ดั่งรักบันดาล 45

ตอนที่ 45

ได้ฟังเสียงยิ้มเยาะของพวกเพื่อนร่วมงานเหล่านั้น หร่วนซือซือระงับความโกรธเอาไว้ หันหน้ากลับไปมองพวกเขา ถามด้วยสีหน้าจริงจัง“พวกเธอได้ยินใครพูด?”

ถ้าพูดตามเหตุผล ซ่งหังที่เธอรู้จัก ไม่ใช่คนที่จะเล่าเรื่องแบบนี้ให้โลกฟัง แต่ว่าพวกเขารู้ได้ยังไง?

เพื่อนร่วมงานผู้หญิงคนหนึ่งหัวเราะอย่างไม่เกรงกลัว“เรื่องนี้ทุกคนก็รู้?”

“ใช่ ผู้ช่วยหร่วน ช่วงนี้คุณมีชื่อเสียงมากในบริษัท เรื่องพวกนี้ทุกคนก็รู้!”

ฟังพวกเขาเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย หร่วนซือซืออดไม่ได้ที่จำกำหมัดแน่น เหมือนมีอะไรบางอย่างอุดอยู่ที่คอของเธอ ทำให้เธอไม่รู้จะกลืนความโกรธลงไปยังไง

เธอกวาดสายตาเย็นชามองพวกเขา หยิบเอกสารที่เพิ่งจะถ่ายเสร็จ เดินตรงกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง

เสี่ยวหานที่อยู่ด้านข้างทนดูไม่ไหว ลุกขึ้นยืนตามหร่วนซือซือเข้าไปในห้องทำงาน

นำประตูห้องทำงานปิดลง เสี่ยวหานพูดจูงใจ“ซือซือ เธออย่าโกรธไปเลย”

หร่วนซือซือหายใจเข้าลึกๆ“เรื่องนี้ทุกคนรู้ได้ยังไง?”

“ในกลุ่ม เมื่อวานมีคนส่งรูปเธอกับซ่งหังอยู่ด้วยกันเข้าไปในกลุ่ม หลังจากนั้นมีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งพูดว่าเห็นพวกเธออยู่ในร้านอาหาร ยังพูดว่ายังทานข้าวไม่เสร็จเธอก็ไปแล้ว ดังนั้นทุกคนก็เลยรู้…”

ได้ยินเสี่ยวหานพูดแบบนี้ หร่วนซือซือก็เพิ่งจะคิดขึ้นมาได้ เมื่อวานหลังจากที่เธอเห็นข่าวในกลุ่ม ก็กดกลุ่มซ่อนไว้ ก็ไม่น่าแปลกใจที่เธอไม่รู้อะไรเลย

“ซือซือ ช่วงนี้ทุกคนค่อนข้างสนใจเธอ และเพื่อนร่วมงานในแผนกก็ชอบซุบซิบนินทา นี้ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี…”

หร่วนซือซือควารู้สึกซับซ้อน ความจริง เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว ไม่ว่าเธอจะทำยังไง ก็ไร้ประโยชน์ อยู่เงียบๆ ต้องอดทน รอให้ความกระตือรือร้นของทุกคนหายไป

เธอคิดแบบนี้ ในใจกลับจะสงบลงเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้น มองไปที่เสี่ยวหาน ยิ้มให้กับเธอ“ขอบคุณมาก เสี่ยวหาน”

เวลานี้ คนที่ยอมมาปลอบใจเธอหลายประโยค คงจะมีแค่เสี่ยวหานแล้ว

เวลาชั่วพริบตาเดียว ก็ผ่านช่วงเช้าไปแล้ว ถึงเวลาอาหารเที่ยง เสี่ยวหานลากหร่วนซือซือไปทานข้าวที่โรงอาหารของพนักงาน

ผู้คนที่ไปมาในโรงอาหาร หร่วนซือซือสามารถรู้สึกได้ว่าสายตาของคนรอบข้างมองตัวเอง แต่เธอไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ทานข้าวปกติ หลังจากนั้นก็ถือจานอาหารหาที่นั่ง

ในโรงอาหารเป็นโต๊ะสำหรับสี่คน หร่วนซือซือเพิ่งจะนั่งลง ทันใดนั้นก็มีคนเข้ามา ตรงมานั่งฝั่งตรงข้ามเธอ

เธอเงยหน้าขึ้น ก็มองเห็นเฉิงลู่สีหน้าไม่ดี ด้านข้างยังมีเพื่อนร่วมงานผู้หญิงสองคนมาด้วยกันกับเธอ

พวกเธอสามคนมานั่งลงที่ว่างทั้งสามที่ พอดีกับที่นำหร่วนซือซือล้อมรอบเอาไว้

หร่วนซือซือเลิกคิ้วขึ้น เปิดปากพูดเตือน“ฉันยังมีเพื่อน”

เธอเพิ่งจะพูดจบ เสี่ยวหานที่เพิ่งจะสั่งอาหารเสร็จก็เดินเข้ามา จ้องมองพวกเขาด้วยความตะลึง

เฉิงลู่เม้มปากและยิ้ม กวาดสายตามองเสี่ยวหาน ชี้นิ้วไปที่โต๊ะด้านข้าง“นั่นไม่ใช่มีที่ว่างเหรอ?”เธอไปนั่งโต๊ะเดียวกับเสี่ยวจังสิ!”

พูดพลาง เธอก็หันไปมองที่หร่วนซือซือ ยิ้มและพูด“ผู้ช่วยหร่วน ยังไงพวกเราก็เป็นเพื่อนร่วมงานกัน นั่งโต๊ะเดียวกันก็ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสมหรอก?”

เห็นท่าทางของเฉิงลู่ หร่วนซือซือในใจก็เข้าใจ เธอตั้งใจจะมาหาเรื่องทะเลาะ เธอชะงักไปเล็กน้อย ไม่อยากจะพัวพันกับพวกเขามาก ก็ถือโอกาสพูดกับเสี่ยวหาน“เสี่ยวหาน เธอไปหาที่นั่งด้านนั้นเถอะ”

ถึงแม้ว่าเสี่ยวหานจะลังเล แต่ก็พยักหน้า ตอบรับ

เฉิงลู่มองเห็นเสี่ยวหานเดินออกไปแล้ว รอยยิ้มพอใจปรากฏขึ้นในดวงตา เธอหยิบตะเกียบขึ้น ทานอาหารเข้าไปหนึ่งคำ หลังจากนั้นก็เหมือนจงใจถาม“ผู้ช่วยหร่วน ฉันได้ยินว่าเมื่อวานเธอทิ้งซ่งหังของแผนกการเงินไว้คนเดียวแล้วตัวเองก็กลับ?ฉันแปลกใจมาก เธอไปจีบผู้ชายได้ยังไง หรือว่ามีฝีมือในด้านนี้? จะดีกว่านี้…ถ้าเธอสอนฉัน?”

เธอพูดขนาดนี้ ผู้หญิงสองคนที่อยู่ข้างๆก็คล้อยตามหัวเราะขึ้นมาทันที

หร่วนซือซือก้มหน้า จับตะเกียบไว้แน่น

เธอก็รู้ว่าเฉิงลู่ต้องการจะนั่งด้วยกันกับเธอไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน เป็นไปอย่างที่คิด เธอตั้งใจจะทำให้เธอลำบากใจ

“เล่ากันว่า เสี่ยวซ่งคนนั้น อยู่ในแผนกก็มีผู้หญิงหลายคนชอบ!แบบนี้ สาวน้อยพวกนั้นก็คงเสียใจแย่แล้ว!”

“ใช่!ฉันก็รู้สึกว่าเสี่ยวซ่งคนนั้นก็ไม่เลว!”

“เธอรู้สึกว่าไม่เลวแล้วจะมีประโยชน์อะไร!คนที่เขาชอบคือผู้ช่วยหร่วน!”

“……”

เฉิงลู่พาเพื่อนร่วมงานผู้หญิงมา เพื่อจะพูดกันไปมา ก็คือพูดถากถางหร่วนซือซือ เพื่อนร่วมงานที่อยู่รอบข้างไม่สามารถทนดูได้อีก อดไม่ได้ที่จะช่วยพูดให้หร่วนซือซือ“พอแล้ว อย่าให้มันเกิน!”

“เกินไป?ฉันทำเกินไปยังไง?”เฉิงลู่กลอกตาด้วยความไม่พอใจ“เธอเพิ่งจะทานข้าวได้ครึ่งหนึ่ง ก็นำเสี่ยวซ่งทิ้งไว้แบบนี้ไม่เกินไปเหรอ?”

หร่วนซือซือเลิกคิ้วขึ้น ระงับความโกรธเอาไว้

ก็เป็นตอนนี้ ที่เฉิงลู่พูดต่อ“หร่วนซือซือ เธอไม่คิดว่าตัวเองทำเกินไปเหรอ? ดึงดูดประธานอวี้ ในขณะเดียวกันก็ทิ้งเสี่ยวซ่งไว้ นี่ไม่ใช่ผู้หญิงเจ้าเล่ห์ที่อยู่ในตำนานเหรอ!”

ได้ยิน“อวี้อี่มั่ว”ชื่อนี้ หร่วนซือซือในใจก็จมดิ่ง มือที่คีบอาหารอยู่สั่นเทาโดยไม่รู้ตัว นักเก็ตไก่ตกลงบนเสื้อผ้าของเธอ

เธอใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ซุปสีเข้มเปื้อนใส่ครึ่งหนึ่ง เธอขมวดคิ้วขึ้น รีบลุกขึ้นยืน เดินไปที่ก๊อกน้ำที่อยู่ด้านข้างอย่างรวดเร็ว

เฉิงลู่มองเห็นเธอออกไป เหลือบมองจานอาหารของหร่วนซือซือ ในที่สุดสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่แก้วน้ำผลไม้ของหร่วนซือซือ

เธอหันหน้าไปมองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ พูดลดเสียงลง“จ้องมองเธอไว้!”

พูดพลาง เธอยกน้ำผลไม้ของตัวเอง เทลงไปในแก้วของหร่วนซือซือ หลังจากนั้นก็หยิบหลอดขึ้นมาคนให้เข้ากัน วางกลับไปที่เดิม

เพื่อนผู้หญิงอีกคนไม่ค่อยสบายใจ“คุณลู่ เธอแน่ใจว่าทำแบบนี้จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เฉิงลู่ลดเสียงลงพูดตำหนิ“เธอจะไปเข้าใจอะไร?ผู้หญิงคนนี้ต้องให้ฉันสั่งสอน!”

ถึงแม้ว่าหลายวันที่ผ่านมานี้ ในบริษัทจะมีข่าวลือของหร่วนซือซือไม่หยุดนิ่ง แต่นึกถึงวันนั้นที่มองเห็นเธอกับอวี้อี่มั่วอยู่ด้วยกัน เฉิงลู่ในใจก็กลืนความโกรธไม่ลง

เมื่อไม่นานมานี้ รายงานตำแหน่งกับข้อมูลส่วนตัวของหร่วนซือซือผ่านมือเธอแล้ว เธอกวาดสายตาดูอย่างไม่ตั้งใจ เห็นข้อมูลส่วนตัวของหร่วนซือซือระบุไว้ว่าแพ้มะม่วง ดังนั้นเธออยากจะใช้วิธีนี้จัดการหร่วนซือซือ!

ไม่นาน หร่วนซือซือก็ชำระล้างคราบบนเสื้อผ้าจนสะอาดแล้ว ก้าวเดินกลับมา

เฉิงลู่กวาดสายตามองเธอ ทำท่าทางไปที่เพื่อนร่วมงานผู้หญิงทั้งสองคน และเปิดปากพูด“มองเห็นคนบางคน ฉันก็ทานข้าวไม่ลง ฉันว่าพวกเราเปลี่ยนที่นั่งกันเถอะ ขี้เกียจรำคาญแล้ว!”

พูดพลาง เธอก็ลุกขึ้นยืน ถือจานอาหารของตัวเอง และเพื่อนร่วมงานผู้หญิงสองคนก็เดินตรงไปอีกด้านของโรงอาหาร

หร่วนซือซือมองตามหลังพวกเขาไป ก็โล่งอก

โชคดีที่พวกเธอไปแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอคงทานอาหารมื้อนี้ไม่ลง

เดิมทีเธอกับประธานหม่าของบริษัทเทียนเยี่ยนัดเจอกันช่วงบ่าย เธอต้องรีบทานข้าว กลับไปต้องรีบเตรียมเอกสารที่จำเป็นต้องใช้

คิดมาถึงตรงนี้ หร่วนซือซือก็เร่งความเร็วทันที ทานข้าวไปหลายคำ หลังจากนั้นก็ดื่มน้ำผลไม้เข้าไป

รีบทานข้าวจนหมด หร่วนซือซือคิดจะออกไป ทันใดนั้นเธอก็มีอาการคันบนร่างกายไม่ชัดเจน แก้มก็ร้อนผ่าว

หรือว่ากินเร็วไป?

หร่วนซือซือสงสัยเล็กน้อย จับน้ำผลไม้ที่เหลืออยู่ในแก้วดื่มรวดเดียวหมด หลังจากนั้นก็ถือจานอาหารเดินตรงไปที่ประตูโรงอาหาร

เฉิงลู่กับเพื่อนผู้หญิงสองคนนั้นนั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง ติดตามดูทุกท่วงท่าของหร่วนซือซือ

“คุณลู่ เธอไม่ได้บอกว่าเธอแพ้น้ำมะม่วงเหรอ?เธอดื่มน้ำมะม่วงหมดแล้ว ทำไมยังไม่เป็นอะไร?”

Options

not work with dark mode
Reset