[นิยายเเปล] Tenshi wa tansan shika nomanai นางฟ้าที่ดื่มเเต่นํ้าอัดลม 2: ตรงจุดนั้นที่ความลับถูกเปิดเผย (2)

ตอนที่ 2: ตรงจุดนั้นที่ความลับถูกเปิดเผย (2)

ใน​โรงเรียนมัธยมปลายคุเสะยาม่าเเห่งนี้​ ว่ากันว่ามี​นางฟ้าที่จะคอยชี้นําความรักของผู้คนอยู่

ชั้น อา​คา​ชิ​ อิโอะ​ เข้าเรียนโรงเรียนม.ปลายที่มีข่าวลือเเบบนั้นเเพร่สะพัดไปทั่ว​ ทั้งๆที่มันก็ผ่านมาเกือบหนึ่งปีเเล้วเเท้ๆ​ เเต่ดูเหมือนข่าวลือเช่นนั้นจะยังไม่หายไป​ไหน

ใจความสําคัญของข่าวลือมีดังนี้

คนที่กําลังกังวลใจกับเรื่องความรัก​ อยู่มาวันนึงก็มีจดหมายส่งมาให้จากคิวปิด

คิวปิดนั้นมีพลังเเปลกประหลาด ถ้าทําตามที่บอกล่ะก็​ ความรักของคนๆนั้นจะราบรื่นไปได้ด้วยดี

ไร้สาระ เป็นเรื่องที่ไม่สมจริงเลยสักนิด​ มันจะต้องเป็นเรื่องโกหกเเหงๆ​ จะคิดเเบบนั้นก็คงเป็นเรื่องปกติ

เดิมที​อะไรที่เหมือนตํานานเมืองเเบบนี้ก็ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในปัจจุบันอยู่เเล้ว

ด้วยความก้าวหน้าของทั้งอินเทอร์เน็ต​เเละวิทยาศาสตร์​ ของพวกนั้นควรจะหายไปหมดเเล้วด้วยซํ้า

เรื่องเล่าเกี่ยวกับภูติผี​บ้างล่ะ​ สิ่งลี้ลับทั้งเจ็ดบ้างล่ะ​ พลังพิเศษ​บ้างล่ะ​ เรื่องพวกนั้นไม่ว่าจะอย่างไหนก็ไร้สาระทั้งนั้น​ คงไม่มีคนที่คิดเชื่อเรื่องพวกนั้นจริงๆหรอก

หรือที่เขาเรียกกันว่า “การพิสูจน์​ปีศาจ” ยังไงล่ะ​ เป็นการพิสูจน์​ว่าเรื่องเเบบนั้นในทางปฏิบัติ​ไม่มีทางเกิดขึ้น​ได้จริง​ [ถ้ามันมีจริงขึ้นมาก็คงจะน่าสนใจอยู่หรอก]​ คงมีพวกที่คิดเเบบนั้นอยู่ไม่กี่คน

เพราะฉะนั้น​ เรื่องนางฟ้ามันไม่มีอยู่จริง​ จดหมายก็จะไม่มีวันส่งมาให้ พลังพิเศษอะไรเเบบนั้นมันจะไปมีได้ยังไงล่ะ​ ต้องเป็นอย่างนั้นเเหงอยู่เเล้ว

—-เเต่ว่า​ เเล้วทําไมถึงมีข่าวลือเเบบนั้นผุดขึ้นมาได้ล่ะ​ เเถมยังอยู่มานานถึงหนึ่งปีอีก?

เพราะนักเรียนโรงเรียนม.ปลาย​คุเสะทุกคนเป็นพวกเพ้อฝันงั้นเหรอ?

ไม่ใช่​หรอก นักเรียนม.ปลาย​สมัยนี้ก็ไม่ใช่พวกงี่เง่ากันเเล้ว

นอกจากนี้​ โรงเรียนคุเสะยาม่าเเห่งนี้​ เเม้เเต่ในจังหวัดชิงะเอง​ ก็ถือว่าอยู่ในระดับท็อป​ ถ้าคิดตามความเป็นจริง​ คงจะมีเเต่นักเรียนที่มีวุฒิ​ภาวะซะส่วนใหญ่

ถ้าเป็นอย่างนั้นเเล้ว​ ทําไมล่ะ?

คําตอบ​นั้นง่ายนิดเดียว

 

หลังเลิกเรียน​ เหล่านักเรียนเเยกกันไปทํากิจกรรมชมรม​ บางคนก็อยู่ชมรมกลับบ้าน พวกเขากระจัดกระจาย​กันไป

ชั้นเองก็เก็บสัมภาระของตัวเอง​ ก่อนจะออกจากห้องเรียนของปี​ 2​ ห้อง​ 8

ไม่รู้ว่าดีหรือร้าย​ ตัวชั้นนั้นไม่ได้มีค่าถึงขนาดให้ใครเข้ามาทัก เพื่อนก็ไม่ค่อยมีสักเท่าไหร่​ ตัวตนของชั้นในห้องเรียนเรียกว่าเเทบจะจืดจางเหมือนกับเงา​เลยก็ว่าได้​ เเละชั้นก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องที่เเย่อะไร

เเถมการอยู่ในสภาพเเบบนี้​ มันก็สะดวกสําหรับชั้นในหลายๆอย่างด้วย

พอไปถึงประตูทางเข้าของโรงเรียน ชั้นก็พิงตัวกับกําเเพง​ ก่อนจะเล่นโทรศัพท์​มือถือ​เพื่อฆ่าเวลา​ ชั้นรอเวลาอยู่หน้ากล่องเก็บรองเท้า​ ตอนนี้ได้อารมณ์​เหมือนกําลังเป็นนักสืบที่คอยเฝ้าระวังใครสักคนอยู่เลยเเฮะ

หลังจากนั้นไม่นานพวกชมรมกลับบ้านก็โผล่มา​ พวกเขาเริ่มเปลี่ยนรองเท้า​ ชั้นก้มหน้าลง​ ดูเหมือนเป้าหมายที่ชั้นตามหาจะยังไม่มา

….ไม่สิ

 

“…คงไม่มีทางมองพลาดได้หรอก”

 

ถ้าได้เห็นรูปลักษณ์​ของเธอ​ ไม่ว่าใครก็ต่างหลุดถอนหายใจด้วยความชื่นชม​ออกมา

เป้าหมาย​ ยูซึกิ​ มินาโตะ​ นั้นเป็นสาวงาม​สุดๆ

ถ้าให้เปรียบเธอคงงดงามเหมือนดั่งท้องฟ้ายามคํ่าคืน​ ทั้งผมสีดํายาวสลวย​ของเธอ

ดวงตาอันงดงามที่เยือกเย็น​นั้นของเธอก็ด้วย​ เเต่ขนตาที่ยาวอย่างประณีต​ของเธอเองก็มีเสน่ห์​เหมือนกัน

ทั้งดวงตากลมโตของเธอ​ จมูกที่คมเป็นสันของเธอ​ ริมฝีปากสีชมพูอ่อนของเธอ ใบหน้าของเธอถูกจัดด้วยบาลานซ์​อย่างลงตัว

เเถมสําหรับผู้หญิง​เธอยังมีรูปร่างที่สมส่วนเเละตัวสูงอีกต่างหาก​ คงเตี้ยกว่าชั้นประมาณสิบเซนได้มั้ง​ นอกจากนี้​ยังมีร่างกายอันเเสนยั่วยวนอีกด้วย โดยเฉพาะหน้าอกนั่น เเละท้ายที่สุดคือรูปลักษณ์​อันสง่างามของเธอ​

หลังที่ยืดตรงของเธอ​ ผิวที่เนียนใสราวกับนํ้านม​ เเละเพราะบรรยากาศ​ที่ดูเป็นผู้ใหญ่ของเธอ​ เเม้เเต่ในชุดเครื่องเเบบนักเรียนธรรมดา​ ก็ทําให้คิดขึ้นมาว่าเธออาจจะเป็นลูกคุณหนูจากที่ไหนสักเเห่งก็ได้

 

 

ถึงชั้นจะชมซะน่าขยะเเขยงเกินไปหน่อย​ สรุปคือรูปลักษณ์​ของ​ ยูซึกิ​ มินาโตะ​ งดงามถึงเพียงนั้นเลยนั่นเเหละ​ ชั้นจินตนาการหน้าตาอิ่มอกอิ่มใจของเทพเจ้าที่สร้างตัวเธอขึ้นมาได้เลย

จริงๆเลย​ ท่านผู้สร้างอันไม่เป็นธรรม​ ขอบใจนะ

ยังไงก็เถอะ​ เห็นว่าเกรดของเธอยังอยู่ในระดับท็อปอีกต่างหาก​ คนที่เพอร์​เฟคอย่าง​นี้ ชั้นเริ่มกลัวที่จะต้องบรรยายต่อเเล้วสิ

นอกจากนี้​ เเน่นอนว่า​ความนิยมในหมู่เด็กผู้ชายของเธอสูงมากๆจนน่าสะพรึงกลัว​เลยทีเดียว เเถมเธอยังถูกจัดอยู่ใน​ [สาวงามผู้ยิ่งใหญ่​ทั้ง​ 3​ เเห่งโรงเรียนคุเสะ]​ อีกต่างหาก

เธอเป็นสาวงามที่ได้รับการยอมรับจากทั้งโรงเรียน

เป็นถึง​ [สาวงามผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง​ 3​ เเห่งโรงเรียนคุเสะ]​ นั่นเลยนะ?

 

“…..”

 

ยูซึกิคนนั้นเดินเข้ามาทางชั้น​ ไม่สิ​ ถ้าพูดให้ถูกคือ​ เธอเดินเข้ามาทางกล่องเก็บรองเท้าของเธอ​ ซึ่งอยู่ข้างๆชั้น​ เธอเดินต๊อกเเต๊กเข้ามาทางนี้

ไม่ใช่เวลาจะมาตกใจซะหน่อย​ เพราะชั้นมีงานต้องทํานี่นา

กับ​ ยูซึกิ​ ที่อยู่ใกล้จนไหล่​เเทบจะชนกันนั้น​ ในขณะที่เธอกําลังจะเปลี่ยนรองเท้าอยู่​ ชั้นเล็งจังหวะที่เธอก้มตัวลงเพื่อจะถอดรองเท้า​ ชั้นค่อยๆลดเเขนของตัวเองลง

ชั้นใช้มือของชั้นสัมผัสเเก้มของยูซึกิที่ขณะนี้กําลังก้มตัวลงเพียงชั่วขณะเดีย​ว​ เป็นไปตามเเผน

 

[ถ้าชั้นสัมผัสใบหน้าของใครก็ตามจะสามารถรู้คนที่ชอบของอีกฝ่ายได้]​

นั่นเเหละคือนางฟ้าเเห่งโรงเรียนคุเสะ​ หรือก็คือ​ พลังของชั้นยังไงล่ะ

ด้วยพลังนี้​ ชั้นจะชี้นําความรักของเหล่าคนที่เข้ามาปรึกษาให้ราบรื่นไปได้ด้วยดี

ทําไมนักเรียนโรงเรียนคุเสะถึงเชื่อข่าวลือไร้สาระพรรค์นั้นน่ะเหรอ?

คําตอบน่ะมันง่ายนิดเดียว​ เพราะ​ [มันเกิดขึ้นจริง]​ น่ะสิ

ถึงมันจะดูไม่สมจริงขนาดไหน​ เเต่นางฟ้าน่ะมีตัวตนอยู่จริงๆ

เพราะอย่างนั้นข่าวลือถึงไม่หายไป​ มันง่ายนิดเดียวใช่ไหมล่ะ

 

ในมือข้างซ้ายของชั้นยังมีสัมผัสอันอ่อนนุ่มหลงเหลืออยู่​ ผิวสัมผัสของเธอมันช่างนุ่มลื่นอย่างไร้เหตุผล​ นี่ไม่ใช่การล่วงละเมิดทางเพศหรอกนะ​ ก็มันเป็นเงื่อนไขการใช้พลังนี่​ เพราะฉะนั้นช่วยไม่ได้หรอก​ จริงๆนะ

สมมติ​ ยูซึกิ​ มีคนที่ชอบอยู่เเล้วจริงๆ​ ใบหน้าของคนๆนั้นจะผุดขึ้นมาในหัวของชั้น​ มันจะโผล่มาคล้ายๆกับภาพ​เเฟลชเเบ็คเลยล่ะ

พลังนี้ไม่ทําให้รู้สึกเหนื่อยหรือเจ็บเลยด้วย​ เเค่ทําให้มึนหัวนิดหน่อยเท่านั้น​ เเต่ชั้นก็ชินกับมันเเล้วล่ะ

เอาล่ะ​ จะมีใครผุดขึ้นมากันนะ?

 

“…..อุก!?”

 

ยะ.. เเย่เกินไปเเล้ว​ เวียนหัวชะมัด

อย่างกับเเรงโน้มถ่วงถูกพลิกกลับหัวกลับหางเลย​ คิดว่าอีกเดี๋ยวคงจะกลับเป็นเหมือนเดิมนั่นเเหละ

เเต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนกับมีเเหล่งข้อมูลจํานวนมากไหลเข้ามาในหัวของชั้นพร้อมๆกัน

ภาพที่ปกติควรจะโผล่ขึ้นมาเเค่ใบเดียว​ โผล่มาไม่รู้กี่ใบอย่างกับช่วงสุดท้ายของงานเทศกาล​ดอกไม้ไฟ ก่อนจะหายไป

มีทั้งใบหน้าของคนที่คุ้นเคย​เเละใบหน้าของคนที่ไม่​รู้จัก​ รวมทั้งหมดยี่สิบคน​ ไม่สิ… มีมากกว่านี้อีกงั้นเหรอ

อะไรเนี่ย​ โอ๊ย นี่มันอะไรกันเนี่ย…!

 

“โอ๊ย….”

 

ความรู้สึกเหมือนกับชั้นได้รับสัมภาระมากกว่าที่ตัวเองคิดจะรับไว้หลายเท่า​ ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าถูกบังคับให้รับมันเอาไว้

ทั้งร่างกายเเละหัวของชั้นโอนเอนไปมา​ รู้สึกคลื่นไส้ชะมัดเลย

เดี๋ยวก่อน​ ใจเย็นลงก่อน​ ต้องรีบลุกขึ้นยืน

เเผนที่วางไว้ของชั้นพังลงหมดเลย ก่อนอื่นต้องขอโทษที่มือของชั้นไปโดนเธอเข้าซะก่อน​ หลังจากนั้นเรื่องก็จะจบ คงไม่ดูผิดปกติด้วย​ ทําให้มันเป็นเเค่อุบัติเหตุ​เล็กน้อยที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน​ก็พอ

มันควรจะเป็นเเบบนั้นเเท้ๆ…..

ตอนที่พยายามจะคํ้าจุนร่างกายที่โอนเอนของตัวเอง​ ชั้นก็พยายามคิดหาวิธีเเก้สถานการณ์​ไปด้วย

เเต่ว่าตอนนี้คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายซะเเล้ว​ เพราะเธอสังเกตเห็นชั้นเเล้วยังไงล่ะ

 

“อะ… อะไรน่ะ?”

 

ชั้นได้ยินเสียงที่เเฝงความสงสัยของ​ ยูซึกิ​ มินาโตะ​ จากด้านข้าง เพราะอยู่ๆ​ชั้นก็กรีดร้องออกมา​ เธอเลยถามอย่างตะกุกตะกัก​ออกมาเช่นนั้น เป็นปฏิกิริยา​ตอบสนองตามปกติ

มีเรื่องอื่นที่ต้องกังวลอยู่ก็จริง เเต่ว่าตอนนี้​ชั้นไม่อยากให้​ ยูซึกิ​ มาสนใจชั้นเเปลกๆเเบบนี้….!

ต้องพยายามหาวิธีกลบเกลื่อน

เอาเป็นว่า​ ตอนนี้ต้องหนีก่อนสินะ

 

“เอ่อ… คือว่า​ อยู่ดีๆชั้นก็รู้สึกปวดท้องน่ะ… ฮ่าฮ่า~”

 

ชั้นพูดเช่นนั้นออกไป​ ก่อนจะเหลือบมองสีหน้าของ​ ยูซึกิ

สีหน้าที่เเสดงว่ารังเกียจ​ สีหน้าที่เเสดงว่าลําบากใจ​ สีหน้าที่เเสดงความสงสัย​ ถ้าเป็นเเบบนั้นก็คงจะไม่มีปัญหาหรอก​ เเต่ว่า—–

 

“….เอ๊ะ”

 

ด้วยเหตุผลบางอย่าง​ ยูซึกิ​ เธอเบิกตาโพลง​เหมือนกับว่ากําลังตกใจ​ ราวกับว่าสิ่งที่เธอทําหายไปเมื่อนานมาเเล้วอยู่ๆก็โผล่ออกมาจากที่ที่ไม่คาดคิด​ เป็นสีหน้าที่ประสมประสาน​กันระหว่างความรู้สึกตกใจเเละความรู้สึกโล่งใจ​

ทําไมเธอถึงทําสีหน้าเเบบนั้นล่ะ….?

เเต่ว่านี่ยังไม่ใช่เวลามาคิดคําถามที่ผุดขึ้นมานั่น​

ชั้นนําเท้าของตัวเองใส่เข้าไปในรองเท้า​ ก่อนจะรีบออกผ่านประตูทางเข้าของโรงเรียน​ ชั้นวิ่งไปถึงสถานีทั้งอย่างนั้น​ ตรงกับเวลาที่รถไฟเคฮังมาพอดี

ในขณะที่ถูกผู้โดยสาร​คนอื่นมองมาด้วยสายตาเเปลกๆ​ ชั้นได้ตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง

 

“…..ถ้าปวดท้อง​ มันคงจะดูปกติกว่านี้ ถ้ากลับไปพักที่อาคารเรียนสินะ​ ชั้นนี่มันโง่จริงๆเลย”

 

กะเเล้วดูเหมือนสมองของชั้นจะทํางานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ​จริงด้วย

 

“….เห้อ~”

 

ตอนนี้ไม่รู้เเล้วว่าอะไรเป็นอะไร

พอลองคิดสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ ก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเลยเเฮะ​ ชั้นลูบหัวของตัวเองเพื่อให้อาการบรรเทาลง

 

ติดตามเพจผู้เเปลได้ที่ Ao2Sides​ 

เปิดโหมดทํางาน!

เครื่องเปลี่ยนเสียงโอเค กล้องปิดอยู่​ ​คุณภาพเสียงการโทรอยู่ในระดับดี

ผู้เข้ามาปรึกษาในครั้งนี้​ มากิโนะ​ โคสุเกะ​ ปี​ 2​ ห้อง​ 7​ เพศชาย​ ระยะเวลาการปรึกษา​ 4​ เดือน

 

“เอาล่ะคงถึงเวลาตัดสินเเล้วสินะ”

 

ในห้องมืดๆเเห่งนี้ชั้นกําลังนั่งอยู่หน้าคอม อะเเฮ่ม​ หลังจากกระไอกระเเอมเล็กน้อย​ ชั้นก็เข้าไปใกล้ไมค์เเละพูดออกมาเช่นนั้น

เสียงของชั้นถูกทับด้วยเสียงอิเล็กทรอนิกส์​ เเบบนี้ก็ไม่มีใครรู้เเล้วว่าเป็นเพศอะไร​ เเค่นี้ต่อให้จะเป็นเสียงที่ไพเราะเเค่ไหน​ ก็คงฟังดูปัญญาอ่อน​เหมือนกันหมด

 

[คะ.. คือว่านะ]

 

หลังจากรอไปสักพัก​ ก็มีเสียงตอบกลับมา​ ด้วยความที่ฝั่งตรงข้ามไม่จําเป็นต้องใช้เครื่องเปลี่ยนเสียง​ เเน่นอนว่าเสียงที่ได้ยินต้องเป็นเสียงจริงๆของเจ้าตัว

ต้องขอบคุณจุดนั้นที่ทําให้ชั้นรู้ได้ทันทีว่าหมอนี่กําลังใจเสาะอยู่​ เฮ้อ…

 

“มีอะไรล่ะ”

[วะ.. ว่าเเล้ว​ ผมคงทําไม่ได้หรอก…]

“ยังรู้สึกลังเลอยู่อีกเหรอ”

[ก็เพราะ..! คนอย่างผมเนี่ยนะ​กับคุณยูซึกิคนนั้น…]​

 

อา​ ไอเจ้าคนไม่ได้เรื่องเอ๊ย

..ถึงชั้นจะพอเข้าใจความรู้สึกอยู่ก็เถอะ​ คงจะเจ็บปวดสินะ

เเต่ถ้านายหยุดอยู่ที่นี่​ล่ะก็ ทุกอย่างมันจะสูญเปล่าไปหมดเลยนะ​ เจ้าหมอนี่เองก็คงไม่ต้องการเเบบนั้นเหมือนกัน

 

“เดิมทีพวกนายเเทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์​กันเลยนะ​ เเต่ตอนนี้สามารถเข้ามาคุยกันได้เเบบปกติเเล้ว​ ชั้นว่ามันต้องไม่เป็นอะไรเเน่”

[ตะ.. เเต่ว่า]​

 

เรื่องที่มีปฏิสัมพันธ์กับเป้าหมายน้อยเเก้ไขเเล้วก็จริง​ เเต่นิสัยไม่มีความมั่นใจในตัวเอง​นี่ยังไม่ได้รับการเเก้ไขสินะ

เเต่ว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเเก้ไขนิสัยที่ติดตัวมาตั้งเเต่เกิดซะด้วย

ขอเเค่วันนี้ที่เป็นวันตัดสินวันเดียวก็พอ ถ้าสามารถเรียกความมั่นใจกลับมาได้ล่ะก็

 

[อะ.. อีกอย่าง.. ที่ผ่านมาคุณยูซึกิ.. เธอปฏิเสธคําสารภาพรักไปหมดเลยนี่..? บางทีเธออาจจะมีเเฟนอยู่เเล้วก็ได้​หรือไม่เธอก็อาจจะมีคนที่ชอบอ​ยู่เเล้ว..? ถ้าเป็นอย่างนั้น​ ผมมีเเต่จะทําให้เธอรําคาญเปล่าๆ…]​

 

หาเหตุผลให้ตัวเองตัดใจสินะ มันเป็นการป้องกันตัวเองที่คนเราชอบทําโดยไม่รู้ตัว​ เป็นจําพวกที่ยุ่งยากชะมัด

เรื่องที่ว่ามันเป็นไปได้หรือเปล่า​ ตัวนายเองก็รู้อยู่เเล้วหนิ

 

“สมมติ​ ยูซึกิ​ มีคนที่ชอบอยู่เเล้วจริงๆ​ นายคิดจะยอมเเพ้งั้นเหรอ?”

[ระ.. เรื่องนั้น..]

“ถ้านายคิดจะยอมเเพ้ล่ะก็​ ตัวชั้นก็ไม่มีอะไรจะช่วยนายเเล้วล่ะ เเต่ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น​ใช่ไหมล่ะ นายพยายามมาถึงขนาดนี้เลยนะ?”

[…เเต่ว่า]

“…..”

 

คงไม่ไหวเเฮะ​ เจ้าหมอนี่กําลังกลัวอยู่

ถ้าสถานการณ์​เป็นเเบบนี้​ พลังของชั้นมันจะให้ผลตรงกันข้าม​ ถึงจะให้กําลังใจไปตอนนี้ก็คงไม่มีผลอะไรอยู่ดี

….คงไม่มีทางเลือกสินะ

 

“เข้าใจเเล้ว​ งั้นช่วยสละเวลาให้ชั้นสักนิดจะได้หรือเปล่า?”

[เอ๊ะ… คะ.. คิดจะทําอะไรน่ะ]​

“ยูซึกิมีคนรักหรือคนที่ชอบอยู่เเล้วหรือเปล่านั้น​ หรือ​ ถ้าเธอไม่มี​ อะไรคือสาเหตุที่ทําให้เธอเลือกไม่คบกับใคร​ ชั้นจะเป็นคนไปสืบมาให้เอง”

[จะ.. จริงเหรอ..! ทําได้งั้นเหรอ?]​

 

โอ้ย! อยู่ๆก็ร่าเริงขึ้นมาทันทีเลยนะ​ เจ้านี่เปลี่ยนท่าทีจากหน้า​มือ​เป็นหลังมือเลยเเฮะ​ (ผู้เเปล:ของยุ่นใช้คํานี้​ 現金なやつ ความหมายคือพวกที่เปลี่ยนท่าทีไปตามสถานการณ์​)​

 

“อย่าคาดหวังมากละกัน​ ถึงจะพูดว่าไปสืบมาให้​ เเต่ก็อาจจะมีเรื่องที่ชั้นไม่เข้าใจเหมือนกัน”

“อะ.. โอ้​ เเน่นอนอ​ยู่เเล้ว! โทษทีนะ​ที่ต้องวานไปถึงเรื่องนั้นเลย…”

“ไม่หรอก​ ยังไงชั้นก็คิดไว้อ​ยู่เเล้ว​ ว่าสักวันมันต้องกลายเป็นเเบบนี้​ นี่เองก็เป็นงานเหมือนกัน”

 

เเถมถ้าไม่รีบปิดทางหนีตั้งเเต่ตอนนี้ล่ะก็​ นายก็คงไม่กล้าจะทําอะไรน่ะสิ​ เเต่ชั้นจะไม่พูดออกมาหรอก

 

[….นี่]

“หืม?”

[กะเเล้ว​ยังไงก็ไม่คิดจะบอกตัวตนที่เเท้จริงของตัวเองสินะ?​ เป็นนักเรียนของโรงเรียนเราเหมือนกันใช่ไหมล่ะ?]​

 

คําพูดเช่นนั้นของมากิโนะทําให้ชั้นขยิบตาออกมา

ไม่ใช่ว่ามันเป็นสิ่งที่เเย่หรอก​ จะสงสัยก็เป็นเรื่องปกติ

เเต่ว่านั่นมันเป็นการละเมิดกฏนะ​ มากิโนะ

 

“ถ้าถึงเวลาที่จําเป็นชั้นจะบอกเอง​ เเต่ว่าไม่ใช่ตอนนี้​ ตรงจุดนั้นช่วยเข้าใจที”

[ตะ.. เเต่ว่านะ..! ที่ช่วยกันมาถึงขนาดนี้​ ผมอยากจะขอบคุณให้ได้น่ะ]​

“มากิโนะ”

[อะ.. โอ้.. ]​

“การสารภาพรัก​ ถ้าราบรื่นก็คงจะดีนะ”

[….อา]

“งั้นจะวางสายเเล้ว​นะ​ ถ้ารู้อะไรเพิ่ม​ เดี๋ยวจะติดต่อมาอีกที”

[อืม​ ..ขอบคุณนะ ​”นางฟ้า” ]​

 

ชั้นตัดสายโทรศัพท์​ไปเเค่นั้น​ ​ก่อนจะถอดหูฟังออก​ หลังจากมั่นใจว่ามากิโนะออกจากห้องเเชทไปเเล้ว​ ชั้นก็ออกจากห้องเเชทตามไป

[ถึงจะไปสืบมาให้​ ก็อาจจะมีเรื่องที่ชั้นไม่เข้าใจเหมือนกัน]​ ชั้นพูดประโยคนี้ไปเมื่อกี้ก็จริง

เเต่ว่าคราวนี้มันต่างกัน​ ไม่ใช่ว่าชั้นไม่เข้าใจมันซะทีเดียว

หลังจากจิบโคล่าเย็นๆที่อยู่ในเเก้วไปสักพัก

ชั้นก็ไขว้เเขนก่อนจะหลับตาลง

เอาล่ะ​ ในระหว่างที่หลับก็มาคิดเเผนไปด้วยดีกว่า

 

ติดตามเพจผู้เเปลได้ที่ Ao2Sides​

ถ้ามียาเเก้ปวดสําหรับความรักก็คงจะดีเเท้ๆ

ถ้าซื่อตรงต่อตัวเองเหมือนกับที่ซื่อตรงต่อความรักได้ก็คงจะดีเเท้ๆ

ถ้ามีความกล้าเพื่อให้ถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองได้ง่ายขึ้นก็คงจะดีเเท้ๆ

ถ้าคนๆนั้นหันมาชอบตัวเราก็คงจะดีเเท้ๆ

ความรู้สึกที่เกี่ยวกับความรักเหล่านั้น​ ชั้นเข้าใจมันอย่างเจ็บปวดเลยล่ะ

เเต่ว่ามันยังมีเรื่องที่มีเเต่ชั้นที่ทําได้อยู่

ดังนั้นชั้นจึงตัดสินใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง

ชั้นตัดสินใจที่จะกลายมาเป็นคิวปิด

ไม่สิ.. เเบบนั้นคงจะเป็นการพูดเกินจริงไปหน่อย

ถ้าให้พูดสั้นๆ​ มันก็เป็นเเค่การปรึกษาปัญหาความรักทั่วๆไปที่เกิดขึ้นบ่อยๆนั่นเเหละ

อืม​ ในตอนเเรกมันก็ควรจะเป็นเเบบนั้นอยู่หรอก—–

 

ติดตามเพจผู้เเปลได้ที่ Ao2Sides​

[นิยายเเปล] Tenshi wa tansan shika nomanai นางฟ้าที่ดื่มเเต่นํ้าอัดลม

[นิยายเเปล] Tenshi wa tansan shika nomanai นางฟ้าที่ดื่มเเต่นํ้าอัดลม

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset