ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 1557 สามวานรสู้ราชสีห์และช้าง

บทที่ 1557 สามวานรสู้ราชสีห์และช้าง

กลาง​ความว่างเปล่า​ใน​จักรวาล​ เขต​มาร​ที่เกิด​จาก​ซาก​ของ​เทพ​มาร​งูกำลังจะ​แหลก​สลาย​

ประกาย​กระบี่​ของ​เกา​ชิงเสวียน​กับ​ฉวี​ซูหลบหลีก​ชั่วคราว​

ตอนนี้​เป็น​โลก​ที่​ลม​ปีศาจ​พัด​ปะทะ​กัน​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ฟ้าดิน​เหมือน​กลับ​สู่ยุค​ปฐม​กาล​ยุค​โบราณ​ตอนต้น​ เปลี่ยว​ร้าง​และ​น่ากลัว​!

สามวานร​ หนึ่ง​สิงโต​ หนึ่ง​ช้างจอม​ปีศาจ​ห้า​ตน​ร้อง​คำราม​อย่าง​ดุดัน​ ทำให้​โลก​ที่อยู่​รอบ​ๆ เผชิญ​กับ​กาลเวลา​อัน​ขมุกขมัว​

เซียน​หัว​มังกร​ส่าย​ร่าง​เปลี่ยนแปลง​ กลายเป็น​สิงโต​ขน​เขียว​ อ้า​ปาก​ที่​เหมือน​อ่าง​เลือด​ เป็น​สภาวะ​กลืน​ฟ้า

สิงโต​ขนาด​มหึมา​เหมือนกับ​หลุมดำ​ที่​ครอบคลุม​จักรวาล​ ความรู้สึก​ที่​มอบให้​เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​กับ​เกา​ชิงเสวียน​ ถึงกับ​เหมือน​เทียบ​ได้​กับ​ภาพ​ที่​ค่าย​กล​ลงทัณฑ์​เซียน​พังทลาย​ ทำให้​พวกเขา​ลอย​เข้าไป​ด้านใน​อย่าง​มิอาจ​ควบคุม​

แม้จะใช้ความสามารถ​จาก​กาย​ทอง​มหา​เท​วะ​สามร่าง​ ตอนนี้​ก็​ยืนหยัด​ทรง​กาย​ไม่ได้​

ร่าง​อัน​มโหฬาร​สามร่าง​ที่​เหมือนกับ​เขา​เท​พลอย​ขึ้น​ด้านบน​อย่าง​มิอาจ​ควบคุม​ เหมือนกับ​เข้าหา​ปาก​สิงโต​

เพราะ​ความสามารถ​ใน​การ​คว้า​จับ​การเปลี่ยนแปลง​กาลเวลา​ ร่าง​ของ​กาย​ทอง​มหา​เท​วะ​เหมือนกับ​กำลัง​หด​เล็ก​ เปลี่ยน​จาก​มหาสมุทร​สู่ข้าวฟ่าง​

“ฮ่า!” กาย​ทอง​มหา​เท​วะ​ที่​เปลี่ยน​มาจาก​ร่าง​แยก​สมุทร​สุด​ขอบ​โลก​ตวาด​ขึ้น​ ปัก​กระบอง​สารพัด​นึก​ใส่ความว่างเปล่า​ด้านล่าง​

ขนาด​ของ​เหล็ก​เท​วะ​วิเศษ​ที่​เมื่อก่อน​ค้ำ​ยัน​ธาร​สวรรค์​เริ่ม​เพิ่มขึ้น​อย่า​รว​เร็ว​ เปลี่ยนเป็น​มหึมา​สุด​เปรียบ​ปาน​

เป็น​ความรู้สึก​หนักอึ้ง​น่ากลัว​ที่​มิอาจ​เพิ่ม​มาก​ไป​กว่า​นี้​ จน​คนธรรมดา​ยาก​จะเข้าใจ​ ยาก​จะใช้วัตถุ​รอบ​ๆ มาบรรยาย​

เหมือนกับ​หมู่​ดาว​นับไม่ถ้วน​ใน​ธาร​สวรรค์​หดตัว​ สั่งสมกัน​ แล้ว​ดึง​อวกาศ​ให้​เกิการ​เปลี่ยนแปลง​

วาร​ยักษ์​ถือ​กระบอง​สารัพัด​นึก​ของจริง​ เมื่อ​รวม​พลัง​กัน​ ต่าง​ส่งเสริม​กันและกัน​ สภาวะ​เริ่ม​เพิ่มขึ้น​อย่า​บ้าคลั่ง​ ถึงกับ​ต้านทาน​สิงโต​ขน​เขียว​ที่​เป็น​มหา​เท​วะ​ ไม่ให้​อีก​ฝ่าย​ได้เปรียบ​ได้​ใน​ชั่ว​ขณะที่​ลาง​เรือน​

พอ​มีกระบอง​สารพัด​นึก​ค้ำ​ยัน​ไว้​ ปาก​กลืน​ฟ้าของ​สิงโต​ขน​เขียว​ก็​กลืน​กิน​ไม่ได้​อีก​

แต่ว่า​ขณะเดียวกัน​ เซียน​งาวิญญาณ​อีก​ด้าน​ก็​ส่าย​ร่าง​เปลี่ยนแปลง​เช่นกัน​

ทันใดนั้น​ ช้างเผือก​หก​งาที่​ยัง​ใหญ่​กว่า​สิงโต​ขน​เขียว​ตัว​หนึ่ง​ก็​โผล่​ขึ้น​ ร่างกาย​มหึมา​จน​เหมือนกับ​อุด​จักรวาล​ไว้​

ยาม​ช้างเผือก​ก้าวเดิน​ เหมือนกับ​กำลัง​เหยียบย่ำ​ฟ้าดิน​ จักรวาล​ที่​ทุกคน​อยู่​ถึงกับ​สั่นสะเทือน​ตาม​

งาช้างสีเหลือง​จางๆ หก​กิ่ง​งอ​เหมือน​จันทร์​เสี้ยว​ ส่งผล​คุกคาม​คน​ งวงช้าง​หยาบ​ใหญ่​กวาด​ไป​ทั่ว​จักรวาล​ จากนั้น​ก็​ม้วน​เข้าหา​กระบอง​สารพัด​นึก​!

“ขึ้น​!” ใน​เสียงคำราม​สั่นสะเทือน​แก้วหู​ กระบอง​สารพัด​นึก​ถึงกับ​สั่น​ไหว​เพราะ​การ​ม้วน​จาก​งวง​ช้าหยาบ​ใหญ่​นั้น​

ภายใต้​การ​ผนึก​กำลัง​จาก​ปาก​สิงโต​และ​งวงช้าง​ เหมือนกับ​สั่นสะเทือน​เสาค้ำฟ้า​

ไม่ขยับ​ยัง​พอทำเนา​ แค่​มีการสั่น​ไหว​เล็กน้อย​ กระบอง​สารพัด​นึก​ก็​ยาก​จะค้ำ​มิติ​เวลา​ใน​จักรวาล​ได้​ต่อ​

ตอนแรก​ร่าง​ยังอยู่​ที่​เดิม​ได้​ต่อ​ แต่​พวก​เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​มิอาจ​ควบคุม​ตัวเอง​ ถูกจับ​ขึ้น​อีกครั้ง​ เหมือนกับ​กำลังจะ​ลอย​เข้าไป​ใน​ปาก​สิงโต​เอง​

‘บรรลุ​ความลี้ลับ​ใน​คัมภีร์​กระบี่​ลวง​เซียน​ถึงระดับ​นี้​ ทั้ง​ยัง​ประสาน​กับ​ความสามารถ​พรสวรรค์​ของ​ตัวเอง​ได้​ ช่างน่ากลัว​จริงๆ​’ เกา​ชิงเสวียน​เพ่ง​ตา​มอง​ไป​ใน​ปาก​เหมือน​อ่าง​เลือด​ของ​สิงโต​เขียว​ เห็น​ขอบ​ปาก​ที่​ราวกับ​หลุมดำ​ถึงกับ​มีแสงสีแดงก่ำ​กลุ่ม​หนึ่ง​เปล่งแสง​ระยิบระยับ​ไม่สลาย​

เกา​ชิงเสวียน​กระตุ้น​กระบี่​ลวง​เซียน​ ต้องการ​ใช้ความสามารถ​ของ​อีก​ฝ่าย​ควบคุม​ร่าง​ของ​อีก​ฝ่าย​ ใช้ลวง​เซียน​ทำลาย​ลวง​เซียน​ ช่วย​กาย​ทอง​มหา​เท​วะ​กับ​กระบอง​สารพัด​นึก​แก้ไข​ความสามารถ​ของ​เซียน​หัว​มังกร​

แต่ว่า​ประกาย​กระบี่​สาด​ขึ้น​ตรงหน้า​ ฉวี​ซูบุตร​กระบี่​หก​วิถี​ขวาง​อยู่​ด้านหน้า​นาง​อย่าง​แน่นหนา​

ด้วย​ความเร็ว​และ​ความคล่องแคล่ว​ด้าน​การ​เคลื่อนย้าย​มิติ​เวลา​ มรรคา​กระบี่​ของ​ฉวี​ซูสู้คั้มภีร์​กระบี่​ลวง​เซียน​สายเหนือ​พิสุทธิ์​ไม่ได้​

แต่​อย่างไร​เขา​ก็​ขึ้น​สู่มหา​ชาล​แล้ว​ แสดง​ความ​น่าอัศจรรย์​ของ​ตัวเอง​ออกมา​

เกา​ชิงเสวียน​ยัง​เป็น​เซียน​กำเนิด​สุญญตา​ ถือ​กระบี่​ลวง​เซียน​สู้กับ​เขา​ ได้​แค่​บอ​กว่า​ไม่เสียท่า​ใน​ด้าน​นี้​ กลับ​ยาก​จะสลัด​หลุด​จาก​ฉวี​ซู

ภายใต้​ปาก​สิงโต​ ฉวี​ซูร่าง​ก็​ได้รับ​ผลกระทบ​ เหมือนกับ​ถูก​สิงโต​กลืน​กิน​เช่นกัน​

แต่ว่า​เขา​ไม่สนใจ​เรื่อง​นี้​ เพียงแค่​ต้องการ​โจมตี​ศัตรู​ ทำให้​เกา​ชิงเสวียน​กับ​กระบี่​ลวง​เซียน​ยาก​แสดงความสามารถ​ เพื่อ​ที่​สิงโต​เขียว​จะแสดงความสามารถ​ออกมา​ได้​หมด​ กลืน​ฟ้ากิน​ดิน​ใน​ปาก​เดียว​

แต่ว่า​แค่​การ​พัวพัน​เล็กน้อย​นี้​ กาย​ทอง​มหา​เท​วะ​สอง​ร่าง​ก็​พา​กัน​คว้า​มือ​เข้าหา​กระบอง​สารพัด​นึก​พร้อมกัน​!

จากนั้น​ก็​ออกแรง​เขย่า​!

ปราณ​พิฆาต​อัน​น่ากลัว​ผนึก​ตัว​เป็น​สสาร​ บน​เหล็ก​เทพ​ที่​ใน​อดีต​ถล่ม​สวรรค์​ คุกคาม​เหล่า​เซียน​ กลายเป็น​แสงมืด​หลาย​สาย​

ภายใต้​การ​สั่นสะเทือน​จาก​พลัง​อัน​ยิ่งใหญ่​ งวง​ยาว​ของ​เซียน​งาวิญญาณ​ที่​ม้วน​กระบอง​สารพัด​นึกไว้​พลัน​เมื่อย​ตึง​

พลัง​สั่น​ไหว​ฟ้าดิน​ไม่อาจ​ดำรงอยู่​ต่อ​

ปราณ​พิฆาต​อัน​รุนแรง​ เหมือนกับ​เข็ม​ทิ่มแทง​เพลิง​ผลาญ​เผา​ เฉือน​ผิว​งวง​ของ​ช้างเผือก​หก​งา ทำให้​มัน​เจ็บปวด​ยาก​ทนทาน​

มีคำ​กล่าวว่า​เพียง​ดึง​ก็​ตาย​ เพียง​แตะ​ก็​ม้วย​ ผิว​ถูก​ทำลาย​เมื่อ​ถูก​ฟาด​ เส้นเอ็น​เสียหาย​เมื่อ​เสียดสี​!

เดิมที​เป็น​ของ​วิเศษ​ค้ำ​ทะเล​ แต่ว่า​หลังจาก​ก่อ​บาป​ฆ่าสัตว์​นับไม่ถ้วน​ แปดเปื้อน​เลือด​ของ​พุทธ​ปีศาจ​เซียน​และ​มาร​นับ​เหลือ​คณานับ​ นี่​ก็​กลายเป็น​วัตถุ​อัน​ร้ายกาจ​ไม่กี่​ชิ้น​ใน​ใต้​หล้า​!

วานร​ยักษ์​สามตัว​เขย่า​กระบอง​สารพัด​นึก​พร้อมกัน​ ค้ำ​ยัน​ฟ้าดิน​อีกครั้ง​

ช้างเผือก​หก​งาต้องการ​อดทน​ เห็น​วานร​ตัว​หนึ่ง​หัวเราะ​เหอะ​ๆ ยื่นมือ​มาเกา​ใน​รู​งวง​ของ​งวงช้าง​

นี่​เหมือนกับ​บดขยี้​ฟางเส้น​สุดท้าย​ของ​ช้าง การ​เกา​อันตราย​ถึงชีวิต​จริงๆ​

เซียน​งาวิญญาณ​ร้อง​โอ๊ย​ งวง​คลาย​ออก​ คิด​จะออกแรง​อีกครั้ง​ กลับ​ไม่ทัน​ไร​แล้ว​

“จงยืด​! จงยืด​! จงยืด​!” กาย​ทอง​มหา​เท​วะ​สามร่าง​ร้อง​ขึ้น​พร้อมกัน​ ขนาด​ของ​กระบอง​สารพัด​นึก​ขยาย​ใหญ่​ตาม​ เหมือนกับ​ต้องการ​แทง​ทะลุ​จักรวาล​

ครั้งนี้​สิงโต​เขียว​ทน​ต่อไป​ไม่ไหว​ ถ้าหาก​ยัง​ดัน​เอาไว้​ เกรง​ว่า​จะต้อง​ถูก​กระบอง​สารพัด​นึก​ดัน​จน​ปาก​จน​ฉีก​ โดน​แทง​เข้าไป​ใน​สมอง​

“ยัง​ดูแคลน​ความสามารถ​ของ​วานร​ตัว​นี้​ไป​” เซียน​หัว​มังกร​กับ​เซียน​งาวิญญาณ​ถอนใจ​อย่าง​จนปัญญา​ เก็บ​กาย​ทิพย์​ร่าง​ปีศาจ​ที่​บัง​ฟ้าและ​ดวงตะวัน​ ไม่รั้ง​อยู่​อีก​ หนี​ไป​โดย​ไม่หันหน้า​กลับมา​มอง​

ฉวี​ซูสีหน้า​ไร้อารมณ์​ สายตา​สิ้นหวัง​ พุ่งตัว​เข้าไป​ใน​ปาก​ของ​เซียน​หัว​มังกร​ ปล่อย​ให้​อีก​ฝ่าย​นำ​ตน​จากไป​

จอม​ปีศาจ​สอง​ตน​ที่​อาละวาด​ไป​ทั่ว​ฟ้าดิน​มาตั้งแต่​ยุค​โบราณ​ตอนต้น​ มีประสบการณ์​มาก​ขนาด​ไหน​ พอ​รู้สึก​ได้​ว่า​ท่า​ไม่ดี​ ก็​หนี​ทันที​ไม่มีอืดอาด​

แต่ว่า​วานร​ยักษ์​ยก​กระบอง​สารพัด​นึก​ขึ้น​ กวาด​ทำลาย​ใน​หนึ่ง​กระบอง​ ยัง​ฟาด​โดน​สิงโต​เขียว​กับ​ช้างเผือก​

มหา​เท​วะ​เผ่า​ปีศาจ​ทั้งสอง​ตน​คราง​หนัก​ๆ ตน​หนึ่ง​ถูก​ฟาด​ขา​หลัง​ข้าง​หนึ่ง​หัก​ ตน​หนึ่ง​ถูก​ฟาด​สะโพก​เป็น​เลือดเนื้อ​ก้อน​หนึ่ง​!

“ยัง​ต้อง​เหลือ​พลัง​ไป​ตาม​กระบี่​ลงทัณฑ์​เซียน​” กาย​ทอง​มหา​เท​วะ​ร่าง​หนึ่ง​เก็บ​ปราณ​ปีศาจ​ คืน​ร่าง​เป็น​ร่าง​แยก​สมุทร​สุด​ขอบ​โลก​

เกา​ชิงเสวียน​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​เก็บ​กระบี่​ยืน​นิ่ง​ กาย​ทอง​มหา​เท​วะ​อี​กร่าง​หนึ่ง​เปลี่ยน​กลับเป็น​สวี​เฟย​

กาย​ทอง​มหา​เท​วะ​อี​กร่าง​ที่​เหลือ​ มือถือ​กระบอง​สารพัด​นึก​ หัวเราะ​หึๆ​ ร่าง​หด​เล็ก​ลง​

กระบอง​สารพัด​นึก​ถูก​เก็บ​ แสงสีทอง​สลาย​ไป​ ไม่เห็น​วานร​ยักษ์​ ที่​เดิม​เหลือ​เงาร่าง​สีขาว​สลับ​ดำ​ รูปร่าง​กลม​ปุก​สาย​หนึ่ง​

“หิว​แล้ว​!”

เสียง​เด็กผู้หญิง​ที่​ฟังดู​ซึมซือ​เสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​

เยี่ยน​จ้าว​เก​อตบ​ศีรษะ​ของ​สยง​เมาตรงหน้า​ “รู้จัก​แต่​กิน​”

พ่าน​พ่าน​เขยิบ​เข้าใกล้​เขา​อย่าง​น้อยใจ​อยู่​บ้าง​ “ไม่ได้​ตะกละ​ หิว​แล้ว​จริงๆ​”

“ควง​กระบอง​สารพัด​นึก​นั่น​กินแรง​สาหัส​ทีเดียว​” สวี​เฟย​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ขึ้น​ด้าน​ข้าง​

เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​พยักหน้า​ “ข้า​ทราบ​ดี​ ร่าง​แยก​สมุทร​สุด​ขอบ​โลก​ของ​ข้า​ก็​เหมือนกัน​”

“ออก​ไป​จาก​ที่นี่​ก่อน​เถอะ​ ไม่อย่างนั้น​อีก​ฝ่าย​อาจ​มามากกว่า​นี้​” เกา​ชิงเสวียน​กล่าว​

ทุกคน​พยักหน้า​ ออก​ไป​พร้อมกัน​ทันที​

ถึงปาก​จะกล่าวว่า​ไม่ชอบ​ตัว​ตะกละ​บาง​ตัว​ แต่​เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ไม่ลืม​อุด​ปาก​ ปล่อย​ให้​มัน​กิน​อย่าง​เบิกบาน​

หลัง​ดูแล​พ่าน​พ่าน​ เยี่ยน​จ้าว​เก​อ​ทาง​หนึ่ง​เดินทาง​ ทาง​หนึ่ง​ก้มหน้า​พิจารณา​แขน​ครึ่ง​ท่อน​ของ​เทว​กษัตริย์​กว่าง​เฉิง

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 10
Status: Completed

ด้านนอกของประตูเขากว่างเฉิง ณ เกาะนภากลางแห่งนภาพิภพ หนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักวิทยายุทธ์มากมายในยุคปัจจุบันของโลกแปดพิภพ

เยี่ยนจ้าวเกอในอาภรณ์สีขาว ด้านนอกสวมทับด้วยชุดคลุมสีน้ำเงินแต่งขอบสีดำ บ่งบอกถึงตำแหน่งลูกศิษย์สืบทอดหลักของเขากว่างเฉิง

ส่วนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นชายหนุ่มในชุดสีเหลืองคนหนึ่ง ซึ่งกำลังยืนหน้าบูดบึ้ง “เยี่ยนจ้าวเกอ เจ้ามีดีแค่บิดาเก่งไม่ใช่หรืออย่างไร?”

“เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ? หากกล้าเจ้าก็ลองพูดดูอีกครั้งสิ” เยี่ยนจ้าวเกอตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“พูดก็พูดสิ คิดว่าข้ากลัวเจ้าหรือ? เจ้ามันก็แค่มีดีแต่บิดาเก่งไม่ใช่หรือ?”

เยี่ยนจ้าวเกอจ้องเขา พลันฉีกยิ้มออกมา “เยี่ยม ประโยคนี้แหละ ข้าชอบที่คนอื่นว่าข้าด้วยประโยคนี้ที่สุด”

Options

not work with dark mode
Reset