นางบำเรอเติมใจ 82

ตอนที่ 82

แซคมองตามคนที่เดินออกไปจนสุดสายตาแล้วได้แต่ถอนหายใจ เป็นเอามาก มากจริงๆ

“อารักขาเจ้านายด้วย” แซคโทรไปสั่งบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างล่างถ้าเขาไม่ได้ไปด้วย ก็ต้องมีคนตามแกริค อันตรายมันมีอยู่รอบด้าน แต่ถึงเขาไม่สั่งพวกนั้นก็รู้หน้าที่ดี แค่อยากย้ำเพื่อความมั่นใจของตัวเองเท่านั้น

แกริคขับรถกลับคอนโดหรู เข้ามาในห้องก็เห็นว่าห้องเงียบผิดปกติ เดินเข้าไปในห้องนอนเห็นพิรุณรักยังนอนอยู่ที่เดิมเหมือนจะยังไม่ลุกไปไหน

นี่เขารังแกเธอหนักขนาดนี้เลยเหรอ

มือใหญ่จับไหล่บางแล้วโยนเบาๆ

“ปลายฝน ปลายฝน” แกริคตัดสินใจปลุกเธอให้ตื่น เพราะนี่มันจะเที่ยงแล้วเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย

“อือ”

“ตื่นได้แล้ว” เขาก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็ก

“คะ” ร่างบางสะลึมสะลือตอบรับแผ่วเบา ค่อยๆ ลืมตาขึ้นหรี่ค่อยๆ ปรับแสง ทำไมเธอรู้สึกปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัวแบบนี้นะ

“ตื่นเถอะ” มือใหญ่แตะที่หน้าผากของหญิงสาวดูว่าเธอมีไข้รึเปล่า แล้วรู้สึกว่าตัวเธอรุมๆ

“กี่โมงแล้วคะ” พิรุณรักเห็นว่าแกริคอยู่ในชุดทำงานเธอก็นึกได้ว่าตัวเองต้องไปทำงานเหมือนกัน ป่านนี้ไม่สายแย่แล้วเหรอ

“จะเที่ยงแล้วคนสวย ตื่นขึ้นมากินข้าวจะได้กินยาตัวเธอรุมๆ เหมือนจะมีไข้”

“เที่ยง ตายแล้วหนูต้องไปทำงาน” ร่างบางตื่นเต็มตา ดีดตัวขึ้น

“ไม่ต้อง ฉันลาให้เธอแล้ว” แกริคมองอกอวบที่เด่นหราอยู่ตรงหน้าแล้วกลืนน้ำลาย เขาไม่อยากรังแกเธออีกแต่ถ้าเธอยังยั่วเขาอยู่แบบนี้คงไม่ต้องไปไหนกันพอดี

พิรุณรักเมื่อเห็นสายตาของคนตัวโต เธอก็มองตามก็อ้าปากค้างรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวทันที

“ทำไมไม่ปลุกหนูคะ”

“เธอเหนื่อยเกินไปที่จะลุกไหว ฉันเลยให้พัก” พิรุณรักส่งค้อนให้เขา ดีใจจริงๆ

“แล้วคุณไม่ไปทำงานเหรอคะ”

“ฉันเลิกงานแล้ว”

“เลิกงาน นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลยนะคะ”

“ถามมากจริง ฉันจะเลิกเวลานี้ใครจะว่า” ใช่สิ ใครจะกล้าว่าเขาก็เขาเป็นผู้บริหารหนิ

“เช็ดตัวดีกว่าไม่ต้องอาบน้ำหรอก”

“ไม่เอา หนูเหนียวตัว อยากอาบน้ำจะได้สดชื่น” มือใหญ่เอื้อมไปแตะหน้าผากเธออีกรอบ แกริคพยักหน้าให้เพราะตัวเธอก็ไม่ได้ร้อนมาก

“อย่าอาบนานนะ”

“ค่ะ”

“หรือจะให้ฉันอาบให้”

“ไม่ต้องค่ะ คุณออกไปรอหนูข้างนอกนะคะ” ถ้าเขาอาบให้มีหวังเธอไม่ได้อาบน้ำเฉยๆ แน่

“โอเค ฉันให้เวลายี่สิบนาที”

ลับร่างสูง พิรุณรักก็ลุกขึ้นเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอก็เดินออกมาจากห้อง กลิ่นข้าวต้มหอมฟุ้งทำให้เธอต้องกลืนน้ำลาย

“มาแล้วเหรอ นั่งสิ ฉันจะตักข้าวต้มให้” พิรุณรักนั่งลงตามที่เขาบอก มองคนตัวโตที่สาระวนอยู่หน้าเตา

“คุณทำเองเหรอคะ” เธอถามเขาอย่างไม่แน่ใจ

“ใช่ อะ กินเยอะๆ จะได้มีแรง” พิรุณรักมองถ้วยข้าวต้มตรงหน้าอย่างไม่น่าเชื่อ เขาทำเป็นด้วย

“แค่มองมันจะอิ่มไหม”

“ขอบคุณนะคะ” เธอเอ่ยขอบคุณเขาเบาๆ ตักข้าวต้มเข้าปากแล้วก็เหลือบมองคนตัวโตที่จ้องเธออยู่ก่อนแล้ว รสชาติของมันอร่อยมากอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วตักคำต่อไปเข้าปากเรื่อยๆ จนหมด

“อร่อยล่ะสิ” แกริคยิ้มกริ่มเมื่อเห็นหญิงสาวกินข้าวต้มของตัวเองจนหมด

“อร่อยมากค่ะ แล้วคุณไม่กินเหรอคะ” พึ่งนึกขึ้นได้ว่านี่ก็เที่ยงแล้วเขาคงยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน

“กิน แต่ฉันต้องคุมเธอกินยาก่อน อะนี่” แกริคส่งน้ำกับยาให้หญิงสาว เธอก็รับมาแล้วกินโดยไม่งอแงอะไร แกริคเลิกคิ้วมอง

“หนูไม่ใช่เด็กนะคะที่ป่วยแล้วจะไม่ยอมกินยา” พิรุณรักส่งค้อนให้เขา

“ใครจะไปรู้”

“ขอบคุณนะคะ คุณดีกับหนูมาก” พิรุณรักโถมตัวเข้าไปกอดเขาอย่างขอบคุณ

“เพราะเธอคือคนพิเศษ ฉันถึงทำให้ขนาดนี้” แกริคจูบหน้าผากมนเบาๆ ลูบแผ่นหลังบางขึ้นลง พิรุณรักหลับตาซึมซับความอ่อนโยนของเขา แม้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไงเธอก็ไม่เสียใจที่ตัดสินใจรักเขาและมาอยู่กับเขาแบบนี้

“นอนพักอีกสักหน่อยไหม”

“ไม่เอาหนูไม่ง่วง พึ่งจะตื่นจะให้หนูนอนอีกแล้วเหรอคะ”

“นั่นสิ งั้นทำอะไรดี” แกริคก้มมองสาวเจ้าด้วยสายตาแวววาว พิรุณรักเมื่อเห็นสายตาของเขาก็เม้มปากแน่น

“หนูจะดูหนัง”

“ดูหนัง เป็นความคิดที่ดี”

“แต่ คุณยังไม่ทานข้าวเลยนะคะ อยากกินอะไรอย่างอื่นนอกจากข้าวต้มไหมคะ หนูจะทำให้” แกริคก้มลงไปหอมแก้มหญิงสาวอย่างขอบคุณกับความน่ารักของเธอ

“ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ค่อยหิว ออกไปรอฉันที่ห้องนั่งเล่นไปเลือกหนังที่เธออยากดูรอ เดี๋ยวฉันตามออกไป”

“ค่ะ” พิรุณรักเดินออกมารอเขาตามที่บอก เปิดทีวีขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าแล้วเลื่อนหาหนังที่อยากดู ทุกวันนี้เราไม่ต้องมีแผ่นก็ได้เพราะอินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมต่อกับทีวีได้เราสามารถเลือกสิ่งที่อยากดูทางเน็ตผ่านทีวีจอยักษ์โดยไม่ต้องง้อแผ่น

“เลือกได้รึยัง” แกริคเดินออกมาพร้อมกับถ้วยกาแฟในมือ

“แค่กาแฟเหรอคะ” พิรุณรักถามเขาอย่างเป็นห่วง

“ไม่ต้องห่วงฉันขนาดนั้นสาวน้อย ฉันกินข้าวต้มมาแล้ว” แกริคไข้ข้อข้องใจให้กับเธอ สายตาห่วงใยของคนตัวเล็กทำให้เขาอบอุ่นก็จริงแต่เขาก็ไม่อยากให้เธอกังวลกับเขามาก

พิรุณรักพยักหน้าเข้าใจ แล้วหันมาสนใจหน้าทีวีต่อ เลื่อนไปเลื่อนมาก็ได้หนังที่ต้องการ เป็นหนังรักโรมแมนติกที่นานมาแล้ว

“ชอบแนวนี้เหรอ”

“หนูดูได้ทุกแนวค่ะ แต่เห็นเรื่องนี้แล้วอยากดู” พิรุณรักกดเริ่มเรื่อง ผ่านไปราวยี่สิบนาทีฉากหวานๆ ในหนังทำให้เธออินไปกับมัน

“มานี่มา” แกริคตบที่ตักตัวเองเบาๆ

“ไม่เอาเดี๋ยวคุณเมื่อย”

“ฉันไม่เมื่อยหรอก อย่าดื้อน่า” พิรุณรักยอมปีนขึ้นไปนั่งบนตักของคนเอาแต่ใจ แกริคตัวใหญ่กว่าเธอมาก เขากอดแต่ล่ะทีเธอแทบจมไปกับอกเขา

ร่างใหญ่โอบร่างบางไว้หลวมๆ ตาก็จ้องดูทีวี ความอบอุ่น อ่อนโยนของแกริค ยิ่งทำให้เธอไปไหนไม่รอด หัวใจและร่างกายของเธอคงเป็นของเขาจนชั่วชีวิต

แกริคก้มมองคนที่นั่งอยู่บนตักแล้วอมยิ้ม ไหนบอกไม่ง่วง เผลอแป๊บเดียวหลับซะแล้ว พิรุณรักตัวเล็กมากถ้าเทียบกับเขา การที่เธอขึ้นมานั่งอยู่บนตักเขาแบบนี้ไม่ได้ทำให้เขาเมื่อยสักนิด เขาพอใจที่จะให้เธอนั่งแบบนี้เพราะอยากกอดเธอเหมือนในหนัง เขาเห็นเธอมองคู่รักในหนังกอดกันตาละห้อยเลยคิดเอาเองว่าเธออยากทำบ้าง

แกริคนั่งมองคนที่หลับอยู่อ้อมกอดของตัวเองนานนับชั่วโมงอย่างไม่รู้สึกเบื่อ ความคิดมากมายแล่นเข้ามาในหัว อีกแค่เดือนเดียวเขาก็จะต้องกลับอิตาลีแล้ว

มือข้างหนึ่งลูบเบาๆ ตรงหน้าท้องแบนราบ อีกมือก็ลูบอยู่ที่เรียวแขนกลมกึ่งขึ้นลง ยกนาฬิกาบนข้อมือขึ้นมาดู

“ปลายฝนตื่นเถอะ” เขาปลุกเธอเพราะเห็นวันนี้เธอนอนเยอะเกินไปจริงๆ

“อือ แย่จังหนูหลับให้หนังดูเหรอคะเนี่ย” พิรุณรักขยี้ตาตัวเองเบาๆ ทั้งที่บอกว่าตัวเองนอนเยอะแล้วไม่ง่วง แต่ทำไมเธอถึงหลับอีกได้นะ

“ใช่ แม่ขี้เซา ลุกขึ้นไปแต่งตัวเถอะฉันจะพาออกไปข้างนอก” แกริคเย้าเธอยกร่างบางให้นั่งลงบนโซฟา

“ไปข้างนอก ไปไหนคะ”

“เลือกชุดไปงาน”

“แต่..”

“ไม่มีแต่”

“ไปสองคนเหรอคะ”

“ใช่สองคน ไม่ต้องกลัวคนในบริษัทจะเห็นหรอก ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเลิกงาน แต่ถ้าเธอยังชักช้าพวกเขาอาจเลิกงานก่อนที่เราจะกลับมาก็ได้นะ” พิรุณรักคล้อยตามเขา รีบดีดตัวลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้อง มุมปากของแกริคยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ

ความกังวลของเธอเขาจะทำให้มันหายไปเอง

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset