ตำนานเทพยุทธ์ 84

ตอนที่ 84

อันตัวเป่าฮู่ชายหนุ่มผู้ที่สามารถก้าวเท้าเหยียบย่ำไปยังชนชั้นจักรพรรดิลมปราณได้ นับว่าเป็นคนหนุ่มที่หน้าจับตามอง เพียงชายหนุ่มที่หายไปกว่าครึ่งปีเดินเยื้องย่างออกมาจากชายป่า ท่ามกลางผมเผ้าที่รกรุงรัง ทำให้ผู้ที่พบเห็นได้แต่ส่ายหน้ากันทั้งนั้น

แต่ในบรรดาคนเหล่านั้นกลับมีเพียงคนสองคนที่ไม่ว่าชายหนุ่มจะมาในสภาพใดย่อมไม่อาจลบเลือนตัวจนของชายหนุ่มได้

จี้เออร์เป็นคนแรกที่รับรู้ได้ว่ามีคนเดินเข้ามาจากชายป่าจึงได้หันไปมองเพราะในใจ นางร่ำร้องหาแต่ศิษย์พี่ของนาง และเช่นเดียวกันหย่วนซิวหยูเองที่รับรู้ได้หลังจากจี้เออร์ได้ไม่นาน นางไม่ได้พิจารณานานเฉกเช่น จี้เออร์ เพราะนางจดจำเป่าฮู่ได้ดีแม้ยามหลับตานอนด้วยซ้ำ

“นายท่าน!”

คำกล่าวนั้นดึงสติของจี้เออร์กลับคืนมา นางมองไปที่ชายแปลกหน้าที่เนื้อตัวมอซอและสภาพไม่ต่างจากขอทานที่อดอยาก คราบสิ่งสกปรกที่ไม่ได้ชำระล้างออกไปและผมเผ้าที่รกรุงรังจนหน้าเกลียด

“ศิษย์พี่! นั่นท่านไปฟัดกับตัวอะไรมา นานกว่าครึ่งปีที่ท่านหลายตัวไปท่านไม่รู้หรืออย่างไร กำหนดการที่เราวางไว้ จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันนับจากนี้”

คำกล่าวนั้นทำให้เป่าฮู่ที่หยุดเท้าลงและยกมือเสยผมที่ยาวจนปกคุมใบหน้าขึ้นมามองสองสาวอย่างช้าๆ

“อื่ม …เรื่องนั้นข้ารู้ว่าแต่ไม่เจอกันนาน พวกเจ้าทั้งสองนับว่าสวยขึ้นมาก โดยเฉพาะเจ้าจี้เออร์ เป็นสาวขึ้นมามากเลยทีเดียว”

หลังจากนั้นสายตาที่หันไปมองซิวหยู พร้มกล่าวออกมาคุ้นเคย

“ลำบากเจ้าแล้วซิวหยู จากนี้ข้าสามารถปกป้องพวกเจ้าได้แล้ว และไม่ว่าใครข้าจะจัดการมันให้เจ็บปวดหากคิดทำลายครองครัวของข้า”

เพียงวาจานั้นดังออกมา ทำให้ชายชราที่เดินออกมาจากกระท่อมกล่าววาจาเย้าแหย่ศิษย์ในนามของตนออกมา

“ฮ่าๆๆๆ ไม่เจอกันเพียงครึ่งปี วาจาเก่งกล้าขึ้นมาเลยทีเดียวนะเจ้าศิษย์คนนี้”

เมื่อเป่าฮู่ได้ฟังวาจาตาเฒ่าที่ช่วยรักษาอาการของหย่วนซิวหยูจนหายดี เพราะดูจากสีหน้าของนางทำให้เป่าฮู่สบายใจไปมาก

“ฮ่าๆๆ ไม่เจอกันนาน อาจารย์ศิษย์ในนามคนนี้มีบางสิ่งที่จะมอบให้ท่าน มันนับว่าเป็นสมบัติสวรรค์ที่ศิษย์เช่นข้าได้พบเจอโดยบังเอิญ ข้าคิดว่าท่านคงสามารถนำมันไปหลอมเป็นตัวยาได้มากนัก”

จากนั้นเป่าฮู่ก็ดีดก้อนหยกสวรรค์ชิ้นหนึ่งขนาดเท่าหัวแม่มือไปให้แก่ ตาเฒ่าหลางจงอย่างไม่รู้สึกเสียดาย

เมื่อชายชราได้คว้าก้อนหยกสีทองอร่ามเอาไว้ดวงตาของชายชราก็เพ่งมองไปยังหยกที่แผ่กลิ่นอายลมปราณฟ้าดินที่แกร่งกล้าออกมา พร้อมกับปากที่สั่นเทา

“เจ้า! เจ้า! พบของสิ่งนี้ได้เช่นไร แล้ว แล้ว พบมันที่ไหน?”

เป่าฮู่รู้ได้ทันทีว่าชายชราผู้นี้มีความรู้เกี่ยวกับมัน ดังนั้นเป่าฮู่จึงกล่าวว่า

“อื่ม…นี่คือชิ้นสุดท้ายแล้วอาจารย์ ข้าสามารถหยุดยั้งไว้ให้ท่านได้เพียงเท่านี้ ที่เหลือ ข้านำมันมาพัฒนาตัวข้าจนตอนนี้ข้าแข็งแกร่งขึ้นมาเพียงนี้แล้วมิเห็นหรือ?”

เป่าฮู่ที่ปลดปล่อยลมปราณระดับจักรพรรดิออกมาแม้เพียงเสี้ยวอึดใจ แต่เพียงเท่านั้นก็ทำให้หลางจงรับรู้ได้ในทันที เมื่ออยู่เบื้องหน้าชายหนุ่ม

“เป็นไปไม่ได้…นี่เจ้า นี่เจ้า ฮ่าๆๆๆๆๆๆ สวรรค์ข้าช่างมีวาสนาได้รับศิษย์ในนามเช่นเจ้าไว้ จักรพรรดิลมปราณ จักรพรรดิลมปราณ ฮ่าๆๆๆๆ”

จี้เออร์และหย่วนซิวหยูได้ฟังนางทั้งสองก็รู้สึกทึ่งในความสามารถและพรสวรรค์ของชายที่นางยกย่องผู้นี้

“นายท่าน!” “ศิษย์พี่!”

โดยหลังจากนั้นทั้งสองช่วยกันตัดผมและชำระร่างกายให้แก่เป่าฮู่ โดยเป่าฮู่ก็ไม่สามารถขัดคำของพวกนางได้ ทั้งจี้เออร์ที่เป็นคนขัดผิวของเป่าฮู่ ส่วนซิวหยูก็เป็นคนตัดผมให้

โดยการกระทำของสองสาว เฒ่าหลางจงไม่มายุ่งแม้แต่น้อย ตาเฒ่ารีบนำหยกสวรรค์เข้าไปในกระท่อมและรีบเปิดตำรายาของตน ในที่สุดก็พบว่าหยกสวรรค์ชิ้นนี้สามารถปรุงยาระดับจักรพรรดิที่สามารถยกระดับให้แก่ชนชั้นราชันให้ทะลวงไปสู่ขั้นจักรพรรดิได้

เมื่อคิดได้ดังนั้น ชายชราก็คิดแผนการร้ายขึ้นมา เพราะเมื่ออาศัยอยู่กับเต้าเจิ่งผิงนานวันเข้า ก็สามารถครอบครองอำนาจได้มากมายและเมื่อมีอำนาจก็สามารถปกป้องตัวเองได้ เฒ่าหลางจงคิดจะยกหลานสาวให้แก่คนสองคน หากไม่ได้เป่าฮู่ อีกคนก็คงเป็นเต้าอิงเฉิง อัจฮริยะแห่งยุคนั่นเอง

แต่ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือหาส่วนประกอบและยื่นข้อเสนอที่เต้าเจิ้งผิงไม่อาจปฏิเสธได้ เพื่อที่เต้าเจิ่งผิงจะได้ทะลวงเข้าสู่ระดับจักรพรรดิลมปราณเป็นคนถัดไป

 

ณ ศาลาจอมทัพของเต้าเจิ่งผิง

เมื่อตอนนี้ผู้นำทั้งสองของตระกูลเต้าที่ได้รับคำสั่งจากบรรพชนให้ร่วมมือกัน เพื่อทวงถามตำแหน่งเจ้ายุทธ์ภพต่อไปอีกครั้ง นั่นจึงทำให้สองพี่น้องต้องหันหน้ามาช่วยเหลือกันก่อนที่ภัยจะมาเยือนตนเองอีกครั้ง

แต่ขณะที่คนทั้งสองกำลังเจรจากันอยู่นั้น หลางจงก็เดินเข้าไปพร้อมรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่า เต้าเหลียงคุนเองก็จาอยู่ที่นี่ หากงานนี้เต้าเจิ้งผิงไม่ขานรับคงมีแต่เต้าเหลียงคุนที่จะสนใจ

“คาราวะท่านผู้นำทั้งสอง  ทำให้เต้าเจิ้งผิงต้องให้ความสนใจ จิ้งจอกเฒ่าคนนี้

“มิทราบท่านมารฟ้าโอสถ มาพบเราทั้งสองมีเรื่องด่วนอันใด หรือโอสถทิพย์ปรุงเสร็จแล้วหรืออย่างไร?”

เมื่อกล่าวจากการสกัดพิษจากร่างของอสรพิษฟ้าครามมาเป็นยา เพื่อช่วยเพิ่มระดับยุทธ์แก่คนของตระกูลเต้าและยกระดับของตระกูลเต้าให้สูงขึ้น เฒ่าชราจึงได้นำโอสถที่ปรุงเสร็จตั้งนานแล้วออกมาเพื่อสร้างความมั่นใจก่อนที่จะเผยแผนการต่อไปออกมา

“นี่คือยาที่ปรุงจากซากของอสรพิษฟ้าครามตนนั้น ในขวดนี้มี 50 เม็ดสามารถใช้พิษเพื่อเพิ่มลมปราณในกายได้อย่างไม่ต้องเป็นกังวลใจ”

เมื่อผู้นำทั้งสองได้ฟังแน่ชัดแล้วว่าต้องมีการแบ่งกันตามสัดส่วน เพื่ออนาคตของตระกูลแต่ยังไม่ทันที่เต้าเจิ้งผิงจะถามถึงของรางวัลที่ชายราต้องการแต่เป็นเต้าเหลียงคุนที่เห็นแววตาของมารฟ้าโอสถที่เปล่งประกายออกมาเสียก่อน

“ฮ่าๆๆๆ น่านับถือ น่านับถือ แต่ข้าเต้าเหลียงคุน เชื่อว่าท่านอาวุโสหลางจงยังมีบางสิ่งที่ต้องการพูดกับเราทั้งสอง มิทราบว่ามันเป็นเรื่องอันใด?”

เมื่อเฒ่าชราได้ฟังจึงกล่าวออกไปถึงแผนการนั้นของตน

“อื่ม….เรื่องนี้เป็นสิ่งที่อาจช่วยยกระดับของตระกูลเต้าหรือแม้แต่แดนศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ข้าอยากพบท่านผู้นำสูงสุด เพื่อขอการยืนยันฐานนะของข้าและหลานสาวว่าจะได้รับสิทธิ์การเป็นพลเมืองชั้นสูงของดินแดนนี้ และได้ดำรวตำแหน่งที่เป็นรูปธรรมเช่นอาวุโสของหมู่ตึกโอสถอะไรประมาณนี้”

เมื่อคำขอนี้ทำให้เต้าเจิ่งผิงเริ่มมีความสงสัยว่า อะไรทำให้เฒ่าชราผู้นี้มีความต้องการที่สูงถึงเพียงนั้นและยังมั่นใจเสียด้วยว่า จะทำความชอบจนทำให้เหล่าอาวุโสทั้งหลายของตระกูล รับสองเฒ่าหลานไว้เป็นพลเมืองชนชั้นสูงของแดนศักดิ์สิทธิ์

เพียงเต้าเหลียงคุนได้ฟังก็เริ่มสนใจ จึงรีบออกหน้ากล่าวออกไปให้แก่ ชายชราผู้นี้ทันที เสียงที่ดังผ่านผนังหินที่ตั้งตระหง่านที่ด้านใน มีคนผู้หนึ่งนั่งอยู่

“ท่านว่าเช่นไร ท่านพ่อ?”

เมื่อเต้าหลียงคุนกล่าวออกไปทำให้เต้าเจิ่งผิงเองก็รีบ กล่าวสบทบเช่นกัน

“ตัวลูกคิดเช่นเดียวกับน้องรอง ท่านผู้เฒ่าหลางจงอุทิศตนให้แก่เราตระกูลเต้ามานาน หากเรารับท่านเข้ามาเป็นพลเมืองของเราให้สิทธิ์แก่ท่านและหลานรวมถึงศิษย์เอกของท่าน นับว่าจะสร้างคุณประโยชน์แก่เราตระกูลเต้าเป็นอย่างมาก”

เมื่อเสียงลึกลับจากผนักถ้ำหินด้านในได้ฟังเสียงของบุตรชายทั้งสอง คนผู้นั้นก็เปล่งวาจาออกมาว่า

“แล้วเจ้ามีสิ่งใดมาเป็นของแลกเปลี่ยน นอกจากโอสถขวดนี้?”

เพียงเท่านั้นแผนที่วางไว้ก็สำเร็จและเฒ่าหลางจงก็เริ่มกล่าวมันออกไป

“ข้าน้อยมารฟ้าโอสถ ได้มีวาสนา พอเจอสมบัตินี้ที่เขาเทวะ แม้จะเป็นเพียงของชิ้นเดียว หากแต่สามารถนำมาเป็นตัวยาเพื่อปรุงยาในตำนานที่สามารถช่วยท่านผู้นำทั้งสองที่ไม่อาจทะลวงผ่านระดับราชันไปได้ ให้กลายเป็นชนชั้นจักรพรรดิลมปราณได้อย่างแน่นอน”

เมื่อทุกคนได้ฟังทำให้ทั้งสามคนต้องสั่นสะท้านและนั่นยิ่งทำให้เต้าเหลียงคุนรีบกล่าวถามออกมา

“ท่านผู้เฒ่า เรื่องแบบนี้อย่าได้ล้อเล่น หากท่านกล่าวมาเป็นจริง ข้าเต้าเหลียงคุนจะเป็นผู้ที่ช่วยเหลือท่านเอง”

เพียงเท่านั้น ผู้เฒ่าหลางจงก็รีบนำของชิ้นนั้นออกมา หยกสีทองอร่ามเพียงเม็ดเดียวที่ศิษย์รักนำมามอบให้จะปูทางให้แก่ทุกคนได้สุขสบายไปชั่วชีวิต

“นั่นมันอะไร!?”

เต้าเจิ่งผิงเป็นคนถามออกมา แต่เพียงคนด้านในถ้ำจับสัมผัสของสมบัติชิ้นนี้ได้นั่นทำให้ตั้วของเต้าหวงเย่ ที่แกล้งตายลบเลือนตัวเองไปจากยุทธภพช่วงหนึ่งต้องออกมาจากที่เก็บตน

“หยกสวรรค์ในตำนาน ในที่สุดก็หาจนพบ ฮ่าๆๆๆๆ อนาคตของตระกูลเต้า ความรุ่งโรจน์ที่จะสยบทั้ง สี่เขตปกครองมาถึงแล้ว เต้าเจิ่งผิงจงฟัง เจ้าต้องช่วยท่านมารฟ้าโอสถทุกทาง ให้แต่งตั้งตำแหน่งหัวหน้าหมู่ตึกโอสถของหอยอดยุทธ์แก่ท่าน และมอบสิทธิ์ของพลเมืองชั้นสูงให้แก่ ตัวท่าน พร้อมคนที่ท่านอยากให้ติดตามได้ไม่เกิน 5 คน”

เมื่อเต้าเหลียงคุนและเต้าเจิ่งผิงรับคำไป ทำให้ใบหน้าของคนทั้งสามที่รวมถึงผู้เฒ่าหลางจงชื่นมื่นกันไปทั้งกลุ่ม หลังจากที่ได้เริ่มแผนการ หลางจงก็ได้กล่าวถึงสมุนไพรเสริมอีก 3 ตัวและในจำนวนนั้นนับว่าเป็นของหายาก เต้าเหลียงคุนอาสาพี่ใหญ่ของตนออกไปทำหน้าที่นี้ตามหาตัวยาเสริมเพราะมันต้องการที่จะเป็นจักรพรรดิลมปราณมานานแล้ว

 

ณ เขาเทวะ

หลังจากที่เฒ่าหลางจงกลับมายังเขาเทวะ พร้อมนำป้ายฐานะพลเมืองมามอบแก่จี้เออร์และเป่าฮู่ ในนามต้านเสี่ยว ที่เป็นพลเมืองชั้นสูงของแดนศักดิ์สิทธิ์

“ท่านอาจารย์นี่หมายความว่าอะไร?”

เมื่อเป่าฮู่เองรู้ในใจมานานว่า แท้จริงท่านผู้เฒ่าคนนี้ช่วยเหลือตน เพราะหวังบางสิ่งที่ตนเองชำนาญ และต้องการที่จะให้เป่าฮู่สอนหลานสาวของเขาให้เก่งขึ้น และแผนล่อลวงจิตใจก็เกิดเมื่อเป่าฮู่เฝ้าสังเกตก่อนหน้านั้นมานานกว่า 5 วันก่อนที่จะเดินเข้ามาจากชายป่า

ด้วยสิ่งที่ได้เห็นหลังจากเฒ่าเจ้าเล่ห์หลางจง หยิบตัวยาบางอย่างใส่ลงในโอสถของหย่วนซิวหยู นั่นทำให้ เป่าฮู่ต้องแอบนำตัวยานั้นมา เพื่อให้เต่าอักขระหรือแม้แต่มังกรเขียวตรวจสอบ

ในที่สุดในภูมิความรู้ของเต่าอักขระก็พบมันจากบันทึกยาของฮันเผิงว่านี่คือ ส่วนประกอบหนึ่งของยาพิษกลืนวิญญาณ ที่สามารถใช้เป็นตัวแก้พิษจิ้งจอกฟ้าและสามารถเปลี่ยนเป็นพิษอื่นได้หากได้ส่วนประกอบอื่นเข้าไปอีก

หากไม่ได้ทักษรของเต่าอักขระ ภูมิความรู้เกี่ยวกับตำรายาพิษของฮันเผิงคงไม่กระจ่างในหัวของเป่าฮู่เช่นนี้ เมื่อได้ฟังสิ่งที่เฒ่าหลางจงกล่าวมา ทำให้เป่าฮู่คิดที่จะชิ่งหนี

โดยออกอุบายว่าจะใช้เวลาที่เหลือ เดินทางไปเอาข่าวที่ฝากองครักษ์สืบหามานาน และนัดเจอกับสองเฒ่าหลานในวันประลองเจ้ายุทธ์และยังให้ทั้งสองเตรียมที่นั่งไว้ให้ตนเองด้วย

หลังจากนั้นเป่าฮู่ก็เดินทางออกมาอย่างสบายด้วยป้ายชนชั้นสูงของต้านเสี่ยวเพื่อออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์โดยเร็ว

“นายท่านดูท่านเหมือนรีบร้อนชอบกล อะไรทำให้ท่านไม่สบายใจหรือเจ้าคะ?”

เมื่อเป่าฮู่ได้ฟังสิ่งที่เป่าฮู่ต้องการทำคือรีบกลับไปที่เมืองตระกูลหง เพื่อทำให้หย่วนปงพัฒนากำลังกลับคืนสู่ระดับจักรพรรดิอีกคนเพื่อเป็นกำลังให้แก่ตัวเป่าฮู่เองในวันประลองชิงศึกเจ้ายุทธ์ภพ

“เรื่องนั้นเมื่อถึงเวลา เจ้าจะรู้”

Options

not work with dark mode
Reset