ทาสรักทาสหัวใจ 33 ขอแค่เศษความห่วงใย

ตอนที่ 33 ขอแค่เศษความห่วงใย

บนเตียงนุ่มหลังจากที่บทพิศวาสสงบลงภพก็รีบผละออกจากร่างบางทันที ร่างหนาลุกขึ้นหันหลังให้มุก ร่างบางจึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งมองแผ่นหลังกว้างเปลือยด้วยความละอายใจกับสิ่งที่เธอทำลงไป เธอรู้ว่าชายหนุ่มโกรธเธอมากที่ปล่อยท้องเพื่อให้เขารับผิดชอบ เธอรู้ดีที่ชายหนุ่มยอมให้เธอกลับมาก็เพื่อจะรับผิดชอบแค่ลูกเท่านั้น แม้ทุกอย่างจะเป็นไปตามอย่างที่เธอต้องการแต่เธอก็ไม่มีทางได้หัวใจของชายหนุ่มมาครอบครองเธอรู้อยู่แก่ใจดี

“ขอบคุณนะคะ ที่ไม่รังเกียจมุก”

“อย่าคิดนะ ว่าที่ฉันนอนกับเธอเพราะว่าฉันพิศวาสในตัวเธอ ฉันก็แค่หาความสุขให้กับตัวเองก็เท่านั้นเอง”

“จริงๆ แล้วคุณไม่ต้องรับผิดชอบลูกก็ได้นะคะ” พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้

“หึ เธอต้องการแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

“ค่ะ มุกต้องการแบบนี้ แต่มันต้องเกิดมาจากความเต็มใจของคุณ มุกไม่อยากทำให้คุณอึดอัดใจ”

“มันสายเกินไปแล้วล่ะ จะพูดให้มันได้อะไรขึ้นมาอีก ก่อนจะทำ ทำไมเธอถึงไม่คิดก่อน”

“มุกขอโทษค่ะ”

“ไว้คลอดแล้ว ค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน” พูดจบร่างหนาก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำทันที

ร่างหนาพาร่างเปล่าเปลือยเข้าไปยืนอยู่ใต้ฝักบัวปล่อยน้ำไหลรดศีรษะอยู่อย่างนั้นเพื่อคลายความรู้สึกข้างในที่มันกำลังตีกันอยู่ให้ดับไปกับสายน้ำ ทั้งที่รู้ว่าหญิงสาวที่เขาเพิ่งจะร่วมบทสวาทด้วยไปหมาดๆ หักหลังหลอกลวงเขาลับหลังจนตั้งท้องเพื่อจับเขาแต่ทำไมเขาถึงยังอยากจะสัมผัสและแตะต้องตัวเธออยู่ และที่แย่ไปกว่านั้นเขาตามเธอกลับมาทำไมแถมยังเต็มใจรับผิดชอบเด็กในท้องอีก ทั้งๆ ที่จะปล่อยผ่านไปก็ได้เพราะเธอไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขาเลย เขาขาดเธอไปไม่ได้อย่างนั้นเหรอชายหนุ่มได้แต่ถามตนเองอยู่ในใจ

หลังจากที่ภพออกจากห้องน้ำชายหนุ่มก็ออกไปโทรสั่งอาหารทันที ปล่อยให้มุกจัดการธุระส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำเพียงลำพังโดยที่เธอยังคงมีอาการวิงเวียนศีรษะหน้ามืดอยู่ รอไม่นานนักอาหารก็มาส่งภพจึงนำทุกอย่างจัดใส่จานรอมุกออกมาจากห้องทานพร้อมกัน แต่รอแล้วรอเล่าเธอก็ไม่ออกมาภพจึงรีบเข้าไปดูในห้องนอนพร้อมกับตะโกนเคาะประตูห้องน้ำแต่กลับไม่มีเสียงขานรับ ชายหนุ่มจึงรีบผลักประตูออกไปจึงพบร่างเปลือยนอนหมดสติอยู่กับพื้น

“มุก! ตื่นสิ” ร่างหนารีบช้อนอุ้มร่างบางขึ้นจากพื้นพร้อมกับเรียกให้ได้สติ

ร่างบางถูกนำไปวางลงบนเตียงพร้อมกับห่มผ้าปิดร่างเปลือยอย่างเบามือ จากนั้นชายหนุ่มก็รีบนำผ้าไปชุบน้ำพอหมาดๆ มาเช็ดหน้าเช็ดตาให้เธอ สักพักก็หันไปคว้ากระเป๋ามุกนำยาดมออกมาจ่อตรงจมูกให้เธอสูดดม ระหว่างนั้นมือหนาก็ค่อยๆ ใช้ผ้าเช็ดไปตามกรอบหน้าเรียวอย่างอ่อนโยนด้วยความเป็นห่วง ผ่านไปสักพักร่างบางก็เริ่มรู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นช้าๆ

“ตื่นแล้วเหรอ ฉันกำลังคิดอยู่ถ้าเธอไม่ยอมตื่นฉันจะพาไปหาหมอ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

“มุกเป็นอะไรคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพลางลุกขึ้นนั่ง

“เธอเป็นลมไปน่ะ”

“ขอโทษนะคะ มุกทำให้คุณลำบากอีกแล้ว”

“รีบแต่งตัวเถอะ จะได้ออกไปทานข้าวกัน จะได้มีแรง”

“ค่ะ คุณออกไปรอข้างนอกก่อนก็ได้นะคะ” มุกมองร่างหนาที่นั่งอยู่ข้างๆ พลางขยับร่างเปลือยใต้ผ้าห่มจะลงจากเตียง

“ทำไม ให้ฉันอยู่ด้วยก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวก็เป็นลมเป็นแล้งไปอีก หรือว่าอาย ฉันว่าไม่ทันแล้วมั้ง เธอก็รู้ว่าฉันเห็นบ่อยจนจำได้ทุกส่วนแล้ว” ชายหนุ่มมองจ้องใบหน้าเนียนไม่วางตาพร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างคนเจ้าเล่ห์

“งั้นก็ตามใจคุณเถอะค่ะ” มุกพาร่างเปลือยเปล่าล่อนจ้อนลงจากเตียงตรงไปยังตู้เสื้อผ้าหยิบชุดที่ใกล้มือที่สุดมาสวมใส่ให้เร็วที่สุดไม่อยากให้พ่อของลูกรอนาน

“เสร็จแล้วค่ะ” พูดพลางหันไปทางชายหนุ่มที่จ้องมองทางเธออยู่ก่อนแล้วจึงทำให้สบเข้ากับสายตาของชายหนุ่มอย่างจัง

“อืม ก็ไปสิ” ภพรีบหันหน้าหนีเดินนำออกไปจากห้องทันที

มุกนั่งมองอาหารตรงหน้าที่มีหลากหลายเมนูทั้งแกงผัดต้มและผลไม้อีกสองสามพร้อมกับมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความแปลกใจเพราะมันเยอะเกินกว่าทั้งสองคนจะทานหมด

“ไม่ต้องแปลกใจหรอก ฉันสั่งมาเผื่อลูกกลัวจะไม่อิ่มน่ะ รีบทานสิ ป่านนี้ลูกฉันคงจะหิวแย่แล้ว”

“ค่ะ” รับคำพร้อมกับตักอาหารเข้าปากทันที

“ทานข้าวอิ่มแล้ว ก็ไปนอนพักเอาแรงซะนะ แล้วก็ทานยาตามหมอสั่งด้วย”

“ค่ะ มุกต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่ทำให้คุณเสียงาน”

“งานฉันทำที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่มีอะไรด่วนน่ะ”

“แล้วสองสามวันที่ผ่านมา คุณไปอยู่ที่ไหนคะ” มุกถามออกไปด้วยความอยากรู้

“ที่บ้าน” ภพตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

มุกได้ยินน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะพอใจจากชายหนุ่มก็ไม่เซ้าซี้ถามต่อทำได้แต่ก้มหน้าทานข้าวไปเงียบๆ ผ่านไปสักพักภพก็ทานอิ่มลุกขึ้นยืนมองร่างบางตรงหน้าไปพลาง

“ว่างๆ ก็ดูข้าวของใช้ต่างๆ สำหรับเด็กอ่อนด้วยนะ จะได้เตรียมไว้ตั้งแต่เนินๆ”

“ค่ะ จริงๆ แล้ว มุกดูไว้ก่อนหน้านี้บ้างแล้ว รวมถึงอ่านคู่มือการเลี้ยงลูกด้วย” มุกยิ้มมุมปาก

“อืม ฉันขอตัวไปเคลียร์งานก่อนก็แล้วกัน ทานเสร็จก็นอนพักซะ” ร่างหนาหมุนตัวหันหลังให้มุกจะเดินไปทางห้องทำงาน

“ขอบคุณมากนะคะ ที่เป็นห่วงมุก” ลุกขึ้นเข้าไปสวมกอดชายหนุ่มจากทางด้านหลังเอาไว้

“ฉันห่วงลูกต่างหากล่ะ”

“มุกรู้ค่ะ แต่อย่างน้อยมุกก็ยังได้รับผลพลอยได้ แม้มันจะแค่เล็กน้อยมุกก็ดีใจแล้วค่ะ”

“ปล่อยได้แล้ว ฉันจะไปทำงาน มีอะไรก็เรียกแล้วกัน”

“ค่ะ” ปล่อยแขนเรียวออกจากร่างหนาทันที

หลังจากที่มุกทานข้าวเสร็จเธอก็พาตนเองไปล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มภายในห้องนอนด้วยความอ่อนเพลียไม่นานก็หลับสนิทไปสู่ห้วงนิทรา ในเวลาเดียวกันทางด้านภพก็กำลังนั่งคิดไม่ตกเกี่ยวกับเรื่องของมุกกับลูกในท้อง

เวลาล่วงเลยไปจนถึงช่วงเย็นมุกยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ภพที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องนอนเห็นอย่างนั้นก็ยืนมองร่างบางอยู่สักครู่จากนั้นก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับกุญแจรถเขาตั้งใจจะออกไปดื่มผ่อนคลายอารมณ์สักหน่อย

คล้อยหลังภพออกไปได้ไม่นานมุกก็ลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับหันไปมองนาฬิกาเมื่อเห็นว่าเย็นมากแล้ว จึงรีบลงจากเตียงเดินตามหาภพไปทั่วแต่กลับไม่พบพอต่อสายหาชายหนุ่มแต่เขากลับไม่รับสาย ระหว่างที่รอให้ภพโทรกลับมานั้น สายจากอนันต์ก็โทรเข้ามาพอดี

“ฮัลโหลค่ะ” เสียงหวานกรอกใส่ปลายสาย

“ฉันเอง หนูมุก” อนันต์เอ่ยขึ้น

“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“โทษทีนะ ที่โทรมารบกวนหนู คือฉันแค่อยากรู้ว่าหนูกับภพดีกันแล้วใช่ไหม”

“ค่ะ เราดีกันแล้ว”

“ดีแล้วล่ะ หนูก็อยู่ดูแลภพไปนะ ฉันจะได้วางใจ”

“ค่ะ”

“งั้นแค่นี้ก่อนนะ อย่าลืมล่ะ ห้ามบอกภพเขาเด็ดขาดว่าเราสองคนรู้จักกัน ไม่อย่างนั้นเป็นเรื่องใหญ่แน่”

“ค่ะ” มุกรับคำหนักแน่น

หลังจากที่มุกอาบน้ำทานข้าวเสร็จเธอก็ไปนอนดูโทรทัศน์ตรงโซฟาโซนรับแขกรอภพกลับมา จนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววว่าชายหนุ่มจะกลับมา ระหว่างที่นั่งรอนอนรอสลับกันไปมา โทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่นขึ้นพร้อมกับโชว์ชื่อหมอนนท์เธอจึงกดรับโดยไม่รีรอ

“ฮัลโหลค่ะ หมอ”

“ครับ มุกเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม”

“มุกสบายดีค่ะ”

“แน่ใจนะ แล้วเมื่อตอนกลางวันมุกมาหาหมอทำไมหรอ ผมเห็นนะว่ามากับคุณภพด้วย”

“เอ่อ…คือมุกไม่สบายนิดหน่อยค่ะ เป็นไข้”

“ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว ผมจะได้หมดห่วง”

“หมอไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ มุกดูแลตัวเองได้”

“หึ มีความสุขจริงๆ นะ” เสียงที่คุ้นเคยเอ่ยขึ้นทางด้านหลังของเธอ

“คุณภพ” มุกหันไปมองหน้าภพที่ยืนกอดอกมองเธออยู่

“ตามสบายนะ ฉันไม่กวนดีกว่า” พูดจบภพก็เดินหายเข้าไปในห้องนอนทันที

“มุกมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” หมอนนท์ถามด้วยความเป็นห่วง

“เปล่าค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ ไว้ค่อยคุยกันใหม่” มุกรีบกดวางสายทันทีแล้วรีบเดินตามภพเข้าไปข้างในห้อง

ร่างบางเดินหยุดตรงด้านหลังภพที่กำลังถอดเสื้อท่อนบนออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้ออันแข็งแรง เธอกำลังจะเดินเข้าไปสวมกอดร่างหนา แต่กลับต้องถอยห่างออกมาเพราะกลิ่นแอลกอฮอล์ตีขึ้นจมูกจนเกิดอาการคลื่นไส้

“คุณดื่มมาเหรอคะ” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น

“คุยกับหมอคนโปรดของเธอเสร็จแล้วเหรอ”

“หมอนนท์เป็นเพื่อนมุกค่ะ”

“งั้นเหรอ แล้วคุยอะไรกันบ้างล่ะ” ภพหันไปมองร่างบางที่ยืนปิดจมูกอยู่ใกล้ๆ

“หมอนนท์เห็นเราสองคนที่โรงพยาบาลเมื่อตอนกลางวันค่ะ”

“แล้วไงต่อ” พูดพลางถอดกางเกงขายาวออกเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว

“มุกตอบแค่ว่าไม่สบายเป็นไข้ก็เลยไปหาหมอค่ะ แค่นั้น”

“ดี อย่าหลุดปากว่ากำลังท้องให้ใครได้ยินเด็ดขาด”

“มุกเข้าใจค่ะ แต่เราจะปิดไปได้นานแค่ไหนกันคะ”

“ฉันจะจัดการเอง”

“ค่ะ”

“เธอควรจะนอนได้แล้วนะ ดึกมากแล้ว ไม่ใช่ตัวคนเดียว” พูดจบร่างหนาก็เดินเข้าไปชำระล้างร่างกายในห้องน้ำทันที

มุกทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มโดยลืมตาอยู่ในความมืดรอภพออกมาจากห้องน้ำ ผ่านไปสักพักภพก็มาล้มตัวลงนอนข้างๆ เธอพร้อมกับจับดึงผ้าห่มให้เธอ

“มุกรักคุณนะคะ” พลิกตัวเข้าสวมกอดชายหนุ่มในท่านอนตะแคงข้าง

“นอนเถอะ”

“คุณจะรักมุกสักนิด ไม่ได้เลยเหรอคะ”

“หยุดพูดเรื่องไร้สาระสักที มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก เลิกคิดเลิกฝันสักที” ร่างหนาพลิกตัวหันหลังให้มุกทันที

มุกเห็นอย่างนั้นก็พลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้ชายหนุ่มทั้งน้ำตาคลอเบ้าด้วยความเจ็บจุกในอก ความเสียใจน้อยใจค่อยๆ ก่อตัวเป็นหยาดน้ำตาไหลเอ่อลงมาบนแก้มช้าๆ โดยไร้เสียงสะอื้นใดๆ ให้คนข้างกายได้ยิน เพราะตัวเธอเองจะโทษใครได้ ในเมื่อเธอรักแล้วก็จะรักให้สุดหัวใจและจะยอมเจ็บให้ถึงที่สุดจนกว่าจะทนไม่ไหวเช่นกัน

Options

not work with dark mode
Reset