ตำนานเทพกู้จักรวาล 756 พี่น้องสองประสาน

ตอนที่ 756 พี่น้องสองประสาน

มาร​เท​วะ​ทั้งสอง​หันไป​มองหน้า​กันและกัน​ และ​หนึ่ง​ใน​นั้น​กล่าว​อย่าง​เกียจคร้าน​ “เจ้ามาที่นี่​เพื่อ​เยี่ยมเยียน​แม่ของ​เจ้างั้น​หรือ​ เจ้ามีใบ​ผ่าน​ทาง​ไหม​”

ฉิน​มู่ส่าย​หัว​ “ข้า​ไม่มี”

มาร​เท​วะ​อีก​ตน​เหลียว​ซ้าย​แล​ขวา​ และ​เขา​ก็​หรี่​เสียง​ลง​ “เจ้ามีอะไร​วิบ​วับๆ​ ไหม​”

ฉิน​มู่ฉงนใจ​ “อะไร​คือ​วิบ​วับๆ​”

“เจ้าจะทึ่ม​อะไร​ขนาด​นี้​ วิบ​วับๆ​ หมายถึง​สมบัติ​ล้ำค่า​จาก​ฟ้าและ​ดิน​ สิ่งที่​มอง​แล้ว​สบาย​ตา​”

มาร​เท​วะ​นั้น​ตะคอก​ “ที่นี่​คือ​สถานที่​ที่​ป้องกัน​ภยันตราย​และ​ความ​ชั่วร้าย​อัน​ยิ่งใหญ่​ แต่​เจ้าไม่มีใบ​ผ่าน​ทาง​หรือ​ของล้ำค่า​ใดๆ​ ที่จะ​มาติดสินบน​พวกเรา​ นี่​เจ้าต้องการ​จะเข้าไป​จริงๆ​ แน่​หรือ​เนี่ย​ ทำไม​เจ้าไม่ไสหัวไป​ไกลๆ​ เสีย​ล่ะ​”

ฉิน​มู่รีบ​ยิ้ม​และ​กล่าว​ “ข้า​มีสมบัติ​อยู่​บ้าง​ เรือ​ของ​ราชันย์​ศักดิ์สิทธิ์​เมตตา​เทียม​สวรรค์​เป็น​อย่างไร​ล่ะ​ ข้า​สามารถ​ใช้เรือ​นี้​เพื่อ​แลกเปลี่ยน​กับ​โอกาส​ที่​ข้า​จะเข้าไป​ใน​ด่าน​ได้​ไหม​”

มาร​เท​วะ​นั้น​ยิ้ม​หยัน​และ​กล่าว​ “พวก​ข้า​จะเอา​เรือ​ไป​ทำ​อะไร​ พวก​ข้า​ก็​ไม่สามารถ​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​…”

มาร​เท​วะ​อีก​คนมีสี​หน้า​แปรเปลี่ยน​เล็กน้อย​เมื่อ​เขา​เห็น​เรือ​นี้​ เขา​รีบ​ห้าม​สหาย​ของ​ตน​และ​แย้มยิ้ม​อย่าง​ประจบ​แก่​ฉิน​มู่ “เขา​แค่​ล้อเล่น​เท่านั้น​ เจ้าเข้าไป​ได้​”

ฉิน​มู่กล่าว​ขอบคุณ​และ​เดิน​เข้าไป​ใน​ด่าน​กุญแจ​หยก​

“เจ้ารำคาญ​ชีวิต​แล้ว​หรือ​อย่างไร​!”

เสียง​ของ​มาร​เท​วะ​ทั้งสอง​ดัง​มาจาก​ข้างหลัง​ “นั่น​คือ​เรือ​ของ​ราชันย์​ศักดิ์สิทธิ์​เมตตา​เทียม​สวรรค์​! เขา​เคย​ให้​ใคร​อื่น​ยืม​เรือ​หรือ​ คน​ชื่อ​ฉิน​เฟิงชิงผู้​นี้​จะต้อง​เป็น​บริวาร​คนสนิท​ของ​ราชันย์​ศักดิ์สิทธิ์​ถึงได้​เรือ​มา หากว่า​เจ้าตะเพิด​ไล่​เขา​ไป​และ​เขา​ไป​ประท้วง​ราชันย์​ศักดิ์สิทธิ์​ เจ้าและ​ข้า​ก็​จะต้อง​โดน​เล่นงาน​แน่​!”

“พี่​ท่าน​ก็​ยังคง​เป็น​คน​เฉียบแหลม​ว่องไว​ ข้า​นั้น​มุทะลุ​ไป​หน่อย​ แล้ว​เด็กหนุ่ม​คน​นี้​มีความสัมพันธ์​อย่างไร​กับ​ราชันย์​ศักดิ์สิทธิ์​ถึงกับ​สามารถ​ยืม​เรือ​ของ​เขา​ได้​ เขา​จะต้อง​มีความเป็นมา​ไม่ใช่เล่น​แน่นอน​”

“เขา​นั้น​น่าจะเป็น​อาคันตุกะ​จาก​สภาสวรรค์​…ช้าก่อน​ พูด​ชื่อ​เขา​อีกที​ซิ? ข้า​นั้น​มัวแต่​คิด​ที่จะ​รีดไถ​เงินทอง​จาก​เขา​เลย​ไม่ทัน​ได้​ฟังถนัด​”

มาร​เท​วะ​ทั้งสอง​หันไป​สบตา​กัน​ด้วย​ความ​หนักอึ้ง​ หนึ่ง​ใน​มาร​เท​วะ​ปลุก​ปลอบ​ตนเอง​และ​เรียก​ฉิน​มู่กลับมา​ “นี่​ เจ้า หยุด​ไว้​ก่อน​ เมื่อกี้​เจ้าพูดว่า​เจ้าชื่อ​อะไร​นะ​ เจ้าพูด​ซ้ำอีกที​ได้​ไหม​”

ฉิน​มู่เหลียวหลัง​กลับ​ไป​ และ​รอยยิ้ม​ของ​เขา​ก็​แจ่มจ้าเป็น​อย่างยิ่ง​ “เทพ​สูงส่ง ชื่อ​ของ​ข้า​คือ​ฉิน​มู่ ฉิน​เฟิงชิง”

จิต​คิด​ของ​มาร​เท​วะ​ทั้งสอง​กระเจิดกระเจิง​ พวกเขา​มองตาค้าง​ไป​ยัง​ชายหนุ่ม​ที่​กำลัง​เดิน​เข้าไป​ใน​ด่า​กุญแจ​หยก​ ใน​ตอนนั้น​นั้น​ มาร​เท​วะ​อีก​สอง​ตน​ก็​รุด​มาและ​เตรียม​ที่จะ​เปลี่ยน​กะ​รักษาการณ์​ พวกเขา​โค​ลงหัว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “มีคน​มาที่​ด่าน​กุญแจ​หยก​นี่​ ศิษย์​พี่​ทั้งสอง​ พวก​เจ้าได้​ตรวจสอบ​คน​ผู้​นี้​ไหม​”

เทพ​ทั้งสอง​ยืน​อ้าปากค้าง​ มาร​เท​วะ​ที่มา​เปลี่ยน​กะ​ขมวดคิ้ว​และ​สามารถ​ได้กลิ่น​เหม็น​ของ​ฉี่เมื่อ​พวกเขา​เดิน​เข้าไป​ใกล้​ พวกเขา​แน่ใจ​เมื่อ​เห็น​กอง​น้ำ​สีเหลือง​ที่​นอง​อยู่​ใต้เท้า​

“ฉิน​…”

หนึ่ง​ใน​ทั้งสอง​นั้น​ติดอ่าง​ “ฉิน​ ฉิน​ ฉิน​…คน​ที่​เจ้าก็​รู้​ว่า​ใคร​กลับมา​แล้ว​!”

เสียง​นั้น​กลายเป็น​กึกก้อง​และ​กรีด​แหลม​ “ฉิบหาย​แล้ว​! คน​ที่​เจ้ารู้​ว่า​ใคร​กลับมา​แล้ว​ และ​เขา​ก็ได้​บุกเข้าไป​ใน​ด่าน​กุญแจ​หยก​! เตรียม​ให้​พร้อม​! เตรียม​ให้​พร้อม​!”

“รีบ​ไป​รายงาน​เทพเจ้า​ทุกหน​แห่ง​! คน​ที่​เจ้ารู้​ว่า​ใคร​กลับมา​แล้ว​เพื่อ​มาชิงตัว​มารดา​ของ​เขา​!”

ใน​ด่าน​กุญแจ​หยก​ ฉิน​มู่ได้ยิน​เสียง​ตะโกน​ดัง​มาจาก​ข้างหลัง​และ​ตื่นตระหนก​ เขา​หันกลับ​ไป​ และ​เมื่อ​มาร​เท​วะ​ทั้ง​สี่เห็น​เขา​เหลียวหลัง​มามอง​ พวกเขา​ก็​กลัว​จน​จับ​ขั้ว​หัวใจ​ ด้วย​เสียง​ตึง​ๆๆ มาร​เท​วะ​ทั้ง​สี่ก็​เป็นลม​สลบ​

คน​ที่​เจ้าก็​รู้​ว่า​ใคร​? หรือว่า​นั่น​จะเป็น​ข้า​

ฉิน​มู่อึ้งกิมกี่​ จากนั้น​ก็​ระเบิด​หัวเราะ​ออกมา​ เขา​ได้​แต่​โค​ลงหัว​หลังจาก​ครู่หนึ่ง​และ​ใคร่ครวญ​อยู่​ใน​ใจ ยี่​สิบสอง​ปีก่อน​? ถ้าเช่นนั้น​ ตอนนี้​ข้า​ก็​อายุ​ยี่​สิบสอง​ปี​แล้ว​ ผู้ใหญ่บ้าน​บอ​กว่า​ข้า​อายุ​ยี่​สิบสอง​ปี​ ขณะที่​ท่าน​ยาย​บอ​กว่า​ข้า​อายุ​ยี่​สิบเอ็ด​ ตอนนี้​เรา​ก็ได้​คำตอบ​แล้ว​ในที่สุด​ พวกเขา​ไม่ต้อง​เถียง​กัน​แล้ว​

“เฮ้ พวก​เจ้าทั้ง​สี่!”

เขา​ตะโกน​และ​บอก​เตือน​ไป​ด้วยใจ​เมตตา​ “พวก​เจ้าไม่หนี​หรือ​อย่างไร​ หรือว่า​เจ้าจะรอ​ให้​ข้า​จับ​กิน​”

มาร​เท​วะ​ทั้ง​สี่ที่​หมดสติ​ไป​พลัน​ดีดตัว​ตีลังกา​ขึ้น​มาจาก​พื้น​ และ​หายวับ​ไป​ด้วย​ลำแสง​เท​วะ​สี่สาย​

นาม​อัน​โหดเหี้ยม​ของ​พี่ชาย​ข้า​นี่​ไม่ใช่เล่น​ๆ เลย​จริงๆ​

ฉิน​มู่ถอนหายใจ​อย่าง​สะทก​สะท้อน​ การ​เดินทาง​มายัง​ด่าน​กุญแจ​หยก​ใน​คราวนี้​ราบรื่น​อย่าง​ผิดปกติ​ และ​ก็​เหนือ​ความคาดหมาย​ของ​เขา​

เสียง​ตี​เกราะ​เคาะ​กลอง​ดัง​มาจาก​เมืองด่าน​ และ​รังสี​สังหาร​ก็​คุกรุ่น​ใน​อากาศ​ เขา​สามารถ​รู้สึก​ได้​ทันที​ถึงรัศมี​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ที่​แผ่​สยาย​ออกมา​จาก​ด่าน​ นี่​เห็นได้ชัด​ว่า​มีทหารราบ​และ​ทหารม้า​มากมาย​ประจำการ​อยู่​ที่นี่​ พวกเขา​รักษา​ความปลอดภัย​อย่าง​เข้มงวด​ เพื่อ​ป้องกัน​ไม่ให้​ตัวตน​ทั้งหลาย​ที่อยู่​ข้างใน​หลบหนี​ออกมา​ได้​

ฉิน​มู่ปลุก​ปลอบ​ตนเอง​และ​ลอบ​ปลด​ใบ​หลิว​ออกจาก​หว่าง​คิ้ว​ เขา​กล่าว​ด้วย​เสียง​เบา​ “พี่ชาย​ ข้า​มาที่นี่​เพื่อ​เยี่ยม​ท่าน​แม่…”

เบ้าตา​เขา​พลัน​แดงก่ำ​ และ​เขา​ก็​เผย​รอยยิ้ม​อบอุ่น​ “เจ้าเคย​ได้​พบ​กับ​ท่าน​แม่มาก่อน​ แต่​ข้า​ไม่เคย​เจอ​หน้า​นาง​เลย​สักครั้ง​ ท่าน​แม่อุ้ม​เจ้าและ​จุมพิต​เจ้ามาก่อน​ และ​นาง​ไม่เคย​อุ้ม​และ​จุมพิต​ข้า​เลย​สักครั้ง​ หากว่า​ไม่ใช่เพราะ​ความผิดพลาด​ครั้ง​ใหญ่​ของ​เจ้า ข้า​ก็​คง​ไม่ต้อง​มาพราก​จาก​ท่าน​พ่อ​และ​ท่าน​แม่แบบนี้​…”

ใน​ดวงตา​ที่สาม​ที่​หว่าง​คิ้ว​ของ​เขา​ ทารก​ประหลาด​หัวโต​นั่ง​อยู่​ตรงนั้น​และ​มอง​ไป​ยัง​ท้องฟ้า​

เทพ​สรรพ​ชีวิต​และ​จักรพรรดิ​แดงฉาน​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​กระสับกระส่าย​ ร่าง​แยก​ของ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​ตะโกน​ไป​ “ฉิน​เฟิง…ฉิน​มู่ เจ้ากำลังจะ​ทำ​อะไร​น่ะ​! อย่า​บุ่มบ่าม​นะ​!”

เสียง​ของ​ฉิน​มู่ออกมา​ “ใคร​ล่ะ​จะไม่อยาก​มีความสุข​หัวเราะ​ร่า​ใต้​เข่า​ของ​พ่อ​และ​แม่เมื่อ​พวกเขา​ยัง​เด็ก​ ใคร​กัน​จะไม่อยาก​มีพ่อแม่​อยู่​ใกล้​ๆ เมื่อ​ครั้ง​ยัง​เยาว์​ แต่​ข้า​ไม่มีโอกาส​นั้น​ พี่ชาย​ ข้า​มาที่นี่​เพื่อ​มาหา​ท่าน​แม่ เจ้าจะต้อง​ชดเชย​ให้​กับ​ข้า​ ใน​วันนี้​…”

ร่าง​ของ​เขา​สั่นเทิ้ม​ และ​เสียง​ของ​เขา​ก็​แหบ​พร่า​ไป​เล็กน้อย​ “ข้า​จะต้อง​ยืม​พลัง​อำนาจ​ของ​เจ้า พี่ชาย​! ข้า​ไม่อาจ​ควบคุม​สันดาน​มาร​ แต่​เจ้าทำได้​ เจ้าไม่อาจ​ควบคุม​ทักษะ​เท​วะ​ แต่​ข้า​ทำได้​ พี่ชาย​ ฉิน​เฟิงชิง ออกมา​เถอะ​!”

ร่าง​แยก​ของ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​และ​สำนึก​รู้​ของ​จักรพรรดิ​แดงฉาน​ตวาด​ไป​ด้วย​ความ​โกรธเกรี้ยว​ “อย่า​บุ่มบ่าม​นะ​…”

เหนือ​แผ่นดิน​รูป​ตัว​ฉิน​ ท้องฟ้า​สั่นสะเทือน​ และ​สำนึก​รู้​ของ​ฉิน​มู่ก็​ทะลวง​ทะลุ​ท้องฟ้า​เข้ามา​ “พี่ชาย​ พวกเรา​มารวมกัน​เป็นหนึ่ง​ และ​ไป​พบ​ท่าน​แม่ด้วยกัน​เถอะ​!”

ทารก​หัวโต​ทะยาน​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​และ​เหาะ​ออก​ไป​

“ไม่…”

ร่าง​แยก​ของ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​และ​สำนึก​รู้​ของ​จักรพรรดิ​แดงฉาน​ไหล​ออก​ไป​จาก​ท้องฟ้า​ และ​พลัน​พบ​ว่า​เวท​ปิดผนึก​แข็งแกร่ง​ขึ้น​อีก​หน​ ก็เพราะว่า​ฉิน​มู่ปิด​ใบ​หลิว​ลง​ไป​ และ​ปิดผนึก​พวกเขา​เอาไว้​ใน​แผ่นดิน​รูป​ตัว​ฉิน​

ทั้งสอง​คน​ร่วง​ลง​กับ​พื้น​ และ​พวกเขา​รู้สึก​เย็นเยียบ​ใน​หัวใจ​

“ฉิน​มู่ ไอ้​เด็ก​แสบ​ เขา​ไม่สามารถ​ควบคุม​สันดาน​มาร​เลย​สักนิด​ เขา​ไม่สามารถ​ควบคุม​ฉิน​เฟิงชิง!”

ร่าง​แยก​ของ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​โมโห​เดือดดาล​ และ​เขา​เดินไปเดินมา​ด้วย​ความ​กระวนกระวาย​ เขา​พลัน​เงย​ศีรษะ​ขึ้น​เพื่อ​มอง​ไป​ยัง​พุทธเจ้า​บน​อากาศ​ เขา​ตะโกน​ด้วย​ความ​ร้อนใจ​

“พุทธเจ้า​เฒ่า รีบ​ตื่น​เร็ว​เข้า​ กำลังจะ​เกิด​เรื่องใหญ่​แล้ว​!”

พุทธเจ้า​ยังคง​หลับใหล​และ​ไม่ได้ยิน​คำพูด​ของ​เขา​

“พุทธเจ้า​เฒ่านี่​มาเพื่อ​ตรึง​สะกด​ฉิน​เฟิงชิงหรือ​มาหลับ​กัน​แน่​?” สำนึก​รู้​จักรพรรดิ​แดงฉาน​ร้อง​ออก​ไป​ด้วย​ความโมโห​

ร่าง​ของ​ฉิน​มู่สั่นเทิ้ม​ และ​กาย​เนื้อ​ของ​เขา​ก็​ขยาย​ขนาด​ออก​ไป​ทีละขั้น​ๆ แขน​ของ​เขา​เริ่ม​จะงอก​ออกมา​เพิ่ม​อีก​สี่ข้าง​ และ​ในเวลาเดียวกัน​ คอ​อีก​สอง​ข้าง​ก็​งอก​ออกมา​ เขา​มีไหล่​หก​อัน​และ​แขน​หก​ข้าง​ที่​กำลัง​ประคอง​ศีรษะ​ของ​ตนเอง​เอาไว้​

หนึ่ง​ใน​ศีรษะ​เหล่านั้น​แปรเปลี่ยน​อย่าง​รวดเร็ว​ และ​กลายเป็น​ศีรษะ​ของ​เด็ก​ ฉิน​มู่พลัน​รู้สึก​ถึงพลัง​อำนาจ​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ที่​ไหลบ่า​ออกมา​!

พลัง​อำนาจ​นี้​มิได้​มาจาก​การ​เปิด​ปราสาท​สวรรค์​ การ​เพิ่มพูน​ขั้น​วร​ยุทธ​ขั้น​เดียว​มิอาจ​มอบ​พลัง​อำนาจ​ระดับ​นี้​ได้​ มัน​คือ​พลัง​อำนาจ​แห่ง​หลัก​กฎ​ หลัก​กฎ​แห่ง​แดน​ใต้พิภพ​ มัน​คือ​พลานุภาพ​แห่ง​ฟ้าและ​ดิน​ พลานุภาพ​แห่ง​เต๋า​แดน​ใต้พิภพ​!

เขา​นั้น​เหมือนกับ​เทพ​บรรพกาล​ที่​ถือกำเนิด​ขึ้น​มาจาก​ฟ้าและ​ดิน​ เหมือนกับ​ครึ่ง​เทพ​ที่​แข็งแกร่ง​ขึ้น​มาจาก​การ​เติบโต​ เขา​มีข้อได้เปรียบ​จาก​ทั้ง​เทพ​บรรพกาล​และ​ครึ่ง​เทพ​!

“น้องชาย​ตัว​ร้าย​ ให้​ข้า​ควบคุม​พลัง​อำนาจ​ และ​เจ้าก็​ไป​ควบคุม​หลัก​กฎ​!” ทารก​นั้น​ส่งเสียง​เด็ก​ไม่สิ้น​กลิ่น​น้ำนม​มา

ฉิน​มู่รู้สึก​ถึงพลัง​อำนาจ​ที่​ไหลบ่า​เข้ามา​ใน​ร่าง​เนื้อ​ของ​เขา​ประดุจ​มหาสมุทร​ และ​ร่างกาย​ของ​เขา​ก็​ขยาย​ออก​ไป​อีกครั้ง​ กล้ามเนื้อ​ของ​เขา​ปูด​โปน​ขึ้น​มาไม่หยุดหย่อน​ และ​เต๋า​อัน​ยิ่งใหญ่​แห่ง​แดน​ใต้พิภพ​ทั้งหลาย​ก็​แปร​เปลี่ยนไป​เป็น​ข้อมูล​มากมาย​นับ​ไม่สิ้น​ ข้อมูล​หลั่งไหล​เข้ามา​ใน​จิต​คิด​ของ​เขา​ ทำให้​เขา​เข้าใจ​โดย​ไม่ต้อง​อธิบาย​

หัวโต​ๆ ของ​ทารก​ที่​แปรเปลี่ยน​มาจาก​ฉิน​เฟิงชิงควบคุม​สันดาน​มาร​ ขณะที่​เขา​ควบคุม​พลานุภาพ​แห่ง​หลัก​กฎ​

เขา​ยิ่ง​ตัว​ใหญ่​มากขึ้น​ทุกๆ​ จนกระทั่ง​สูงเหยียด​เมฆ เขา​สูงตระหง่าน​ปาน​ขุนเขา​

ฉัวะ​

ฉิน​มู่ดึง​ใบ​หลิว​ลงมา​อีกครั้ง​ และ​ใน​แผ่นดิน​รูป​ตัว​ฉิน​ตอนนี้​ เทพ​สรรพ​ชีวิต​และ​จักรพรรดิ​แดงฉาน​สามารถ​มองเห็น​โลก​ภายนอก​ได้​ ผนึก​ได้​กลายเป็น​บาง​อย่างยิ่ง​ และ​จักรพรรดิ​แดงฉาน​ก็​พยายาม​ที่จะ​ลอง​ทลาย​ฝ่าเวท​ปิดผนึก​ ร่าง​แยก​ของ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​ส่าย​หัว​และ​กล่าว​ “อย่า​เสียแรง​พยายาม​หลบหนี​เลย​ เจ้าทำ​ไม่ได้​หรอก​ ฉิน​มู่และ​ฉิน​เฟิงชิงได้​ร่วม​ประสาน​พลัง​แล้ว​ และ​พวกเขา​ก็​เชี่ยวชาญ​พลัง​อำนาจ​แห่ง​โอรส​ศักดิ์สิทธิ์​ใต้พิภพ​โดย​สมบูรณ์​ สาเหตุ​ที่​เขา​เปิดผนึก​นั่น​ก็เพราะว่า​ เขา​ไม่กลัว​พวกเรา​ยื่นมือ​เข้าไป​สอด​อีกต่อไป​”

สำนึก​รู้​จักรพรรดิ​แดงฉาน​เหาะ​เข้าไป​ใน​ท้องฟ้า​ และ​เขา​ก็​พบ​จริงๆ​ ว่า​เวท​ปิดผนึก​บน​นั้น​หนาแน่น​อย่าง​ไร้​ปาน​เปรียบ​ ไม่มีหนทาง​ที่จะ​ทลาย​ฝ่าไป​ได้​จริงๆ​

“ยอมแพ้​เถอะ​”

เทพ​สรรพ​ชีวิต​ถอนหายใจ​ “พวกเรา​ได้​แต่​หวัง​ว่า​ฉิน​มู่จะยัง​มีเหตุมีผล​ และ​ไม่ถูก​พี่ชาย​ของ​เขา​ควบคุม​”

ใน​ด้าน​กองทัพ​เทพยดา​ที่​อารักขา​ด่าน​กุญแจ​หยก​ได้​เปล่งรัศมี​อัน​เข้มงวด​ขึงขัง​ออกมา​ พวกเขา​ยืน​อยู่​บน​ป้อมปราการ​สูง ใน​มือ​มีธนู​และ​ลูกศร​ สายตา​ของ​พวกเขา​คมกล้า​ พวกเขา​รอ​รับ​คำสั่ง​อย่าง​เคร่งครัด​

ตึง​ ตึง​ ตึง​

เสียง​ฝีเท้า​หนักหน่วง​ดัง​มาเมื่อ​แผ่นดิน​และ​ขุนเขา​สั่นสะท้าน​ เม็ด​เหงื่อ​เย็นเยียบ​ร่วง​ลง​จาก​หน้าผาก​ของ​เทพเจ้า​ทั้งหลาย​

“อย่า​ไป​กลัว​!”

แม่ทัพ​มาร​ตน​หนึ่ง​น่าเกรงขาม​และ​มีท่วงที​อัน​เหนือ​ธรรมดา​ วร​ยุทธ​ของ​เขา​สูงล้ำเลิศ​ และ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​คือ​ผู้บัญชาการ​ทัพ​ที่นี่​ เขา​ปกป้อง​สถานที่​แห่ง​นี้​ภายใต้​คำสั่ง​ของ​ภูติ​บดี​ เขา​ตะโกน​ไป​ “ไม่ต้อง​กลัว​! ภูติ​บดี​ได้​ปิดผนึก​เขา​เอาไว้​มากว่า​ยี่สิบ​ปี​ ต่อให้​เขา​ทลาย​ฝ่าเวท​ปิดผนึก​ออกมา​ใน​ตอนนี้​ อย่าง​มาก​เขา​ก็​มีกำลัง​ฝีมือ​ระดับ​เดียว​กับ​เมื่อ​ยี่สิบ​ปีก่อน​ ด้วย​สมบัติ​วิเศษ​ที่​ภูติ​บดี​มอบให้​พวกเรา​ พวกเรา​ไม่ต้อง​ไป​กลัว​เขา​!”

เขา​ตะโกน​ “พวกเรา​ กองทัพ​แห่ง​ด่าน​กุญแจ​หยก​ไม่เคย​กริ่งเกรง​เทพ​โอรส​ศักดิ์สิทธิ์​ใต้พิภพ​! เขา​มาที่นี่​แล้ว​ ปราบ​เขา​ให้​ล้ม​!”

ใน​ตอนนั้น​เอง​ เขา​ก็​เห็น​เทพเจ้า​สามเศียร​หก​กร​เดิน​เข้ามา​ และ​เทพ​ตน​นั้น​ก็​เต็มไปด้วย​รอยประทับ​อักขระ​ใต้พิภพ​ไป​ทั่ว​ทั้ง​ร่าง​ รอยประทับ​เหล่านั้น​ดูรา​วจะ​แปร​เปลี่ยนไป​เป็น​เต๋า​อัน​ยิ่งใหญ่​แห่ง​แดน​ใต้พิภพ​ และ​ฝังประทับ​เข้าไป​ใน​ผิวหนัง​ของ​เทพ​ตน​นี้​!

เขา​มีหัว​งอก​ขึ้น​มาสามหัว​ หนึ่ง​นั้น​เป็น​หัว​ของ​เด็ก​ และ​อีก​สอง​นั้น​เป็น​หัว​ของ​ชายหนุ่ม​ ท่ามกลาง​หัว​สอง​ข้าง​นี้​ หนึ่ง​นั้น​มีสายตา​อัน​สงบนิ่ง​และ​เย็นชา​ ส่วน​อีก​ข้าง​หนึ่ง​มีสายตา​อัน​รุ่มร้อน​และ​อบอุ่น​

แม่ทัพ​เทพยดา​มีสายตา​อัน​ตะลึง​ลาน​ และ​หาง​ตา​ของ​เขา​ก็​กระตุก​บิดเบี้ยว​ “พวกเรา​จบเห่​ พวกเรา​จบเห่​แล้ว​ เมื่อ​ตอนที่​เขา​ยัง​ไม่รู้จัก​ทักษะ​เท​วะ​ พวกเรา​ก็​ยัง​พอ​จะสู้ได้​อยู่​ แต่​ตอนนี้​ความสำเร็จ​ใน​ทักษะ​เท​วะ​ใต้พิภพ​ของ​เขา​เหนือ​ล้ำ​ยิ่งกว่า​ใครๆ​ ในที่นี้​…พวกเรา​จบสิ้น​”

ฉิน​มู่สามเศียร​หก​กร​เดิน​เข้าไป​ตรงหน้า​ค่าย​ทัพ​เทพเจ้า​ และ​มอง​ไป​ยัง​ไพร่พล​เท​วะ​ทั้งหลาย​

ฉิน​เฟิงชิงหัน​หัว​มามอง​และ​แลบลิ้น​เลีย​ปาก​ด้วย​ความตื่นเต้น​ “น้องชาย​ตัว​ร้าย​ ด้วย​วิธีการ​ของ​เจ้า พวกเรา​สามารถ​กลืน​กิน​พวกเขา​ทั้งหมด​ได้​ใน​คำ​เดียว​! ตราบเท่าที่​เจ้าได้​ลิ้ม​ลองของ​อร่อย​พวก​นี้​ เจ้าก็​จะยิ่ง​โหยหา​และ​รัก​ชอบ​ที่จะ​กิน​พวก​มัน​ พวก​มัน​สุดยอด​มาก​ๆ เลย​นะ​!”

ฉิน​มู่พลัน​โค้ง​คารวะ​และ​กล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​ “ข้า​มาที่นี่​เพื่อ​เยี่ยมเยียน​มารดา​ หากว่า​เจ้าไม่ขัดขวาง​ข้า​ เจ้าก็​จะไม่ตาย​ ขอให้​พี่​ทาง​เต๋า​ทั้งหลาย​โปรด​เปิดทาง​”

แม่ทัพ​มาร​เท​วะ​ตน​นั้น​ร่าง​แข็งทื่อ​ และ​เขา​มีเสียง​อัน​แหบ​พร่า​ “ข้า​พิทักษ์​สถานที่​แห่ง​นี้​ภายใต้​บัญชา​ของ​ภูติ​บดี​…”

ตูม​

ฉิน​มู่พลัน​ระเบิด​ออก​ไป​และ​ขับเคลื่อน​ทักษะ​เท​วะ​มรรคา​บู๊​ของ​เขา​ใน​เสี้ยว​พริบตา​ ย้อน​พัน​ฝ่ามือ​เหนือ​ยอด​สวรรค์​พิสดาร​ถูก​ปลดปล่อย​ และ​ฝ่ามือ​ หมัด​ มุทรา​ และ​ดรรชนี​อัน​ยิ่งใหญ่​ปาน​ขุนเขา​ก็​ถล่ม​ลงมา​ใน​บริเวณ​โดยรอบ​ ท้องฟ้า​และ​ผืนดิน​ถูก​บดขยี้​ เกิด​เหว​ลึก​มหึมา​ขึ้น​!

แม่ทัพ​มาร​ผู้​นั้น​มอง​ไป​ยัง​เหว​ลึก​ตรงหน้า​ค่าย​ทัพ​ และ​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​บิด​กระตุก​อย่าง​รุนแรง​ ขนาด​ของ​เหว​ลึก​นี้​มีขนาด​เท่ากับ​ค่าย​ทัพ​เทพยดา​อย่าง​พอดิบพอดี​!

นี่​ก็​หมายความว่า​ หาก​การ​โจมตี​ของ​ฉิน​มู่ตกลง​ไป​บน​พวกเรา​ เขา​สามารถ​ทำลายล้าง​ทุกๆ​ คน​ไป​ได้​อย่าง​สบาย​ๆ!

“โอรส​ศักดิ์สิทธิ์​ใต้พิภพ​ เชิญ…” แม่ทัพ​มาร​เท​วะ​ตน​นั้น​ผาย​มือ​

ฉิน​มู่เดิน​ไป​สอง​ก้าว​ก่อนที่จะ​หยุดชะงัก​ เหงื่อ​เย็นเยียบ​ร่วง​ลง​จาก​หน้าผาก​ของ​แม่ทัพ​มาร​เท​วะ​ ฉิน​มู่กล่าว​ “ข้า​ไม่รู้ทาง​ ข้า​ต้องการ​ผู้นำทาง​ เชิญ”

แม่ทัพ​มาร​เท​วะ​กัดฟัน​กรอด​และ​เหาะ​ออก​ไป​จาก​ค่าย​ทัพ​ เขา​กล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​ “ข้า​จะนำทาง​ให้​แก่​โอรส​ศักดิ์สิทธิ์​ใต้พิภพ​ด้วย​ตนเอง​!”

ฉิน​มู่กล่าว​ขอบคุณ​

แม่ทัพ​มาร​เท​วะ​ตน​นั้น​ปลุก​ปลอบ​ตนเอง​เพื่อ​เดิน​นำทาง​ไป​ข้างหน้า​ เขา​คอย​แต่​รู้สึก​ถึงสายตา​ที่​จ้อง​จับ​บน​คอ​ของ​เขา​ ดังนั้น​เขา​จึงเหลียวหลัง​กลับ​ไป​มอง​ เขา​เห็น​ทารก​อ้วน​จ่ำม่ำกำลัง​จ้องมอง​เขา​ด้วย​น้ำลายไหล​ยืด​

“อ้วนท้วน​ชุ่มฉ่ำอะไร​อย่างนี้​ ฮี่ๆ…น้องชาย​คนดี​ ให้​ข้า​เลีย​สักหน่อย​เถอะ​ ข้า​ไม่กิน​เขา​หรอก​ แค่​ชิมรสชาติ​นิดเดียว​…”

ใน​แดน​ใต้พิภพ​ ปราสาท​สวรรค์​โบราณ​มากมาย​สะท้าน​หวั่นไหว​ไป​ตาม​ๆ กัน​ ตัวตน​อัน​แข็งแกร่ง​อย่าง​ไร้​เปรียบ​ปาน​ต่าง​ก็​ลืมตา​ตื่นขึ้น​มาทีละ​ตน​ๆ

“โอรส​ศักดิ์สิทธิ์​ใต้พิภพ​กลับมา​อีกแล้ว​?”

“หากว่า​พวกเรา​สังหาร​เขา​ใน​คราวนี้​ ภูติ​บดี​คง​พูด​อะไร​ไม่ออ​กสิ​นะ​?”

“ไป​ล้างแค้น​ที่​ด่าน​กุญแจ​หยก​กัน​!”

แดน​ใต้พิภพ​ บน​ร่างกาย​ของ​ภูติ​บดี​ เส้น​แสงมากมาย​พุ่ง​วาบ​ และ​พวก​มัน​ก็​นำพา​รัศมี​อัน​เขื่อง​โข​ไป​ยัง​ด่าน​กุญแจ​หยก​ ทั่ว​ทั้ง​แดน​ใต้พิภพ​กลายเป็น​คึกคัก​ใน​ชั่วพริบตา​

ที่​ดวงตา​ของ​ภูติ​บดี​ ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​มอง​ไป​ที่​ความ​อึกทึกครึกโครม​เบื้องล่าง​ และ​สัมผัส​ได้​ถึงรัศมี​อัน​เก่าแก่​โบราณ​ เขา​รู้สึก​กระวนกระวาย​และ​กล่าว​ “ภูติ​บดี​ พวกเรา​ควร​เข้าไป​ยุ่งเกี่ยว​หรือไม่​ ข้า​เกรง​ว่า​วิญญูชน​สวรรค์​มู่จะขัดขวาง​พวกเขา​เอาไว้​ไม่ได้​”

“เขา​คือ​ภูติ​บดี​อีก​คน​”

เสียง​ของ​ภูติ​บดี​ดัง​มาจาก​โถงวัง​ “ภูติ​บดี​ที่​ไร้​ข้อจำกัด​ผูกมัด​ใดๆ​ จะไม่สามารถ​ขัดขวาง​คน​พวก​นั้น​ได้​อย่างไร​”

ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​หัวใจ​สะท้าน​

ตำนานเทพกู้จักรวาล

ตำนานเทพกู้จักรวาล

Score 10
Status: Completed

อ่าน ตำนานเทพกู้จักรวาล PDF ตอน 1 – 443 คลิกเพื่ออ่าน

( อ่านต่อด้านล่าง )


ในดินแดนรกร้าง ยังมีหมู่บ้านประหลาดซึ่งเต็มไปด้วยผู้เฒ่าพิการ ขาเป๋ เป็นใบ้ ตาบอด หูหนวก

เหล่าคนชราเก็บทารกแรกคลอดที่ลอยน้ำผ่านมาได้ เลี้ยงดูจนเติบใหญ่และตั้งชื่อให้ว่า… ฉินมู่

ฉินมู่ หนุ่มน้อยหน้าซื่อตาใสเจ้าของรอยยิ้มกระชากใจ ‘พี่สาว’ ทั้งหลาย แต่ทำให้ศัตรูเดือดแค้นเจียนตาย

บางคนก็เรียกเขาว่ากวางน้อยเซ่อซ่าที่เห็นเรื่องตื่นเต้นที่ไหนก็โดดไปมุงดู

ไม่ว่าเทพกับมารตีกัน ใครจะยกทัพไปยึดโลกมิติใด หลวงจีนคนนั้นจะกิ๊กกับราชาสวรรค์องค์ไหน

เป็นต้องเห็นเงาร่างหมอนี่ตลอด พับผ่าสิ!

ความอยากรู้อยากเห็นไร้สิ้นสุดของฉินมู่จะคลายปริศนาลึกลับของจักรวาลได้หรือไม่

ความลับของเทพเจ้าโบราณคืออะไร

ใครคือเงามืดที่คอยเก็บเกี่ยวต้นอ่อนของยอดยุทธ์วิชาเทวะตลอดหลายแสนปีที่ผ่านมา…

เด็กหนุ่มผู้นี้จะกลายเป็นผู้กอบกู้จักรวาลให้รอดพ้นจากการถูกทำลายล้างได้หรือไม่

นี่คือการผจญภัยของฉินมู่ผู้เจียมตัวว่าเก่งเป็นอันดับสองของทุกศาสตร์วิชาในโลก!

‘ฉินมู่กะพริบตาปริบอย่างใสซื่อ…แต่ผู้อื่นเห็นแล้วขนหัวลุกแทบตาย’

Options

not work with dark mode
Reset