[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” 147 บทที่ 8 3

ตอนที่ 147 บทที่ 8 ตอนที่ 3

บทที่ 8 ตอนที่ 3

ซีน่านั่งอยู่บนโต๊ะในห้องของเธอ จ้องมองไปยังคริสตัลในมืออย่างตั้งใจ

 

แสงจากโคมไฟที่วางอยู่บนโต๊ะทำให้คริสตัลต่างหูทองคำส่องสว่าง

 

มิคาเอล วิญญาณมังกรขาวที่มายังดินแดนแห่งนี้เพื่อปิดผนึกเทียแมต

 

ซีน่าหลับตาและเริ่มส่งพลังเวทย์ของเธอเข้าสู่คริสตัล

 

 

 

「ได้โปรดตอบด้วยเถอะค่ะ คิดวางแผนจะทำอะไรกันแน่คะ……」

 

 

 

ซีน่าเชื่องโยงวิญญาณกับมิคาเอล

 

มิคาเอลยังไม่พูดอะไร เพียงส่องแสงออกมาอย่างเงียบๆ

 

ซีน่ายังคงเชื่อมต่อพลังเวทย์อยู่พักหนึ่ง

 

เหมือนเช่นเคย ดูแล้วมิคาเอลจะไม่ตอบสนองต่อซีน่า

 

เธอรู้สึกว่าพฤติกรรมของมิคาเอลแตกต่างเมื่อสองสัปดาห์ก่อน

 

ให้ความรู้สึกเหมือนระลอกบนผิวน้ำ

 

ดูเหมือนว่าจะมีลมเล็กๆพัดผ่านท่ามกลางความมืดไร้หุบเหว

 

 

 

「หรือว่ากำลังสับสนอยู่งั้นเหรอคะ?」

 

 

 

“…………”

 

 

 

ซีน่าพยายามทุกทางเพื่อคุยกับมิคาเอล ซีน่ายิ่งส่งพลังเวทย์มากขึ้นเรื่อยๆ

 

ก่อนที่วิญญาณของเธอจะเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับมิคาเอล มิมูรุก็เข้ามาจากด้านหลัง

 

 

 

「ซีน่า ทำอะไรอยู่เหรอออ!?」

 

 

 

「ว้ายยย!」

 

 

 

เธอตกใจในขณะที่เผลอทำมิคาเอลตก

 

คริสตัลที่เกือบจะกระแทกพื้น ซีน่าก็รีบไปจับมันไว้

 

โชคดีที่คริสตัลไม่กระแทกพื้นและถูกวางในมือของซีน่า

 

 

 

「มิมูรุ ยัยบ้านี่มันอันตรายนะ」

 

 

 

ซีน่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วหันไปมองมิมูรุด้วยความโกรธ

 

จากนั้นภาพของมิมูรุตรงหน้าทำให้ซีน่าเบิกตากว้าง

 

 

 

「อะไรน่ะชุดแบบนั้นแบบนั้น」

 

 

 

「หืมมม? ชุดชั้นในใหม่ไง เหมาะไหม?」

 

 

 

มิมูรุวางมือบนสะโพกและโพสต์ท่าเซ็กซี่

 

ชุดชั้นในที่เธอใส่มีเนื้อผ้าน้อยมากจนจะเรียกมันว่าชุดชั้นในได้รึเปล่า

 

หน้าอกและเป้า(จะใช้คำไหนดีอะส่วนล่าง เออนั่นละ)แทบไม่ถูกปกปิดเลย และดูเหมือนจะเปิดเผยส่วนที่ไม่ควรให้เห็น

 

เมื่อเห็นชุดอันโดนเด่นของเพื่อนสนิท ซีน่าก็ปวดหัวขมวดคิ้ว

 

 

 

「นี่มันไร้ยางอายมากกว่าจะเหมาะกับเธอนะ ทำไมถึงเลือกชุดชั้นในที่บางเหมือนกับเชือกแบบนั้น」

 

 

 

「ก็แบบว่าอยากใส่เอาใจทอมนี่! ถ้าเข้าหาเขาด้วยชุดแบบนี้ ทอมน่ะต้องมีอารมณ์แน่นวล!」

 

 

 

เห็นได้ชัดว่าเธอซื้อชุดชั้นในบ้านี่เพื่อทำให้ทอมหลงเสน่ห์ของเธอ

 

ซีน่ารู้สึกอายกับการที่เธอพูดอะไรแบบนั้นหน้าตาเฉย

 

 

 

「เมื่อดูจากบุคลิกของทอมแล้ว ฉันคิดว่าเขาน่าจะอายแทนเธอมากกว่านะ?」

 

 

 

「พูดอะไรน่ะ? เป็นผู้หญิงมันต้องกล้าได้กล้าเสีย! สมัยนี้ไม่ใช่ยุคที่ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเองก็คุมบังเหียนม้าพยศอย่างพวกผู้ชายได้เช่นกันนะ!」

 

 

 

มิมูรุพูดด้วยความภาคภูมิใจ แต่ซีน่าครุ่นคิดอย่างจริงจัง ไม่สามารถจินตนาการถึงความตื่นเต้นของทอมได้เลย

 

การที่มิมูรุสวมชุดชั้นในแบบเชือก ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้พลังทำลายของเธอลดลงเช่นกัน

 

แม้ว่าเธอจะรุกเข้าจะจับกดทอมทั้งๆที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน แต่ซีน่าไม่ก็ได้สนใจเรื่องนั้นแบบลึกซึ้งสักเท่าไหร่

 

 

 

「อืม หากเธอพยายามจะเข้าหาทอม พยายามอย่ารบกวนคนอื่นสิ」

 

 

 

ซีน่าถอนหายใจและปล่อยมิมูรุไว้ตามลำพังและพยายามพูดคุยกับมิคาเอลอีกครั้ง

 

ไม่มีการตอบกลับจากมิคาเอล แต่เธอยังคงเชื่อมต่อกับเขาต่อไป

 

ในทางกลับกันมิมูรุแสดงความไม่พอใจที่เพื่อนของเธอไม่สนใจเธอเลย

 

ชั่วครู่ต่อมา ก็มีร่างๆหนึ่งเข้าหาเธอจากด้านหลัง

 

 

 

「ถ้าซีน่าอยาก ก็น่าจะเคี้ยวโนโซมุได้ไม่ยากเลยนะ หึหึ มีหุ่นอันแสนเฟอร์เฟค ดังนั้น ควรจะคิดถึงวิธีใช้มันมัดใจคนที่เธอรักมากกว่านี้นะ」

 

 

 

「โอ๊ย ! พูดบ้าอะไรเนี่ย!」

 

 

 

มิมูรุกอดซีน่าจากด้านหลังสอดมือไว้ใต้รักแร้ของซีน่าดันหน้าอกของเธอขึ้นแล้วโอบรอบตัวเธอ

 

 

 

「เห็นม้า ถึงจะดูเรียบๆไปหน่อย แต่รูปทรงก็พอได้นะ ถือว่าเป็นโบนัส……」

 

 

 

「นะนะนะนะนี่ หยุดนะ!」

 

 

 

นอกจากนี้มิมูรุยังยื่นมือของเธอออกมาและจับหน้าอกของซีน่า

 

ร่างกายของซีน่าสั่นไหวราวกับมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน

 

 

 

「อืมการตอบสนองเองก็ยอดเยี่ยมไปเลย ถ้าชายใดได้ลิ้มลองจะต้องติดใจเป็นแน่แท้」

 

 

 

มิมูรุสอดมือเข้าไปในเสื้อของซีน่าและเริ่มสัมผัสกับตรงนั้นโดยตรง

 

 

 

「อะ อ้าาาาาาา ! แบบนี้ แย่แน่ อ๊าบงงงงงงงง……」

 

 

 

ตามที่คาดไว้ซีน่าเริ่มโมโหกับการเล่นของเธอ

 

เธอยกมือขึ้นพยายามจะสันขวานใส่มิมูรุแต่…

 

 

 

「ซีน่า ลองจินตนาการดูสิ ว่านี่คือมือของโนโซมุคุง หุหุ……」

 

 

 

「อ่ะ!」

 

 

 

ในขณะที่มิมูรุพึมพำชื่อของโนโซมุหูของซีน่าและร่างกายของเธอก็ถูกกระตุ้นราวกับถูกฟ้าผ่า

 

จากนั้น ชั่วครู่หนึ่ง ร่างกายของซีน่าก็เริ่มสูญเสียแรง หลังจากนั้นร่างกายของเธอก็แข็งทื่อเหมือนก้อนหินก่อนที่ตัวเธอจะค่อยๆสั่นเทาอย่างช้าๆและเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

 

มือของมิมูรุที่คลำหน้าอกของเธอ เริ่มรุนแรงขึ้นทำให้ซีน่าเกิดอารมณ์ขึ้นไปอีก ตอนนี้ซีน่าสั่นด้วยความเสียวมากกว่าความโกรธเสียแล้ว (TN:ทำไมมันดันมีฉาก 18+ ได้ฟะเนี่ย)

 

 

 

「แฮ่ก แฮ่ก! อร๊างงงงงงงงงงงงง~~~~~!」

 

 

 

ทุกครั้งที่มือของมิมูรุขยับ เสียงครวญครางที่ผิดปกติก็หลุดออกจากปากของซีน่า

 

หากมองใกล้ๆจะเห็นว่าหูของเอลฟ์ตนนี้ถูกย้อมเป็นสีแดงสด และกลิ่นอันแรงกล้าก็เริ่มโชยออกมาจากต้นคอสีขาวของเธอ

 

เธอรู้สึกมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด

 

แต่ว่าซีน่าก็พยายามกัดริมฝีปากของเธอและพยายามกลั้นเสียงอย่างสิ้นหวัง แม้ว่าจะสับสนกับความสุขอันล้นเหลือกับความอับอายที่เหลือล้นซึ่งแสดงออกมาจากร่างกายก็ตาม

 

 

 

「หวาาา แม่เอลฟ์คนนี้น่ารักฝุดๆ……」

 

 

 

ตอนแรกก็แค่ล้อเล่น พอผ่านไปสักพักสวิตซ์แปลกๆในตัวมิมูรุก็เริ่มเดิน

 

ตอนที่มิมูรุตื่นเต้นและคิดว่าจะเล่นกับซีน่าจนเอาให้เธอหมดแรงล้มพับไปเลย กระจกหน้าต่างก็เปิดออก

 

 

 

「ขออภัยที่มายามดึกนะ แม่สาวน้อย กรุณาคุยกับข้า โอ้ว แม่นางนวลขอโทษที่มาขัดจังหวะ!」

 

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

 

คนที่มาจากนอกหน้าต่างคือซอนเน่

 

ทั้งแม่สาวแมวป่ากับตาแก่ต่างคนต่างพูดไม่ออก เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

 

จากภายนอก ซีน่าและมิมูรุกำลังกลายเป็นคู่ลิลลี่ที่เบ่งบานกันอยู่นั้น ซอนเน่ก็เป็นตาแก่น่าสงสัยที่บุกเข้าหอพักหญิงอย่างผิดกฏ

 

หลังจากช่วงเวลาแห่งความเงียบผ่านไประหว่างทั้งสอง

 

 

 

「เยี่ยม~~ฟุดๆ ตาแก่คนนี้ถูกใจ!!」

 

 

 

「เตรียมตัวตายเหอะมึง!」

 

 

 

「อะจ๊ากกกกกกกกกกกกกก!」

 

 

 

ราวกับตอบโต้โดยธรรมชาติ มิมูรุที่ยังสวมชุดชั้นในแบบเชือกกระโดดเข้าหาซอนเน่ด้วยกำปั้นของเธอและคว้าซอนเน่มากระทืบในห้อง

 

ร่างกายของซอนเน่ทรุดตัวมาข้างหน้า ปีนข้ามกรอบหน้าต่างและล้มลงกับพื้นเหมือนกับศพ

 

 

 

「ถามจริงๆ ตาแก่บ้ากามมึงเป็นบ้าอะไรบุกเข้าห้องผู้หญิงตอนกลางคืนหาาาาาาาาา……」

 

 

 

มิมูรุโกรธมากที่ถูกขังจังหวะนัว แต่ว่าเสื้อผ้าที่เธอใส่มันก็ไปเร้าอารมณ์ฝ่ายตรงข้ามอีก

 

นอกจากนี้ตัวเธอที่กำลังอยู่ในลิลลี่โหมดด้วยอารมณ์สุขสันต์กลับมีพลังล้นเหลือ

 

 

 

「ซีน่า ความชั่วร้ายถูกกำจัดแล้ว หือ? ทำไมเธอถึงกำหมัดแบบนั้นล่ะ?」

 

 

 

และแน่นอนว่าความผิดก็เป็นของมิมูรุเช่นกัน

 

มือของซีน่าชวนให้นึกถึงหมัดพิฆาตหมีถูกปล่อยออกมาอย่างสุดแรงโดยไม่คิดว่าจะมาจากร่างผอมเพรียวนั่น

 

 

 

「มิมูรุเธอเนี่ยน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!」

 

 

 

「ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!」

 

 

 

มือของซีน่าจับแก้มของมิมูรุและดึงแก้มของเธอไม่หยุดหลังจากโดนหยิกแก้มไม่พอ ซีน่ายังแถมหมัดให้อีกสามหมัดก่อนที่จะใช้ส้นเท้าอีกสองสามทีและขว้างเธอลงจากหอพัก

 

หลังจากขว้างมิมูรุออกไปนอกหน้าต่าง ซีน่าก็ปิดหน้าต่างที่เปิดอยู่พร้อมปิดผ้าม่านด้วยเสียงอันแรง

 

เธอหายใจเข้าออกอย่างรวดเร็วขณะมองดูซอนเน่ที่เกือบตาบอดเพราะรอยข่วนของมิมูรุ

 

 

 

「แล้วมีเรื่องอะไรถึงได้มาตอนนี้ ถ้าตอบไม่ดี ศพไม่สวยแน่ไอ้แก่?」

 

 

 

「มะมะมะไม่ได้มาเพราะเรื่องแบบนั้นนะแม่หนูเอลฟ์ ข้ามีเรื่องบางอย่างต้องคุยกับมิคาเอล……」

 

 

 

เมื่อซอนเน่เงยหน้าขึ้นมองซีน่าที่พร้อมจะซ้ำเติมได้ทุกเมื่อ

 

ลึกลงไปในดวงตาของเธอเย็นชาเหมือนกับหุบเขาเเยือกแข็ง มีความโกรธในระดับที่อบิสยังต้องวิ่งหนี

 

 

 

「ถ้าจะคุยมันตอนไหนก็ได้ไม่ใช่เวลากลางดึกแบบนี้ แสดงว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากๆใช่ไหม ถ้าไม่ใช่รอกินข้าวผ่านธูปได้เลย?」

 

 

 

「อะ อืม……」

 

 

 

「เข้าใจแล้ว ถ้างั้นจะเตรียมชาให้ นั่งรอแปปนึง」

 

 

 

ซีน่าพลิกส้นเท้าและเริ่มเตรียมชา

 

แผ่นหลังของเธอปล่อยแรงกดดันมหาศาลราวกับบอกว่า “อย่าได้คิดจะถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้เป็นอันขาด”

 

ตามที่คาดไว้ ซอนเน่ไม่มีความกล้าที่จะยุ่งกับซีน่าโหมดเบอร์เซิร์ก เขาจึงนั่งบนเก้าอี้ใกล้ๆและรอเธอชงชาเสร็จ

 

ไม่กี่วินาทีต่อมา ซอนเน่ค่อยๆจิบชาที่นำมาเสิร์ฟและเริ่มอธิบายสั้นๆ

 

 

 

「ช่วยปล่อยให้มิคาเอลมาอยู่กับพ่อหนุ่มนั่นสักพักได้ไหม?」

 

 

 

「ให้ไปอยู่กับโนโซมุคุงเหรอ?」

 

 

 

โนโซมุและมิคาเอล ซีน่าสงสัยเมื่อชื่อของพวกเขาทั้งสองปรากฏขึ้นมา

 

 

 

「ตอนนี้พ่อหนุ่มนั่นปรับตัวเข้ากับเทียแมตได้ทีละน้อย แล้วค่อยๆเริ่มมองเห็นอดีตของเธอ

 

ดูเหมือนว่าเขาจะอยากรู้เกี่ยวกับอดีตของเทียแมตด้วย ข้าเองก็เล่าได้ไม่มาก แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้าได้ฟังจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์โดยตรง……」

 

 

 

ดูเหมือนว่าซอนเน่จะคิดให้มิคาเอลเล่าเรื่องตัวเองกับเทียแมตให้เขาฟังโดยตรง

 

หลังจากได้ยินคำพูดของซอนเน่ สีหน้าของซีน่าก็ขุ่นมัวเล็กน้อย

 

 

 

「แต่ว่าเขาไม่พูดอะไรเลยนี่สิ……」

 

 

 

「งั้นเหรอ……」

 

 

 

มิคาเอลยังคงเงียบมาตลอด

 

เมื่อซอนเน่ได้ยินดังนั้น เขาก็ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง

 

 

 

「ตอนนี้พอเห็นเจ้าเด็กนั่นพยายามเอาชนะความเกลียดชังและความโกรธทั้งหลาย คิดว่าสิ่งต่างๆจะเปลี่ยนไปแล้วซะอีก……」

 

 

 

เพื่อจะรับผิดชอบต่อการกระทำของอาเซลและปิดผนึกเทียแมต มิคาเอล จึงอยู่กับโนโซมุและคนอื่นๆ

 

อย่างไรก็ตามซอนเน่อาจหวังว่าเมื่อได้เห็นการกระทำในปัจจุบันของโนโซมุและคนอื่นๆ มิคาเอลผูกพันกับความสิ้นหวังและการจะปิดชีวิต เปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

 

 

「อย่างไรก็ตาม ฉันรู้สึกว่าท่านมิคาเอลดูเหมือนจะสับสนเล็กน้อยนะ……」

 

 

 

「งั้นเหรอ……」

 

 

 

ซอนเน่ยิ้มพร้อมกับมีความสุขกับเศร้าปนกัน

 

สำหรับซีน่าใบหน้านั้นดูอ่อนโยนกว่าที่ผ่านมา

 

 

 

「โนโซมุคุง การฝึกของคุณไม่คืบหน้าไปบ้างเหรอ?」

 

 

 

คราวนี้ซีน่าถามคำถามกับตาแก่ เนื้อหาถึงความคืบหน้าในการฝึกของโนโซมุ

 

เธอกังวลเกี่ยวกับโนโซมุที่เหนื่อยล้าหลังจากฝึกอย่างเห็นได้ชัด

 

 

 

「การฝึกฝนไปได้ไม่สวยนัก แต่ก็ไม่ได้แย่ ปัญหาคือความอดทนของเจ้าหนุ่มนั่น พวกเธอเองก็ควรจะรู้ๆไว้นะ?」

 

 

 

การฝึกฝนอันหนักหน่วงส่งผลกระทบทางจิตใจ เมื่อรู้เหตุผลแล้ว ซีน่าก็พยักหน้าตามคำพูดของซอนเน่

 

 

 

「พลังของมังกรคือพลังวิญญาณ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพ่อหนุ่มจะเป็นดราก้อนสเลเยอร์ไปแล้ว แต่ก็ไม่มีวี่แววถึงกับสัมผัสได้ถึงวิญญาณ และยังคงความเป็นมนุษย์ทั่วไป

 

 แม้แต่คนที่มีความสามารถเหนือธรรมชาติก็ไม่สามารถพูดได้ว่าควบคุมได้สมบูรณ์แบบ แม้ว่าจะสามารถคุมมันได้ แต่ก็ไม่น่าจะทนได้」

 

 

 

ดราก้อนสเลเยอร์จะดูดซับวิญญาณของมังกรเข้ามาในร่างและสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้ แม้ว่าจะต่างกันไปในแต่ละระดับก็ตาม

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโนโซมุจะเป็น แต่เขาก็ยังคงเป็นมนุษย์ตลอด

 

ไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นการประสบสอพลอที่เขาควบคุมพลังตัวเองได้และผนึกเทียแมตได้ แต่เขาไม่สามารถควบคุมตอนปลดผนึกได้

 

ความสามารถและเวทย์วิญญาณ ไม่สามารถเรียนรู้ได้ในชั่วข้ามคืน

 

ซีน่าเข้าใจดีว่าโนโซมุกังวลอะไร จึงต้องทำอะไรสักอย่าง

 

 

 

「ปัญหาทั้งสองประการคือการควบคุมความสามารถเหนือธรรมชาติและไม่สามารถสัมผัสวิญญาณได้?」

 

 

 

「หากข้อใดข้อหนึ่งสามารถแก้ไขได้ ก็อาจจะส่งผลต่อการก้าวหน้าของเขา……」

 

 

 

หลังจากได้ยินคำพูดของซอนเน่ ซีน่าก็เอามือปิดปากราวกับกำลังคิด

 

ในฐานะมนุษย์โนโซมุมีปัญหาในการรับรู้พลังวิญญาณที่อยู่รอบตัวเขา เขาได้ใช้พลังของเทียแมตที่ดูดซับเอาไว้

 

ในความเป็นจริง ซีน่าเคยเห็นโนโซมุใช้องค์ประกอบของธาตุทั้งห้าของโนโซมุหลายครั้ง

 

หากเป็นเช่นนั้น จะเห็นได้อย่างเป็นธรรมชาติว่าโนโซมุขาดอะไรไปบ้าง

 

 

 

「ถ้าทำอย่างนั้นโนโซมุคุงก็คง……」

 

 

 

แม้ว่าเธอจะสับสนเล็กน้อย แต่ซีน่ายังคงก้าวต่อไป

 

ซอนเน่เฝ้าดูสถานการณ์อย่างเงียบๆ

 

 

 

「……เข้าใจแล้ว ฝากเรื่องเวทย์วิญญาณไว้ให้ฉันได้ไหม?」

 

 

 

「อืมดูเหมือนจะมีอะไรในใจสินะ ข้าเดาได้ว่าพยายามจะทำอะไร แต่คิดว่าเธอคงจะเหมาะกว่าข้าแน่นอน ขอบคุณที่ช่วยเหลือข้า」

 

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของซีน่า ซอนเน่ก็หรี่ตาลงครู่หนึ่ง แต่แล้วใบหน้าของเขาก็เครียดราวกับนึกถึงบางสิ่ง

 

เช่นเดียวกันนั้น เปิดหน้าต่างแล้ววางเท้าไว้บนขอบ

 

 

 

「อ่า เรื่องมิคาเอล……」

 

 

 

「ถ้างั้นข้าจะฝากเจ้าเอาไว้

 

 พรุ่งนี้ข้าจะเลือกฝึกเจ้าหนุ่มนั่น ดังนั้นหากวางแผนจะทำอะไรกับพ่อหนุ่มนั่น ก็ควรทำซะ」

 

 

 

.ในขณะนั้น ด้วยเหตุผลบางอย่าง ก็มีหน้าแดงปรากฏบนแก้มของซีน่า

 

ซอนเน่ยิ้มให้กับท่าทางของซีน่า

 

 

 

「บางทีเจ้ากำลังจะคิดทำเรื่องแบบนั้นงั้นเหรอ……」

 

 

 

「อะเอ่อ ก็มันไม่มีทางเลือกนี่น่า……」

 

 

 

เมื่อซอนเน่หันกลับมา ซีน่าพึมพำกับตัวเองและเอามือกอดอกปิดปาก

 

คิดบ้าอะไรกันเนี่ย

 

ขณะที่เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แก้มของเธอก็แดงยิ่งขึ้นกว่าตอนที่มิมูรุแกล้งเธออีก ทำให้เธอเหมือนกับหมึกต้มเลย

 

 

 

「เฮ้อ ข้าล่ะอิจฉาคนหนุ่มสาวจริงๆ」

 

 

 

ซอนเน่หยักไหล่กับซีน่าที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งความรักและไม่สังเกตเห็นถึงอะไรอีกแล้ว

 

สิ่งที่เหลืออยู่คือแม่สาวเอลฟ์ตัวน้อยกำลังบิดตัวไปมาด้วยความเคอะเขินกับความคิดสุดฟุ้งซ่านของตัวเอง

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแม่สาวแมวป่านั่นจะถูกโยนไปนอกหอพักเธอก็หมดสติอยู่ตรงนั้นจนถึงเช้า แต่นั่นก็ช่างมันเถอะ

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

 

เขตบริหารที่จัดตั้งขึ้นทางตอนเหนือของอัลคาร์ซัม

 

ภายในห้องพิเศษสำหรับ VIP จากหลายประเทศเต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึมราวกับก้นหนองน้ำ

 

ไม่มีวี่แววของใครเลยในสถานที่แห่งนี้ซึ่งอยู่กลางค่ำคืนอันมืดมิด

 

ในความมืดนั้น คนสองคนกำลังเผชิญหน้ากัน

 

 

 

「ถ้างั้นตัดสินใจเรื่อง”หัวหน้า”ได้รึยัง?」

 

 

 

「ใช่ ตอนนี้เรารู้รายละเอียดของการ “ประกายแสง”ที่ครอบครัวฟรานซิสกำลังเจอ

 

“แสงดาว”ของเราอยู่ในจุดอ่อนตั้งแต่กองกำลังของเราถูกบดขยี้ แต่ตอนนี้ได้รวบรวมข้อมูลมาแล้ว ก็ถึงเวลาเคลื่อนไหวแล้วค่ะ」  

 

 

 

เม็กเรียคุยกับอีกาซากศพ

 

การผสมผสานระหว่างความงามอันน่าหลงใหลและชายร่างผอมที่มีกลิ่นแห่งความน่าขนลุกที่โดนเด่นแม้ในความมืดมิดของราตรี

 

 

 

「นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาใช้ญาติเพื่อส่งจดหมายถึง “ประเทศนั้น” ดังนั้นมันเลยสำคัญ เป็นสิ่งสำคัญที่หัวหน้าตระกูลควรรู้?」

 

 

 

「ไม่สำคัญจริงๆเหรอ หากเขาสามารถทำให้หัวหน้าตระกูลฟรานซิสต้องตกระกำลำบากได้ ก็คงจะเล่าเรื่องราวนี้ต่อไปแม้ว่าเขาจะไม่พอใจก็ตาม」

 

 

 

「ดูเหมือนว่าหัวหน้าตระกูลจะเกลียดตาแก่นั่นมากมายเลยล่ะ เพราะเหมือนจะถูกพรากคนรักไป แล้ววางแผนที่จะทำลายฐานที่มั่นของศัตรูยังไงล่ะ?」

 

 

 

ด้วยรอยยิ้มอันไม่พึงประสงค์บนใบหน้าของเขา

 

 

 

「สำหรับตอนนี้จะให้ลงมือคนเดียวก่อนค่ะ」

 

 

 

「หา? แบบนั้นไม่ประมาทเกินไปงั้นเหรอ?」

 

 

 

「ไม่มีทางที่วิคเตอร์จะไม่ใช้มาตรการใดๆหากใช้ไพ่หมดมือก็แย่เอาสิคะ」

 

 

 

แม้ว่าเขาจะบอกว่าลงมือ แต่เม็กเลียก็คิดว่าให้ลงมืออย่างระมัดระวัง

 

นั่นเป็นเพียงเพราะเธอรับรู้ว่าวิคเตอร์เป็นภัยคุกคามที่ชัดเจน

 

เขามีแนวโน้มที่จะเป็นเป้าหมายที่ลอบฆ่าได้ยาก และมีทักษะสูงเพราะเป็นถึงผู้ก่อตั้งสถาบันโซลมินาติ

 

 

 

「ยิ่งกว่านั้น “เขา” เป็นยังไงบ้างคะ?」

 

 

 

จากนั้นก็เปลี่ยนไปยังหัวข้อที่วิคเตอร์กำลังสนใจชายหนุ่มคนหนึ่ง

 

โนโซมุ เบลาตี้

 

นักดาบที่ได้รับความสนใจจากทั้งโลกเนื่องจากสามารถต่อสู้ได้อย่างสูสีกับจิฮัด รันเดล ที่ลานประลอง

 

สิ่งที่น่าจับผิดไม่ได้มีแค่นั้น เกี่ยวกับชายหนุ่มคนนั้นเขาเป็น “ดราก้อน สเลเยอร์” คนแรกที่ปรากฏในรอบหลายร้อยปี

 

 

 

「เหมือนเช่นเคย ก็อยู่ในป่ากับมังกรเฒ่ามาหลายวันแล้ว เป็นการยากที่จะจับตาดูนานๆเพราะมีตาแก่นั่นอยู่ใกล้ๆนี่ล่ะ~」

 

 

 

หลังจากพบว่าเป็น ดราก้อน สเลเยอร์ เม็กเลียจึงสั่งให้อีกาซากศพติดตามโนโซมุ

 

 

 

「เมื่อเร็วๆนี้เขาน่าทึ่งมาก ระยะเวลาในการควบคุมพลังเพิ่มขึ้นถึงสิบวินาที ยิ่งกว่านั้นเขาดูไม่พอใจกับมันเท่าไรนัก บางทีอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น……」

 

 

 

ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า โนโซมุที่ถูกสอนโดยมังกรเฒ่า

 

เมื่อเห็นรอยยิ้มอันแสนสนุกสนานของอีกาซากศพ เม็กเลียก็เบิกตากว้าง

 

 

 

「ดูเหมือนจะสนใจน่าดูเลยนะคะ」

 

 

 

「อย่างน้อยก็ดีกว่าเม็กเรียจังล่ะน้า~」

 

 

 

「ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าจะไม่ใช่ตัวขัดขวางแผนการของนายล่ะ

 

 เขาเป็นคนสำคัญ นี่เป็นโอกาสอันดีที่มาถึงฉันแล้วในที่สุด……」

 

 

 

「เข้าใจแล้วน่าคุณหญิง ไม่ต้องทำหน้าตาน่ากลัวแบบนั้นก็ได้นะ~」

 

 

 

เม็กเรียมองไปที่อีกาซากศพอีกครั้งโบกมือด้วยความสบายๆ

 

 

 

「แล้วเรื่องนั้นล่ะ เมื่อเห็นสิ่งที่ถูกใจขนาดนั้น จะละทิ้งความเป็นตัวเองไปเลยเหรอคะ」

 

 

 

「ถึงเราจะรู้จักกันมานานแต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้~ แต่มันก็แบบนี้แหละสำหรับวงการนี้ เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้หรอก~」

 

 

 

「ในงานสุดท้ายของนาย ดูเหมือนจะได้จำกัดบางสิ่งบางอย่างที่ไม่จำเป็นเกี่ยวกับงานด้วยสินะคะ」

 

 

 

「ก็มันน่าสนใจ พูดตามตรง ไม่ใช่สิ่งที่คาดหวังไว้และมันก็พังง่ายเกินไป」

 

 

 

เมื่อเห็นอีกาซากศพกดแขนของเขาไว้ เม็กเลียก็ถอนหายใจออกมา

 

 

 

「โอกาสนั้นจะมาถึงในเร็วๆนี้รอจนถึงตอนนั้นละกัน」

 

 

 

「คร้าบ คร้าบ ไว้ตอนนั้นก็ได้ครับ~」

 

 

 

ไม่ว่าเขาจะเชื่อฟังคำพูดของเม็กเรียไหม แต่ก็หันสนเท้าออกจากห้องไป

 

อีกาซากศพมองดูเธอและเปิดหน้าต่าง

 

ลมหนาวพัดเข้ามาในหน้าต่าง

 

เขายกมือขึ้นสูง รับรู้ถึงสายลมและพูดขึ้น

 

 

 

 

 

「อ่า รู้อยู่แล้วล่ะ……」

 

 

 

เสียงของเขามีน้ำหนัก ซึ่งต่างจากท่าทีติดเล่นตามปกติ

 

จากนั้นเขาก็รีบบินออกไปนอกหน้าต่างและหายตัวไปในความมืดมิดของคืนจันทร์ดับ

 

 

วันนี้น่าจะได้ตอนเดียว ปวดหลังมาก + เกมมีอัพเดทใหม่ หึหึ

[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Score 10
Status: Completed
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

Options

not work with dark mode
Reset