ตำนานเทพยุทธ์ 78

ตอนที่ 78

หลังจากที่กลุ่มเดินทางของเป่าฮู่ได้เดินทางมาถึงที่ป่าพฤกษาทมิฬ ที่เมืองซื่อสุ่ยของเขตปกครองมังกรฟ้า เพียงการลงจากเรือเหาะนาวาปราณ สิ่งที่ทุกคนได้ฟังก็คือข่าวของนายน้อยตระกูลมู่นามมู่หยง กำลังจะแต่งงานกับเทพธิดาหงส์เพลิงแห่งแดนใต้ เร่อเว่ยซูนั่นเอง ผู้คนที่หลั่งไหลกันไปชมความงามของเทพธิดาหงส์เพลิงที่เมืองซื่อมู่ นั่นทำให้การสัญจรทางเรือเหาะนาวาปราณคับคลั่งน่าดูชม

“เร่เข้ามา เร่เข้ามา ซาลาเปาร้อนๆ ซาลาเปาไส้ลาวา มาทางนี้จ้า”

คำเชิญชวนให้ได้ลิ้มลองซาลาเปาไส้ลาวาของร้านขายซาลาเปา จนทำให้หงลี่ที่หายจากอาการตกใจได้เอ่ยปากอยากกินซาลาเปาไส้ลาวานั้น นางมองไปทางเป่าฮู่แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับทำให้จางเหริ่นที่ติดตามารู้หน้าที่

“ข้า..ข้าไปซื้อให้เองจ้า ศิษย์น้อง”

เป่าฮู่ได้ฟังก็แอบยิ้มในใจความรักหนุ่มสาวขัดขวางได้ที่ไหน แต่ยังไม่ทันไรหย่วนชิงเหยียนนางก็รีบเดินไปต่อคิวเพื่อซื้อซาลาเปาไส้ลาวามาเพื่อมอบแก่คนบางคนเช่นกัน

แต่ในขณะที่ผ้าคลุมของนางเปิดออกนั้นด้วยความหลงลืมตัวเองทำให้ กลุ่มคนที่มาจากแดนใต้เช่นกันได้เห็นละจดจำรูปโฉมที่งดงามของนางได้ ด้วยนั่นก็คือหนึ่งในนายน้อยตระกูลรองของตระกูลเร่อ

การเดินทางมาล่วงหน้าเพื่อร่วมงานใครจะไปคาดคิดว่าวันนี้จะได้พบกับโชควาสนาแบบนี้

แต่เท่าที่สังเกตหย่วนชิงเหยียนนางกำลังสวมใส่ชุดอาภรณ์เช่นเดียวกับกลุ่มศิษย์ของนิกายเสือขาว นั่นทำให้ตัวของทายาทตระกูลค่วนคั่ว หนึ่งในดาวบริวารของตระกูลเร่อ ได้เพบเจอหย่วนชิงเหยียนและไม่มีทางลืมเทพธิดาน้อยนางนี้ไปได้

 

“โชคลาภวาสนาจริงๆ ส่งคนไปแจ้งแก่เทพธิดาหงส์เพลิงว่าข้าค่วนคั่วหลี่พบเจอศัตรูของท่าน ที่เมืองซื่อสุ่ย ข้าจะเฝ้าจับตาพวกมันไว้ให้รีบให้นางส่งคนมาสมทบเพราะเท่าที่เห็นนิกายเสือขาวให้ทีหลบซ่อนแก่นาง หย่วนชิงเหยียนผู้เป็นน้องสาวของหย่วนซิวหยูผู้นั้น”

จากการรับรู้และรางสังหรณ์ทำให้เป่าฮู่มองไปทางเรือเหาะก่อนที่จะหันไปกล่าวกับจ้าวหู่เหล่าองครักษ์ทั้ง 4 คนที่เหลือ

โดยคำสั่งนั้นให้กลุ่มองครักษ์หลบซ่อนตัวไว้อย่าได้เผยตัวออกมาจากกว่าจะสั่งและให้จับตามองว่ามีใครตามสะกดรอยมาบางหากมีให้รอโอกาสเหมาะและเก็บมันซะแต่อย่าให้เสียแผนการ ต้องล่อลวงตัวตนเหตุออกมาให้ได้

เป่าฮู่แสร้งทำเป็นส่งเสียงไปทางลมปราณบอกแก่นองสาวและหย่วนชิงเหยียนว่าต่อจากนี้อย่างได้สนใจตนมากเองนักให้ทำเป็นเหมือนตนเป็นเพียงผู้ติดตามและให้หันเหความสนใจไปที่จางเหริ่นเท่านั้น และสั่งคนเหล่านั้นด้วย

จากนั้นเป่าฮู่เองก็ลบเลือนตัวตนไปดั่งที่ตั้งใจ สำหรับผู้ที่ติดตามมาก็เป็นดั่งที่เป่าฮู่คิดไว้ เพียงจ้าวหู่ได้เฝ้าสังเกตก็พบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่ติดตามพวกตนออกมาจากเขตเมืองซื่อสุยจริงๆ

หลังจากนั้นเป่าฮู่ก็ให้คนทั้งหลายเข้าไปในโรงเตี้ยม เพื่อทานอาหารและเติมเสบียงนครบจะได้ออกเดินทาง ส่วนทางกลุ่มผู้ติดตามเชื่อว่าพวกมันยังไม่ลงมือจนกว่าคนจะมากพอเป็นแน่ เป่าฮู่จึงได้โอกาสที่จะซ้อนแผนทำให้พวกมันเดินเข้ามาในกับดักของคนนั่นเอง

ป่าพฤกษาทมิจะเป็นจุดจบของพวกหนูสกปรกที่ชอบแอบตามมาเป็นเงาตามตัว ด้านหย่วนซิวหยูและปู่ของนางหลังจากรับสารจากน้องสาวก็เร่งเดินทางมาที่เมืองซื่อสุ่ยเช่นกันและใต้การปกคลุมของเสื้อผ้าอาภรณ์ที่มิดชิดทำให้การลงมาจากเรือเหาะนาวาปราณหลังจากที่น้องสาวของตนมาถึงได้สองวัน

ณ ชายป่าพฤกาทมิฬ

“คุณชาย พวกนิกายเสือขาวจะมายังป่าแห่งนี้เพื่อสิ่งกันขอรับ?”

ค่วนคั่วหลี่ได้ฟังก็พอรู้ว่าป่าแห่งนี้ชุกชุมไปด้วยสัตว์ลมปราณที่น่าหวั่นเกรงและ ยังเป็นที่อยู่ของอสูรลมปราณที่น่าสนใจมากมาย

เพียงการรอคอยมานานวัน กลุ่มคนเหล่านี้ก็ไม่ได้เดินเข้าไปลึกกว่าที่กลุ่มสมาชิกของตระกูลค่วนคั่วเฝ้ารอไว้ ไม่นานเพียงข่าวสารที่ได้แจ้งปยังตระกูลมู่ ก็ทำให้มู่หยง ก้าวออกมาสั่งให้แม่ทัพประจำตระกูลออกมาจัดการปัญหาแก่ว่าที่ภรรยาของตนให้จิตใจของนางสงบลงก่อนพิธีแต่งงาน

 

เมื่อการมาของกองกำลังตระกูลมู่มากกว่า 50 คนที่เป็นยอดฝีมือระดับราชาและมีแม่ทัพระดับราชันขั้นกลางสองคนมาด้วยตนเอง แต่เมื่อเป้าหมายเป็นกลุ่มศิษย์ของนิกายเสือขาว กล้าบุกลุกมาหาเรื่องในเขตแดนอื่นย่อมต้องมีการตบตีเป็นธรรมดานั่นคือสิ่งที่ตระกุลมู่เตรียมส่งสารไปแจ้งแก่ไป๋ฟงเสียนได้รับรู้ในอีกไม่นาน

แต่อีกด้านเป่าฮู่นั่งรอเฝ้าเหยื่อมานานวันในที่สุดก็มากันจบครบใครจะไปคิดว่ากลุ่มคนกลุ่มนี้มาเพื่ออะไร แต่หลังจากที่ใช้อักขระผนึกลมปราณไว้ ลบเลือนจิตจนสามารถแฝงกายไปใกล้กลุ่มของคุณชายที่มีนามว่าค่วนคั่วหลี่ จนได้ความว่าแท้จริงคนเหล่านี้มา เพราะคำสั่งของเร่อเว่ยซูหญิงงามใจมารนางนั้น

การอาฆาตแค้นกับทายาทตระกูลหย่วนคงเพราะพลังของเทพหงส์เพลิงที่หย่วนชิงเหยียนหรืแม้แต่หย่วยซิวหยูครอบครองอาจเหนือกว่านางก็เป็นได้

ด้วยเหตุนั้นทำเป่าฮู่คิดว่าตราบใดสองคนนี้ไม่แกร่งพอที่จะรักษาชีวิตตนเองได้ย่อมง่ายที่จะถูกรังแกอยู่ร่ำไป เช่นนี้เป่าฮู่จึงคิดว่า เสร็จจากการครั้งนี้ ตนเองก็ต้องเตรียมทะลวงเข้าสู่ระดับจักรพรรดิลมปราณแล้วด้วยที่จะได้คุ้มกันภัยร้ายแก่น้องสาวและบิดาร่วมถึงมิตรสหายด้วยนั่นเอง

จากที่ได้เฝ้าสังเกตท่าที่เป่าฮู่ได้คิดแผนการณ์ที่จะล่อให้คนกลุ่มนี้เข้าไปพบเจอหายนะในถ้ำที่มีเจ้าราชาอสรพิษฟ้าครมซ่อนตัวอยู่ ดังนั้นแผนจึงทำให้เหมือนว่ากลุ่มคนเหล่านั้นกำลังหนีไปที่ถ้ำที่ห่างไปไม่ไกลจากนี้และเป่าฮู่กับเหล่าองครัก์จะตีตลบหลังคนกลุ่มนี้อีกที

 

 

เมื่อทุกอย่างมาพร้อมมีหรือแม่ทัพมู่เจียงซันและมู่เจียงหลงจะรอคอยอันใดต่อไปอีก

“คาราวะนายน้อยค่วนคั่วหลี่ ท่านส่งสารไปบอกกล่าวต่อนายหญิงเว่ยซูว่าพบเจอศัตรูของนาง ไหนคนเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”

คำถามนี้ทำให้นิ้วมือที่หยาบกร้านของค่วนคั่วหลี่ชี้ไปที่กลุ่มของหงหลี่ที่ห่างออกไปไม่เกิน ครึ่งลี้นั่งสุมกองไฟกันอยู่อย่างสบายใจ เพียงแม่ทัพมู่เจียงทั้งสองได้เห็นก็ยกยิ้มพร้อมกล่าวออกไปว่า

“อ่อ..เช่นนี้เชิญนายน้อยค่วนคั่วหลี่ ดื่มชารอให้สบาย เราจะไปจับนางมาให้ท่านเอง หวังว่าของขวัญก่อนแต่งงานของนายหญิงเว่ยซูคงคุ้มค่ากับเรา”

เมื่อร่างของแม่ทัพตระกูลมู่ทะยาออกไปกลุมกำลังทั้ง 50 คนก็ตามไปจนเผชิญหน้ากับกลุ่มศิษย์จากนิกายเสือขาวไม่นานคนทั้หมดก็รีบถอยออกไปตามแผนที่เป่าฮู่วางไว้

แต่ที่เหนือไปกว่านั้นนายน้อยค่วนคั่วที่ชักนำภัยมาสู่น้องสาวและหย่วนชิงเหยียนที่อ่อนโยนทำให้เป่าฮู่ที่ลบตัวตนเดินออกมาจากหลังเงาต้นไม้ พร้อมกล่าวออกมาด้วยคำชื่นชม

“ฮ่าๆๆๆๆ นับถือ นับถือ แผนวานรล้วงเหยื่อของท่าน ยืมมือของผู้ที่เก่งกว่าช่วงชิงสมบัติมาและท่านก็พรอยรับผลประโยชน์ในคราวนี้ด้วย นับถือ นับถือ”

หลังจากแว่วเสียงที่ไม่คุ้นชินของเป่าฮู่ดังขึ้น ทำให้ค่วนคั่วหลี่รู้สึกตกใจว่าคนหล่านี้มาหลบอยู่หลังของตนได้อย่างไรโดยที่ตนเองไม่รู้สึกตัว

“พวกแก่เป็นใคร?”

Options

not work with dark mode
Reset