[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” 145 บทที่ 8 1

ตอนที่ 145 บทที่ 8 ตอนที่ 1

บทที่ 8 ตอนที่ 1

 

ในป่าอันมืดมิด ร่างสองร่างเผชิญหน้ากันที่ด้านหน้าซากปรักหักพังของกระท่อมที่พังทลายและถูกไฟไหม้

 

หนึ่งในนั้นคือ โนโซมุ เบลาตี้ ชายหนุ่มผู้มีดาบอยู่ที่เอว

 

เขาสวมชุดเครื่องแบบสีขาวของสถาบันโซลมินาติ เขาหายใจเข้าลึกๆซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยสีหน้ากังวล

 

อีกคนหนึ่งตือซอนเน่ ชายชราผู้มีเคราสีขาวและหนวดสีขาวสวมเสื้อคลุม

 

เขามาที่เมืองนี้ในฐานะผู้ดูแลในการปิดผนึก เทียแมต และพับแขนอันเหี่ยวย่น และจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า

 

มีความตีงเครียดเกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง

 

ในที่สุดโนโซมุก็วางมือบนหน้าอกและประสานมือราวกับว่าเขากำลังจับอะไรบางอย่าง

 

จากนั้นทันทีที่เขาทำท่าเหมือนกระชากอะไรบางอย่างออกจากอก พลังมหาศาลเหมือนแม่น้ำเชี่ยวกราดกระจายทุกทิศทาง

 

 

 

「อั่ก!」

 

 

 

โนโซมุส่งเสียงร้องด้วยความทรมาน

 

ราวกับว่าพลังของเทียแมตกำลังไหลไปทั่วร่างกายของเขาด้วยความเจ็บปวดอันรุนแรง ใบหน้าของเขาแข็งทื่อและกำฝ่ามือของเขาจนเปลี่ยนเป็นสีขาว

 

เขาพยายามจะควบคุมพลังให้ได้

 

เขาหลับตาลงและจดจ่ออยู่กับตัวเองต่อไป

 

พลังที่กระจายตัวออกมารอบๆค่อยๆลดลงโดยไม่รู้ตัว

 

สีหน้าของโนโซมุบิดเบี้ยวมากกว่าเดิม ในไม่ช้าผิวหนังของเขาก็เริ่มมีเส้นเลือดแตกพร้อมกับเสียงร่างกายฉีกขาดหลายๆส่วนเพราะพลังของเทียแมต

 

โนโซมุก็ยังคงพยายามคุมสติของตัวเองไว้ไม่ให้หวั่นไหว

 

โดยไม่สนใจเลือดที่หลั่งริน เขายังตั้งหน้าทำสมาธิต่อไป

 

 

 

“ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!”

 

 

 

ส่วนหนึ่งของพลังของพลังที่รั่วไหลออกมาทำให้เกิดเสียงคำรามเหมือนความแต้น พัดก้อนกรวดและทรายที่อยู่รอบๆออกไป

 

จากนั้นพลังบางอย่างที่ล้นออกมาก็พันเข้ากับซอนเน่ ราวกับกำลังบีบคอเขา เสมือนเป็นเจตจำนงของตัวเอง

 

ซอนเน่ไม่แสดงท่าทีใดๆต่อพลังนั่นและเขาไม่คิดจะห้ามมันด้วยตัวเองยังคงเฝ้าดูสถานการณ์ตรงหน้าอย่างเงียบๆ

 

ไม่กี่นาทีต่อมามันก็หายไป ด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลของโนโซมุทันที

 

ทันใดนั้นซอนเน่ก็เปิดปากพูด

 

 

 

「มาได้เท่านี้เองรึ」

 

 

 

ในเวลาเดียวกันกับคำพูดเหล่านั้น พลังของโนโซมุก็ถูกจำกัดไว้

 

ทันทีที่โซ่ที่มองไม่เห็นเริ่มพันรอบตัวเขาอีกครั้ง โนโซมุก็คุกเข่าลง ณ จุดนั้น

 

 

 

「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก……」

 

 

 

ลมหายใจที่ขาดหายหลุดออกมาจากปากโนโซมุ และเลือดที่ไหลลงมาจากบาดแผลที่เปิดอยู่ก็ทำให้พื้นย้อมไปด้วยสีแดง

 

ซอนเน่ใช้เวทย์รักษาอย่างรวดเร็วเพื่อให้โนโซมุกลับมาได้สติอีกครั้ง ตอนนี้โนโซมุก็กลับมาในสภาพปกติและถูกทำความสะอาดเลือดของเขาให้อีกด้วย

 

จุดประสงค์ที่ทั้งสองอยู่ตรงนี้ก็เพื่อตรวจสอบพลังของเทียแมต

 

เป็นการเรียนรู้ที่จะใช้พลังวิญญาณซึ่งเป็นพลังหลักของเหล่ามังกร และพลังต้นกำเนิด

 

เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ของโนโซมุ ผลลัพธ์นั้นออกมาไม่ดีนัก

 

 

 

「เริ่มฝึกมาได้สองสัปดาห์แล้ว บันทีกที่ดีที่สุดคือเพิ่มขึ้นสิบวินาทีนับแต่ครั้งแรก」

 

 

 

「ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา….จะว่าไงดีล่ะ มันเสถียรขึ้นแล้ว……」

 

 

 

ขณะที่โนโซมุดูผิดหวัง ซอนเน่กลับชม

 

 

 

「ร่างกายของเจ้าก็เหมือนกับมนุษย์ในทุกด้าน เว้นแต่จะสามารถควบคุมพลังเหนือธรรมชาติของเจ้าได้ หากทำเช่นนั้นไม่ได้มันก็จะไม่พัฒนาขึ้นหรอก」

 

 

 

“พันธนาการผนึกวิญญาณ”

 

มันเป็นความสามารถเหนือธรรมชาติของโนโซมุ และเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่

 

จุดประสงค์ของโนโซมุคือการสามารถเปิดใช้งานพลังของเทียแมตโดยที่ประครองสติไว้ได้

 

เป็นเวลาประมาณสองสัปดาห์หลังจากที่เริ่มฝึกเหมือนว่าจะควบคุมพลังเหนือธรรมชาติของเขาไม่ได้เลย

 

 

 

「ก่อนอื่นจะควบคุมพลังนี่ได้ยังไงกันล่ะเนี่ย?」

 

 

 

「”พลังเหนือธรรมชาติ”ที่ได้รับมาจากการเป็นดราก้อนสเลเยอร์ของเจ้านั้นแตกต่างจาก “พลังเหนือธรรมชาติดั้งเดิม”ที่จะมอบให้กับผู้ที่โค่นมังกรลงได้

 

พลังเหนือธรรมชาติของดราก้อนสเลเยอร์ ทุกๆคนจะสามารถเรียนรู้วิธีการใช้พลังได้เองอัตโนมัติ แต่วิธีนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถที่แต่ละคนได้ มันคล้ายกับความสามารถของเจ้าตัวที่เชี่ยวชาญ」

 

 

 

พลังเหนือธรรมชาติ เป็นคำทั่วไปที่ใช้เรียกพลังและความสามารถที่เผ่าพันธุ์หนึ่งครอบครอง ในทางกลับกัน ความสามารถเป็นคำทั่วไปสำหรับพลังที่บุคคลนั้นมีอยู่

 

ในแง่นั้นพลังเหนือธรรมชาติของผู้ที่ได้รับพลังจากการเป็นดราก้อนสเลเยอร์จะตีความได้สองอย่าง

 

 

 

「เนื่องจากพลังเหนือธรรมชาติของเจ้าเป็นการวิวัฒนาการความสามารถของตัวเจ้าเอง คนเดียวที่สามารถเรียนสิ่งนี้ได้ก็คือตัวเจ้าเองและเจ้าของพลัง ในแง่นั้นเจ้ามีแต่ต้องศึกษามันด้วยตัวเองเท่านั้น」

 

 

 

เมื่อพูดมาเยอะแล้วซอนเน่ก็หยุดครู่หนึ่ง

 

 

 

「แล้วประเด็นอื่นล่ะ สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณหรือเปล่า?」

 

 

 

รวมจิตใจให้เป็นหนึ่งพร้อมกับปลดปล่อยพลังให้ถึงขีดจำกัดพยายามควบคุมพลัง นอกจากนี้ โนโซมุยังถูกมอบหมายอีกหน้าที่คือการจับสัมผัสกับพลังวิญญาณที่อยู่รอบตัว

 

พลังของมังกรคือพลังวิญญาณและพลังต้นกำเนิด เป็นพลังพื้นฐานในการสร้างโลกใบนี้

 

การเรียนรู้เวทย์วิญญาณนั้นเป็นเพียงทางลัดในการใช้พลังนี้

 

เข้าใกล้การควบคุมพลังในทิศทางที่ต่างออกไป โนโซมุพยายามใช้ประโยชน์จากเวทย์วิญญาณในการควบคุมพลัง

 

 

 

「ไม่เลย……」

 

 

 

「ฮะฮะ เจ้านี่ไม่รู้สึกถึงเหล่าวิญญาณที่อยู่โดยรอบเลยงั้นเหรอ? ในฐานะที่เป็นดราก้อนสเลเยอร์ แม้ว่าจะดูดซับพลังวิญญาณไปมากแค่ไหน แต่ร่างกายก็ยังคงความเป็นมนุษย์ ในอัตรานี้ การเรียนรู้เวทย์วิญญาณของเจ้าเข้าขั้นสิ้นหวังเลยนะ……」

 

 

 

ขั้นตอนแรกในการเรียนรู้เวทย์วิญญาณคือการรับรู้ถึงวิญญาณที่อยู่รอบตัว

 

จากนั้นสื่อสารกับวิญญาณที่สัมผัสได้

 

สุดท้ายก็จะสามารถใช้พลังได้โดนการถ่ายโอนพลังไปยังวิญญาณหรือภูติที่อยู่รอบๆ และใช้พันธสัญญาชั่วคราวในการสร้างปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติขึ้น

 

TN:เผื่อใครงงเกี่ยวกับเวทย์วิญญาณ มันก็คือวิญญาณตามชื่อ ซึ่งจะเป็นเหล่าภูติก็ดี สิ่งที่มองไม่เห็นก็ดีล้วนอยู่ในหมวดนี้ เป็นการยืมพลังของเผ่าที่ไร้รูปลักษณ์ นั่นเอง

 

โนโซมุนั้นพลาดในก้าวแรก(ไม่เห็นวิญญาณ)

 

เขาพยายามตั้งสมาธิและสัมผัสกับวิญญาณที่อยู่รอบๆโดยไม่ปล่อยพลังออกมา แต่ก็ไม่สามารถรับรู้ได้

 

ซอนเน่คิดว่าสาเหตุอาจเกิดจากการพันธนาการวิญญาณที่ทำให้ความสามารถในการพัฒนาเรียนรู้ทุกอย่างลดต่ำลง แต่หลังปลดปล่อยออกมาผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ต่างกัน

 

มีหลายครั้งที่บุคคลหนึ่งปรากฏตัวขึ้นสามารถสัมผัสวิญญาณ ซึ่งหาได้ยากในบรรดามนุษย์ เรื่องราวส่วนใหญ่ เช่น สัมผัสที่หกของมนุษย์ การเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น เป็นต้น

 

เหตุผลที่มนุษย์ไม่สามารถใช้เวทย์วิญญาณได้นั้นเป็นขั้นตอนที่สอง เนื่องจากมนุษย์แทบจะไม่สามารถสัมผัสกับวิญญาณได้เลย

 

ทั้งความตั้งใจและพลังเวทย์ที่มนุษย์ใช้นั้นมีรากฐานมาจากพลังของจิตวิญญาณซึ่งเป็นธาตุต้นกำเนิด ดูเหมือนว่าสมัยก่อนมนุษย์จะมีความสามารถในการจัดการธาตุต้นกำเนิดในร่างกายของมนุษย์ได้ด้วยการใช้เวลาและการฝึกฝน

 

โนโซมุที่ภายในร่างมีพลังของมังกรที่แข็งแกร่งที่สุด คิดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะใช้เวทย์วิญญาณ แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีแววเลย

 

สีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นบนหน้าของโนโซมุ

 

 

 

「จะท้อไปทำไมพ่อหนุ่ม ควบคุมพลังเหนือธรรมชาติและเชี่ยวชาญเวทย์วิญญาณ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถบรรลุได้เพียงชั่วข้ามคืนหรอกนะ จนถึงขณะนี้ ผู้คนที่ยิ่งใหญ่มากมายและประสบความสำเร็จต่างท้าทายและล้มเหลว คิดว่าพวกครึ่งมนุษย์ใช้เวลากี่ปีในการฝึกพลังให้เชี่ยวชาญได้ง่ายงั้นเหรอ ส่วนใหญ่ก็ใช้เวลามากทั้งนั้น แม้แต่ข้าก็ไม่เว้น?」

 

 

 

ซอนเน่พูดยั่วโมโหโนโซมุ

 

โนโซมุกัดริมฝีปากด้วยความหงุดหงิด ทันใดนั้นชายแก่ก็ยิ้มออกมา

 

 

 

「หรือเจ้าจะยอมแพ้แล้วงั้นเรอะ?」

 

 

 

「อย่ามาพูดบ้าๆนะไอ้ตาแก่บ้ากามนี่ ถ้าต้องยอมแพ้ในระดับนี้ ผมคงไม่เสนอหน้ามาฝึกแบบนี้หรอก」

 

 

 

โนโซมุตอบโต้คำยั่วยุของซอนเน่

 

มีแสงอันทรงพลังในแววตาของเขา

 

ความมุ่งมั่นนั่นคืออะไร มีบาดแผลมากมายไปทั่วทั้งร่างและเส้นเลือดฉีกขาดหลายเส้น

 

แม้ว่าจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด ความตั้งใจของเขาที่จะควบคุมพลังให้ได้ก็มีเบื้องหลังคำพูดสั้นๆแค่นั้น  เขาตอกกลับตาแก่ตรงหน้าด้วยความมุ่งมั่นในตัวเอง

 

เมื่อซอนเน่เห็นโนโซมุที่ยิ้มออกมา เขาก็ยิ้มออกมาเช่นกัน

 

โนโซมุเองก็ไม่ยอมแพ้ รู้สึกเหมือนกลับมาได้ฝึกกับชิโนะอีกครั้ง

 

 

 

「เข้าใจแล้ว การเรียนรู้ก็คือการเลียนแบบ ทำซ้ำ และดัดแปลง แค่ซ้ำมันไปเรื่อยๆจนให้ร่างกายมันด้านชาและสัมผัสได้สัญชาตญาณก็พอแล้ว……」

 

 

 

โนโซมุพยายามลุกขึ้น

 

ไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยการฝึกฝนเพียงเล็กน้อย ทำซ้ำจนกว่าจะฝังไปถึงกระดูกดำ และเรียนรู้จะที่เลียนแบบ และปรับตัว บอกตัวเองว่าต้องฝึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

 

 

「อย่างไรก็ตัวเจ้าที่มีสมญานามที่เรียกว่าลอร์ดนั่น……」

 

 

 

「อะไรกันตาแก่บ้ากาม」

 

 

 

「……เปล่า ไม่มีอะไร」

 

 

 

เมื่อมองไปที่โนโซมุที่ยืนขึ้น ซอนเน่ก็พูดถ้อยคำที่มีความหมายออกมา

 

โนโซมุถามอีกครั้งว่ามันคืออะไร แต่ซอนเน่ก็เลี่ยงที่จะตอบ

 

ความเงียบแปลกๆเกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง

 

โนโซมุค่อยๆเปิดปากของเขาขณะที่เขามองดูซอนเน่ที่เงียบไป

 

 

 

「นี่ อาจารย์ เกิดอะไรขึ้นกับเทียแมต เมื่อ ห้าพันปีก่อน?」

 

 

 

「มีอะไรงั้นเหรอเจ้าหนุ่ม?」

 

 

 

「พูดตามตรงตอนแรกผมคิดว่าเทียแมตเป็นแค่ผู้หญิงเจ้าปัญหาเท่านั้น แต่ว่าผมก็ได้รับการช่วยเหลือจากเธอไว้มากมาย แต่ก็จริงที่มันสร้างปัญหาให้กับไอริสและคนอื่นๆแต่……」

 

 

 

「แต่……?」

 

 

 

ความสงสัยเกิดขึ้นในตัวเขา ราวกับจะยืนยันสิ่งนี้ โนโซมุหายใจเข้าลึกๆและหลับตาลง

 

จากนั้นก็กั้นหายใจจังหวะหนึ่ง ปล่อยอากาศที่ไหลอยู่ในปอด และพูดออกมา

 

 

 

「ก็รู้สึกว่าตัวผมกับเธอนั้นคล้ายกัน……」

 

 

 

หลังจากได้ยินคำพูดของโนโซมุ ซอนเน่ก็ลูบเคราของเขาอย่างครุ่นคิด

 

 

 

「โอ้ยนี่เจ้ายังไม่เห็นอดีตทั้งหมดของเทียแมตอีกงั้นเหรอ?」

 

 

 

「มิคาเอล…สิ่งเดียวที่ผมรู้ตอนนั้นคือเขาพยายามจะสร้างประเทศร่วมกับเทียแมต แต่สุดท้ายก็ล่มสลายไป」

 

 

 

ฉากที่โนโซมุเห็นคือประเทศที่ถูกทำลายไปแล้ว เพื่อนมังกรที่ตายจากไป และเทียแมตต้องทุกข์ทรมานจากพลังงานที่เธอดูดซับเอาไว้

 

จากนั้นเทียแมตก็ถูกมิคาเอลปฏิเสธตัวตนของเธอ และเธอก็จมอยู่ในความสิ้นหวังและความโกรธ

 

แต่ไม่รู้เลยว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร

 

มีบางอย่างที่เป็นเหตุการณ์สำคัญ

 

ในเวลานั้นเขาพยายามทำความเข้าใจกับความโกรธของเทียแมต และหันดาบใส่พวกไอริส เขาพยายามตลอดเวลาที่จะฟังเสียงของเทียแมตและมิคาเอล

 

 

 

「อย่างไรก็ตาม เทียแมตเองก็ถูกทรยศเหมือนกัน……」

 

 

 

ชิ้นส่วนทั้งหมดยังไม่ครบ และแม้ว่าโนโซมุรู้ว่าเกิดอะไร แต่ไม่รู้สาเหตุหลักๆ

 

 

 

「ฮืม….มันก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราจะมาคุยเรื่องของเธอ แต่พูดตามตรงข้าไม่สามารถบอกเจ้าได้มากนัก ไม่ว่าจะรู้เกี่ยวกับชะตากรรมของอัลฮารันต์หรือไม่ก็ตาม……」

 

 

 

「อัลฮารันต์?」

 

 

 

「เป็นชื่อประเทศที่เทียแมตและมิคาเอลสร้างขึ้น แม้ว่าชื่อมันจะถูกฝังอยู่ในดินแดนเหล่านั้นเป็นเวลานานและหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ของมนุษย์ก็ตามแต่……」

 

 

 

อัลฮารันต์ โนโซมุไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน

 

 

 

「อยู่อีกมิติเหรอ?」

 

 

 

「ก็แบบนั้นแหละ ถ้านั่นคือสิ่งที่กำลังพูดถึงกัน แสดงว่ามีใครบางคนเหมาะสมกว่าข้า」

 

 

 

เมื่อมองโนโซมุที่กำลังพึมพำชื่อ ซอนเน่ก็วางมือลงบนพื้น

 

 

 

「ถ้าอย่างงั้นกลับบ้านกัน」

 

 

 

「อืม! ……」

 

 

 

 

 

「เป็นเรื่องจริงที่เผ่ามังกรขาวปิดผนึกอัลฮารันต์และเทียแมตเอาไว้ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องนั้นมีคนที่เหมาะสมกว่าข้า กรุณารอสักครู่……」

 

 

 

ก่อนที่โนโซมุจะประท้วง วงเวทย์จำนวนนับไม่ถ้วนก็ลอยไปในอากาศและเปล่งประกายต่อหน้าเขา

 

ช่วงเวลาต่อมาทั้งสองก็หายไปอย่างกะทันหัน

 

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

 

เมื่อแสงสีขาวที่ส่องสว่างการมองเห็นของเขาลดลง พื้นที่อันกว้างใหญ่และมีแสงสลัวก็แผ่กระจายด้านหน้าโนโซมุ

 

ที่เท้ามีอักษณเวทย์ที่ซับซ้อนและเปล่งแสงจางๆ

 

ปัจจุบันเขาอยู่ใต้ดินของสถาบันโซลมินาติและเป็นห้องใต้ดินที่มีบาเรียเวทย์ติดตั้งอยู่

 

 

 

「ดูเหมือนจะกลับมาแล้วนะ」

 

 

 

เสียงทุ้มลึกดังก้องในห้องใต้ดินที่มีแสงสลัว เมื่อโนโซมุหันความสนใจไปยังทิศทางของเสียง ก็เห็นชายคนหนึ่งสวมเกราะสีเงิน

 

 จิฮัด รันเดล

 

เขาเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของสถาบันและเสนอสถานที่นี้ให้กับซอนเน่

 

ไม่นานหลังจากการโจมตีของอาเซล โนโซมุก็ได้เรียนรู้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างซอนเน่และจิฮัด

 

โนโซมุและเพื่อนๆของเขาถูกเรียกไปยังห้องทำงานของจิฮัด ซึ่งพวกเขาได้รู้ว่าจิฮัดและซอนเน่ทำงานร่วมกัน

 

หินขนาดห้าก้อนที่จิฮัดยังคงแสดงให้เห็นนั้นก็มาจากซอนเน่เช่นกัน

 

หลังจากนั้นมีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่ไอริสและเพื่อนๆ ถามคำถามกับซอนเน่และจิฮัด แต่ในที่สุดก็เชื่อว่าพวกเขาทำงานร่วมกันจริงๆ

 

จากนั้นจิฮัดใช้ห้องนี้เป็นพื้นที่สำหรับวิจัยตัวโนโซมุ

 

สถานที่ที่มีคนน้อยเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการฝึกโนโซมุ ดังนั้นจึงไม่สามารถฝึกในเมืองได้

 

แม้ว่าเขาจะต้องไปป่า โนโซมุก็รู้สึกว่าการฝึกฝนแม้แต่วินาทีเดียวก็ไม่อยากให้สูญเปล่า

 

ดังนั้น แนะนำให้ใช้เวทย์เคลื่อนย้ายของซอนเน่เพื่อไปที่ป่าจากชั้นใต้ดินของสถาบัน

 

ด้วยเหตุนี้ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาจึงเดินทางไปกลับด้วยชั้นใต้ดินกับป่า

 

จิฮัดเหลือบมองโนโซมุและขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็กลับเป็นปกติก่อนที่โนโซมุจะสังเกตเห็น

 

 

 

「ขอบคุณที่พยายามอย่างหนักนะโนโซมุคุง กลับบ้านได้แล้วล่ะวันนี้」

 

 

 

「ครับ」

 

 

 

จิฮัดบอกให้โนโซมุกลับบ้านโดยไม่พูดอะไรเป็นพิเศษ

 

คำพูดของซอนเน่ที่บอกให้เขา “รอ” นั้นติดอยู่ในหัวของโนโซมุมาตั้งแต่นั้น ไม่สามารถเอาชนะความเหนื่อยล้าที่ปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา และเขาก็ออกจากห้องใต้ดินอย่างไม่มั่นคง

 

หลังจากยืนยันว่าโนโซมุออกจากห้องใต้ดิน จิฮัดก็รีบเข้าไปหาซอนเน่และถามเขาด้วยเสียงเงียบๆ

 

 

 

「แล้วเป็นยังไงบ้าง」

 

 

 

「ตามปกติแล้วไม่มีวี่แววเลยที่จะใช้เวทย์วิญญาณได้ ในช่วงสองสัปดาห์เขาปล่อยพลังจำนวนมากและทุบสถิติเดิมถึงสิบ วินาที」

 

 

 

「สิบวินาที?……」

 

 

 

จิฮัดพูดแบบนั้นซ้ำๆ จากนั้นก็หายใจเข้าลึกๆ ราวกับกำลังถอนหายใจ

 

 

 

「ใช่แล้ว สิบวินาที」

 

 

 

「มันสุดยอดไปเลยไม่ใช่เหรอไง……」

 

 

 

ซอนเน่พยักหน้าช้าๆราวกับเห็นด้วยกับคำพูดของจิฮัด

 

โนโซมุที่ได้รับพลังมา ไม่สามารถนิยามได้ว่าเป็นพลังที่มนุษย์จะรับไหว

 

เหตุผลที่เหล่ามังกรสร้างโลกและปิดผนึกมันเอาไว้ก็เพราะถูกตัดสินว่าพลังของเทียแมตนั้นไม่สามารถมองข้ามได้

 

ถ้าคิดถึงข้อเท็จจริงนั้น จะเข้าใจได้ว่าสิบวินาทีซึ่งเปรียบเสมือนเม็ดทรายนั้นน่าทึ่งเพียงใด

 

 

 

「ตัวเขาเองดูไม่พอใจ ดูเหมือนจะใจร้อนไปนิด และจำเป็นต้องให้ควบคุมพลังให้ได้โดยเร็วที่สุด」

 

 

 

ต่างจากความเข้าใจของซอนเน่และจิฮัด โนโซมุไม่พอใจกับผลลัพธ์นี้

 

เขาคงคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ

 

อย่างไรก็ตามการที่เขาหันดาบใส่เพื่อนครั้งที่สองมันหลอกหลอนตัวโนโซมุ

 

 

 

「แล้วต้องรายงานบุคคลนั้นไหม?」

 

 

 

「การทำให้ใครบางคนสงบลงและคลายความเครียดได้ก็เป็นเรื่องยาก และอาจให้ผลตรงกันข้ามด้วยซ้ำ นั่นอันตรายกว่าที่คิด ต้องฝึกฝนให้ถึงขีดจำกัดในขณะที่ยังทนแรงกดดันได้」

 

 

 

อาจเกี่ยวกับความอดทนของโนโซมุ แต่แน่นอนว่าเขามีแรงบัลดาลใจในการฝึกฝนอย่างหนัก

 

นอกจากนี้ โนโซมุเคยเลือกการฝึกเพื่อหนีความจริง แต่จากการสังเกตของซอนเน่ ดูเหมือนว่าโนโซมุจะไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องแบบนั้นอีกแล้ว

 

เขาฝึกฝนโดยเผชิญกับความเป็นจริงตรงหน้า ไม่ใช่ภาพลวงตาอันคลุมเครือ

 

 

 

「ดังนั้นข้าคงต้องปล่อยให้เหล่าสาวๆช่วยเยียวยาจิตใจของเขา แม้ว่าข้าอยากจะทำบ้างก็ตาม หมอนั่นชีวิตมันช่างแฮปปี้ไลฟ์จริงๆเลย ข้าอิจฉาชะมัดได้มีสาวๆล้อมกาย……」

 

 

 

「เอ่อท่านซอนเน่……」

 

 

 

อันที่จริงเหตุผลที่โนโซมุจมปลักอยู่กับการฝึกในตอนนี้ก็เพราะไอริสและคนอื่นๆ ในกรณีนั้นก็ให้การที่เขาฝึกเพื่อพวกเธอ ให้พวกเธอเป็นฝ่ายซัพพอร์ตเขาดีกว่า

 

บทสนทนาครึ่งหลังเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาดังนั้นปล่อยไปเหอะ

 

 

 

「แต่ว่าเจ้าหนุ่มนั่นก็เคยมีประสบการณ์แล้วครั้งหนึ่ง จากการฝึกนั้นแตกต่างออกไป แต่ดูเหมือนว่าจะจับประเด็นหลักๆได้แล้ว」

 

 

 

「อย่างที่คิดสินะ……」

 

 

 

「อา ไม่เคยคิดเลยนะว่าเขาจะได้รับวิชาดาบแบบนั้นในวัยนี้ ความสามารถในการมองเห็นอันตรายที่ถึงชีวิตที่ฝังเข้ากระดูกดำของเขา และตอบตอบสนองพร้อมกับไหวพริบอันสุดยอดยังยอดเยี่ยมมากกว่ามนุษย์ที่เคยเห็นทั้งหมดเสียอีก…」

 

 

 

สิ่งที่ทำให้ซอนเน่ประทับใจคือสมาธิของโนโซมุระหว่างการฝึกซ้อม

 

เขามองเห็นว่าตอนที่เขาจะได้รับบาดเจ็บจากการทำลายตนเอง และในเวลาเดียวกันกับซอนเน่ที่หยุดเขา เขาก็ใช้พันธนาการวิญญาณก่อนที่ซอนเน่จะเตือนอีก

 

 

 

「ประมาทไม่ได้เลยจริงๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าได้ทำสิ่งต่างๆโดยไม่ประมาทเลยสักนิด เส้นแบ่งชีวิตระหว่างความเป็นความตายนั้นมองเห็นได้ชัดเจน จนเริ่มกังวลแล้ว」

 

 

 

「ในฐานะอาจารย์ มันทำให้กังวลทุกครั้ง ตอนนี้รู้แล้วว่าอาจจะเป็นศิษย์น่าทึ่งที่เคยมีมาก็ได้……」

 

 

 

ซอนเน่ถอนหายใจลึกๆ เห็นอกเห็นใจอาจารย์ของโนโซมุซึ่งเขาไม่เคยพบมาก่อน

 

ในฐานะอาจารย์ อาจมีนักเรียนเพียงไม่กี่คนที่กังวลเรื่องนี้มากนัก

 

 

 

「ตอนนี้เข้าใจสถานการณ์ของโนโซมุคุงแล้ว ข้าเองก็จะมีประชุมเร็วๆนี้ ขอโทษด้วยนะ」

 

 

 

「ถึงช่วงพิธีปฐมนิเทศแล้วงั้นเหรอ ? ได้ยินข่าวกันให้แซ่ดเลย ดูเหมือนจะมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น」

 

 

 

「ใช่ หวังว่าจะไม่มีเรื่องใดๆให้กังวลเกิดขึ้น」

 

 

 

หลังจากโค้งคำนับกับซอนเน่แล้ว จิฮัดก็ออกจากห้องใต้ดิน

 

หลังจากเห็นจิฮัดออกไปแล้ว ซอนเน่ก็เหลือบมองพื้นของห้องใต้ดิน

 

 

 

「เทียแมต มิคาเอล เวลาที่หยุดนิ่งมาถึงห้าพันปี บัดนนี้ถึงเวลาที่จะเริ่มเดินเข็มนาฬิการึยัง……」

 

 

 

เขายังคงไม่แสดงสีหน้าและจ้องมองพื้นต่อไปราวกับกำลังตรวจสอบอะไรบางอย่าง

 

ในที่สุดซอนเน่ก็เงยหน้าขึ้น หลับตา และเปิดใช้งานเวทย์เคลื่อนย้าย

 

หลังจากนั้น ในห้องใต้ดินที่มีแสงสลัว เหลือเพียงแสงที่ส่องประกายจากวงเวทย์เท่านั้น

 

ขึ้นบน 8 แล้ว ตอน DLC ทั้งหลายจะไว้แปลหลังจบเนื้อเรื่องหลัก เพราะมันไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก

ขอบคุณท่านใดก็ตามไม่ทราบชื่อเสียงเรียงนามโอนให้กระผม ขอบคุณสำหรับโดเนท แต่ไม่ต้องก็ได้นะครับ 

เกรงใจครับ ผมแค่กลับมาทำหน้าที่ของผมให้เสร็จเท่านั้นเอง

[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Score 10
Status: Completed
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

Options

not work with dark mode
Reset