ดั่งรักบันดาล 77

ตอนที่ 77

หรือว่า เขาพึ่งกลับมาหลังจากอยู่กับผู้หญิงอื่น?

ความคิดนี้ผ่านเข้ามาในหัวของหร่วนซือซือ ไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็ขจัดลบความคิดนี้ออกไป

อวี้อี่มั่วไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น ถึงแม้ว่าระหว่างพวกเขาจะขาดพื้นฐานในเรื่องของความรัก เขาก็คงจะไม่ทำแบบนี้ต่อการสมรสของพวกเขาหรอก

ป้าหรงเห็นเธอยืนอยู่ที่หน้าบันไดอยู่นาน ก็กุลีกุจอเข้ามาถาม “คุณนาย เป็นอะไรไปคะ?”

หร่วนซือซือพึมพำเบาๆว่า “อี่มั่วดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ค่อยดีน่ะค่ะ”

ป้าหรงรีบพูดปลอบไปว่า “อาจจะเป็นเพราะว่าทำงานหนักมากเกินไป คุณนายอย่าคิดอะไรเยอะเลยนะคะ”

หร่วนซือซือพยักหน้าหงึกหงัก แต่ทว่าภายใจกลับรู้สึกแปลกๆเล็กน้อย ป้าหรงที่อยู่ข้างกายเห็นดังนั้น ถอยหายใจออกมายาวๆหนึ่งครั้ง ก็จะเอ่ยเสียงเบาว่า “เอาแบบนี้ไหมคะ ป้าจะไปชงชาขาว แล้วให้คุณนายยกขึ้นไปดูนายน้อยข้างบนว่าเป็นอย่างไรบ้าง?”

หร่วนซือซือรีบหยักหน้า “ค่ะ”

เมื่อสองวันก่อนที่วิลล่าริมทะเลสาบ โชคดีที่อวี้อี่มั่วคอยดูและเอาใจใส่และช่วยเหลือเธอ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ยังไงเธอก็ย่อมเป็นกังวลไม่น้อยอยู่แล้ว

รอจนต้มชาขาวเสร็จ หร่วนซือซือถือเอาไว้บนถาด เดินตรงเข้าไปที่หน้าประตู้ของห้องหนังสือ เธอเคาะประตู “ป้าหรงชงชามาให้คุณ คุณอยากจะดื่มมันไหมคะ?”

ภายในไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมาเลย หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง ก่อนจะค่อยๆเปิดประตูห้องหนังสือเข้าไป

เธอชะโงกศีรษะเข้าไปภายในห้อง ทั้งห้องมืดสลัวเล็กน้อย มีเพียงแค่แสงไฟจากโคมไปมุมห้องที่เปิดอยู่ สว่าวไหวแต่กลับเงียบงัน กลุ่มควันลอยขึ้นในอากาศ

ในความมืดที่เลือนราง หร่วนซือซือมองเห็นเงาใบหน้าเรียบนิ่งรางๆของฝ่ายชาย ทั้งยังเห็นบุหรี่ที่มีแสงสว่างวับๆแวมๆที่ปลายนิ้วของเขาคีบอยู่

ฝ่ายชายหันศีรษะมา นัยน์ตาเฉียบคมมองมาที่เธอ มันเรียบเฉยและไม่มีความรู้สึกใดๆเลยแม้แต่น้อย ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ออกไป!”

หร่วนซือซือชะงักค้าง ราวกับว่ามีก้อนบางอย่างจุกอยู่ในลำคอชั่วขณะจึงทำให้ไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้

ใจเธอตกไปอยู่ตาตุ่ม โดนคำพูดของเขาทิ่งแทงเข้ามาภายในใจ เธอถอยออกไปแล้วปิดประตู ยืนนิ่งงันที่หน้าประตูอยู่นานสองนาน

นั้นคืออวี้อี่มั่วที่เธอรู้จักจริงๆใช่ไหม?เป็นผู้ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยในตอนแรกใช่หรือเปล่า? เป็นคนที่อบอุ่นและสวมแหวนแต่งงานให้เธอจริงๆใช่ๆไหม?

หรือว่าเขาจะพบเจอกับปัญหาที่ไม่สามรถแก้ไขได้อย่างงั้นหรือ?

หร่วนซือซือขบเม้มริมฝีปาก กดทับความรู้สึกน้อยใจไว้ ถือถาดเอาไว้ในมือแล้วจากไป

ภายในตัวห้อง อวี้อี่มั่วนั่งอยู่บนโซฟา นัยน์ตาสั่นไหวและเต็มไปด้วยความรู้สึก

ในความคิดของเขา มีแต่ภาพของเย่หว่านเอ๋อร้องไห้ขอให้เขาช่วยซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด เห็นภาพเธออ้วกออกมาไม่ยอมหยุด สีหน้าซีดเผือก เดิมทีวันมะรืนนี้คือวันกำหนดที่จะได้รับการผ่าตัด แต่บังเอิญหร่วนซือซือดันป่วยขึ้นมา ทั้งหมดจึงต้องถูกเลื่อนออกไป การผ่าตัดต้องวางแผนใหม่ทั้งหมด……

ลมหายใจถูกสูดเข้ามายาวๆหนึ่งครั้ง อวี้อี่มั่วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาคุณหมอหลัว “ฮัลโหล หมอหลัว พรุ่งนี้มาที่คฤหาสน์หน่อยนะครับ มาตรวจร่างกายดูซือซือให้ที……”

ตอนนี้ ขอเพียงแค่หร่วนซือซือสามารถกลับมาแข็งแรงให้ได้โดยเร็วถึงจะสามารถวางแผนการผ่าตัดใหม่ได้เร็วที่สุด และครั้งนี้ ไม่ว่าจะอย่างไรเขาจะต้องแข็งใจเอาไว้ หาโอกาสนำความจริงทั้งหมดที่เกี่ยวกับเธอออกมาให้กระจ่าง อย่างอื่นสามารถเลื่อนออกไปได้ทั้งหมด แต่ทว่าอาการป่วยเย่หว่านเอ๋อเลื่อนออกไปไม่ได้แล้ว

……

เช้าที่อากาศแจ่มใสของวันที่สอง หร่วนซือซือที่กำลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว วางแผนไว้ว่าจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับเข้าบริษัท เมื่อเดินมาถึงตรงหน้าบันไดก็บังเอิญพบกับอวี้อี่มั่วที่กำลังสาวเท้าเดินลงมาพอดี

นัยน์ตาของฝ่ายชายมองผ่านตัวเธอไปหนึ่งครั้ง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “วันสองวันนี้ไม่ต้องเข้าบริษัทแล้ว อยู่บ้านพักผ่อนเถอะ สุขภาพสำคัญที่สุด”

เมื่อได้อยู่ดีๆก็ได้ฟังเขาพูดออกมาเช่นนั้น หร่วนซือซือนิ่งชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงเบาว่า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าสบายดีขึ้นมากแล้ว ว่าจะพกยาไปด้วย……”

“ไม่ได้” อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วแน่น ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นและเด็ดขาดว่า “รอหมอหลัวมา เขาจะมาดูอาการของเธอแล้วสั่งยาให้ เตรียมตัวให้พร้อม”

“คือฉัน……”

หร่วนซือซือพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าจะต้องตอบกลับอย่างไรแล้ว ดูจากสีหน้าดุดันของฝ่ายชายแล้ว เธอทำได้เพียงแค่พยักหน้าแล้วตอบรับคำ

เรื่องที่เขากำชับเธอดูราวกับว่าคล้ายเหมือนห่วงใยเธอ แต่ทว่าทำอย่างไรเธอก็กลับไม่ได้รู้สึกถึงความห่วงใยจากเขาเลย ตั้งแต่ที่เธอสลบไปที่วิลล่าแล้วกลับมา ท่าทางของเขาที่มีต่อเธอนั้นแปรเปลี่ยนไปหมดโดยสิ้นเชิง หรือว่าเธอจะไปก่อเรื่องยุ่งยากอะไรให้เขา

ภายในจิตใจเริ่มที่จะรู้สึกไม่ปกติมากยิ่งขึ้น หร่วนซือซือกลับเข้าไปในห้อง หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแอบโทรหาเสี่ยวหาน

“ฮัลโหล? เสี่ยวหาน”

“ซือซือ! ในที่สุดเธอก็คิดได้ว่าจะต้องโทรศัพท์หาฉันแล้ว! เป็นอย่างไรบ้าง สุขภาพแข็งแรงดีแล้วหรือยัง?”

ได้ยินน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจของเสี่ยวหานดังเข้ามาในสาย หร่วนซือซือขมเม้มริมฝีปาก พูดเสียงเบาว่า “อาจจะต้องรอสักสองสามวันถึงจะสามารถกลับไปทำงานได้ เสี่ยวหาน ที่ฉันโทรศัพท์มาหา เพราะฉันมีเรื่องจะถามเธอ……”

เสี่ยวหานเปิดปากถาม “เรื่องอะไรหรือ?”

“ฉันแค่อยากจะถามเกี่ยวกับเรื่องที่ส่งฉันเข้าโรงพยาบาลวันนั้นน่ะ ได้ยินมาว่าเธอกับพี่หลานพาฉันส่งโรงพยาบาล……”

“ก็ใช่น่ะสิ!ก็ที่กิจกรรมวันนั้นเสร็จสิ้นแล้วใช่ไหมล่ะ ทุกคนกำลังจะนั่งรถบัสกลับ ฉันกับคุณผู้ดูแลกลับบ้านไปก่อนแล้ว”

“แล้ว…ท่านประธานอวี้ล่ะ?”

“ท่านประธานก็กลับไปตั้งนานแล้วน่ะสิ ท่านดูเหมือนว่าจะมีธุระ ก็เลยกลับไปตั้งนานแล้ว”

เมื่อได้ฟังเสี่ยวหานพูดดังนั้น หร่วนซือซือตอบรับเบาๆ ภายในใจกลับยุ่งเหยิงมากกว่าเดิม

“ซือซือ เป็นอะไรไปน่ะ? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”

หร่วนซือซือตอบกลับเบาๆว่า “ไม่มีอะไรจ้ะ แค่ถามเฉยๆน่ะ ขอบคุณเธอกับพี่หลานมาก เอาไว้วันหน้าไว้ฉันจะเลี้ยงข้าวทั้งสองคนเลยนะ”

“เพื่อนร่วมงานกันทั้งนั้น เกรงใจกันขนาดนี้ได้อย่างไรกัน เอาล่ะไม่พูดแล้ว ตอนนี้ฉันต้องเขียนรายงานแล้ว!”

“จ้ะ”

หลังจากวางสายไป หร่วนซือซือนิ่งเงียบไปพักใหญ่

ฟังจากที่เสี่ยวหานพูดแล้ว วันนี้อวี้อี่มั่วกลับไปตั้งนานแล้ว เธอสลบไปก็มีพวกพี่หลานช่วยพาส่งโรงพยาบาล ดูจากรูปการณ์แล้ว เธอไม่ได้ก่อเรื่องยุ่งยากอะไรให้เขาเลยถึงจะถูก แล้วทำไมสองวันมานี้เขาถึงทำกับเธออย่างแตกต่างจนเห็นได้ชัดมากขนาดนี้กันนะ?

เธอยังคงคิดไม่ตก บานประตูก็ถูกเคาะขึ้น “คุณนายคะ หมอหลัวมาแล้วค่ะ คุณสะดวกที่จะรับการตรวจตอนนี้เลยไหมคะ?”

หร่วนซือซือได้ยินดังนั้นก็รีบลุกขึ้นไปเปิดประตูทันที เห็นป้าหรงกับคุณหมอหลัวยืนอยู่ด้านนอก เธอก็พยักหน้าเป็นคำตอบทันที “ได้ค่ะ”

หลังจากที่ไถ่ถามอาการเบื้องต้นคร่าวๆเสร็จ หมอหลัวก็เข้าในสถานการณ์ของเธอได้ในทันที จัดเตรียมยาแผนโบราณเอาไว้เรียบร้อยก่อนจะกำชับกับป้าหรงว่าหนึ่งวันเพิ่มความร้อนสองครั้ง

ก่อนจะจากไป คุณหมอหลัวมองไปยังหร่วนซือซือ ยิ้มอย่างใจดีแล้วพูดว่า “สายตาของคุณนายใหญ่ไม่เลวเลยทีเดียว หนูเหมาะสมกับอี่มั่วมากว่าจริงๆ”

หร่วนซือซือได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย

ฟังเขาเรียกอวี้อี่มั่วแบบนั้น เธอก็สามารถทายได้ว่าคุณหมอท่านนี้คงจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับตระกูลอวี้ ทันใดนั้นเอง เธอก็ยิ้มกว้างออกมา แล้วถามติดตลกว่า “เหมาะสมกันมากกว่า? หรือว่าก่อนหน้านี้มีที่ไม่เหมาะสมหรือคะ?”

หมอหลัวได้ยินดังนั้น มีสีหน้าแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบยิ้มอีกครั้ง “ถึงแม้จะมี นั่นมันก็คือเรื่องที่ผ่านพ้นไปแล้วล่ะ ดูแลสุขภาพให้ดี ทานยาให้ตลอด ทำร่างกายให้แข็งแรงล่ะ”

เมื่อพูดจบ เขาก็ถือกระเป๋ายาแล้วจากไป

หร่วนซือซือยืนอยู่ตรงนั้น มองดูแผ่นหลังของหมอหลัวหายไปจากประตู ภายในใจหนักอึ้ง

คำพูดพวกนั้นของคุณหมอหลัว กลิ่นน้ำหอมบนร่างกายของอวี้อี่มั่ว ทั้งยังเย่หว่านเอ๋อลึกลับคนนั้น รายละเอียดเล็กๆพวกนี้เมื่อเชื่อมต่อกันแล้ว เธอก็แทบจะสามารถฟันธงได้ทันทีแล้ว ข้างกายของอวี้อี่มั่วมีผู้หญิงคนอื่น

เธอไม่ได้สนอกสนใจเกี่ยวกับความรักที่ผ่านมาของอวี้อี่มั่ว แต่ทว่าตอนนี้พวกเขาจดทะเบียนแล้ว เธอไม่มีทางที่จะยอมรับว่าข้างกายเขามีหญิงอื่นได้ นี่คือสิ่งที่เธอยึดถือและขีดเส้นเพื่อรักษาชีวิตแต่งงานเอาไว้

ในระหว่างที่ภายใจจิตใจกำลังสับสนวุ่นวาย ทันใดนั้นโทรศัพท์ของหร่วนซือซือกลับสั่นขึ้นทันที เธอหยิบออกมาดู ทีแท้คือสายเรียกเข้าจากซ่งอวิ้นอัน

รู้สึกประหลาดใจ เธอรีบกดรับโทรศัพท์ทันที “ฮัลโหล? อันอัน ทำไมถึงโทรศัพท์หาฉันได้ล่ะ?”

ซ่งอวิ้นอันในโทรศัพท์ดูจงใจแสแสร้ง น้ำเสียงที่ดูกดข่มอารมณ์ตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ “ซือซือ ทายสิว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน?”

“เป็นอะไรไปน่ะ? เธอกลับมาแล้วหรือ?”

ซ่งอวิ้นอันยิ้มพลางพูดขึ้น “ถูกเผงเลย! ฉันมีการแสดงที่มาเก๊า ตอนนี้อยู่ในประเทศแล้ว รออีกสักสองวันไม่แน่ว่าฉันจะไปหาเธอน่ะ!”

หร่วนซือซือยิ้มเป็นเส้นตรง จิตใจตอนนี้ยังคงไม่สู้ดีนัก เธอตอบรับเสียงราบเรียบว่า “ดีจัง”

ในที่สุดซ่งอวิ้นอันก็รับรู้ได้ว่าหร่วนซือซือมีท่าทีแปลกไป เงียบไปพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยปากถามขึ้นว่า “ซือซือ เธอเป็นอะไรไปน่ะ?”

Options

not work with dark mode
Reset