นางบำเรอเติมใจ 24

ตอนที่ 24

“แกริคนายจะไปประเทศไทยวันไหน” เกรสันถามน้องชาย

“อีกสามเดือน”

“อืม”

“คราวนี้ต้องไปนานหน่อย นายก็ดูทางนี้ด้วยแล้วกัน”

“รู้น่า ไม่ใช่ว่าไปคราวนี้ได้เมียกลับมาให้แด๊ดนะเว้ย” เกรสันอดแซ่วน้องชายไม่ได้ เพราะไปคราวก่อนได้ยินว่าติดใจสาวไทย แต่น้องชายเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออก เลยไม่รู้ว่าคิดอะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆ เขาเชื่อลูกน้องของน้องชายว่าดูไม่ผิด

เพราะหลังจากนั้นแซคบอกว่าแกริคไม่ได้นอนกับใครอีกเลย ถึงจะควงผู้หญิงไปไหนมาไหนด้วยแต่ไม่ได้นอนด้วย เรื่องนี้แซคมันคอนเฟิร์มร้อยเปอร์เซ็นต์

เกรสันเลยคิดว่าแกริคอาจจะยังไม่ลืมผู้หญิงไทยคนนั้น แต่ก็ไม่เห็นทำอะไร

“ไม่ใช่เรื่องของนาย” แกริคตอบกลับเสียงเรียบ

“ป่านนี้เขาคงมีแฟนไปแล้วมั้ง”

“อย่ามาทำเป็นรู้ดี” แกริคกรามกระตุก

“ฉันรู้ไม่ดีเท่านายหรอก จะทำอะไรก็รีบทำ อาการของนายนี่มันเข้าขั้นหนักมากเลยนะริค นอนกับผู้หญิงไม่ได้นี่ เข้าขั้นโลกแตกเลยนะ” นึกอยากตบรางวัลให้ลูกน้องที่ทำงานได้ดีเกินหน้าที่เขาหักเงินเดือนหรือไล่ออกเลยดีไหม รายงานแม้กระทั่งเรื่องนี้

“สงสัยฉันต้องหาผู้ช่วยคนใหม่”

แซคสะดุ้งนึกหวาดๆ ตั้งแต่ได้ยินเจ้านายคนที่สองพูดเรื่องผู้หญิงไทยแล้ว

“ผมว่าผมไปเตรียมห้องประชุมดีกว่าครับ อีกสิบนาทีนายตามไปนะครับ” แซครีบเผ่นออกมาก่อนจะโดนมากกว่านี้

“ว่าแต่เรื่องที่แซคมันรายงานฉันนี่เรื่องจริงเหรอวะ”

“เรื่องอะไร”

“ก็ที่นายไม่นอนกับใครเลยตั้งแต่กลับมาจากเมืองไทยคราวนั้น”

ใช่ มันเป็นเรื่องจริง แกริคไม่คิดว่าตัวเองจะอาการหนักขนาดนี้ เขาคิดว่ามันจะเป็นแค่ชั่วคราว แต่เปล่าเลย เพราะตลอดเวลาที่เขาคิดจะนอนกับคนอื่น ก็จะมีหน้ายัยเด็กบริการนั่นลอยเข้ามา มันทำให้เขาหมดอารมณ์กับคนอื่น

และเขาคิดว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่คอยแต่จะคิดถึงเด็กนั่น ถึงวันเวลาจะล่วงเลยเป็นปีเขาก็ยังไม่สามารถลบภาพของผู้หญิงคนนั้นออกได้ แกริคคอยย้ำเตือนตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงบริการ อยากได้เงิน อยากสบาย มันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะเข้ามาวุ่นวายในความคิดของเขาเลยสักนิด

“ฉันแค่งานยุ่ง ไม่ได้เกี่ยวกับใครทั้งนั้น”

“งั้นเหรอ”

“ออกไปได้แล้ว”

“ครับท่านรองประธาน” เมื่อพี่ชายที่เป็นประธานใหญ่ของตระกูลซีคีเลียโนเดินออกไปแกริคก็เอนตัวลงบนเก้าอี้แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

มันคงถึงเวลาที่เขาจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง

หลังจากกลับมาคราวนั้นเขาก็มาจัดการเรื่องคนที่ลอบทำร้ายบิดาของตน จนสืบสาวราวเรื่องได้ ตามจนเจอต้นตอ

คนที่ทำร้ายเจสัน ซีคีเลียโน คือมอร์แกน เมสัน เพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมและมหาลัยของแกริค สาเหตุมาจาก มอร์แกน เมสัน และแกริค ซีคีเลียโน เป็นคู่แข่งกันทุกๆ ด้านในสมัยนั้น แต่มอร์แกน ด้อยกว่าเขาทุกอย่างทั้งฐานะ หน้าตา ทำให้มอร์แกนอิจฉาในความสำเร็จของเขา และถึงจุดที่ฝ่ายนั้นทนไม่ได้จริงๆ จนส่งคนมารลอบทำร้ายครอบครัวของเขา สาเหตุก็มาจากที่แกริคไปเจรจาธุรกิจที่ประเทศไทยเรื่องเอเย่นต์เรือรายใหญ่ที่ฝ่ายซีคีเลียโนได้มา ซึ่งเขารู้มาว่าบริษัทของมอร์แกนก็อยากได้เหมือนกัน แต่ทำไม่สำเร็จ ทำให้บริษัทของมอร์แกนเริ่มทรุดตัวลง

แต่แกริคก็ไม่ได้ใจดีเหมือนที่พูดไว้ตั้งแต่แรก ว่าใครกล้าทำครอบครัวของตนคนพวกนั้นต้องโดนกลับไปร้อยเท่า แกริคเล่นงานบริษัทเล็กๆ ของมอร์แกน จนล้มละลาย หาหลักฐานจ้างวานในการทำให้เกิดอุบัติเหตุกับบิดาจนสำเร็จ แต่ตำรวจก็ยังจับตัวมอร์แกน เมสัน ไม่ได้จนถึงตอนนี้ ถึงเรื่องมันผ่านมาเป็นปีแกริคก็ไม่เคยประมาณ กลัวว่ามอร์แกนจะหวนกลับมาลอบกัดตน จนต้องเพิ่มความปลอดภัยให้กับบิดา

เมื่อพิรุณรักและเพื่อนสำเร็จการศึกษา บริษัทที่ตนไปยืนใบสมัครไว้กับเพื่อนก็ตอบรับกลับมา โดยที่เธอและหทัยรัตน์ได้เข้าทำงานที่เดียวกันคือบริษัท ck import-export โดยที่พวกเธอทั้งสองคนเข้าไปสัมภาษณ์ตามขั้นตอนทุกอย่าง ไม่ได้ใช้เส้นสายของกรวิทย์ว่าไว้ตั้งแต่ทีแรก เพราะทางบริษัทมองเห็นความสามารถของเด็กจบใหม่อย่างพวกเธอเลยได้ทำงานนี้

โดยทั้งสองคนทำงานแผนกไอที ดูแลโปรแกรมให้กับบริษัท ส่วนเอกพลหรือเอมมี่ ได้งานทำอีกบริษัทหนึ่งที่ไปยื่นใบสมัครไว้ เอมมี่ไม่อยากทำด้วยกันเพราะอยากลองห่างกันบ้างในเรื่องของงาน จะได้มีเพื่อนใหม่ๆ แต่ก็ยังเจอกันแทบทุกวัน เพราะทั้งสองคนย้ายมาพักอยู่คอนโดเดียวกันแต่คนล่ะห้อง ส่วนหทัยรัตน์ก็ยังอยู่กับกรวิทย์เหมือนเดิม

“แกเริ่มงานวันแรกตื่นเต้นจัง” พิรุณรักและหทัยรัตน์นั่งรอฝ่ายบุคคลให้พาไปยังแผนกของตัวเองในการเริ่มงานวันแรก

“สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีค่ะ/สวัสดีค่ะ” ฝ่ายบุคคลเดินเข้ามาทักทั้งสองคนก็ยกมือไว้สวัสดี

“น้องทั้งสองคนที่จะมาเริ่มงานวันนี้เป็นวันแรกใช่ไหมจ๊ะ”

“ใช่ค่ะ”

“งั้นตามพี่มาเลย พี่ชื่อกันตานะ หรือเรียกว่าพี่ตาเฉยๆ ก็ได้ แล้วทั้งสองชื่อเล่นอะไรกันบ้าง” กันตาพาทั้งสองคนเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับพูดคุยกันไปด้วย

“ปลายฝนค่ะ”

“หวานค่ะ”

“อืม น้องปลายฝนและน้องหวาน วันนี้พี่จะพาไปที่แผนกของพวกเราก่อนและวันศุกร์จะมีการอบรมพนักงานใหม่ พี่จะเรียกอีกทีนะ บริษัทเราทำงานแบบพี่น้องไม่ต้องกังวล เด็กจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ก็มีคนช่วยสอน

“ขอบคุณค่ะ”

“เอาล่ะถึงแล้ว สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้มีพนักงานมาแนะนำค่ะ นี่น้องปลายฝนและน้องหวาน จะมาทำในส่วนของไอที ทั้งสองคนจ๊ะ นั้นคุณทัศนัย เป็นหัวหน้าแผนก”

“สวัสดีค่ะ/สวัสดีค่ะ” ทั้งสองคนได้รู้จักทัศนัยแล้วในวันที่มาสัมภาษณ์งานเพราะเขาเป็นคนสัมภาษณ์เอง

“ตาไปก่อนนะคะฝากน้องๆ ด้วย”

“มานี่สิ” เมื่อกันตาเดินออกไปทัศนัยก็เรียกทั้งสองคนเข้าไปหา ในสายตาของพิรุณรักทัศนัยเป็นคนที่สุขุมนิ่งๆ อายุน่าจะประมาณสี่สิบ แต่ไม่รู้ว่าน่ากลัวรึเปล่าต้องดูอีกที

“เรียกพี่ว่าพี่ทัศเหมือนทุกๆ คนในแผนกก็ได้ ยินดีต้อนรับสู่แผนกไอที ปลายฝนพี่จะให้ต้นหลิวเป็นคนดูแล ส่วนหวานให้ดนัยเป็นคนดูแล ฝากสอนน้องๆ เขาด้วย”

“ครับ/ค่ะ”

“ทั้งสองคนมาพาน้องไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองด้วย” ต้นหลิวและดนัยลุกขึ้นกวักมือเรียกทั้งสองคน ซึ่งพิรุณรักก็เดินไปหาต้นหลิวหทัยรัตน์ก็เดินไปหาดนัย

“มานั่งๆ วันแรกพี่จะสอนว่าบริษัทเราใช้โปรแกรมอะไรบ้าง”

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset