นางบำเรอเติมใจ 47

ตอนที่ 47

สามสาวทำหน้าที่ไปตักอาหารโดยให้หนึ่งหนุ่มเป็นคนนั่งเฝ้าโต๊ะ พอได้ทุกอย่างครบตามที่ต้องการก็ถึงเวลาปิ้งย่างกันแล้ว

"เหลามาเลย มีเรื่องอะไรอัปเดตบ้าง"เอมมี่เปิดประเด็น

พิรุณรักมองหน้าดนุที่ก้มหน้าก้มตากิน

"มองหน้าพี่ทำไมครับ พี่รู้ไม่ได้เหรอ"ดนุเงยหน้าขึ้นถามเมื่อเห็นสามสาวมองมา

"พี่กลับก็ได้นะ"มือวางตะเกียบกับช้อนลงแล้วทำท่าจะลุก

"เปล่าค่ะ ไม่ต้องกลับหรอก"พิรุณรักเป็นคนห้าม เธอเห็นท่าทางน้อยใจแบบนั้นของเขาแล้วรู้สึกผิด

"ก็สาวๆ เหมือนมีความลับ"

"ก็ลับนิดหนึ่งค่ะ"หทัยรัตน์พูดบ้าง

"เรื่องเกี่ยวกับวันนั้นรึเปล่า"คำถามนี้ถูกเบนไปทางพิรุณรัก ซึ่งเธอก็ได้แต่พยักหน้าเบาๆ

"พี่นุรู้แล้วเหรอคะ"เอมมี่ถาม

"ไม่รู้หรอกครับ แค่เดาว่าน่าจะเกี่ยวกับวันนั้น"คนที่อยู่ในหัวข้อสนทนาได้แต่เม้มปากแน่น ดนุคงเดาเอาว่ามันเกี่ยวกับวันที่เขามารับเธอ

“ปลายไม่รู้จะเริ่มยังไง” ในส่วนของเพื่อนเธอไม่ลำบากใจหรอกนะที่จะเล่าให้ฟังเพราะเพื่อนเธอก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องมันเป็นมายังไง แต่สำหรับดนุเขายังไม่เคยรู้เรื่องนี้

“ไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่าครับพี่ไม่อยากรู้แล้ว” ดนุตัดบท

“อ้าว” ทั้งสามคนร้องออกมาพร้อมกันเมื่อชายหนุ่มตัดใจง่ายๆ

“แต่เอมมี่อยากรู้ แกไปอยู่กับเขาแล้วใช่ไหม แล้วเป็นไงบ้าง” เอมมี่จ้องหน้าถาม พิรุณรักพยักหน้าเบาๆ

“ก็ดี”

“ฟินเลยสิท่า ฉันได้ยินว่าเขาบอกรักแกแล้วจริงเหรอวะ” หทัยรัตน์เกิ่นๆ ให้ฟัง แต่ก็ไม่แน่ใจเลยถามอีกที

“ก็ไม่เชิง เขาบอกว่าชอบ” เธอยังไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของเขาสักครั้ง เลยไม่มั่นใจที่จะตอบ แต่การกระทำของเขาคำพูดของเขาเวลาที่อยู่ด้วยกันมันก็ทำให้เธอมั่นใจขึ้นมาได้ในระดับหนึ่งว่าเขาอาจจะรักเธอ แต่ยังไม่พูดออกมาเท่านั้น

ตอนนี้แค่คำว่าชอบของเขาเธอก็พอใจแล้ว ถ้าเธออยากได้มากกว่านี้เธอจะถามเอาจากปากเขาแน่

“โอ๊ย อิจฉาอ่ะ” เอมมี่ทำหน้าเพ้อฝัน

พิรุณรักเหลือบตาไปมองดนุซึ่งเขาก็นั่งฟังสาวๆ คุยกันเงียบๆ โดยไม่ซักถาม

“พี่นุโกรธปลายรึเปล่าคะ” ถึงจะรู้จักกันไม่นานแต่เธอก็แคร์ความรู้สึกของพี่ชายคนนี้มาก เขาคอยช่วยเหลือเธอและเพื่อนๆ มาโดยตลอด

“โกรธทำไม เรามีแฟนพี่ก็ดีใจด้วย” ดนุพูดสบายๆ ทำให้พิรุณรักผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ

“ปลายย้ายไปอยู่กับเขาแล้วนะคะ”

“อืม แต่พี่อยากเตือนเราอย่าง..”

“เตือนอะไร” ดนุอ้าปากค้างในสิ่งที่กำลังจะพูดต่อ ค่อยๆ หันไปมองทางเสียงเข้มทรงอำนาจ ทั้งสามสาวอ้าปากค้างกับการมาของคนที่เหนือความคาดหมาย

“มาได้ไงคะ” พิรุณรักได้สติเป็นคนแรก เธอตกใจลุกขึ้นแล้วร้องถาม

ร่างสูงใหญ่ยังอยู่ในชุดทำงานเพียงแค่ตอนนี้ไม่ได้ใส่สูทเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวข้างหลังมีแซคที่ตามมาด้วย ตอนนี้โต๊ะของพิรุณรักตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งร้าน ให้ความสนใจกับฝรั่งหน้าตาหล่อเหล่าตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านดูว่าเขาจะมาหยุดที่โต๊ะไหน หรือว่านั่งที่ไหน

“ตามมา” แกริคยกโทรศัพท์ให้หญิงสาวดูให้เธอรู้ว่าเขาตามเธอมาได้ยังไง พิรุณรักพอเห็นอย่างนั้นก็ตาโต นี่เขารู้หมดเลยน่ะสิว่าเธออยู่ที่ไหน

“หนูบอกแล้วไงคะว่านัดเพื่อน” พิรุณรักเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าง้ำงอ

ส่วนสองสาวก็ได้แต่กลืนน้ำลาย กับความหล่อเหลาและน่าเกรงขามของคนตรงหน้า หทัยรัตน์ถึงจะเคยเห็นแกริคอยู่บ่อยครั้งแต่เธอก็ไม่ชิน

ส่วนเอมมี่ไม่ต้องพูดถึงรายนั้นเคยเห็นแต่ในรูปไม่เคยเห็นตัวจริง พอมาเห็นตัวจริงก็แทบลมจับ แบบนี้สินะเพื่อนเธอถึงยอมถวายทั้งตัวและหัวใจให้ ถ้าเป็นหล่อน หล่อนก็ยอมเหมือนกัน คนอะไรหล่อมาก

“ปลายเชิญท่านนั่งก่อน” หทัยรัตน์สะกิดเพื่อน ที่จ้องตากับคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าแฟน

“นั่งไหมคะ หรือจะกลับเลย” พิรุณรักคิดว่าแกริคอาจจะมาตามเธอกลับ น้อยใจเหมือนกันที่เขาไม่ให้เวลาส่วนตัวเธอบ้าง แค่มาหาเพื่อนแค่นี้ทำไมต้องมาตามด้วย

“อิ่มรึยัง” นั่นไงว่าแล้วไม่มีผิด

“ยังค่ะ หนูเพิ่งจะกินไปเอง” เธอพูดตามความจริง

“งั้นก็นั่ง” หญิงสาวตาโตอีกครั้ง ไม่คิดว่าเขาจะนั่งจริงๆ

“นั่งได้เหรอคะ”

“ทำไมจะนั่งไม่ได้”

“ก็..”

“ฉันไม่ได้เรื่องมากขนาดนั้น” เขาพูดเหมือนอ่านใจเธอออก พิรุณรักเลยเม้มปากแน่น

“งั้นเชิญเลยค่ะ คุณแซคด้วยนะคะ” สองสาวหยิบเก้าอี้อีกสองตัวมาให้ผู้มาใหม่ขยับให้แกริคได้นั่งใกล้กับพิรุณรักตามด้วยแซคที่นั่งข้างเจ้านาย

ฝรั่งตัวโตๆ สองคนนั่งอยู่ในร้านหมูกระทะแถมความหล่อเหลาออร่ายิ่งกว่าดารานายแบบมันทำให้บรรยากาศในร้านเปลี่ยนไปทันตา

“เอ่อ..นี่พี่ดนุค่ะ นี่เอมมี่ แล้วก็นี่หวานคุณคงเคยเห็นแล้ว ส่วนนี่คุณแกริคคะ แล้วนั้นคุณแซค” พิรุณรักแนะนำทั้งสองฝ่าย สายตาแกริคจ้องอยู่ที่ชายหนุ่มที่แนะนำให้รู้จัก ซึ่งทางด้านดนุเองก็จ้องกลับไม่แพ้กัน ทำให้บรรยากาศมันเริ่มอึมครึม สามสาวได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ

“ครับ” ดนุเอ่ยขึ้นทำร้ายความเงียบ สั้นๆ ง่ายๆ แค่ครับ

“เอ่อ…คุณทานอะไรไหมคะเดี๋ยวหนูไปตักให้” พิรุณรักหาทางเลี่ยงบรรยากาศที่ไม่น่าพิสมัยนี่เท่าไหร่ แกริคหันมาหาเธอขมวดคิ้วมองอาหารที่อยู่ตรงหน้า

พิรุณรักเห็นท่าทางของเขาก็พึ่งจะคิดได้

“ไม่เอาดีกว่าค่ะ ไม่ทานดีกว่าหนูกลัวว่าคุณจะท้องเสียอีก”

“ไม่ใช่ส้มตำน่าจะกินได้” แกริคคิดว่าอาหารทะเลและเนื้อสัตว์เขาไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเขาก็กินเป็นประจำอยู่แล้ว

“แต่..”

“ท้องเสียเพราะส้มตำเหรอครับ” อยู่ๆ ดนุก็พูดขึ้นหัวเราะเบาๆ พิรุณรักไม่เข้าใจว่าดนุทำท่าทางแบบนั้นทำไม เธอยิ่งกลัวแกริคจะโกรธอยู่ด้วย

“ทำไม ฉันจะท้องเสียเพราะส้มตำมันแปลกตรงไหน คนไม่เคยกิน” แกริคแย้งเสียงแข็ง

“ใช่ครับ” แซคเอ่ยขึ้นสมทบ

“เสียดายนะครับ ของอร่อยเลย ทำไมไม่หัดกินก่อนจะมาที่นี่ล่ะครับ คุณไม่รู้เหรอว่าปลายฝนชอบส้มตำมาก” คำพูดของดนุฟังดูเหมือนคนที่คุยๆ กันธรรมดาแต่คิดอีกแง่เหมือนคนเขากำลังกระตุกหนวดเสือ

“แกยุ่งอะไรด้วย” แกริคโผล่ขึ้นอย่าเหลืออด พิรุณรักตาโตรีบจับแขนเขาไว้ทันที กลัวว่าเขาจะกระโจนไปใส่ดนุ

“ไม่ให้ผมยุ่งงั้นเหรอครับ” คนที่กวนอารมณ์ยังลอยหน้าลอยตาเลิกคิ้วถามยิ้มๆ โดยไม่เกรงกลัวคนอารมณ์ขึ้นแม้แต่น้อย

“พี่ดนุคะ” พิรุณรักเอ่ยปากปราม เพราะไม่อยากให้พี่ชายกับคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนทะเลาะกัน แล้วยิ่งเป็นแกริคด้วยแล้วเธอไม่อยากให้ดนุต้องต่อกรกับเขา ยังไงก็สู้แกริคไม่ได้แน่นอน

“ครับน้องปลาย” ดนุเรียกหญิงสาวเสียงหวาน แบบนั้นยิ่งทำให้เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เล่นอะไรของเขาเนี่ย ยิ่งสองสาวเพื่อนซี้ก็หวาดๆ ไปด้วย กลัวว่าสองหนุ่มจะมีเรื่องกัน

“ไม่ต้องคิดถึงพี่หรอกครับพี่นั่งอยู่ตรงนี้เอง” ดนุยังเล่นต่อ ยิ่งเห็นคนตัวโตอารมณ์ขึ้นเขาก็ยิ่งได้ใจ

“คุณครับ” แซคก็ปรามอีกคน แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เพราะสีหน้ากวนประสาทและรอยยิ้มยังคงอยู่

“อะไรกันครับคุณแซค” ดนุหันไปถามแซคบ้าง

“พี่ดนุคะปลายขอ…” พูดไม่ทันจบดนุก็พูดขึ้นซะก่อนทำให้เธอชะงัก

“ขออะไรครับน้องปลาย บอกเลยว่าพี่ไม่ให้แล้วนะ ทีตอนพี่ขอเรายังไม่ให้พี่เลย” คำพูดกำกวมของดนุทำให้แกริคหมดความอดทน

“ไอ้ดนุ” แกริคพูดเสียงแข็งแววตาก็แข็งกร้าวไปด้วยแต่ก็ไม่ได้ตะโกนเสียงดัง

แต่ท่าทางของเขามันก็ทำให้สามสาวที่รวมโต๊ะอยู่ด้วยสะดุ้งทันที

“ครับพี่ริค”

“เลิกกวนประสาทฉันซะที”

คราวนี้สามสาวอ้าปากค้างตาโตกับคำเรียกขานที่ดนุใช้เรียกแกริค ชื่อเล่นของเขาที่แม้แต่พิรุณรักนานๆ ทีถึงจะเรียก พิรุณรักพยายามทวนคำพูดของดนุหลายๆ รอบว่ามันหมายความว่ายังไง

“รู้จักกันมาก่อนเหรอคะ” พอได้สติเธอก็ร้องถามอย่างตกใจ

ดนุหัวเราะออกมาเสียงดัง เหมือนพอใจอะไรมาก ต่างจากอีกคนที่ทำหน้าเรียบเฉยไม่ตลกด้วย

“ว่าไงคะ รู้จักกันใช่ไหม” พิรุณรักเขย่าแขนคนตัวโตที่นั่งข้างๆ เธอแรงๆ

“อืม” แกริคตอบรับในลำคอ เรื่องนี่เป็นอีกเรื่องที่เขาไม่ได้บอกหญิงสาว กลัวว่าเธอจะโกรธและเธอก็โกรธจริงๆ

“ยังไง เล่ามาเลยพี่นุ” เมื่อเห็นว่าคนนั่งข้างๆ เงียบเธอก็หันไปหาพี่ชายอย่างดนุ

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset