นางบำเรอเติมใจ 22

ตอนที่ 22

ลูกค้ารายใหญ่ทางฝั่งสิงคโปร์ก็คือเอเย่นต์สายเรือรายใหญ่ที่จะเป็นคู่ค้านำเข้าส่งออกสินค้าให้กับบริษัทที่จะเปิดตัวในไทยของตระกูลซีคีเลียโน การเจรจานี้เกิดขึ้นก่อนที่แกริคจะเดินทางไปที่ประเทศไทย เพราะแกริคมั่นใจว่ายังไงเขาก็สามารถเทคโอเวอร์บริษัทที่ตนหมายตาไว้ได้ จึงมีการเจรจาไว้ก่อนล่วงหน้า จนกระทั่งแกริคคอนเฟิร์มกับเกรสันว่าเขาทำงานเรียบร้อยเกรสันจึงทำข้อตกลงกับทางนั้นทันที

“แล้วตอนนี้มันอยู่ที่ไหน”

(ยังไม่ทราบครับ ทางเรากำลังตามสืบอยู่)

“ตามสืบมาให้ได้”

(ครับ)

“เด็ดมากแก มีของดีต้องโชว์” เอมมี่มองเพื่อนที่สวยถูกใจตัวเองเป็นที่สุด เพราะเธอเป็นคนเนรมิตให้เองกับมือ

“มันจะดีเหรอแก เอาชุดที่มันดีกว่านี้หน่อย” ชุดที่พิรุณรักใส่นั้นเปิดทั้งหน้าทั้งหลัง แถมสั้นอีกต่างหาก นี่เขาเรียกเศษผ้ารึเปล่า

“นี่แหละดีแล้ว เราต้องมั่นเข้าไว้ ฉันเซฟให้แกดีแล้ว”

“ไปเถอะ อย่าดิ้นใจจะขาด” หทัยรัตน์เร่งเพื่อน

“ขออนุญาตเสี่ยแกรึยังยัยหวาน”

“ทำไมต้องขอ ฉันแค่ไปเที่ยวไม่ได้ไปหาผู้ใหม่ อีกอย่างเขาไม่รู้หรอกเขาอยู่กระบี่โน้น” ระหว่างหทัยรัตน์กับกรวิทย์จะไม่ยุ่งเกี่ยวกันเรื่องนี้ มีแค่ข้อเดียวที่ตกลงกันไว้คือห้ามมีคนอื่นหรือห้ามนอนกับคนอื่นระหว่างที่เป็นของเขา

“งั้นก็ไปโรด”

ทั้งสามคนมาถึงผับใจกลางเมือง แสงสีเสียงความวุ่นวาย เสียงเพลงดังกระหึ่มทำให้คนที่อยู่ในที่นี้อยากขยับจังหวะไปด้วย มันช่วยขจัดความหม่นหมองที่อยู่ในใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ลืมเรื่องราวที่ทำให้คนเราทุกข์ใจได้ไปชั่วขณะเหมือนกัน

“จัดไปค่ะสาวๆ” เอมมี่ยื่นแก้วเหล้าให้เพื่อนแล้วยกขึ้นชน

“วู๊วววว”

พิรุณรักผ่อนคลายตามเพื่อน เธอเองก็ไม่อยากเศร้านานในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เลิกคิด เลิกมโน เลิกฝันลมๆ แล้งๆ ว่าเรื่องของเธอกับเขาจะเป็นไปได้ เพราะยังไงมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้

เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าจะสามารถรักใครได้รึเปล่า แต่คงมีสักวันที่เธอจะเจอรักแท้

“แก ผู้มองแกปลาย” เอมมี่กระซิบบอกเพื่อน

“ไหน”

“เก้านาฬิกา” พิรุณรักค่อยๆ หันไปตามที่เพื่อนบอก ก็เจอเข้ากับหนุ่มไทยหน้าหล่อเหล่าที่นั่งจิบเหล้ามองเธออยู่ก่อนแล้ว เขายกแก้วเหล้าขึ้นแล้วส่งยิ้มบางๆ ให้ เธอก็เลยไม่อยากเสียน้ำใจเลยยิ้มตอบ

“มาแล้ว”

หนุ่มคนนั้นลุกเดินเข้ามาหาทั้งสามสาวทันที

“แม่เสน่ห์แรง” หทัยรัตน์แซ่วเพื่อน

“สวัสดีครับ ผมดนุครับ” ชายหนุ่มแนะนำตัวจดจ้องอยู่ที่หญิงสาวที่ตัวเองหมายตา

เพื่อนๆ ทั้งสองคนยิ้มล้อเลียนพิรุณรักที่ไม่รู้จะทำหน้ายังไงเมื่อมีหนุ่มมาทัก ทั้งที่เขาหล่อมากแต่เพื่อนของเธอก็ยังไม่ชอบ ดูก็รู้ พิรุณรักไม่ได้เขินอายสักนิด แต่แค่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง

“ปลายฝนค่ะ” เธอเลยยิ้มรับและบอกชื่อเขาไป

“ยินดีที่ได้รู้จักครับปลายฝน ผมขอเลี้ยงเหล้าสักแก้วได้รึเปล่าครับ” ฝ่ายชายเข้ารุก ทำให้คนโดนจีบทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“แหม สุดหล่อ ไม่คิดจะสนใจพวกเราสองคนบ้างเหรอคะ” เอมมี่เป็นคนช่วยเพื่อน

“ฮ่าๆ ขอโทษทีครับสองสาว เพื่อนของพวกคุณดึงดูดผมจนมองไม่เห็นใคร” หยอดคำหวานพร้อมกับสายตาหยาดเยิ้ม

“ปากหวานจริงพ่อคุณ”

“ขอบคุณครับที่ชม แล้วคนสวยทั้งสองชื่ออะไรบ้างครับ”

“ฉันเอมมี่และนี่หวานค่ะ” เอมมี่เป็นคนแนะนำตัวกับหนุ่มหน้าหล่อ ปากหวาน

“ยินดีที่ได้รู้จักครับเอมมี่ หวาน ผมดนุครับ”

“ค่ะ เช่นกัน” เอมมี่ยื่นมือไปจับซึ่งหนุ่มหล่อก็ไม่เสียมารยาทจับทักทายกลับไป

“ปลายฝนมาเที่ยวที่นี่บ่อยไหมครับ” ดนุหันกลับมาหาสาวสวยที่เขาสนใจต่อ

“ก็ไม่บ่อยค่ะ”

“ถึงว่า ผมถึงไม่เคยเจอ” นักเที่ยวกลางคืนตัวยงอย่างดนุไม่พลาดที่จะมองหาสาวๆ สวยๆ ทุกวันที่มาเขาต้องได้หิ้วสาวกลับไปด้วยสักคน และวันนี้เขาก็ถูกใจคนนี้ที่สุด

“ค่ะ”

“แสดงว่าคุณดนุมาที่นี่บ่อยเหรอคะ” เอมมี่ถามขึ้น ไม่ได้ตั้งใจแอบฟังทั้งสองคุยกัน แต่ดูจากสีหน้าเพื่อนก็ไม่อยากให้บรรยากาศตึงเครียด

“ครับ ผมเป็นหุ้นส่วนกับที่นี่”

“โห เราเจอเจ้าของผับเหรอเนี่ย” เอมมี่ร้องตาโต

“งั้นให้ผมเลี้ยงพวกคุณนะครับ” ดนุเสนอตัว ทั้งสามสาวมองหน้ากัน

“ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ เราเกรงใจ” พิรุณรักปฏิเสธ

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ถือว่าผมเลี้ยงเนื่องในโอกาสที่เจอกันครั้งแรก”

อย่างนี้ก็ได้เหรอ พิรุณรัก คิดในใจ

“ขอบคุณมากค่ะคุณดนุ งั้นไม่เกรงใจแล้วนะคะ” เอมมี่เป็นคนรับน้ำใจนั้นไว้เอง เมื่อเห็นเพื่อนเล่นตัว

“ยัยเอมมี่”

“ไม่ต้องดุเพื่อนหรอกครับ ผมเต็มใจ” ดนุ มองเธอยิ้มๆ แค่ได้ผู้คุยเขาก็รู้ได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนคนอื่น เพราะถ้าเป็นคนอื่นคงรับไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาบอก

เสือผู้หญิงแบบเขามองแค่ปราดเดียวก็ออกแล้วว่าใครเป็นแบบไหน ใครแอ๊บไม่แอ๊บ

พิรุณรักได้แต่ถลึงตาใส่เพื่อนที่ยิ้มหวานมาให้ตัวเอง เอาเข้าไปกับพวกมัน เห็นของฟรีดีกว่าเพื่อน

“ตอนนี้ปลายฝนเรียนหรือทำงานอยู่ครับ”

“เรียนค่ะ”

“พวกเราเรียนอยู่ปีสามค่ะ” ดนุพยักหน้า

“แล้วเรียนอะไรคณะอะไรกันเหรอครับ”

“วิศวะคอมค่ะ”

“อืม”

“เอ๊ย ดนุ มาหลีสาวอยู่ตรงนี้เองพวกนั้นมาแล้วขึ้นไปหาพวกมันหน่อย” ดนุหันไปมองตามเสียงเรียก ก็เห็นว่าเป็นเพื่อนของตัวเองที่เป็นคนดูแลที่นี่อยู่เป็นคนมาตาม

“มาแล้วเหรอ งั้นผมไปก่อนนะครับสาวๆ”

“ค่ะ บ๊าย”

“แต่ ..เอ่อผมขอเบอร์ปลายฝนได้ไหมครับ” แต่ก่อนไปชายหนุ่มก็หันกลับมาเพื่อขอเบอร์ผู้หญิงที่ตัวเองถูกใจ

ปลายฝนทำหน้าไม่ถูกเมื่อถูกของเบอร์ซึ่งๆ หน้า

“นะครับ ผมสัญญาจะไม่กวนจนปลายฝนรำคาญ” ดนุทำหน้าออดอ้อน แล้วยื่นโทรศัพท์ไปให้หญิงสาว

“ก็ได้ค่ะ” พิรุณรักรับโทรศัพท์มาจากเขาแล้วกดเบอร์ให้อย่างจำใจ

พอลับร่างชายหนุ่มเพื่อนๆ ก็แซ่วเธอไม่เลิก

“พวกแกอ่ะ ทำไมไม่ช่วยฉัน”

“ช่วยทำไม พวกฉันอยากให้แกมีหลัวใหม่”

“หลัวใหม่บ้าอะไร”

“หนุ่มไทยก็หล่อ ไม่แพ้ฝรั่งนะแก เปิดใจบ้าง บางทีเนื้อคู่แกอาจจะเป็นหนุ่มไทยหน้าหล่อๆ ก็ได้”

“ฉันไม่อยากหาเนื้อคู่ในผับแบบนี้ กลัวว่าจะหลอกไปกินตับอยากเดียวน่ะสิ”

“ลองคุยไปก่อน ฉันว่าเขาดูดีออก”

“อืมๆ ดึกแล้วกลับกันไหม” พิรุณรักเอออ่อไปกับเพื่อนอย่างปลงๆ และชวนเพื่อนกลับ เธอไม่มีอารมณ์จะอยู่ต่อแล้ว

“เรายังไม่ได้เต้นกันเลยนะ รีบไปไหน ไปเร็วไปเต้นดีกว่าอย่าคิดมาก” เอมมี่ไม่ยอมให้เพื่อนกลับ ดึงทั้งสองคนออกไปเต้นด้วยกัน พิรุณรักจากทีแรกไม่อยากเต้นแต่พอเจอดนตรีเร้าใจก็ยอมวาดรวดลายกับเพื่อนอย่างสนุกสน

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset