

「อืม เพราะแบบนั้นผมเลยสัมผัสถึงวิญญาณได้มากขึ้น ถือเป็นความก้าวหน้าอย่างมากเลย ขอบคุณนะซีน่า」

 

 

 

「อืม ไม่เป็นไรหรอก」

 

 

 

ซีน่าลดสายตาลงด้วยความเสียใจ แต่ปากของเธอกลับผ่อนคลายเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น

 

ซีน่าถอนหายใจด้วยความโล่งอกและค่อยๆแยกตัวออกจากโนโซมุและจัดชุดนอนของเธอ

 

หลังจากที่ซีน่าจัดเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เธอก็แสดงสีหน้าลึกลับขณะจับหน้าอกของเธอที่สัมผัสโดนตัวโนโซมุด้วยมือทั้งสองข้าง

 

สีหน้าของโนโซมุตึงเครียดขึ้นหลังจากเห็นภาพตรงหน้าของซีน่า

 

 

 

「โนโซมุคุง ตอนนี้นายก็สามารถสัมผัสวิญญาณได้แล้วและมีท่านมิคาเอลอยู่เคียงข้างด้วย ฉันคิดว่าคงจะมีโอกาสอีกมายมายที่นายจะได้เห็นอดีตของเทียแมต」

 

 

 

「…………」

 

 

 

โนโซมุพยักหน้าตามคำพูดของซีน่า

 

การสัมผัสวิญญาณ การมีอยู่ของมิคาเอล ทั้งสองสิ่งเป็นตัวกระตุ้นเทียแมตและโนโซมุ ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อาจเนื่องจากผลของพิธีกรรมก่อนหน้านี้

 

ในขณะเดียวกันความเสี่ยงที่โนโซมุจะได้รับแรงกระตุ้นจากเทียแมตก็เพิ่มมากขึ้น

 

อันตรายนั้นฝังอยู่ในร่างกายของเขาอย่างไม่มีสิ้นสุด

 

 

 

「ได้โปรดทำตามที่ฉันแนะนำด้วยนะคะ นายจะเฝ้าดูความทรงจำในอดีตของเธอก็ได้ แต่อย่าได้ปล่อยให้ความทรงจำเหล่านั้นกลืนกินนาย นายจะต้องเป็นตัวของนายเองต่อไป……」

 

 

 

「อืม ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ขอบคุณมากนะซีน่า」

 

 

 

โนโซมุพยักหน้าอย่างหนักแน่นตอบรับคำขอของซีน่า ซีน่าก็ยิ้มในขณะที่ดวงตาซ่อนความมุ่งมั่นอันแรงกล้าเอาไว้

 

 

 

「ดีล่ะถ้าอย่างงั้น……」

 

 

 

ซีน่ารีบลุกขึ้นยืนและออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

 

หลังจากที่เห็นซีน่าออกจากห้อง โนโซมุก็ค่อยๆมองลงไปในฝ่ามือของเขา

 

เลือดที่ไหลออกมาแห้งและกลายเป็นของเหลวและเหนียว

 

ความคิดที่ว่าเลือดของซีน่าผสมลงไปในเลือดของโนโซมุทำให้ไม่สบายใจ

 

 

 

「อืม ออกไปเดินเล่นหน่อยดีกว่า……」

 

 

 

เพราะต้องสงบสติในหลายๆด้าน เมื่อคิดแบบนั้นเขาจึงลุกจากเตียงและยื่นมือไปยังประตูที่ซีน่าจากไป

 

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

 

หลังจากออกจากห้องของโนโซมุ ซีน่าก็เดินไปตามทางเดินสีขาว

 

เมื่อเธอมาถึงหน้าห้องเธอก็หายใจเข้าลึกๆ

 

สิ่งที่แพร่กระจายผ่านหน้าอกของซีน่าคือความสุขอันล้นเหลือ ความโล่งใจ และความรู้สึกผิดเล็กน้อย

 

ทำไมเธอถึงรู้สึกผิดงั้นเหรอ? อันที่จริงมีบางอย่างที่ซีน่าไม่ได้บอกโนโซมุในพิธีกรรมที่เธอทำก่อนหน้านี้

 

 

 

「นี่ฉันขี้ขลาดเกินไปสินะ……」

 

 

 

「ขี้ขลาดอะไรเหรอ?」

 

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

 

เมื่อซีน่าได้ยินสิ่งที่เธอพูดกับตัวเองและหันกลับมาก็พบมิมูรุในชุดนอนของเธอ กำลังถือหมอน

 

ซีน่าพยายามระงับอาการตื่นตระหนกของเธอ

 

 

 

「มะมะมิมูรุมีอะไรงั้นเหรอ?」

 

 

 

「อืม ก็ว่าจะมาเข้าห้องน้ำงะ……」

 

 

 

「ทั้งๆที่มีห้องน้ำในห้องเนี่ยนะ แล้วถือหมอนมาทำไม?」

 

 

 

「เอะเฮะเฮะเฮะ……」

 

 

 

มิมูรุยิ้มอย่างขมขื่นขณะที่ซ่อนหมอนไว้ด้านหลัง

 

เหมือนกำลังจะย่องไปที่ไหนสักแห่ง

 

 

 

「ซีน่าล่ะออกมาทำอะไรดึกดื่นป่านนี้? แล้วกลิ่นนี้มัน กลิ่นเลือดนี่?」

 

 

 

เมื่อเห็นมิมูรุทำด่าดมกลื่น ซีน่าจึงเอามือซ้ายไปไขว้หลัง

 

 

 

「เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก ฉันเองก็จะไปนอนแล้ว ดังนั้นราตรีสวัสดิ์」

 

 

 

「ดะเดี๋ยวก่อนสิ!」

 

 

 

ซีน่ารีบปิดประตูและเข้าไปในห้องนอนก่อนที่มิมูรุจะตามเข้ามา

 

เมื่อซีน่าปิดประตู เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

ชื่อของพิธีกรรมที่พวกเราทำลงไปคือพิธีกรรมพันธสัญญาโลหิต

 

มันเป็นพิธีกรรมทำพันธสัญญาทีทรงพลังที่สุดจนเทียบไม่ได้กับเวทพันธสัญญาทั่วไป

 

ผู้ที่มีสายสัมพันธ์นี้สามารถสัมผัสถึงตัวตนของอีกฝ่ายได้ ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลกันแค่ไหน โดยไม่ต้องใช้พลังเวท

 

แน่นอนว่าสัญญาที่ทรงพลังเช่นนี้ไม่ใช่พันธสัญญา “ชั่วคราว” มันเป็นพันธสัญญาที่ทรงพลังและจะคงอยู่ตลอดไปเว้นแต่อีกฝ่ายจะเสียชีวิต

 

นอกจากนี้การเชื่อมโยงวิญญาณยังมีความหมายพิเศษสำหรับเหล่าเอลฟ์

 

ซีน่าทำพิธีกรรมนี้โดยไม่บอกความหมายต่อโนโซมุ

 

นี่เป็นเพราะว่าเวทพันธสัญญาธรรมดาไม่เพียงจะกระชับความสัมพันธ์ทางวิญญาณของทั้งคู่ แถมตัวโนโซมุยังมีพันธนาการวิญญาณอีกด้วย

 

ไม่มีวิธีอื่นที่จะทำได้นอกจากพันธสัญญาโลหิตที่สามารถทำสัญญาที่ทรงพลังที่สุดได้

 

 

 

“ถ้าฉันบอกความหมายที่แท้จริงของพิธีกรรมนี้ให้เขาฟัง โนโซมุอาจจะรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองต้องทำและอาจจะต้องหาวิธีทางใดทางหนึ่งเพื่อระงับ”

 

 

ถ้าเป็นแบบนั้นโนโซมุคงจะปฏิเสธความรู้สึกของเธอที่มีให้แน่ๆเลยล่ะ

 

 

 

「ฉันเป็นเอลฟ์และเขาเป็นมนุษย์ การที่ได้ทำพันธสัญญาโลหิตโดยไม่บอกความหมายก็เพียงพอแล้ว……」

 

(TN:สำหรับพันธสัญญาโลหิตสำหรับเผ่าเอลฟ์แล้วก็คือการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตราบชั่วฟ้าดินสลาย)

 

ขณะที่เธอล้มตัวลงนอนบนเตียง ซีน่ามองดูมือซ้ายของเธอซึ่งซ้อนทับกับมือเขาก่อนหน้านี้

 

เลือดที่ไหลออกจากนิ้วชี้แห้งสนิทแล้ว

 

ขณะที่ค่อยๆเอาปากไปเลียแผล เธอก็โค้งหลังและนอนหลับไป

 

ลึกเข้าไปในอกของเธอ มีทั้งความสุขและความรู้สึกผิดที่ถูกล่ามเอาไว้ในเวลาเดียวกัน

 

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

 

โนโซมุกำลังเดินไปรอบๆคฤหาสนฟรานซิสเพื่อทำให้ใจสงบและสังเกตเห็นว่ามีไฟเปิดที่ห้องครัว

 

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็พบเมดคนหนึ่งกำลังหั่นส้มใส่จาน

 

มีน่าที่สังเกตเห็นโนโซมุจึงเงยหน้าขึ้นมอง

 

 

 

「ท่านโนโซมุมาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอคะ?」

 

 

 

「เอ่อ คือผมนอนไม่ค่อยหลับ ก็เลยออกมาเดินเล่นว่าแต่มีน่ากำลังทำอะไรอยู่เหรอครับ?」

 

 

 

「นายท่านและมาดามมาซาริเน็ตกำลังดื่มเหล้าอยู่ในห้องค่ะ ดังนั้นก็เลยเตรียมของล้างปากไว้ให้พวกเขาทั้งคู่」

 

 

 

มีน่ากลับมาทำอาหารอีกครั้ง คราวนี้วางชีสและเนื้อรมควันไว้บนขนมปังหั่นหนาๆ

 

มีน่าจดจ่ออยู่กับการทำอาหารมาสักพักแล้ว แต่ทันใดเธอก็มองไปที่โนโซมุราวกับนึกถึงบางอย่างออก

 

 

 

「ท่านโนโซมุ ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ แต่ถ้าไม่ว่าอะไรช่วยดิฉันยกอาหารไปห้องนายท่านได้ไหมคะ?」

 

 

 

มีจานสองจานพร้อมของว่างอยู่ แม่มันค่อนข้างใหญ่และใหญ่เท่าแขนโนโซมุ

 

ปริมาณอาหารเองก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล ผู้หญิงคนเดียวจะถือไปมันคงหนักน่าดู

 

 

 

「เข้าใจแล้วครับ ก็แค่ถืออาหารไปใช่ไหมครับ」

 

 

 

「ขอบคุณมากนะคะ ตอนนี้ดิฉันเตรียมอาหารเสร็จแล้วไปกันเถอะค่ะ」

 

 

 

ทั้งสองต่างถือจานและมุ่งหน้าไปยังห้องของวิคเตอร์

 

แขนของโนโซมุนั้นแข็งแรงมาก แม้จะถือในปริมาณมากก็ไม่ใช่ปัญหา

 

โนโซมุเหลือบมองมีน่าที่กำลังเดินอยู่ข้างๆ แต่เธอก็ถือได้ไม่มีปัญหาอะไร

 

ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงที่ห้อง

 

ก่อนหน้านี้โนโซมุโดนวิคเตอร์สอบถามซะอ่วม และการยืนอยู่ที่นี่ก็นึกถึงตอนที่เขาโดนทดสอบ

 

 

 

“อยากรู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ……”

 

 

 

เมื่อเขาโดนอาเซลเข้าจู่โจมก็ตระหนักได้ว่าเขาต้องแข็งแกร่งขึ้นและถ้าเขาปรับปรุงตัวเองไม่ได้เพื่อนของเขาก็จะตกอยู่ในอันตราย

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ต้องฝึกฝนและจิตวิญญาณของผมต้องก้าวหน้ามากขึ้นเพื่อใช้พลังวิญญาณได้มากขึ้น

 

ด้วยการสนับสนุนจากเพื่อนๆ เขาเพิ่งสามารถสัมผัสวิญญาณได้

 

ลึกๆในใจของเขา โนโซมุรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป

 

 

 

“แล้วก็เรื่องของไอริส……”

 

 

 

ความจริงที่ว่าผมสีดำเงางามของไอริสเปลี่ยนไปเป็นสีขาวเพราะความประมาทของโนโซมุ

 

วิคเตอร์ผู้รักลูกสาวมากกว่าใครๆ อดไม่ได้ที่จะโมโหกับรูปลักษณ์ของไอริส

 

โนโซมุคิดว่าเหตุผลที่เขาไม่ถูกตำหนิจนถึงตอนนี้ก็เพราะว่าไอริสและคนอื่นๆอยู่ที่นั่น

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้อยู่เคียงข้างโนโซมุในขณะนี้และหากพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับวิคเตอร์ พวกเขาอาจจะถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเลยก็ได้เพราะไปทำลูกสาวเขา

 

ในแง่หนึ่งโนโซมุตัดสินใจยอมรับผิด และเมื่อเขากำลังจะเปิดประตู

 

 

 

「ฮะ ฮื้ออออออออออออออออออ!」

 

 

 

เสียงทุ้มลึกและหยาบกระด้างดังก้องมาจากด้านหลังประตู

 

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

 

มือของโนโซมุที่กำลังจะเคาะหยุดกะทันหัน

 

 

 

「ท่านโนโซมุมีอะไรงั้นเหรอคะ?」

 

 

 

「เอ่อมีเสียงร้องไห้ดังออกมา……」

 

 

 

「ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ เข้าไปกันเถอะ」

 

 

 

มีน่าเคาะประตูและเปิดประตูเข้าไป

 

 

 

「ขอโทษที่ทำให้รอนะคะนายท่าน」

 

 

 

「โอ้ยินดีต้อนรับกลับนะมีน่า แหม เธอก็มาด้วยเหรอ?」

 

 

 

ณ ห้องของวิคเตอร์ที่มีแสงเทียนสว่างไสว

 

มาดามพัลรีนนั่งอยู่บนโซฟาของห้องถือแก้วไวน์ในมือ

 

แต่ว่าสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาคือขวดเหล้าหลายสิบขวดอยู่บนพื้นเช่นเดียวกับหนังสือและเฟอร์นิเจอร์ที่กระจัดกระจาย และเจ้าของห้องก็นั่งคุกเข่าต่อหน้ามาดามพัลรีน

 

มันช่างน่าเศร้าราวกับผ่านสมรภูมิ ท่ามกลางเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ สายตาของเธอหันไปมองกระจุกด้วยท่าทางอันสง่างามแปลกๆ มันทำให้รู้สึกแปลกมากยิ่งขึ้น

 

 

 

「เอาล่ะ ไม่ต้องเกรงใจมาดื่มด้วยกันสิ」

 

 

 

มาดามพัลรีนกวักมือเรียกโนโซมุราวกับจะเข้ามา เหงื่ออันไม่พึ่งประสงค์หยดลงบนหลังของโนโซมุ

 

สนับสนุนได้ที่ 097-005-6950 ภารดร บุญมา พร้อมเพย์//True Wallet

[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Score 10
Status: Completed
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

Options

not work with dark mode
Reset