นางบำเรอเติมใจ 46

ตอนที่ 46

“พวกนายก็แซวอะไรดูน้องฉันด้วยเขินหมดแล้ว” ต้นหลิวอายุไล่เลี่ยกับพวกหนุ่มๆ เลยรู้จักกันบ้างพูดหยอกล้อกันได้แต่เธอก็เริ่มรู้สึกว่ามันกำลังจะมากเกินไป

“ผมเป็นคนตรงๆ ครับพี่ สวยก็บอกว่าสวย” เมฆามองหญิงสาวที่เขาชมว่าสวยอย่างเปิดเผย

“ย่ะ พ่อคนหล่อ อย่าไปหลงเสน่ห์เอานะปลาย ผู้ชายพวกนี้อันตราย” ต้นหลิวพูดหันมาเตือนคนที่โดนแซว

“อ้าว พี่ครับทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับ อย่างนี้ผมก็เสียคะแนนหมดสิ”

“ถามน้องเขารึยังว่าให้นายจีบรึเปล่า” พิรุณรักทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้เลย ไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่ยิ้มบางๆ ให้ทุกคน

“น้องปลายมีแฟนรึยังครับ”

“เอ่อ..คือ มีแล้วค่ะ” พิรุณรักตอบออกไปตรงๆ ผู้ชายที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ทำหน้าผิดหวังทันที

“ว๊า เสียดายจังว่าจะจีบสักหน่อย” ถึงหน้าจะผิดหวังแต่แววตาไม่ได้ผิดหวังด้วยสายตาที่มองเธอมันยังแวววาวเหมือนไม่เชื่อในเรื่องที่เธอพูด

“ตรงเกินไปค่ะคุณ นิสัยเจ้าชู้นิเลิกได้แล้ว พนักงานสาวๆ ในบริษัทนี้นายจะฟาดหมดเลยรึไง” เพราะรู้ชื่อเสียงของเมฆาหรือเมฆดีต้นหลิวที่นั่งเงียบอยู่เลยเปรยๆ ขึ้น

“โถ่พี่ต้นหลิวคะ น้องเขาอาจจะชอบก็ได้” พนักงานหญิงหันมาพูดด้วยแถมคำพูดเหมือนจิกกัดเบาๆ ทำให้พิรุณรักรู้ทันทีว่าเธอได้ไปเหยียบหางใครเข้าแล้ว

“น้องนิรินรึเปล่าคะที่ชอบ” ต้นหลิวปกป้องคนของตัวเองเต็มที่ คิดในใจไม่น่าให้ปลายฝนตามขึ้นมาเลย ชั้นนี้เป็นยังไงใครๆ ก็รู้

“นิรินก็เห็นน้องเขาเงียบๆ นึกว่าจะฟาดเรียบซะอีก” ทั้งน้ำเสียงและแววตาที่ส่งมาแสดงความไม่ชอบในตัวพิรุณรักอย่างเปิดเผย

พิรุณรักได้แต่คิดในใจกูไปทำอะไรให้วะ

เธอที่โดนแซะก็ได้แต่เม้มปากเข้าหากันเพราะไม่อยากตอบโต้ ถ้าเธอตอบโต้เรื่องมันก็จะบานปลายไปกันใหญ่ อีกอย่างเธอยังใหม่อยู่ไม่อยากปีนเกลียวกับใคร เลี่ยงได้ก็อยากเลี่ยงไม่ใช่ว่าที่ไม่พูดจะไม่สู้คน

แต่แค่ไม่อยากมีปัญหา

“เสร็จแล้วค่ะ ไปกันเถอะปลายอยู่ชั้นนี้นานไม่ได้หายใจไม่ออก”

“แล้วพี่จะเรียกขึ้นมาใหม่นะครับน้องปลาย” ไม่วายยังมีเสียงตะโกนตามหลังมา

“อย่าไปสนใจเลย และพี่ขอเตือนอย่าไปหลงเสน่ห์ผู้ชายพวกนั้นเข้าล่ะเสือผู้หญิงทั้งนั้น” ต้นหลิวถือโอกาสเตือนถึงหญิงสาวจะบอกว่ามีแฟนแล้วแต่เรื่องแบบนี้มันห้ามกันได้ที่ไหน เตือนได้ก็อยากเตือน

“ไม่หรอกค่ะพี่ต้นหลิว” พิรุณรักหัวเราะเบาๆ เธอน่ะเหรอจะไปหลงเสน่ห์ผู้ชายคนอื่น คนที่เธอหลงมีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ

“แล้วที่พูดว่ามีแฟนนี่จริงหรืออำเล่น”

“จริงค่ะ” พิรุณรักยิ้มรับ

“จริงดิพี่นึกว่าอำพวกนั้นเล่น วันหลังพามาแนะนำให้พวกพี่ๆ รู้จักบ้างนะ แผนกเราจะมีนัดสังสรรค์กันเดือนละครั้ง สามารถพาแฟนมาได้” คราวนี้พิรุณรักไม่รู้จะพูดยังไง

“ค่ะ ถ้าเขาว่างนะคะ” เธอเลยรับปากไปก่อน

“เป็นไงบ้างเรียบร้อยไหม” พอมาถึงแผนกทัศนัยก็ถามขึ้น

“เรียบร้อยดีพี่ทัศ คราวหน้าไม่ต้องให้น้องมันขึ้นไปชั้นนี้แล้วนะ พี่ก็รู้มีแต่พวกเสือสิงกระทิงแรด”

“อ้าว โดนแซวมาเหรอ” ทัศนัยถาม

“ใช่สิ นายเมฆออกตัวแรงเชียวว่าจะจีบปลายฝนแต่ฉันพูดดักไว้ซะก่อน”

“เขาอาจจะพูดเล่นก็ได้”

“พูดเล่นแต่เอาจริงน่ะสิ”

“เธอก็คิดมากไป น้องมันไม่เห็นว่าอะไรเลย” ทัศนัยหันไปหาพิรุณรัก

“ไม่ว่าอะไร ถ้าน้องมันไม่บอกว่ามีแฟนนะป่านนี้โดนขอเบอร์ไปแล้ว” คราวนี้ทุกคนในแผนกตาโต

“ปลายมีแฟนแล้วเหรอ” มาร์คโผล่ขึ้นมา

หทัยรัตน์ได้แต่ส่งยิ้มให้เพื่อนอย่างมีเลศนัย

“เอ่อ มีแล้วค่ะ” เธอตอบทุกคนอ้อมแอ้ม

“น้องเขามีแฟนไม่เห็นแปลกตกใจอะไร” ต้นหลิวเอ่ยขึ้น

“ก็นึกว่าไม่มีแฟน ไม่เห็นคุยกับใคร”

“จะคุยกับใครเขาต้องรายงานแกรึไง”

“เจ้อ่ะ มาร์คแค่สงสัย”

“เลิกคุยกันได้แล้ว ทำงานๆ” ทัศนัยสั่งให้ทุกคนแยกย้าย

พิรุณรักเองก็กลับมานั่งที่โต๊ะของตัวเอง ทำไมอยู่ดีๆ เรื่องของเธอถึงได้กลายมาเป็นประเด็นได้นะ

พอถึงเวลาเลิกงานหทัยรัตน์ก็เดินมาหาเพื่อนที่โต๊ะ

“ว่าไงแก ไปได้ไหม”

“เออ ลืมเลยอ่ะรอแป๊บนะ” พิรุณรักลืมไปเลยว่าจะส่งข้อความไปบอกแกริคว่าเธอจะออกไปข้างนอกกับเพื่อน

(วันนี้หนูกลับช้านะคะ มีนัดกับเพื่อน) ส่งไปแล้วรอเขาก็ไม่ตอบกลับมา เลยตัดสินใจโทร ตาก็มองไปรอบๆ ห้อง ตอนนี้คนอื่นๆ ออกไปหมดแล้วเหลือแค่เธอกับหทัยรัตน์

รอจนสายตัดไปก็ไม่มีคนรับ

“เขาไม่รับอ่ะ” พิรุณรักคิดว่าแกริคอาจจะทำงานอยู่

“แล้วเอาไง”

“ไปกันเถอะ ไม่เป็นไรหรอก ฉันส่งข้อความบอกเขาแล้ว”

“แน่ใจนะว่าเขาจะไม่กินหัวเอา”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า ก่อนหน้านั้นไม่เห็นว่าอะไรเลย” ก่อนหน้าที่เขาจะมาที่นี่เธอก็ไปไหนมาไหนได้ปกติ

“อืมๆ ไปๆ เอมมี่จะวีนเอา”

เมื่อตกลงกันได้สองสาวก็ก้าวออกไปจากบริษัท ท้องถนนที่เต็มไปด้วยรถยนต์ทำให้การจราจรติดขัด สองสาวเลือกใช้รถไฟฟ้าในการเดินทาง

จนกระทั่งมาถึงร้านที่นัดไว้

“เอมมี่มันอยู่ไหนนะ”

“อยู่นี่”

"พี่นุมาได้ไงคะ"พิรุณรักร้องถามคนที่มากับเพื่อนสาว

"เจอเอมมี่อยู่ข้างทางครับเลยเก็บขึ้นรถมาด้วย เลยรู้ว่าสาวๆ นัดกินข้าวกัน"

"พี่นุอ่ะ เอมมี่ไม่ใช่หมานะคะ"เอมมี่ค้อนให้ผู้ชายที่ยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ

ดนุเป็นผู้ชายอารมณ์ดีไม่ถือตัวเลยเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ทั้งสามจึงเคารพดนุเหมือนพี่ชาย สามารถพูดหยอกล้อเล่นกันได้

"เอ้า เหรอครับ โทษที"

"ปากแบบนี้น่าจับจูบซะให้เข็ด"พอเจอคำขู่ของเอมมี่ ดนุรีบเอามือปิดปากตัวเองไว้ทันที ทำให้สองสาวหัวเราะกับท่าทางนั้น

"เวอร์ไปแล้วค่ะ ถ้าได้ลองแล้วจะติดใจนะคะ"สายตาแวววาวของเอมมี่ทำให้ดนุขนลุก กระโดดไปหลบข้างหลังพิรุณรักทันที

"ปลายช่วยพี่ด้วยครับ"

"พอแล้วๆ หยุดเล่นได้แล้ว เข้าข้างในกันเถอะ หิวแล้ว"ทั้งสี่คนเดินเข้าไปในร้านหมูกระทะเจ้าอร่อย ร้านนี้เป็นร้านแบบบุฟเฟ่ต์มีทั้งแบบย่างอาหารทะเลและแบบกระทะปิ้งย่าง เนื้อสัตว์สามารถตักทานได้ตามสะดวก แต่ถ้าทานไม่หมดก็จะโดนปรับ

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset