ดั่งรักบันดาล 69

ตอนที่ 69

หร่วนซือซือพลางคิดวุ่นวายและอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองไปยังอวี้อี่มั่วและซูหลิง

พวกเขาสองคนกำลังหาที่นั่งกันอยู่ อวี้อี่มั่วหยิบเมนูและส่งให้กับซูหลิงเพื่อที่จะให้เธอสั่งอาหาร

เสี่ยวหานที่อยู่ข้างกายเธอก็พึมพำว่า "ดูท่าทางแล้ว ความสัมพันธ์ของสองคนนั้นไม่ธรรมดาแน่ โดยปกติแล้วก็ไม่เคยเห็นว่าประธานอวี้จะทำดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้เลย"

"แกร๊ง!"

ทันใดนั้นส้อมในมือของหร่วนซือซือก็หล่นลงบนจานอาหารจึงทำให้เกิดเสียงดังและซอสในจานก็กระเด็นไปทั่วโต๊ะ

หร่วนซือซือรีบหยิบกระดาษทิชชู่เช็ดอย่างร้อนรน

เสี่ยวหานหันกลับมาและถามอย่างน่าแปลกใจ "ซือซือ เธอเป็นอะไรไป?"

"ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่ทันระวัง ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำ จัดการตัวเองก่อน"

คำพูดของหร่วนซือซือนั้นสั่นไหว เธอลุกขึ้นยืนโดยไม่กล้าที่จะมองหน้าเสี่ยวหาน เธอหมุนตัวกลับและตรงไปยังห้องน้ำทันที

ภายในใจของเธอนั้นคิดวุ่นวาย มีความรู้สึกเศร้าเสียใจอยู่ภายในใจของเธออย่างไม่สามารถอธิบายได้

แม้ว่าเธอและอวี้อี่มั่วนั้นไม่ได้มีความรู้สึกอะไรก็ตาม แต่เธอก็เป็นภรรยาของเขา เมื่อเห็นเขาทานอาหารกลางวันกับผู้หญิงคนอื่นภายในใจของเธอก็รู้สึกอึดอัดเป็นธรรมดา

หร่วนซือซือยืนอยู่หน้ากระจก เธอกำลังล้างมืออย่างเหม่อลอย

"ไปที่ไหนก็เจอแต่เธอ ซวยชะมัด!"

มีน้ำเสียงเหน็บแหนมดังขึ้นข้างกาย หร่วนซือซือหันศีรษะมองโดยไม่รู้ตัว เธอเห็นเฉิงลู่เดินออกมาจากมุมทางเดิน

โลกช่างกลมนัก เมื่อครู่ตอนอยู่ในห้องสังสรรค์พวกเธอก็ไม่ชอบหน้ากันและกัน คาดไม่ถึงเลยว่าผ่านไปไม่นานนัก พวกเธอก็กลับมาพบกันอีก

เฉิงลู่เดินไปด้านข้างของหร่วนซือซือ เธอเปิดก๊อกน้ำอย่างใจเย็นและพูดอย่างเย็นชาว่า "อยากเป็นภรรยาน้อยก็ไม่สามารถมาส่องกระจกดูคุณงามและคุณธรรมได้หรอกนะ ใช่ไหม?"

เมื่อได้ยินคำพูดที่รุนแรงเหล่านี้ หร่วนซือซือก็ขมวดคิ้ว ยื่นมือออกมาและปิดก๊อกน้ำจากนั้นเธอกล่าวอย่างนิ่งเฉยว่า "ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะมาสอนฉัน"

เดิมทีเธอเองก็อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วและในตอนนี้เฉิงลู่ยังเข้ามาเพื่อที่จะตอกย้ำเธอ เธอเองก็ไม่อยากจะอดทนกล้ำกลืนอีกต่อไป

เมื่อเธอพูดเช่นนี้ ใบหน้าของเฉิงลู่ก็เปลี่ยนไปในทันที เธอกัดฟันและจ้องมองหร่วนซือซือ ในที่สุดเธอก็หาคำพูดที่จะเถียงไม่ได้ เธอจึงยื่นมือออกมาและประสานมือตัวเองไว้ เมื่อน้ำเต็มในมือของเธอแล้วก็สาดเข้าที่ใบหน้าของหร่วนซือซือโดยตรง

โดยไม่ทันตั้งตัวความเย็นก็กระทบเข้ากับใบหน้า หร่วนซือซืออ้าปากค้าง เธอคาดไม่ถึงเลยว่าเฉิงลู่เถียงไม่ออกแล้วจะแสดงกิริยาแบบนี้!

“เฉิงลู่ เธออย่าให้มันมากเกินไป…”

เธอยังไม่ทันพูดจบ เฉิงลู่ก็สาดน้ำใส่ใบหน้าของเธออีกครั้ง "ฉันเกินไปตรงไหน? เดิมทีเธอก็ควรจะโดนสาดน้ำใส่อยู่แล้ว!"

หร่วนซือซือที่ถูกสาดน้ำใส่ใบหน้าอีกครั้ง จ้องมองไปยังเฉิงลู่ที่กำลังจะสาดน้ำใส่เธออีกหน เธอสูดลมหายใจเข้าใช้มือข้างหนึ่งผลักเธอออกไปและหมุนตัวออกจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

ยังไม่ทันที่เธอจะเช็ดผมและใบหน้าของเธอให้แห้งเธอก็รีบร้อนออกมาจากห้องน้ำ ทันใดนั้นในระยะไม่ไกลนักร่างสูงที่คุ้นเคยก็เดินตรงมาด้านหน้าของเธอ

อวี้อี่มั่วมองดูผมที่เปียกของหร่วนซือซือในขณะที่ก้าวเดินไปด้านหน้า สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเขาพูดขึ้นว่า "หร่วนซือซือ"

ร่างกายของหร่วนซือซือแข็งทื่อเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากเขา ทันทีที่เงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นอวี้อี่มั่วที่กำลังเข้ามาใกล้ เธอผงะไปชั่วขณะ หลังจากที่ได้สติแล้วเธอก็รีบก้มหน้าและวิ่งหนีไป

เธอไม่อยากให้เขาเห็นตัวเองในสภาพที่น่าอายเช่นนี้

อวี้อี่มั่วหันกลับมา เขาขมวดคิ้วดูผู้หญิงคนนั้นที่วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

ทำไมหร่วนซือซือต้องหลบหน้าเขา? หน้าและผมของเธอเปียกน้ำเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกำลังจะโทรหาหร่วนซือซือ เขาเงยหน้าขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาก็เห็นเฉิงลู่และอันหร่านกำลังเดินมาหาเขา

ทั้งสองคนทักทายเขา

"ประธานอวี้ สวัสดีค่ะ"

อวี้อี่มั่วพยักหน้าเล็กน้อยและไม่พูดอะไร

หลังจากทั้งสองจากไป อวี้อี่มั่วก็กดโทรออกอยู่หลายครั้ง เสียงรอสายดังอยู่นาน แต่ปลายสายก็ไม่มีใครรับสาย

เขากดตัดสายโทรศัพท์และขมวดคิ้ว

ช่างเถอะ ไว้เจอหน้าเธอแล้วค่อยถามเธอ

หร่วนซือซือวิ่งออกจากร้านอาหาร เธอตรงกลับไปยังที่พัก หลังจากนั่งบนเตียงได้สักพักเสียงหัวใจของเธอก็ค่อยๆสงบลง

"กริ๊ง–"

จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอตัวสั่น จ้องมองหน้าจอโทรศัพท์อย่างประหม่า เมื่อเห็นว่าเป็นสายจากเสี่ยวหานเธอจึงกดรับ

"ฮัลโหล ซือซือ อยู่ที่ไหน?"

หร่วนซือซือตอบกลับเบาๆว่า "ฉัน..ฉันกลับมาที่โรงแรมแล้ว ฉันไม่ค่อยสบาย"

"เป็นอะไรไป? ตามหมอไหม ไปหาหมอกันดีไหม?"

"ไม่ต้องหรอก อาจเป็นเพราะเมื่อคืนพักผ่อนน้อย ร่างกายเลยไม่ค่อยโอเค" หร่วนซือซือแก้ตัว เธอไม่อยากให้เสี่ยวหานเป็นกังวล

"ได้ งั้นเธอไปพักผ่อนเถอะ"

หร่วนซือซือสูดลมหายใจเข้าลึกๆและกล่าวว่า "เสี่ยวหาน รบกวนเธอช่วยบอกคุณหลานให้ฉันหน่อยว่ากิจกรรมตอนบ่ายฉันไม่ไป ฉันอยากพักผ่อน"

เสี่ยวหานตอบรับ "ได้สิ ถ้าเธอต้องการก็บอกฉันได้เลย"

"อืม"

หร่วนซือซือวางสายไป เธอเอนกายลงบนเตียง ภายในใจของเธอนั้นสับสนวุ่นวาย

ถึงแม้ว่าเมื่อครู่นั้นสิ่งที่เฉิงลู่ทำกับเธอจะทำให้เธอโกรธมากก็ตาม แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจยิ่งกว่าคือภาพของอวี้อี่มั่วและซูหลิงที่อยู่ด้วยกัน ภายในใจของเธอนั้นรู้สึกแปลกประหลาด นี่คือสิ่งที่ทำให้เธอไม่อยากไปร่วมกิจกรรมยามบ่าย

เธอปิดผ้าม่านและอยากนอนพัก ไม่อยากคิดมาก แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อเธอหลับไป เธอก็หลับไปตลอดทั้งบ่าย

เมื่อเธอตื่นขึ้นมา ท้องฟ้าด้านนอกก็มืดแล้ว

มีเสียงประตู "ปังปังปัง" ดังขึ้นที่ประตูพร้อมกับเสียงเรียกที่ร้อนใจของเสี่ยวหาน

หร่วนซือซือรีบลุกขึ้นในทันใด เธอรีบลงจากเตียงและวิ่งไปเปิดประตู

"เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น?"

เมื่อเห็นเธอปลอดภัย เสี่ยวหานก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก "ตกใจแทบแย่! ฉันโทรหาเธอก็ไม่มีใครรับสาย โทรแทบจะทั้งวันแล้วก็ไม่มีใครรับ! ทำใจฉันเกือบวายตายแล้ว!"

หร่วนซือซือขยี้ตาและส่งยิ้มให้กับเธอ "ฉันหลับ…"

เสี่ยวหานตบไหล่เธอ "รีบล้างหน้า ไปกินอาหารเย็นกันเถอะ คืนนี้ทุกคนกินอาหารเย็นด้วยกัน!"

เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนี้ หร่วนซือซือก็คิดได้ว่าเวลาน่าจะค่ำแล้ว

หลังจากทำความสะอาดและล้างหน้าเสร็จแล้ว หร่วนซือซือและเสี่ยวหานก็ตรงไปยังห้องวีไอพี

ในตอนเย็นทุกคนรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ผู้คนทั้งแผนกรวมตัวกันที่ห้องวีไอพี

เสี่ยวหานและหร่วนซือซือนั่งลงตรงมุมโต๊ะ อาหารบนโต๊ะก็เริ่มทยอยเสิร์ฟแล้ว

หัวหน้าหลานเห็นว่าทุกคนมากันครบแล้ว เธอรินไวน์หนึ่งแก้วและชูขึ้นเพื่อแสดงให้ทุกคนยืนขึ้น "วันนี้เป็นโอกาสที่หาได้ยาก เลยถือโอกาสนี้ที่ทุกคนอยู่ด้วยกันครบทุกคน พวกเรามาชนแก้วกัน"

ทุกคนส่งเสียงเฮและลุกขึ้นจากนั้นก็ชนแก้วกัน

ต้าตงยิ้มและกล่าวว่า "ไม่ต้องกังวลไป นี่คือไวน์ผลไม้สูตรพิเศษของที่นี่ ทั้งหวานและอร่อย! พวกเราดื่มกันแล้ว พวกคุณตามสบายเลย!"

ทุกคนหัวเราะและชนแก้วพร้อมกันจากนั้นก็ดื่มไวน์

หร่วนซือซือจ้องมองไปยังของเหลวที่มีสีสันสดใส เธอจิบมัน รสชาตินั้นหวานๆเปรี้ยวๆ รสชาติดีจริงๆ

หลังจากที่ทุกคนนั่งลง ทุกคนก็เริ่มทานอาหารและดื่มไวน์กัน ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนริเริ่่ม ทุกคนต่างก็เริ่มชนแก้วกันยกใหญ่

หร่วนซือซือไม่สนใจเกมไวน์เหล่านั้น เธอมุ่งเน้นไปยังอาหารตรงหน้า

ไม่รู้ว่ามีใครกล่าวอะไร แต่จู่ๆต้าตงก็เรียกชื่อเธอและกล่าวว่า "หร่วนซือซือ เธอตกลงที่จะชนแก้วกับทุกคนไหม?"

หร่วนซือซือผงะไปชั่วขณะ "ฉันเหรอ?"

"ใช่สิ! ตอนนี้เธอเป็นหญิงสาวที่โชคดีที่สุดในแผนกของเรา เมื่อมาถึงคฤหาสน์ก็ได้เล่นเกมกับประธานอวี้ของเรา เป็นที่อิจฉาของเพื่อนสาวหลายคน!"

ต้าตงพูดเช่นนี้ รอบข้างก็มีเสียงร้องโห่ดังขึ้น "ใช่ ใช่แล้ว! รีบชนแก้วเลยนะ!"

หร่วนซือซือสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รู้แล้วว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่อาจปฏิเสธได้

เมื่อกล่าวถึงอวี้อี่มั่ว เธอก็นึกถึงภาพในช่วงกลางวันที่เขาอยู่ร้านอาหารกับหญิงสาวดาราซูหลิง ความรู้สึกไม่สบายที่กดทับอยู่ในหัวใจของเธอถูกดึงออกมาอีกครั้ง

หร่วนซือซือกัดฟัน เธอยืนขึ้น หยิบขวดไวน์ที่อยู่ข้างๆเทใส่แก้วจนเต็มแล้วยกขึ้นและบอกให้ทุกคนรู้ว่า "ได้เลย งั้นฉันจะชนแก้วเอง!"

Options

not work with dark mode
Reset