ดั่งรักบันดาล 5

ตอนที่ 5

ขณะนี้ ประตูถูกเปิดออกมาจากด้านนอก คือศาสตราจารย์หร่วนกลับมาแล้ว

ศาสตราจารย์หร่วนเปลี่ยนรองเท้า เดินเข้าไปในห้องครัวก่อน ไม่ได้สังเกตถึงเรื่องราวในห้องรับแขก

หร่วนซือซือท่วมตัวก็ช็อก พูดมานานขนาดนี้ เธอลืมให้อวี้อี่มั่วพูด

“ประธานอวี้ ฉัน…”หร่วนซือซือโน้มตัวเข้าไปใกล้อวี้อี่มั่ว พูดเสียงเบา

สบสายตาที่เย็นชาของอวี้อี่มั่ว ทันใดนั้นหร่วนซือซือก็รู้สึกตัวว่าตัวเองเรียกผิด แต่เวลานี้ให้เธอเรียกชื่อเจ้านายของตัวเอง เธอก็พูดไม่ออก

ดังนั้น หร่วนซือซือจำเป็นต้องเสแสร้งไม่เข้าใจ พูดต่อไป“ฉันยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่ เรื่องที่พวกเราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว”

ได้ยินคำพูดนี้ อารมณ์ของอวี้อี่มั่วไม่ได้รู้สึกว่ามีคลื่นลูกใหญ่เลยสักนิดเดียว พยักหน้าเบาๆ แสดงให้รู้ว่าตัวเองรู้แล้ว

“ยังมี…”หร่วนซือซือพูดต่อไป แต่ศาสตราจารย์หร่วนก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของเธอ หยุดคำพูดของเธอ

“ซือซือ!ที่บ้านมีแขก?”

น้ำเสียงที่มีพลังนี้ทำให้เธอตกใจจนตัวสั่น วิญญาณดวงน้อยตกใจจนแทบจะวิ่งหนี

หร่วนซือซือหมุนตัวกลับไป คิดจะตำหนิพ่อ แต่คิดขึ้นได้ว่าอวี้อี่มั่วอยู่ เธอจำใจต้องฝืนยิ้มให้กับศาสตราจารย์หร่วนและพูด “พ่อ พ่อกลับมาแล้ว!ทำงานลำบากแล้ว!

จากนั้นก็เดินไปประจบศาสตราจารย์หร่วนใกล้ๆ หยิบกระเป๋าเอกสารที่อยู่ในมือของศาสตราจารย์

เวลาที่หร่วนซือซือจะแนะนำอวี้อี่มั่วให้พ่อรู้จัก ศาสตราจารย์ก็เดินผ่านหร่วนซือซือไป เดินตรงไปหาอวี้อี่มั้ว“อี่มั่ว?นายมาได้ยังไง?”

อวี้อี่มั่วลุกขึ้นยืน ก้มศีรษะให้ศาสตราจารย์หร่วนเล็กน้อย และเรียกชื่อ“ศาสตราจารย์”

เปรียบเทียบความตื่นเต้นของอาจารย์ ท่าทางของอวี้อี่มั่วสงบนิ่งตลอดเวลา

เหมือนกับว่าเรื่องอะไร ก็ไม่สามารถมีคลื่นลูกใหญใดๆมาปั่นป่วนใจของเขาได้

ศาสตราจารย์หร่วนดึงอวี้อี่มั่วนั่งลง หลังจากนั้นก็พูดกับหร่วนซือซือโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา“รีบไปหยิบชาของพ่อออกมา”

“นี่…พวกคุณรู้จักกัน?

หร่วนซือซือถูกสถานการณ์ตรงหน้าทำให้สับสนเล็กน้อย แต่เห็นท่าทางของพ่อเหมือนได้พบกับเพื่อนเก่า เห็นได้ชัดว่าเธอไม่สามารถพูดสอดแทรกเข้าไปได้ จำเป็นต้องไปหยิบชาที่ศาสตราจารย์หร่วนได้สะสมเอาไว้อย่างเชื่อฟัง หลังจากนั้นก็เข้าไปชงชาในห้องครัว

“แม่ค่ะ พ่อเขาเหมือนกับรู้จักอวี้…อวี้อี่มั่ว”

อวี้อี่มั่วถึงแม้ว่าชื่อนี้จะไม่ทำให้พูดตะกุกตะกัก แต่หร่วนซือซือก็ยังไม่เคยชิน

คุณนายหลิวกำลังแกะหลังกุ้ง ได้ยินคำพูดของลูกสาว เธอก็หยุดการกระทำลง เดินไปที่ประตูมองดูออกไป ท่าทางศาสตราจารย์หร่วนดีใจมาก

คุณนายหลิวกลับมาที่เดิม บ่มพึมพำ“ดูท่าทาง รู้จักกันแน่นอน”

เรื่องที่ให้ลูกสาวนัดดูตัว คุณนายหลิวไม่ได้บอกศาสตราจารย์หร่วน เมื่อกี้เธอบอกศาสตราจารย์หร่วนเรื่องคู่รักที่นัดดูตัวกับลูกสาวมากินข้าวที่บ้าน ก็ถูกบ่นจนขึ้นรา

พอดีที่ เป็นคนที่ตัวเองรู้จัก

คิดมาถึงตรงนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของคุณนายหลิวก็เข้มข้นขึ้น

นับจากที่อวี้อี่มั่วเข้ามา เธอก็ยิ่งชอบเขามากขึ้นเรื่อยๆ

มั่นคง สุขุม คนแบบนี้คือลูกเขยที่ดีที่สุดในใจของเธอ

คุณนายหลิวดีใจจนแทบจะบิน ฮัมเพลงขึ้นมาเล็กน้อย โดยไม่คำนึงถึงใบหน้าที่งงงวยของหร่วนซือซือ

หร่วนซือซือจำเป็นต้องยกชาที่ชงเสร็จแล้ว กลับเข้าไปในห้องรับแขก

ศาตราจารย์หร่วนพูดคุยกับอวี้อี่มั่วเกี่ยวกับประเด็นทางวิชาการ หร่วนซือซือนั่งอยู่ด้านข้างก็ฟังไม่เข้าใจแม้แต่น้อย จำเป็นต้องนั่งเป็นเหมือนของตกแต่งเท่านั้น

ศาสตราจารย์หร่วนพูดคุยกันอย่างมีเพลิดเพลิน สุดท้ายก็พาอวี้อี่มั่วเข้าไปในห้องหนังสือ ปิดประตูลง ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก

หร่วนซือซือเบะปาก จำเป็นต้องเข้าไปช่วยแม่ในห้องครัว

หลังจากประมาณครึ่งชั่วโมง กับข้าวก็ทำเสร็จแล้ว ยกมาวางไว้บนโต๊ะ

เตรียมพร้อมแล้ว หร่วนซือซือเคาะประตูห้องหนังสือ เรียกคนที่อยู่ข้างในออกมากินข้าว

โต๊ะอาหารของตระกูลหร่วนเป็นวงกลม วันธรรมดาที่ทุกคนกินข้าวด้วยกัน มีความสุขและปรองดองกัน

แต่วันนี้ บรรยากาศลุ่มลึกเล็กน้อย

เป็นเพราะว่ากลิ่นอายของอวี้อี่มั่ว ทำให้อาหารค่ำวันนี้ที่ปกติ กลายเป็นอาหารค่ำที่มีระดับ

หร่วนซือซือที่นั่งอยู่ด้านข้าง อดไม่ได้ที่จะนั่งตัวตรง วางมือทั้งสองข้างไว้บนขาอย่างถูกต้อง

ศาสตราจารย์จึงพูดแนะนำอวี้อี่มั่ว

“คุณหลิว ซือซือ อวี้อี่มั่วเป็นคนที่ฉันเอ่ยกับพวกเธอก่อนหน้านี้เป็นประจำ เป็นนักเรียนที่ฉันภาคภูมิใจที่สุด”

หร่วนซือซือมองไปที่อวี้อี่มั่วอย่างตะลึง

คาดไม่ถึงว่าเขาเป็นนักเรียนที่พ่อมักจะพูดถึงเป็นประจำ

เรื่องอะไรก็เป็นที่หนึ่ง เป็นนักเรียนที่ได้รับรางวัลจนนับไม่ถ้วน!

ทันใดนั้นหร่วนซือซือก็ยกอวี้อี่มั่วมาเป็นเทพเจ้าไว้ในใจ

คุณนายหลิวได้ยินข่าวนี้ ในใจก็ยิ่งดีใจขึ้นไปอีก เดิมทีอยากจะคีบอาหารให้กับอวี้อี่มั่ว แต่มองเห็นอวี้อี่มั่วเคร่งขรึม สายตาอึมครึม ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกระมัดระวัง ไม่รู้ว่าจะคีบอาหารให้ยังไงดี

ดังนั้น คุณนายหลิวจำเป็นต้องยิ้มกับอวี้อี่มั่วและพูด“กินผักสิ กินผักสิ”

เมื่อได้ยิน อวี้อี่มั่วก็พยักหน้าแสดงออกให้กับคุณนายหลิว พูดเสียงเรียบเฉย“ขอบคุณ”

หลังจากนั้นเขาก็ใช้ตะเกียบคีบอาหาร การกระทำที่นุ่มนวลและงดงามมีสง่า เหมือนกับตระกูลผู้ดี นี้ทำให้หร่วนซือซือที่ใช้ตะเกียบไม่ค่อยดีรู้สึกอับอายขายหน้าที่สุด

หร่วนซือซือถือโอกาสอยากจะดื่มซุปก่อน เธอจึงลุกขึ้นยืน ยกถ้วยขึ้นมา แต่เวลานี้ คุณนายหลิวสายตาแหลมคมมองเห็นแหวนบนนิ้วมือของหร่วนซือซือ

ทันทีหลังจากนั้นคุณนายหลิวที่ฉลาดเฉียบแหลมก็มองไปที่มือของอวี้อี่มั่ว เป็นไปอย่างที่คิดเธอมองเห็นแหวนวงเดียวกันและเหมือนกัน

“หร่วนซือซือ แหวนนี้ของลูก”คุณนายหลิวคว้ามือของหร่วนซือซือเอาไว้ สายตามองไปที่หร่วนซือซือกับอวี้อี่มั่วสลับไปมา“พวกเธอ?”

ถูกจับได้คาที่ หร่วนซือซือเหมือนลูกไก่ที่ถูกจับอยู่ในกำมือ ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปที่อวี้อี่มั่ว

มองเห็นเพียง อวี้อี่มั่วนำมือที่ถือตะเกียบวางลงอย่างช้าๆ วางเรียบร้อยแล้ว จึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา

เพียงแค่ได้ยินเสียงที่ไม่ค่อยใส่ใจของเขา และยังจริงจัง“อาจารย์ คุณนายหลิว ผมกับหร่วนซือซือจดทะเบียนสมรสกันแล้ว”

Options

not work with dark mode
Reset