[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” 149 บทที่ 8 6

ตอนที่ 149 บทที่ 8 ตอนที่ 6

บทที่ 8 ตอนที่ 6

แม้ว่าจะมีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นระหว่างทาง แต่พวกเขาก็มาถึงบ้านพักตระกูลฟรานซิสในเวลาไม่นาน

 

ทันทีที่ผ่านประตูคฤหาสน์และเปิดประตูหน้า ก็ต้องเห็นสีหน้าอันหดหู่ทันที

 

 

 

「มันหมายความว่ายังไงหะ ไม่ใช่ว่าพวกเราจะซ้อมกันแค่สองคนเหรอคะ……」

 

 

 

「อะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า……」

 

 

 

ไอริสพูดด้วยท่าทีไม่พอใจและโนโซมุก็หัวเราะแห้งๆ

 

ก่อนที่โนโซมุและไอริสจะจ้องมอง ณ ตรงนั้นมีพวกมาร์และคนอื่นๆอยู่ด้วยทั้งยังมี มีน่าและวิคเตอร์อยู่ข้างๆ

 

 

 

「เอ่อ ตอนแรกก็ตั้งใจจะไปซ้อมที่สถาบันแต่ทิม่าชวนข้าก็เลย……」

 

 

 

「ฉะฉันได้ยินมาว่าคฤหาสน์แห่งนี้กว้างขวางมากจากท่านวิคเตอร์ ดังนั้นก็เลยน่าจะใช้ฝึกซ้อมอะไรได้ตามสบายค่ะ……」

 

 

 

「ดูเหมือนว่าไม่เพียงแต่โนโซมุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมาร์คุงด้วยที่ไม่เคยเข้าร่วมเทศกาลปฐมนิเทศ ในกรณีนี้คงจะดีกว่าหากได้ฝึกกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ!」

 

 

 

「ขออภัยด้วยค่ะ คุณหนู ดูเหมือนว่านายท่านจะรู้ว่าคุณหนูจะฝึกกับท่านโนโซมุสองต่อสองก็เลย……」

 

 

 

มีน่าก้มศีรษะขอโทษขณะที่วิคเตอร์กระแอมไอเสียงดัง

 

เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นแผนของพ่อ พยายามเรียกเพื่อนๆมาเพื่อไม่ให้ไอริสได้อยู่กับโนโซมุสองต่อสอง

 

ไอริสกุมขมับของเธอเมื่อเห็นพ่อขัดขวางแผนการโดยไม่คาดคิดเช่นนี้

 

 

 

「เอ๊ะ นี่คือบ้านของไอริสงั้นเหรอ?ดูไม่หรูหราเท่าสถานที่จัดงานเลี้ยงเท่าไรเลยนะ ?」

 

 

 

「เอ๊ะคงจะดีใจที่พวกเรามารึเปล่านะ?」

 

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นลิซ่าและคามิลล่าเองก็ได้รับเชิญมาด้วยเช่นกัน

 

ลิซ่ามองไปรอบๆคฤหาสน์อันหรูหรา ขณะที่คามิลล่าเกาแก้มของเธอและขอโทษ

 

เบื้องหลังสาวๆวิคเตอร์ซึ่งได้วางแผนนี้เอาไว้ก็หัวเราะออกมา

 

 

 

「ทอมและคนอื่นๆจะมาฝึกเต้นด้วยไหม?」

 

 

 

「เอ่อคือตอนแรกก็อยู่ที่เวิร์คช็อปแต่มิมูรุลากผมมา……」

 

 

 

เมื่อโนโซมุถามสถานการณ์ ปรากฏว่ามิมูรุซึ่งได้รับคำเชิญจากวิคเตอร์ ได้พาทอมออกมาด้วย

 

ในขณะเดียวกันซีน่าที่อยู่คนเดียวห่างไกลจากความวุ่นวาย และครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งโดยเอามือปิดปาก

 

 

 

「ซีน่า……」

 

 

 

「ม่ายน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา……」

 

 

 

「เอ๊ะ เป็นอะไรไป? ท่าทางของเธอดูแปลกๆนะวันนี้……」

 

 

 

「ด้วยเหตุผลบางอย่าง เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เช้าแล้ว มันเหมือนกับว่าใจลอยอยู่ตลอดเวลาเลย……」

 

 

 

ตามที่ทอมบอก เธอจมปลักอยู่กับความคิดของเธอนับตั้งแต่เช้า และไม่ตอบโต้กับใคร

 

โนโซมุมองซีน่าด้วยท่าทางสงสัย แต่ก็เรียกเธออย่างไม่มั่นใจ

 

 

 

「อะ แฮ่ม ไม่เป็นอะไรนะครับ ซีน่า?」

 

 

 

「อุหวาหวาหวา เอ๊ะ!ทำไมโนโซมุคุงมาอยู่ที่นี่ล่ะ! มากกว่านั้นทำไมถึงมาอยู่ในบ้านของไอริสกันล่ะคะ!?」

 

 

 

「一เอ่อนี่ไม่ได้สังเกตรอบข้างเลยงั้นเหรอเนี่ย?」

 

 

 

ซีน่าที่เห็นหน้าโนโซมุก็หน้าแดงและเริ่มอยู่ไม่สุข

 

เมื่อเห็นเช่นนั้นโนโซมุก็สงสัยเข้าไปอีก

 

 

 

 

 

「เอ่อ ถ้าทำอะไรผิดไปผมขอโทษนะ?」

 

 

 

「มาในจังหวะแย่ๆซะได้……」

 

 

 

「เอ่อ ไม่เป็นไรหรอกฉันก็แค่เหม่อนิดหน่อย……」

 

 

 

ทอมและทิม่ามองไอริสพร้อมกับขอโทษพร้อมกับระงับอาการปวดหัวของเธอ

 

ในทางกลับกันทั้งสามคนที่ไม่แสดงท่าทีหงุดหงิดคือวิคเตอร์ มิมูรุ และ ฟีโอ

 

 

 

「นอกจากนี้เตรียมอาหารเย็นให้แล้ว และได้บอกให้เหล่าสาวๆเตรียมห้องไว้แล้วด้วย ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะต้องกลับบ้านค้างที่นี่ได้เลย ในฐานะหัวหน้าตระกูลฟรานซิส ข้าจะให้การต้อนรับอย่างดีเลย ฮะฮะฮะฮะ!」

 

 

 

「ว้าวววววววว โชคดีมากเลยนะฮะที่ได้มาอยู่ในคฤหาสน์แบบนี้ ท้ายที่สุดแล้วเพื่อนก็สำคัญสุดๆไปเลยเนอะ!」

 

 

 

「อาหารค่ำแสนหรูหราจงเจริญ สมกับที่เป็นหัวหน้าตระกูลลลลลลลลลลลลลล!」

 

 

 

「「「โอ้วววววววววววววววววว」」」

 

 

 

ไอริสกำหมัดแน่นขณะจ้องมองไปที่ทั้งสามคนที่เป็นตัวแสบ

 

ตอนนี้เธออยากเข้าไปซัดหน้าทั้งสามคนตรงหน้าด้วยความหงุดหงิด

 

ทันใดนั้นจู่ๆประตูหน้าคฤหาสน์ก็เปิดออกและมีหญิงวัยกลางคนออกมา

 

 

 

「วิคเตอร์ ทำไมทำเรื่องเสียมารยาทแบบนี้」

 

 

 

คนที่เข้ามาในคฤหาสน์คือผู้หญิงตัวท้วมๆ

 

เธอแต่งกายด้วยเสื้อโค้ดสีน้ำตาลเข้มที่ตัดเย็บมาอย่างดี และผ้าพันคอ เธอแสดงท่าทีอันสง่างามออกมา

 

 

 

「เอ๊ะ!?」

 

 

 

ผู้หญิงคนนั้นเหลือบมองวิคเตอร์ที่กำลังหัวเราะออกมาดังๆและถอนหายใจอย่างโกรธเคือง

 

ในทางกลับกันวิคเตอร์ที่เห็นเธอก็ตาเบิกกว้างและตกใจมาก

 

มันเป็นภาพที่แปลกตาสำหรับเขา ผู้ที่สงบและใจเย็นอยู่เสมอยกเว้นเรื่องลูกสาวของเขา

 

หญิงสาวคนนั้นเข้ามาในคฤหาสน์โดยไม่สนใจอะไรและคนที่เรียกเธอมานั้นก็คือมีน่า เมดของวิคเตอร์นั่นเอง

 

ในนามของนายท่านซึ่งตัวแข็งด้วยความตกใจ จู่ๆก็ต้องถามถึงผู้หญิงที่เข้ามาในคฤหาสน์

 

 

 

「มาดามมาซาริเน็ต・พัลรีนทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?」

 

 

 

 มาซาริเน็ต พัลรีน(マザリネット・パルライン。)

 

เช่นเดียวกับไอริสและวิคเตอร์ เป็นสมาชิกชนชั้นสูงของประเทศฟอร์ซิน่า และเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

 

 

 

「ก็มีแม่สาวตัวน้อยแสนน่ารักเรียฉันมานี่น่า บอกว่ามีงานเต้นรำที่ฉันจะพลาดไม่ได้」

 

 

 

หลังจากพูดแบบนั้นมาซาริเน็ตก็ยิ้มให้กับไอริส

 

 

 

「ไม่เจอกันนานเลยนะไอริสจัง โตขึ้นเป็นสาวสวยขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย?」

 

 

 

「ขอบคุณนะคะคุณพัลรีน ยังสวยเหมือนเคยเลยนะคะ……」

 

 

 

ไอริมหยิบกระโปรงของเธอขึ้นมาและยิ้มพร้อมกับถอนสายบัวให้กับเธอ

 

รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรัก แตกต่างจากรอยยิ้มที่เสแสร้งให้ชนชั้นสูงเพื่อหลีกเลี่ยงการเอารัดเอาเปรียบ ไอริสกับเธอนั้นค่อนข้างจะสนิทกัน แม้ว่าจะเป็นเหมือนเพื่อนกันก็ตาม

 

 

 

「ฉันเองก็ไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว โซมิเลียน่าเองก็โตขึ้นมากเลยนะ จะคอยเฝ้าดูอนาคตของหนูนะ」

 

 

 

「ขอบคุณคะ คุณพัลรีน!」

 

 

 

โซเมียตอบรับพร้อมกับโค้งคำนับอย่างสง่างามเช่นเดียวกับพี่สาวของเธอ และมาซาริเน็ตก็ยิ้มกว้างพร้อมกับลูบหัวโซเมีย

 

เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างจะสนิทกับโซเมียด้วย

 

จากนั้นเธอก็หันมามองโนโวมุที่อยู่ข้างๆไอริส

 

 

 

「เอ่อนี่น่ะเหรอเด็กที่ไอริสจังพูดถึง?」

 

 

 

「ค่ะ นี่คือเพื่อนของดิฉันเอง ชื่อ โนโซมุ เบลาตี้ ค่ะ」

 

 

 

「ยินดีที่ได้รู้จักครับ ไอริส คนนี้คือ……」

 

 

 

「เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นของท่านพ่อ เธอยังเป็นหนี้ฉันในแวดวงสังคมต่างๆในสมัยเด็กด้วย และเธอยังเป็นคนที่เปิดสอนเรื่องการเต้นและมีโรงละคร”วังกุหลาบแดง”เป็นของตัวเองอีกด้วย

 

เธอเป็นนักเต้นที่มีชื่อเสียงมาก และยังขึ้นแสดงในโรงละครที่เธอให้การดูแล หากต้องการเรียนเต้นรำที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นเธอคนนี้เลย」

 

 

 

มาดามพัลลีนเคยทำงานในฐานะนักธุรกิจหญิงในหมู่ชนชั้งสูงแต่เธอก็มีความเป็นเลิศทางศิลปะและสาขาที่เกี่ยวข้องกับศิลปะเป็นพิเศษ

 

เนื่องจากเธอเป็นอดีตนักเต้น แต่เธอก็ดูแลและบริหารโรงละครหลายแห่งทั่วประเทศ และโรงละครในฟอร์ซิน่าที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษในเรื่องขนาดและความสง่างาม เป็นที่นิยมในหมู่ขุนนางมาก มันถูกเรียกว่า “วังกุหลาบแดง”

 

นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงในการผลิตละครเวที และได้สร้างความประทับใจกับผู้คนมากมายด้วยผลงานที่ไม่เพียงแต่เย้ายวนใจเท่านั้น แต่ยังดึงเอาบุคลิกลักษณะเฉพาะของนักเต้นออกมาด้วย

 

เธอเป็นผู้หญิงที่สามารถเรียกได้ว่ามารดาแห่งศิลปะอย่างแท้จริง

 

 

 

 

 

「เช้านี้ได้รับจดหมายจากไอริสจังขอให้มาสอนเพื่อนของเธอในเรื่องพื้นฐานการเต้นรำ」

 

 

 

「ขอบคุณที่สละเวลางานอันแสนวุ่นวายมาด้วยนะคะเพื่อฟังคำขออันแสนหยาบคายและฉับพลันของฉันคนนี้」

 

 

 

「ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ฉันมาที่อัลคาซัมก็ได้สักระยะหนึ่งแล้วเพราะฉันมีงานที่ต้องทำ เลยไม่มีอะไรทำจนกว่าจะถึงงานปฐมนิเทศ นอกจากนี้ฉันยังอยากพบโนโซมุคุงที่มีข่าวลือหนาหูอีกด้วย」

 

 

 

「เอ๊ะ? ผมเหรอครับ?」

 

 

 

โนโซมุตกใจกับคำพูดของมาดามพัลรีนที่พูดถึงเขา

 

เดาว่าเขาคงไม่เข้าใจว่าทมำไมขุนนางที่สนิทกับตระกูลฟรานซิสถึงอยากพบคนสามัญชนเช่นเขา

 

รอยยิ้มของมาดามพัลรีนยิ้มมากขึ้นเมื่อเห็นตัวโนโซมุ

 

 

 

「อาาา นักเรียนที่อยู่ห้องท้ายตารางผู้ต่อสู้กับจิฮัด รันเดล ได้อย่างสูสี อยากจะเห็นการอาละวาดอันแสนเดือดดาลตอนนั้นอีกจังน่าเสียดายจริงๆ」

 

 

 

「เอ่อ จะเรียกว่าการต่อสู้ก็ไม่ถูกหรอกนะครับเพราะผมเป็นฝ่ายโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว……」

 

 

 

「มันผิดปกติเกินไปสำหรับคนธรรมดาสามัญชนที่ทำให้จิฮัดต้องหยิบ “เขี้ยวยักษ์”ออกมา แต่ว่าตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วดูเหมือนว่านายเองก็ “ไม่ธรรมดา”เหมือนกันนะ」

 

 

 

「เอะ เอ่ออ……」

 

 

 

มาดามพัลรีนมองดูโนโซมุพร้อมกับถอนหายใจ

 

โนโซมุอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเมื่อเห็นแววตาที่มองมาราวกับจะขำขันแต่เต็มไปด้วยความจริงจังในคำพูด เป็นเหมือนกับเด็กที่สนใจของเล่น

 

ในเวลาเดียวกัน โนโซมุสัมผัสได้ถึงการจ้องมองแปลกๆหลายครั้งที่มุ่งมาที่เขา มีสายตาจ้องมองเขาจากด้านนอกคฤหาสน์

 

น่าจะสองคน แต่ไม่ใช่ศัตรู

 

สายตาของโนโซมุหันไปนอกคฤหาสน์ชั่วครู่

 

มาดามพัลรีนที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็พยักหน้าอย่างแน่ใจและโบกมือราวกับจะบอกว่าพอแล้ว

 

ในเวลาเดียวกันสายตาเหล่านั้นก็หายไป เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังทดสอบโนโซมุ

 

ใบหน้าของโนโซมุบิดเบี้ยวด้วยความอึดอัดเล็กน้อย

 

บางทีคนที่กำลังมองอาจจะเป็นบอดี้การ์ดของเธอคนนี้และเหมือนว่ามาร์และคนอื่นๆจะไม่สังเกตเห็น มีเพียงเขาที่รู้สึกตัวแสดงว่าพวกนั้นต้องมีความสามารถ

 

เป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงจะระวังโนโซมุ เนื่องจากเธอไม่รู้จักเขาเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ไม่มีทางที่เขาจะสบายใจหากถูกจ้องมองจากรอบข้าง

 

ในทางกลับกันมาซาริเน็ตเหลือบมองคนอื่นๆที่ไม่สังเกตเห็นถึงตัวตนบอดี้การ์ดของเธอก็พยักหน้า

 

 

 

「เด็กหลายๆคนไม่รู้ตัวเลยเหรอเนี่ย แม้ว่าจะมีหลายคนที่ไม่อยู่ในแผนการสอนแต่อย่างน้อยฉันจะสอนมารยาทพื้นฐานในงานเต้นรำให้ก็แล้วกัน」

 

 

 

「เอ๊ะ? แน่ใจเหรอครับ?」

 

 

 

「ก็เป็นเพื่อนของไอริสจังนี่น่า ฉันไม่รังเกียจหรอกนะที่จะสอนเพื่อนๆของเธอ」

 

 

 

บทเรียนเต้นรำจึงเริ่มต้นขึ้นแต่มาดามพัลรีนก็เริ่มดุหลังจากเริ่มได้ไม่นาน

 

 

 

「โนว โนว  โนว โน่น โนวววว มือไปคนละทางละพ่อหนุ่ม เมื่อจะพยายามเป็นฝ่ายนำให้พยายามลดมือต่ำลงเพื่อเป็นการบอกจังหวะให้กับฝ่ายหญิงได้รู้ ถ้าผายมือขึ้นไปด้านบนมันจะเป็นการบอกอีกฝั่งว่า “ให้หมุนตัว” แทน!」

 

 

 

「ครับ!」

 

 

 

「ก้นใหญ่ๆของเธอก็ส่ายไปมามากเกินไปแล้ว การเต้นรำที่ดีจะต้องผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายไม่ใช่เกร็งจนก้นตึง ถ้าเธอทำแบบนั้นฝ่ายหญิงจะลำบากใจเพราะตัวเธอที่เอาแต่แข็งทื่อเหมือนเสาเหล็ก」

 

 

 

「โน่ว โน่ว โน่ว โน่วววววววว แบบนั้นมันใช้ไม่ได้……」

 

 

 

「อะ อื้ออออ~~」

 

 

 

「แม่สาวแมวป่าคนนั้นดึงฝ่ายชายมากเกินไปแล้ว เกาะติดกันแบบนั้นจะเต้นยังไง หากจะไปงานเลี้ยง อย่างน้อยก็รอให้โตเป็นสาวเต็มตัว ไม่ใช่ปล่อยสัตว์ป่าเข้าไปเดินในงานเลี้ยงเข้าใจไหม」

 

 

 

「ฮิี้!?」

 

 

 

「เฮ้อออ……」

 

 

 

ในอตนแรกวางแผนว่าจะช่วยฝึกโนโซมุ มาร์และทิม่า แต่มิมูรุขอร่วมด้วย โนโซมุนั้นมีปัญหาตั้งแต่การวางท่าทาง มาร์และทิม่าก็เขินกันไปมาจนแข็งเป็นเหมือนกับตุ๊กตาที่ขัดขากัน

 

ส่วนมิมูรุตัวดีเกาะติดทอมจนแทบจะเรียกว่าไม่ใช่การเต้นและพยายามยั่วฝ่ายตรงข้ามแทนที่จะเต้น ส่วนทอมก็ปล่อยให้มิมูรุเป็นฝ่ายนำเพราะความเขินอายต่อการยั่วยวนของมิมูรุ เรื่องนี้จึงจบลงด้วยผลลัพธ์อันแสนเศร้า เนื่องจากฝึกเต้นไม่ได้เลย

 

ในท้ายที่สุดโนโซมุและมาร์ก็ยอมแพ้ก่อนที่จะเริ่มเต้น แล้วต้องเรียนรู้มารยาทและการวางตัวต่อกุลสตรีที่ถูกต้อง เพราะทั้งคู่ต่างเขินฝ่ายหญิงมากเกินไป จนโดนสั่งให้เต้นตัวคนเดียว และคนอื่นๆก็คอยเปลี่ยนคู่ไปมา และท้ายที่สุดก็เต้นในคู่ที่ต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง

 

 

 

「ฝากตัวด้วยนะคะ ซีน่าจัง!」

 

 

 

「ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักลิซ่าจัง」

 

 

 

「ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันคามิลล่า」

 

 

 

「ฉันเต้นไม่ค่อยเก่งแต่จะพยายามให้ดีที่สุดนะ」

 

 

 

คู่ลิซ่าและซีน่า ทอมกับคามิลล่าสร้างบรรยากาศที่ค่อนข้างสงบ

 

ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งก่อน ซีน่าและลิซ่าค่อยๆสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรกันอย่างช้าโดยบางครั้งก็มาพูดคุยกันบ้าง

 

ทอมและคามิลล่าที่ไม่ค่อยได้คุยกันมากนัก แต่พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์กันตั้งแต่แรกเริ่ม และตราบใดที่คอยดูแลกันและกันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

 

 

 

「ทำไมทอมกับฉันต้องแยกกันงะ ! ไม่อยากจะเชื่อเลยทอมนอกใจฉัน!」

 

 

 

「เอ่อ พูดแบบนั้นผมเองก็ไม่สบายใจนะ」

 

 

 

「หงุดหงิด บ้าเอ้ยยย !」

 

 

 

「เฮ้อ พวกมือสมัครเล่นก็แบบนี้……」  

 

 

 

ในทางกลับกันมิมูรุไม่พอใจที่ถูกแยกจากคนรักของเธอ

 

ในกรณีของเธอปัญหาคือความรู้สึกหึงทอมนั้นรุนแรงเกินไปมากกว่าจะห่วงเรื่องเต้นซะอีก

 

มิมูรุไม่สนใจใครอื่นนอกจากทอม ดังนั้นแแม้ว่าเธอจะเข้าหาผู้ชายคนไหนเธอก็ผลักไสหมด

 

อย่างไรก็ตาม งานปาร์ตี้เป็นที่มากหน้าหลายตาและเป็นที่สร้างความสัมพันธ์ ดังนั้นจึงอาจจะได้เต้นกับชายอื่นก็ได้

 

มาดามพัลรีนจึงไม่มีเจตนาที่จะรับฟังคำพูดของมิมูรุ

 

 

 

「นี่มันเรื่องอะไรกัน บ่นกันมาสักพักแล้วนะ……」

 

 

 

「เอ่อ เพราะว่า……」

 

 

 

「ผู้ชายที่เธอตกหลุมรักสุดหัวใจกับผู้ชายไร้ค่าที่มาตกหลุมรักเธอเพียงแค่เห็นเธอไม่กี่วินาที หรือว่าเธอเองก็คิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอนั้นไร้ค่าเหมือนกัน?」

 

 

 

「ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย!」

 

 

 

「ถ้าอย่างนั้น หุบปากซะนังแมวเวรแล้วตั้งใจเรียน รูปลักษณ์จะเป็นตัวกำหนดเสน่ห์ของเธอ ไม่ว่าจะน่าอับอายและต้องทรมานแค่ไหน ก็อย่าได้เผยความในใจในงานเต้นรำเข้าใจไหม」

 

 

 

「อาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาโม่ววววววววววววววววว ก็ได้ ! เอาด้วยก็ได้!」

 

 

 

ในทางกลับกันมาดามพัลรีนยั่วมิมูรุโดยการใช้ทอมเป็นเหยื่อ เพราะแบบนั้นจึงติดกับได้ง่ายและเริ่มแสดงการเต้นรำอันแสนยอดเยี่ยมกับฟีโอ

 

ทั้งฟีโอและมิมูรุเป็นพวกเก่งโดยธรรมชาติ ฟีโอมีลักษณะปรับตัวเข้าขากับคู่หูได้อย่างดี เมื่อทุกอย่างเข้ากันได้ดี ทั้งสองก็แสดงออกมาได้อย่างราบรื่น

 

โนโซมุและคนอื่นๆต่างชื่นชมทักษะของมาดามพัลรีนในการควบคุมแม่สาวแมวป่า

 

 

 

「สุดยอด เอามิมูรุคนนั้นอยู่หมัดเลยอะ……」

 

 

 

「อึก แม้แต่พวกเรายังทำไม่ได้」

 

 

 

「นี่ ตั้งสมาธิกันหน่อย ! พวกเธอนี่มีปัญหามากที่สุดจนฉันไม่มีเวลาไปดูแลคนอื่นแล้วนะ」

 

 

 

「คะครับ!」

 

 

 

「เข้าใจแล้วววววววววววววว!」

 

 

 

「ถ้าอย่างนั้น ก็ให้ไอริสและโซเมียเต้นด้วยกัน……」

 

 

 

「วิคเตอร์อย่ามายุ่ง ออกไปให้ไกลเลย」

 

 

 

「โอ้ยยยยยยย ใจดำกับพ่อของลูกแบบนี้ได้ไง!」

 

 

 

จากนั้นเมื่อไอริสจะเต้นกับคนอื่นๆ ก็โดนพ่อตามรังควานแต่โดนมาดามพัลรีนใส่ยับ

 

เดิมทีเขาไม่ได้ถูกรับเชิญให้เข้าร่วมการซ้อมครั้งนี้ และเนื่องจากเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้มาดามพัลรีนเหนื่อยมากขึ้น จึงเป็นเรื่องปกติที่เธอจะใจร้ายใส่

 

 

 

「มาดาม ฉันนำเอกสารที่เหลืออยู่ในห้องมาแล้วค่ะ ยังไงพวกเราก็มาจบเรื่องกันตรงนี้เถอะ」

 

 

 

ผลก็คือวิคเตอร์โดนมีน่ายัดงานเอกสารให้ทำอยู่มุมห้อง

 

วิคเตอร์ที่โดนทิ้งจากกลุ่ม มองดูไอริสด้วยสายตาวิงวอน แต่เธอก็เบือนหน้าหนีและแลบลิ้นใส่

 

วิคเตอร์ที่โดนเมิน ตกใจมากราวกับโดนค้อนทุบหัวใจและเริ่มร้องไห้

 

 

 

「เอาล่ะ พี่คะมาเต้นด้วยกันไหมคะ!」

 

 

 

ในขณะเดียวกันไอริสที่ว่างอยู่ก็ถูกโซเมียชวนขอให้เป็นคู่เต้น

 

โซเมียยื่นมือออกมาหาพี่สาวของเธอด้วยดวงตาเป็นประกาย

 

 

 

「มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกนะคะ แต่ฉันคิดว่าเล่นบทเป็นผู้ชายให้ได้ค่ะ……」

 

 

 

ในกรณีนี้ไอริสรับบทเป็นผู้ชาย

 

เนื่องจากอัตราส่วนของชายและหญิงมีความห่างกันเล็กน้อย จึงจำเป็นต้องมีระดับความสูงในการเลือกคู่เต้น

 

จริงๆแล้วคู่ลิซ่าและซีน่าก็เต้นได้อย่างราบรื่นสลับกัน

 

ไอริสเองก็รับบทเป็นผู้ชายระหว่างซ้อมเต้น

 

นอกจากนี้ แม้แต่ในงานปาร์ตี้เล็กๆ ไม่เพียงแต่คนเพศตรงข้าม แต่เพศเดียวกันก็จะขอให้เต้นด้วย

 

ในกรณีนี้ โดยธรรมชาติตัวเธอจะเล่นบทเป็นฝ่ายชายและเป็นฝ่ายนำ เธอชินในการเล่นบทเป็นผู้ชาย

 

จากนั้นไอริสก็จับมือของโซเมียและพาเธอไปด้วยการเคลื่อนไหวอันเป็นธรรมชาติ

 

ขณะที่เดินตามโซเมีย ก็พากันเดินไปด้วยท่าทางอันสง่างามและเป็นธรรมชาติ

 

จากนั้น ขณะที่เธอวางมือบนสะโพกอีกฝ่ายเบาๆ เธอก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ

 

ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนออกมาสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

 

 

 

「พี่สาวเก่งมากเลยค่ะ!」

 

 

 

「โซเมีย ในฐานะที่พี่เป็นผู้หญิงพอมีฝ่ายหญิงมาบอกว่าเท่พี่คิดว่ามันไม่ค่อยน่าดีใจเท่าไรนะ……」

 

 

 

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเล่นบทบาทได้สมแค่ไหน แต่เรื่องที่เธอแสดงเป็นเพศตรงข้ามนั้นเธอก็ไม่ค่อยชอบนัก

 

เนื่องจากนิสัยตามธรรมชาติของไอริส ทำให้ดูดีไปหมด แม้ว่าจะรับบทเป็นผู้ชาย แต่ในฐานะที่ตัวเธอเป็นผู้หญิงก็อยากได้รับคำชมแบบผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย

 

เธอถอนหายใจขณะขยับร่างกายโดยดูการเคลื่อนไหวของโซเมียอย่างใกล้ชิด

 

ในเวลานั้นเสียงจิ้งหรีดใสๆก็ดังก้องในหูไอริส

 

ไอริสหันไปหาต้นเสียง กระดิ่งที่โนโซมุส่งให้โซเมียสำหรับวันเกิดของเธอนั้นส่องประกายอยู่บนมือขวาของเธอ

 

 

 

「โซเมีย เธอสวมสิ่งนั้นอยู่ตลอดเลยงั้นเหรอคะ」

 

 

 

「ค่ะ คุณโนโซมุเป็นคนให้หนูมา ดังนั้นมันคงน่าเสียดายถ้าหนูไม่สวมมันเอาไว้!」

 

 

 

โซเมียยิ้มสดใสราวกับพระอาทิตย์

 

กระดิ่งเรียบง่ายที่ดูไม่เหมาะกับหญิงสาวชนชั้นสูง

 

อย่างไรก็ตามนั่นคือของขวัญชิ้นแรกที่โซเมียได้รับจากชายที่เธอรักเหมือนพี่ชายและเป็นข้อพิสูจน์ว่าอนาคตที่เธอเคยจะถูกพรากไปมันยังคงอยู่

 

เมื่อเห็นรอยยิ้มของโซเมีย แก้มของไอริสก็ผ่อนคลาย

 

 

 

「งั้นเหรอ จริงๆแล้วเหมาะกับโซเมียมากเลยนะ」

 

 

 

「จริงเหรอคะ ขอบคุณนะคะพี่สาว!」

 

 

 

บางทีเพราะได้รับคำชมทำให้โซเมียยิ้มเปล่งประกายมากขึ้นกว่าเดิม

 

ยิ้มออกมา เธอดีใจราวกับจะกระโดด

 

ไอริสรู้สึกอิจฉาน้องสาวเธอเล็กน้อย แต่เธอก็ผ่อนคลายขณะมองดูโนโซมุที่โดนมาดามพัลรีนสอนอยู่

 

เช่ยเคย โนโซมุนั้นโดยมาดามดุและเรียนรู้เรื่องมารยาทมอย่างยากลำบาก

 

ตอนนี้จากตอนแรกที่เป็นเพียงแค่เสาเหล็ก ได้เลื่อนขั้นมาเป็นหุ่นยนต์เดินได้

 

น่าเสียดายที่เธอไม่ได้เต้นกับโนโซมุเพียงลำพัง แต่ไอริสคิดว่าคงไม่เป็นไร

 

อันที่จริง จุดนี้ ไอริสได้บรรลุวัตถุประสงค์ 80% ของการให้โนโซมุได้ฝึกขั้นต่ำแล้ว

 

จุดประสงค์ก็คือไม่ได้ให้บทเรียนเต้นรำอย่างเดียวแต่เรื่องมารยาทของโนโซมุด้วย

 

จดประสงค์อีกประการก็คือการพามาดามพัลรีนและโนโซมุมาเจอกัน

 

อิทธิพลของเลดี้พัลรีนซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะนักธุรกิจหญิง เป็นอันดับสองรองจากตระกูลฟรานซิสและเฟบูรันในฟอร์ซิน่า

 

แค่ได้ทำ “ความคุ้นเคย” ก็อาจจะเป็นอาวุธติดตัวให้กับเขา

 

 

 

(นี่คือทั้งหมดที่ฉันทำได้แล้วค่ะ……)

 

 

 

ไอริสที่ไม่สามารถใช้เวทย์วิญญาณได้ แทบจะไม่สามารถช่วยโนโซมุในการควบคุมพลังได้เลย

 

สิ่งที่เธอทำได้ก็คือการใช้คอนเนคชั่นทางสังคมช่วยยกระดับตัวตนของโนโซมุ

 

เดิมทีโนโซมุแทบไม่สุงสิงกับใครเลย ยกเว้นกับพวกไอริส เธอทำแบบนี้เพราะหวังว่ามันจะเป็นอาวุธติดตัวให้เขา

 

เรียกได้ว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จ

 

จากมุมมองของไอริส ความประทับใจที่มาดามพัลรีนได้พบกับโนโซมุนั้นสูงมาก

 

มาดามพัลรีนเป็นคนกล้าหาญ และเป็นคนเข้มแข็งที่ไม่กลัวที่จะขึ้นเป็นราชินีถ้ามันจำเป็น

 

จงภูมิใจและปฏิบัติตามตรรกะที่ถูกต้อง

 

สำหรับบางคน คำแนะนำของโนโซมุอาจดูเหมือนพวกระดับสูง

 

อย่างไรก็ตาม ภายใต้คำพูดเหล่านั้น ไอริสสัมผัสได้ว่าเธอกำลังคิดถึงการเติบโตของโนโซมุ

 

เหนือสิ่งอื่นใด มาดามพัลรีนกำลังฝึกสอนโนโซมุด้วยความสนุกสนาน แม้จะมองจากมุมไอริสก็ตาม

 

แน่นอนไอริสยิ้มอย่างมีความสุข

 

 

 

(โชคร้ายก็คือถ้าทุกอย่างยังเป็นแบบนี้อยู่ ก็ไม่สามารถฝึกตามลำพังได้……)

 

 

 

ไอริสยังคงนำน้องสาวเธอต่อไปโดยที่ดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน

 

เมื่อไอริสขอให้มาดามพัลรีนเต้นรำ เธอคิดว่าคงไม่มีเวลามากพอจะฝึกฝนตามลำพัง

 

ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากวิคเตอร์ทำสิ่งที่ไม่จำเป็น จำนวนผู้เข้าร่วมเลยมากขึ้น หากสิ่งนี้เกิดขึ้นก็ไม่มีทางได้อยู่กับเขาสองต่อสอง

 

 

 

(แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่ ฉันยังมีแผนลับหลังจากนี้ ดังนั้นฉันหวังว่าเราจะได้เต้นรำกันจริงๆในงานนะ?)

 

 

 

ความรู้สึกเสียใจยังคงอยู่ในอก แต่ว่าเมื่อคิดถึงการที่ได้เต้นกับโนโซมุ ความรู้สึกเหล่านั้นก็หายไป ทันใดนั้นก็เป็นความเร่าร้อนในการคาดหวังที่จะได้เต้นกับเขา

 

 

 

「โนโซมุ เป็นหนี้ดิฉันครั้งที่สองแล้วนะคะ ฮุฮุ อย่าลืมคืนด้วยนะคะ?」

 

 

 

ไอริสยิ้มให้กับคำพูดของตัวเองที่หลุดลอยออกมาอย่างเป็นธรรมชาติและรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เต้นรำกับคนที่เธอรักในอนาคต

 

วันนี้ได้เท่านี้

 

สนใจบริจาคค่าอาหารหมาแมวได้ที่ 097-005-6950 ภารดร บุญมา พร้อมเพย์/True wallet

[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Score 10
Status: Completed
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

Options

not work with dark mode
Reset