นางบำเรอเติมใจ 97

ตอนที่ 97

“ทำไม ทำไมถึงไม่มีใครบอกปลาย” น้ำตาไหลลงอาบแก้ม เธอโกรธตัวเองที่ไม่รู้อะไรเลย มัวแต่โกรธเขาจนไม่รออะไร

“ไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอกครับเพราะทางเราปิดข่าว เพราะตอนนั้นยังจัดการคนร้ายไม่ได้”

“คนร้าย ไม่ใช่อุบัติเหตุเหรอคะ” พิรุณรักยิ่งรู้สึกเป็นห่วงเขาหนักขึ้น

“ใช่ครับ เป็นศัตรูเก่าแต่ตอนนี้เราจัดการได้แล้ว”

“เขาเป็นยังไงบ้างคะ” ได้ยินว่าจัดการคนร้ายได้ก็เบาใจ

“คุณริคปลอดภัยแล้วครับ ตื่นขึ้นมาก็ถามหาคุณเป็นคนแรก” พิรุณรักเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า หัวใจเต้นแรง ความโกรธ ความน้อยใจ ที่มีให้เขาก่อนหน้านี้หายไปหมด ตอนนี้เธอมีแต่ความคิดถึงและความเป็นห่วง

“แล้วเขาจะกลับมาที่นี่ไหมคะ”

“ไม่ครับ” พิรุณรักรู้สึกผิดหวัง มือเผลอลูบหน้าท้อง ซึ่งไม่คาดสายตาของแซค

“เพราะเขายังเดินไม่ได้ครับ” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หัวใจกระตุก

“หมายความว่ายังไงคะ”

“เป็นเพราะแรงระเบิดครับ ทำให้ส่วนขาขยับไม่ได้ และตอนนี้คุณแกริคเดินไม่ได้ครับ” แซคมองดูปฏิกิริยาของหญิงสาวเมื่อรู้ว่าเจ้านายของเขาเดินไม่ได้จะเป็นอย่างไร และเขาก็ได้เห็นความตกใจ ความห่วงใย อยู่ในสีหน้าของเธอ

พิรุณรักน้ำตานองอีกครั้ง

“แล้วเขาจะกลับมาเดินได้อีกไหมคะ”

“ไม่รู้ครับ หมอบอกต้องลองทำกายภาพบำบัด” แซคไม่ได้เล่าความจริงให้ฟังทั้งหมด

“ฉันจะช่วยอะไรได้บ้าง” เธอเป็นห่วงเขาจับใจ แซคยิ้มกว้าง เจ้านายเลือกผู้หญิงไม่ผิดจริงๆ

“คุณแกริคบอกผมมารับคุณครับ แต่ถ้าคุณรังเกียจคนพิการก็ไม่ต้องไปก็ได้ คุณริคไม่บังคับ เขาให้คุณเป็นคนเลือกครับ” แซคขอโทษแกริคในใจ ภาวนาอย่าให้แกริครู้เรื่องที่เขาพูดวันนี้เลย ไม่งั้นเขาตายแน่ๆ

ในวินาทีที่แซคบอกว่าแกริคให้เขามารับเธอ เธอก็ตัดสินใจในทันทีว่าเธอจะไป ไม่มีอะไรต้องลังเล เธอเป็นห่วงเขา อยากเห็นกับตาว่าเขาเป็นยังไงบ้าง เธอมีเรื่องจะพูดกับเขามากมาย อยากบอกข่าวดีเรื่องลูกกับเขา ถึงเขาจะเดินไม่ได้ไปตลอดชีวิตเธอก็ไม่สน ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะรักผู้ชายคนนี้

และเขาก็รักเธอ เขาไม่ได้ทิ้งเธอไปไหน เขาแค่มาหาเธอไม่ได้ แต่ทันทีที่เขาฟื้นเขาก็ให้คนมารับเธอ เธอยังจะต้องลังเลอะไรอีก

“ฉันจะไปค่ะ”

หลังจากที่ตัดสินใจว่าจะไป แซคก็ให้เวลาเธอเคลียร์กลับที่บ้านหนึ่งวัน พรุ่งนี้จะมารับ เพราะแกริคสั่งมาว่าเขาอยากให้เธอเต็มใจไปหาเขาเอง และก็ไม่อยากบังคับเธอ

ข้อความสุดท้ายนี้แซคเป็นคนเสริมเข้าไปเอง ใครจะไปกล้าบอกว่า ทำยังไงก็ได้ให้เธอเต็มใจมา แต่เขาก็ทำถูกใช่ไหม เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย แค่พูดไม่ตรงกับความจริงนิดเดียวเอง

พิรุณรักมองหน้าบิดาและมารดา ชั่งใจว่าจะเริ่มต้นพูดกับพวกท่านยังไงดี จะเลือกทางไหนระหว่างบอกความจริงหรือว่าจะโกหก

“มีอะไรรึเปล่าลูก มีอะไรก็พูดมาเถอะ” องอาจเห็นท่าทางของลูกสาวแล้วทนไม่ไหว ถ้าตนไม่เป็นฝ่ายเริ่มถามก่อน วันนี้จะรู้เรื่องไหม

“คือ..ปลาย ปลาย มีเรื่องจะขอพ่อกับแม่ค่ะ”

“ขอ ขออะไรลูก” สายพิณขมวดคิ้วถามลูกสาว

“คือ คนเมื่อเช้าที่มาหาปลายที่บ้าน เขาเป็นลูกน้องของเจ้านายปลายค่ะ” พิรุณรักเว้นจังหวะการพูด มองหน้าพ่อกับแม่ที่ตั้งใจฟัง

“แล้วตอนนี้เจ้านายปลายเขาป่วยเพราะประสบอุบัติเหตุเมื่อเดือนก่อน ปลายอยากไปดูแลเขาค่ะ” เธอพูดเริ่มประโยคแรกเนิบช้า แต่ประโยคหลังกลับพูดเร็ว

“ดูแล ทำไมเราต้องไปดูแลเขาด้วยลูก เราเป็นแค่พนักงานคนหนึ่ง ทำไมไม่ให้ครอบครัวเขาดูแล” สายพิณยังไม่เข้าใจ

“คือ..แม่คะ พ่อคะ คือ เขา เขาเป็นแฟนปลายค่ะ” พิรุณรักก้มหน้าพูด เธอรู้สึกผิดที่ปิดบังเรื่องนี้กับท่าน ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ไม่มีวันไหนเลยที่เธอจะสบายใจ เธอทำให้พ่อกับแม่ต้องเสียใจ

สายพิณและองอาจมองหน้ากันทันที

“แฟน”

“ค่ะ ปลายขอโทษที่ไม่ได้บอกพ่อกับแม่นะคะ ปลายขอโทษ” พิรุณรักลากเก้าอี้ออกแล้วนั่งลงกับพื้น ก้มกราบลงตักของพ่อ ความอึดอัดทำให้เธอเริ่มร้องไห้

พ่อกับแม่มองหน้ากัน แล้วถอนหายใจเบาๆ

“เอาล่ะๆ เรามีอะไรจะสารภาพอีกไหม” สายพิณเป็นคนเริ่ม

พิรุณรักเม้มปากเข้าหากัน ก้มหน้า นั่งอยู่ที่พื้นอย่างสำนึกผิด

“ปลาย ปลาย..ท้องค่ะ” คำสารภาพของลูกสาวไม่ได้ทำให้พวกท่านตกใจเท่าไหร่ เพราะเหมือนจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว อาการของพิรุณรักแสดงให้เห็นชัดเจน คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนย่อมรู้เป็นธรรมดา

“กับคนนี้ใช่ไหม” สายพิณถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงปกติ

พิรุณรักพยักหน้าช้าๆ น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอเสียใจที่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง ตอนทำไม่เคยคิดหรอกว่ามันจะเป็นยังไงเอาแค่ความชอบของตัวเอง ความสุขของตัวเอง แต่พอมาเห็นหน้าพ่อหน้าแม่ถึงรู้ว่าตัวเองทำผิดต่อพวกท่านมาก

“ปลายขอโทษ ที่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง” พิรุณรักกราบท่านทั้งสองอีกครั้ง ร้องไห้สะอื้นหนัก สายพิณลูบหลังลูกสาวเบาๆ จะบอกว่าไม่เสียใจก็ไม่ใช่ แต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ถึงจะเป็นยังไงก็ลูก

“เขายอมรับเรารึเปล่า” ที่ถามเพราะอยากแน่ใจ การที่ลูกสาวมาขอร้องแบบนี้แสดงว่ารักฝ่ายนั้นมาก ดูท่าฐานะจะต่างกันมากด้วย เพราะฝ่ายนั้นเป็นถึงเจ้านาย

พิรุณรักพยักหน้าทั้งน้ำตา

“เอาเถอะ ไม่ต้องร้องแล้ว พ่อกับแม่ไม่โกรธหรอก จะมีหลานให้อุ้มจะโกรธทำไม ใช่ไหมพ่อ” สายพิณปลอบใจลูกสาวแล้วหันไปถามความเห็นสามี องอาจถอนหายใจ

“เอาเถอะ ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว จะแก้ไขอะไรได้”

“ปลายขอโทษ” พิรุณรักพูดเสียงสะอื้น

“เราตัดสินใจดีแล้วใจใช่ไหมที่จะไป” สายพิณถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง

“ค่ะ”

“แล้วเขาอยู่ที่ไหนล่ะ”

“อิตาลีค่ะ เขารักษาตัวอยู่ที่บ้านเกิดเขาค่ะ” องอาจและสายพิณมองหน้ากันอีกครั้ง

“มันไม่ไกลไปเหรอลูก” เธอไม่คิดว่าลูกจากจะไปไกลขนาดนั้น

“ไกลจ๊ะแม่ แต่..ปลาย” เธอไม่รู้ว่าถ้าพูดไปจะทำให้พ่อกับแม่น้อยใจรึเปล่า ที่เห็นผู้ชายดีไปกว่าความรู้สึกพวกท่าน

“อยากไป” สายพิณพูดแทนลูกสาว

“ปลาย อยากบอกเขาเรื่องลูกด้วยตัวเองด้วยค่ะ ปลายอยากไปดูแลเขาค่ะแม่” พิรุณรักลุกขึ้นไปกอดเอวมารดา ร้องไห้หนัก

“เอาล่ะๆ ไม่ต้องร้องแล้ว เดี๋ยวส่งผลถึงลูกในท้อง ในเมื่อลูกตัดสินใจแล้วแม่ก็ไม่ห้าม”

“จริงเหรอคะ” พิรุณรักกอดท่านแน่นกว่าเดิม

“จ๊ะ ว่าไงพ่อ”

“แม่พูดอย่างนั้นพ่อจะว่าอะไรได้ แต่ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยลูกต้องกลับมาทันที” พิรุณรักพยักหน้ารัวๆ

“ค่ะ”

“แล้วนี่จะไปวันไหน”

“พรุ่งนี้ค่ะ” พิรุณรักตอบเสียงเบา

“งั้นไปพักผ่อนเตรียมตัวเถอะ”

ถึงจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของลูกสาวแต่พวกท่านจะว่าอะไรได้ ถ้าคัดค้านพวกท่านก็จะไม่ได้ลูกสาวคนเดิมกลับมา ความซึมเศร้าของลูกหลังจากที่กลับมาอยู่บ้านทำให้พวกท่านไม่สบายใจ

เช้าวันต่อมา แซคเดินทางมาที่บ้านสวนของพิรุณรักตามที่นัดกันไว้ แต่หญิงสาวยังไม่ออกมาจากห้องเพราะกำลังเก็บของเพิ่มและเตรียมเอกสาร เลยทำให้แซคได้เจอกับพ่อแม่ของพิรุณรักแทน

“สวัสดีครับ” แซคยกมือไหว้ทั้งสองคนด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ สำเนียงแปร่งๆ

“สวัสดีจ้ะ” สายพิณทักทาย

“เอ่อคือ…” แซคไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset