นางบำเรอเติมใจ 90

ตอนที่ 90

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา หลายคนหลายความคิด โดยเฉพาะผู้หญิง

“เมฆนายทำอะไรบ้างรึยัง” แม้กระทั่งนิรินที่นั่งหน้าเครียดสะบัดเสียงถามเพื่อนชาย

“ทำอะไรล่ะนิริน เธอไม่เห็นรึไงว่างานท่วมหัวขนาดนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปทำอะไรๆ ของเธอ ฉันว่าเธอตัดใจซะเถอะ ฉันเองก็ไม่อยากได้แล้วเหมือนกัน ดูท่าปลายฝนจะเป็นคนสำคัญของท่านจริงๆ” ถึงขนาดเปิดตัวออกสื่อขนาดนั้น พิรุณรักคงไม่ธรรมดา เขาเองก็ไม่กล้ายุ่งด้วยหรอกนะ ไม่อยากเสี่ยงที่จะตกงาน เงินเดือนที่นี่ก็ไม่ใช่น้อยๆ ถ้าไปที่อื่นคงไม่ได้มากขนาดนี้

“ใจเสาะ” นิรินพูดอย่างดูถูก

“ถ้าเธอไม่ใจเสาะ ก็เชิญตามสบายฉันไม่เอาด้วย”

“ชิ” นิรินสะบัดหน้าหนี เธอต้องหาทางเปิดโปงยัยนั่นให้ได้ว่าสำส่อนแค่ไหน

“เที่ยงแล้วไปทานข้าวกันเถอะ กินอะไรกันดี” มุตาเป็นฝ่ายเอ่ยชวน

“โรงอาหารบริษัทนี่แหละง่ายดีจะได้รีบกลับมาทำงาน” ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับต้นหลิว

“เจ้เลี้ยงข้าวหน่อยดิ ไม่ได้กดตังค์มา” มาร์คเดินเข้าไปหาต้นหลิวแล้วทำตาปริบๆ

“ไม่ต้องแดก” ต้นหลิวกระแทกเสียงใส่แล้วเดินนำออกไป มาร์คก็วิ่งเกาะติด ทุกคนก็เดินตามออกไป ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงโรงอาหารบริษัทคนจึงเยอะพอสมควร ทุกสายตาตอนนี้เรียกได้ว่าจับจ้องอยู่ที่กลุ่มพนักงานแผนกไอทีเป็นตาเดียว

“แกดังใหญ่แล้วปลาย” พิรุณรักทำทีไม่สนใจสายตาพวกนั้นรีบดึงแขนเพื่อนให้เดินไปที่โต๊ะ

“น้องปลายกินอะไรครับพี่ไปซื้อให้” ดนัยเป็นคนอาสา เพราะกลัวว่าหญิงสาวจะอึดอัด

“ไม่เป็นไรค่ะพี่ดนัย ปลายไปซื้อเองได้” พิรุณรักรู้สึกเกรงใจ

“ไม่ต้องไปหรอกแก ฉันกลัวแกจะพรุนซะก่อน นั่งอยู่นี่แหละฉันซื้อมาให้ก็ได้ กินอะไร”

“ขอบใจแก เอาเหมือนแกก็ได้” ทุกคนไปซื้ออาหารเหลือแค่พิรุณรักคนเดียวที่นั่งเฝ้าโต๊ะ

นิรินเองก็มาทานอาหารกับพี่ๆ ที่แผนกเหมือนกันหยุดชะงักทันทีเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่ใกล้ๆ โต๊ะที่เธอจะนั่ง ริมฝีปากที่เคลือบลิปสติกสีแดงสดบิดเบี้ยวทันที ลากเก้าอีกเสียงดังแล้วนั่งลง ทุกคนในโต๊ะของสาวเจ้าก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะทุกคนรู้ทุกคนเห็นว่านิรินอ่อยท่านประธานทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ก็ไม่มีใครกล้าเตือนเพราะเธอเป็นคนแรงๆ

ยิ่งมารู้ว่าท่านประธานมีเด็กในบริษัทยิ่งทำให้นิรินเกิดความอิจฉาขึ้นอีกเท่าตัว เพราะคิดว่าตัวเองมีดีกว่าทำไมเธอถึงไม่เข้าตาท่านประธาน

“วันนี้นิรินอยากกินแกงหรี่จังเลยค่ะทุกคน” สาวเจ้าพูดขึ้นเสียงดังโดยไม่อายใคร เมฆาส่ายหัวให้นิรินอย่างปลงๆ

“ทีนี่ไม่น่าจะมีนะนิริน” หนึ่งในโต๊ะพูดขึ้น

พนักงานทุกคนในที่นี้ยังไม่มีใครปักใจเชื่อว่าพิรุณรักเป็นคนสำคัญของแกริคจริงอย่างที่ได้ประกาศออกไป ทุกคนเชื่อว่าอย่างมากก็เป็นได้แค่นางบำเรอชั่วคราว ตอนนี้อาจจะหลงมากหน่อยเลยพูดเพื่อเอาใจผู้หญิง เพราะถ้าเป็นคนสำคัญจริงหญิงสาวคงไม่ต้องมาทำงานตำแหน่งตอกต๋อยแบบนี้หรอก

ทำให้ทุกคนได้แต่มองพิรุณรักอย่างดูถูก ส่วนจะมีคนกล้าพูดอะไรหรือไม่นั้นมันก็แล้วแต่คน อย่างเช่นนิรินตอนนี้ ทุกสายตากำลังจับจ้องมาที่โต๊ะสองโต๊ะอย่างอยากรู้อยากเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“เมฆนายไปซื้อหน่อยสิน่าจะมีคนแถวนี้ขาย” นิรินจ้องไปทางพิรุณรักตรงๆ ซึ่งเสียงดัง ๆ ของหญิงสาวทำให้พิรุณรักอดที่จะเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ที่กำลังเล่นอยู่ไปมองไม่ได้ และเธอก็ได้รู้ว่าเสียงแว๊ดๆ ที่พูดดังๆ นั่นกำลังพูดกระทบเธอ

“ฉันไม่ชอบ” เมฆาบอก

“มองทำไมย่ะ” นิรินเปิดประเด็นเมื่อพิรุณรักจ้องหน้าหล่อนไม่ยอมหลบ ความเกลียดที่สะสมมาทำให้เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้

“แล้วคุณมองฉันทำไมล่ะคะ” พิรุณรักคิดว่าจะไม่สนใจสายตาคนอื่น แต่ถ้ามาพูดกระทบกันแบบนี้เธอก็ไม่ยอมเหมือนกัน

“เกิดอะไรขึ้นแก” หทัยรัตน์กลับมาเป็นคนแรกหลังจากออกไปซื้อข้าว มองเพื่อนกับโต๊ะตรงข้ามสลับกัน

“หึ ฉันก็มองคางคกขึ้นวอน่ะสิ” นิรินพูดเย้ยหยัน พร้อมกับสายตาดูถูก พิรุณรักกำมือแน่น พยายามอย่างมากที่จะไม่เดินเข้าไปตบฝ่ายตรงข้าม เธอไม่ใช่คนยอมคน แต่ตอนนี้เธอโตพอที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แล้ว

“ก็ดีกว่าคนไม่ได้ขึ้น ได้แต่เห่าเครื่องบิน” เธอบอกว่าจะไม่ตบคนแต่ไม่ได้บอกว่าจะไม่ตอบโต้

“นี่แก แกหาว่าฉันเป็นหมาเหรอ” นิรินชี้หน้าด่า

ทุกคนในโรงอาหารจับจ้องมาที่จุดเกิดเหตุเป็นตาเดียวบางคนถึงกลับยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิป

“แล้วคุณเห่าได้รึเปล่าล่ะคะ ถ้าเห่าไม่ได้ก็คงไม่ใช่”

นิรินกัดฟันกรอด

“นิรินอย่ามีเรื่องเลย” พี่หนึ่งในแผนกห้ามเธอไว้

“นิรินจะไม่มีเรื่องถ้ามันไม่ด่านิริน เป็นแค่นางบำเรอของท่านประธานคิดว่าจะทำอะไรก็ได้งั้นสิ” ทุกคนในโต๊ะได้แต่ถอนหายใจ เห็นๆ อยู่ว่าใครเริ่มก่อน

โต๊ะของพิรุณรักกลับมาครบทุกคนแล้ว ทุกคนมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ แต่มันก็แค่แป๊บเดียว มาร์ครีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความไปหาแซคทันที

“อยากเป็นด้วยไหมล่ะคะ นางบำเรอของท่านประธานถ้าอยากเป็นฉันจะช่วยพูดให้” พิรุณรักโต้กลับพร้อมกับยื่นข้อเสนอที่ทำให้ฝ่ายนั้นหยุดชะงัก ดวงตาไหวระริก

“พูดอะไรของแก คนอย่างฉันไม่มีทางเป็นของเล่นของใคร” นิรินพูดเสียงติดขัด

“แล้วคุณเดือดร้อนอะไรกับฉันไม่ทราบ ฉันจะเป็นอะไรกับท่านประธานหรือไม่เป็นมันทำให้พวกคุณเดือดร้อนตรงไหน” การเปิดตัวว่าเธอคบกับแกริค มันไปกระทบกับทุกคนหรือไง เพราะอย่างนี้ไงเธอถึงไม่อยากให้ใครรู้ เธอไม่อยากตกเป็นเป้าสายตา ไม่อยากโดนคนอื่นนินทา

ทุกคนที่ได้ยินแบบนั้นก็อึ้ง เพราะมันก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาเดือดร้อนจริงๆ

“พวกฉันไม่เดือดร้อนหรอก แต่มันจะทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงที่มีผู้หญิงขายบริการทำงานอยู่ที่นี่” นิรินโต้กลับบ้าง และคำพูดของเธอก็ทำให้พิรุณรักและหทัยรัตน์อึ้งตัวแข็งทื่อ โดยเฉพาะหทัยรัตน์เธอกำมือแน่นกลัวไปหมดว่าทุกคนจะรู้อดีตของเธอ

พิรุณรักมองฝ่ายนั้นอย่างระแวง เธอไปรู้อะไรมา

“บริษัทผมมีผู้หญิงขายบริการด้วยงั้นเหรอ” แต่เสียงทุ้มที่ทรงอำนาจดังขึ้น ทำให้พิรุณรักใจอุ่นวาบ

ทุกคนเบิกตากว้าง แหวกทางให้ผู้มีอำนาจสูงสุดเดินเข้ามา พิรุณรักตกใจไม่น้อยที่แกริคมาปรากฏตัวที่นี่ ไม่ใช่ว่าเขาออกไปทานข้าวข้างนอกแล้วหรอกเหรอ เพราะเธอพึ่งคุยไลน์กับเขาก่อนหน้านี่เอง

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset