ดั่งรักบันดาล 347

ตอนที่ 347

หนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว หร่วนซือซือยังไม่ทันตื่นนอน ก็โดนคุณนายหลิวดึงให้ลุกขึ้นจากเตียง

"นี่มันกี่โมงแล้ว วันนี้จะพาสองเด็กไปที่สวนสนุกไม่ใช่เหรอ? วันนี้วันอาทิตย์นะ คนเยอะเป็นพิเศษ!"

"ยังไม่ตื่นอีก? ซือซือ ตอนนี้เธอเป็นแม่คนแล้วนะ ไม่ใช่เด็กน้อยเหมือนเมื่อก่อน……"

“……”

นอนต่อห้านาที เธอรู้สึกว่าได้เติมเต็มเวลาที่ขาดแม่ไปตั้งห้าปี เธอนวดหัวเบาๆ ค่อยๆลุกขึ้นจากเตียง

"รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า! สองเด็กยังจะขยันกว่าเธออีกแน่ะ!"

โดนคุณนายหลิวผลักตัวไปเข้าห้องน้ำ เมื่ออาบน้ำเสร็จ ก็รู้สึกสดชื่นขึ้นเป็นกอง

ไม่รู้เมื่อคืนเป็นอะไรไป ฝันว่าในแสงสลัวมีเงาผู้ชายหล่อตัวสูงโปร่ง อุ้มเซินเซินและซาซาแล้วหนีไป เธอตกใจมาก จนนอนไม่หลับทั้งคืน

หรือคนในฝัน จะเป็นอวี้อี่มั่วกันนะ?

หร่วนซือซือยิ่งคิดก็ยิ่งไปกันใหญ่ เธอจึงรีบสะบัดหัว สลัดเอาความคิดพวกนั้นออกจากหัวไป

ออกจากห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปชั้นล่าง ก็เห็นซ่งอี้เซินและซ่งอี้ซานั่งอยู่บนโต๊ะอาหารกำลังดื่มนมและทานอาหารเช้าอยู่ ทั้งคู่ใส่ชุดใหม่ ซาซาใส่ชุดกระโปรงลายตารางสีแดง เซินเซินใส่เสื้อเชิ้ตลายตารางสีดำ ทั้งคู่ดูน่ารักมาก ดูแล้วสบายตา

หร่วนซือซือมองแล้วอารมณ์ดีขึ้นเป็นกอง เธอเดินไปทักทายเด็กๆทั้งสอง ยกถ้วยกาแฟมาจิบ พร้อมกับส่งข้อความให้ซ่งเย้อัน

"เย้อัน เราเตรียมตัวเสร็จแล้วนะ นายออกมาหรือยัง?"

เธอนัดกับซ่งเย้อันตั้งแต่แรก ว่าวันนี้จะพาสองเด็กไปเที่ยวสวนสนุก ถือเสียว่านี่เป็น"กิจกรรมครอบครัว"

รอไปสักพัก หร่วนซือซือดื่มกาแฟจนหมดแก้ว แต่ซ่งเย้อันก็ยังไม่ตอบข้อความ

ซ่งอี้เซินและซ่งอี้ซาที่นั่งอยู่ข้างๆก็ทานอาหารเช้าเสร็จพอดี หันมามองเธอตาโต

"แม่ครับ เราจะได้ไปตอนไหนคะ/ครับ?"

หร่วนซือซือหัวเราะออกมาเบาๆ ยกนิ้วมาจิ้มที่หน้าผากเด็กๆ : "รอคุณพ่อของเธอมารับเราไง พวกเธอทั้งสองก็ไปแบกกระเป๋ากับขวดน้ำเตรียมตัวรอได้เลย!"

"ครับ/ค่ะ!"

เห็นทั้งคู่ที่ทำความเคารพเสร็จแล้วก็พากันวิ่งออกไป หร่วนซือซือก็หัวเราะเบาๆไม่ขาดสาย

เธอลุกขึ้น กลับห้องไปเปลี่ยนชุดใหม่ เสร็จแล้วก็เตรียมตัวออกจากบ้าน

เสื้อฮู้ดสีขาวใส่คู่กับกางเกงขาสั้นสีขาว บวกกับรองเท้าผ้าใบสีสว่าง แล้วก็หมวกแก๊ป ดูเป็นสาวขึ้นเป็นกอง ราวกับสาวน้อยไม่มีผิด

หร่วนซือซือเดินลงบันได ก็ได้รับคำชมจากสองเด็กทันที

"คุณแม่ สวยจังเลยค่ะ!"

"แม่ครับ อยู่ข้างนอกเราเรียกคุณแม่ว่าพี่สาวก็ยังได้เลย!"

“……”

ได้ยินเสียงชมและคำพูดหวานๆต่างๆนานา จนหร่วนซือซือรู้สึกจั๊กจี้หัวใจแทบไม่ไหว เธอยิ้มและพูดขึ้นว่า : "พอแล้ว พอแล้ว ปากของเธอทั้งคู่หวานเหมือนไปกินน้ำผึ้งมายังไงอย่างงั้น"

ก่อนออกจากบ้าน คุณนายหลิวก็ตามมาจากด้ามหลัง เอาแซนด์วิชที่ทำมา ยัดลงไปในกระเป๋าของหร่วนซือซือ : "เผื่อเอาไว้ เวลาสองเด็กหิวจะได้เอาไว้กินรองท้อง"

"โอเคค่ะแม่ วันนี้อากาศดีขนาดนี้ แม่กับพ่อก็ออกไปเดินเล่นหน่อยสิคะ อย่าอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน"

ออกจากบ้าน เดินจนมาถึงปากทางซีเฉียว หร่วนซือซือหยิบมือถือขึ้นมา หน้าจอมือถือว่างเปล่า อย่าว่าแต่โทรกลับเลย ขนาดข้อความที่ส่งไปซ่งเย้อันก็ยังไม่ตอบ

ตอนนี้ค่อนข้างสายแล้ว ถ้ายังไม่ไปตอนนี้ บัตรต้องขายหมดก่อนแน่ๆ

หร่วนซือซือโบกมือเรียกรถคันหนึ่ง พาเซินเซินและซาซาขึ้นรถ ให้คนขับรถตรงไปที่สวนสนุกของเมืองเจียงโจวเลย

ระหว่างทาง เธอโทรหาซ่งเย้อัน แต่ก็ไม่มีคนรับสาย

"กำลังยุ่งอยู่รึไงนะ?"

หร่วนซือซือครุ่นคิด จึงตัดสินใจส่งข้อความให้ซ่งเย้อัน : "ฉันพาเซินเซินกับซาซาไปซื้อบัตรก่อน ถึงเวลาฉันจะรอนายอยู่หน้าประตูทางเข้านะ"

เมื่อส่งข้อความเสร็จ เซินเซินก็เงยหน้าขึ้นมองหร่วนซือซือ กระพริบตาแล้วถามขึ้นว่า : "แม่ครับ พ่อไม่มาเหรอครับ?"

หร่วนซือซือลูบหัวของเขาเบาๆ : "พ่อคงกำลังยุ่ง เราไปที่สวนสนุกก่อน แล้วค่อยไปรอที่หน้าประตู อีกเดี๋ยวพ่อก็จะตามมา"

ซาซาพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงว่า : "ถ้าพ่อไม่มาจะทำยังไงดีคะ? การบ้านที่คุณครูลินดาให้ไว้ ก็คือต้องถ่ายรูปครอบครัวส่งให้คุณครูนี่คะ"

"ใช่แล้ว วันนี้วันสุดท้ายแล้วด้วย!"

เห็นสองเด็กที่กำลังร้อนใจและเป็นกังวล หร่วนซือซือจึงพูดปลอบใจ : "วางใจเถอะ วันนี้จะต้องได้ส่งการบ้านแน่นอน ไม่ต้องห่วงนะ?"

ทั้งคู่ก็พยักหน้าเบาๆ แต่ก็ยังมีสีหน้าที่ค่อนข้างผิดหวัง

หร่วนซือซือจู่ๆก็รู้สึกจุกขึ้นมา รู้สึกผิดต่อเขาทั้งคู่จริงๆ

ห้าปีที่ผ่านมานี้ ซ่งเย้อันถึงจะเป็นพ่อในนาม แต่จริงๆแล้ว เขามีเวลาอยู่ด้วยกันไม่มากเลย บวกกับซ่งเย้อันที่ต้องวิ่งงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ งานยุ่งจนปลีกตัวไม่ได้ หลายต่อหลายครั้งก็ผิดนัดไป

แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ หร่วนซือซือเองก็รู้สึกขอบคุณซ่งเย้อันมากแล้ว เพราะมีเขา ลูกๆของเธอทั้งสองถึงไม่โดนรังแกหรือหัวเราะเยาะจากเพื่อนๆ อย่างน้อยๆตำแหน่งคุณพ่อในความทรงจำของเด็กๆก็ไม่ต้องทิ้งว่างไว้

ไม่นาน คนขับรถก็มาถึงหน้าประตูทางเข้าสวนสนุกของเมืองเจียงโจว หร่วนซือซือจูงแขนเซินเซินและซาซาลงรถ มองแถวที่ต่อซื้อบัตรเข้าสวนสนุกยาวเหยียด เธออึ้งตาค้าง

นึกไม่ถึง ว่าคนจะเยอะขนาดนี้แล้ว

มิน่าล่ะคุณนายหลิวปลุกเธอตื่นแต่เช้า นี่คงเป็นเหตุผลสินะ

หร่วนซือซือสูดลมหายใจเข้า จูงมือสองเด็กไปต่อแถวที่ยาวเหยียดเพื่อซื้อบัตร

ในแถวส่วนใหญ่เป็นคุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกๆมาเที่ยว บางส่วนก็เป็นคู่รักวัยรุ่น จุดขายตั๋วก็มีพนักงานไม่น้อย อีกฝั่งหนึ่งของประตูก็เริ่มตั้งแถวใหม่ขึ้น

แถวซื้อบัตรก็ค่อนข้างเร็ว ยืนต่อแถวราวยี่สิบนาที หร่วนซือซือก็ถึงเคาน์เตอร์ซื้อตั๋วแล้ว เธอซื้อตั๋วผู้ใหญ่สองใบเด็กสองใบ

ดูเหมือนจะเป็นการเข้าธีมของสวนสนุก ตั๋วของเด็กๆลายสีเขียว ด้านบนมีลายการ์ตูนต่างๆ เซินเซินและซาซาเมื่อได้ตั๋วแล้ว ก็ดึงแขนหร่วนซือซือรีบไปต่อแถวเข้าอย่างตื่นเต้น

หร่วนซือซือค่อนข้างลังเล มองโทรศัพท์ในมือที่หน้าจอว่างเปล่า : "เซินเซิน ซาซา เรารอพ่ออีกหน่อยดีไหม"

ทั้งคู่ที่กำลังตื่นเต้นดีใจ เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าดูผิดหวังหน่อยๆ พยักหน้าเบาๆ : "ก็ได้"

ผ่านไปราวยี่สิบนาที หร่วนซือซือโทรหาซ่งเย้อันอีกครั้งแต่ก็ไม่มีคนรับสาย แถวที่รอเข้าประตูยิ่งอยู่ก็ยิ่งยาวขึ้น

หร่วนซือซือมองไปยังเซินเซินและซาซาที่รอจนหน้านิ้วคิ้วขมวด เธอหยิบมือถือโทรหาซ่งเย้อันอีกครั้ง

ถ้าสายนี้ไม่มีคนรับ งั้นเธอจะพาสองเด็กไปต่อแถวเข้าสวนสนุกเลย

อีกฝั่งหนึ่ง สองคันที่จอดอยู่หน้าสวนสนุก

ชายวัยกลางคนลงออกจากรถคันข้างหน้า ยิ้มขึ้นด้วยความเคารพ วิ่งไปยังด้านข้างของรถคันข้างหลัง เปิดประตูรถ

"ท่านประธานอวี้ เชิญครับ—-"

อวี้อี่มั่วก้าวขายาว ลงจากรถ พร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆทางเข้าสวนสนุก พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย : "คนเยอะใช่ย่อย"

ชายวัยกลางคนพยักหน้ารับ พูดอย่างมั่นใจว่า : "แน่นอนครับสวนสนุกแห่งนี้เป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเจียงโจวเลยครับ และยังรองรับผู้คนได้มากที่สุด ท่านประธานอวี่เลือกลงทุนโครงการนี้ในตอนแรก คิดถูกมากเลยครับ!"

อวี้อี่มั่วพยักหน้าเบาๆ : "อืม ผูจัดการเหอ ทะเลสาบหมิงเย่ว์อยู่ตรงไหน?"

ผู้จัดการเหอรีบพยักหน้า ชี้มือให้เขาดู : "อยู่ทางโน้นครับ ทะเลสาบผืนใหญ่ที่อยู่ฝั่งโน้นเป็นของอวี้กรุ๊ปทั้งหมดเลยครับ ข้างๆทะเลสาบมีป่าจำลอง บรรยากาศดีมาก ถัดไปก็เป็นสวนสัตว์ของเมืองเจียงโจวครับ"

อวี้อี่มั่วพยักหน้าเบาๆ : "อืม ไปดูที่ริมทะเลสาบหน่อย ถ้าหากเหมาะสม ถึงเวลาก็ให้คนของคุณทำข้อตกลงเบื้องต้นให้กับทางผม พร้อมกับการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นสองปี"

ผู้จัดการเหอดวงตาลุกวาวขึ้นมาทันที รีบตอบกลับด้วยความดีใจ : "ครับ!"

อวี้อี่มั่วมองไปรอบๆทางเข้าสวนสนุกอีกครั้ง เขาที่กำลังจะหมุนตัวกลับ ทันใดนั้นเองก็เหมือนกับเห็นอะไรเข้า รีบหันกลับไปมองที่เดิม นี่มัน

ในเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น หร่วนซือซือตื่นขึ้นมาทันทีที่ท้องฟ้าตกลงมาเธอเตรียมทุกอย่างที่ต้องเตรียมแล้วออกไป

หลังจากเตรียมการทั้งหมดแล้วเธอก็ขึ้นรถบัสไปยังเมืองโทรทัศน์และภาพยนตร์ในเจียงโจว

เธอได้ตรวจสอบแผนการเดินทางของเจียงฮ้วนเฉินล่วงหน้าและรู้ว่าเขามีฉากที่ต้องถ่ายทำในบ่ายวันนี้ดังนั้นเธอจึงมาถึงก่อนเวลาเพื่อรอ

อาจเป็นเพราะเธอเข้ามาแทนที่ผู้ช่วยของ เจียงฮ้วนเฉินในฐานะผู้ช่วยชั่วคราว ก่อนหน้านี้หลายคนในกองถ่ายได้เห็นเธอแม้ว่าเธอจะไม่ได้รับบัตร แต่เธอก็ยังได้รับการปล่อยตัว

หลังจากเดินไปรอบ ๆ ในกองถ่ายเธอก็ไม่พบเงาของเจียงฮ้วนเฉินเลย เธอส่งคำถามส่วนตัวให้เขาและพบว่าเจียงฮ้วนเฉินกำลังเล่นอยู่ตอนบ่ายสามโมง แต่เขาจะไปที่ห้องแต่งตัวเพื่อ แต่งหน้าล่วงหน้า

หร่วนซือซือหันไปที่ห้องแต่งตัวและรออยู่ที่ทางเดินเป็นเวลานาน เขาไม่เห็นเจียงฮ้วนเฉิน เมื่อเขากำลังจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อส่งข้อความ กลุ่มคนก็รีบวิ่งไป

จุดเริ่มต้นคือคุณชฮวง ตัวแทนของเจียงฮ้วนเฉิน เบื้องหลังคือเทพผู้ช่วยบอดี้การ์ดและช่างแต่งหน้าที่เหลืออยู่รอบ ๆ เจียงฮ้วนเฉินเป็นตำแหน่ง c ที่เหมาะสม

หร่วนซือซือยืนอยู่ที่ทางเข้าของทางเดิน คุณชฮวงเห็นเธอแวบหนึ่งขมวดคิ้วและพูดว่า "ทำไมคุณถึงมาที่นี่อีก?"

หร่วนซือซือแสยะยิ้มมองไปที่เจียงฮ้วนเฉิน และหัวเราะเบา ๆ "ฉันมาที่นี่เพื่อดูคุณเจียง และฉันอยากคุยกับคุณเจียง เกี่ยวกับเรื่องที่สำคัญมาก"

เมื่อคุณชฮวงได้ยินคำนั้น ใบหน้าของเธอก็ดูน่าเกลียดมากขึ้น เธอยกมือขึ้นและกำลังจะเรียกผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างๆเธอเพื่อพาเธอออกไป ทันใดนั้นเจียงฮ้วนเฉินที่อยู่ตรงกลางก็พูดว่า "เดี๋ยวก่อน"

คุณชฮวงต้องการตำหนิ "ฮ้วนเฮิน คุณจะต้องถ่ายทำในภายหลัง … "

"ไม่เป็นไรฉันเล่นได้ เมื่อฉันเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันจะบอกเธอให้เธอมาที่ห้องแต่งตัวกับฉัน"

แม้ว่าผู้คนหลายพันคนจะไม่เต็มใจ แต่คุณชฮวงก็ยังไม่พูดอะไร

หร่วนซือซือดีใจมากและรีบก้าวไปให้ทันและเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวพร้อมกับช่างแต่งหน้า

ทันทีที่เขามาถึงห้องแต่งตัว เจียงฮ้วนเฉินนั่งบนเก้าอี้หลับตาและขอให้ช่างแต่งหน้าทำการแต่งหน้าขั้นสุดท้ายให้เขาโดยไม่สนใจ หร่วนซือซือที่อยู่ด้านข้าง

พอช่างแต่งหน้าแต่งหน้าเสร็จก็โบกมือบอกว่า "โอเค ลงไปก่อนก็ได้"

ช่างแต่งหน้าพยักหน้าไม่พูดอะไรมากเปิดประตูออกจากห้องแต่งตัว

ประตูปิดลง เจียงฮ้วนเฉินและหร่วนซือซือถูกทิ้งไว้ในห้องสักพัก

ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หมุนได้หันเก้าอี้มองไปทางหร่วนซือซือหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "คิดถึงฉันเหรอ รอไม่ไหวแล้วที่จะได้เจอฉัน?"

หร่วนซือซือได้ยินคำนั้นเธอก็ขนลุกทั่วร่างของเธอล้มลงกับพื้น ทันทีเธอปรับสีหน้ายืนขึ้นและเดินตรงไปหาเขา

เมื่อเดินไปหาเขาเธอพูดอย่างเคร่งขรึม "เจียงฮ้วนเฉินวันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อเจรจากับคุณ"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ชายคนนั้นก็เม้มริมฝีปากเล็กน้อยอย่างขบขันเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วพูดเบา ๆ ว่า "คุณกำลังเจรจาอะไรอยู่? คุณมีชิปต่อรองกับฉันไหม?"

หร่วนซือซือหัวเราะเบา ๆ หยิบรูปถ่ายจากกระเป๋าของเธอออกมาโดยไม่รีบร้อนและวางไว้บนโต๊ะหน้าเจียงฮ้วนเฉิน

ชายคนนั้นเหล่เล็กน้อยมองไปที่กองภาพถ่ายที่กระจายออกไปลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "นี่มันอะไรกัน?"

ภาพทั้งหมดถูกแอบถ่ายของทั้งสองคน บางคนเป็นพนักงานในกองถ่ายและบางคนในคลับ รูปเหล่านี้คือรูปที่อวี้อี่มั่วแสดงให้เธอเห็นครั้งสุดท้าย!

หร่วนซือซือ พูดอย่างรีบร้อนและอธิบายว่า "นี่คือภาพที่ปาปารัสซี่ถ่ายคุณเจียง คุณพูดจากภาพถ่ายที่อธิบายไม่ได้เหล่านี้ฉันเกรงว่าจะผสมชื่อแฟนสาวที่มีข่าวลือของคุณบนอินเทอร์เน็ตได้?"

ใบหน้าของเจียงฮ้วนเฉินมืดมิดและเขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ "คุณกำลังคุกคามฉันด้วยสิ่งเหล่านี้?"

หร่วนซือซือยิ้มและนั่งบนเก้าอี้ข้างๆเธอม้วนริมฝีปากและยิ้ม "ไม่นับว่าเป็นการคุกคาม แต่ถ้าซูหลิง เห็นรูปเหล่านี้ ฉันกลัวว่ามันจะไม่ดีมาก"

เมื่อเอ่ยถึงชื่อของซูหลิงการแสดงออกของเจียงฮ้วนเฉินก็จมลงในเวลาไม่กี่นาทีและความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาและในไม่ช้าความโกรธเล็กน้อยก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเจียงฮ้วนเฉินหัวใจของหร่วนซือซือก็เริ่มแน่ใจมากขึ้น ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นเขาเถียงกับซูหลิงที่ประตูด้านหลังของเมืองภาพยนตร์และโทรทัศน์ เธอก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อยในใจตอนนี้ เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา หลังจากนั่งลงแล้วจะต้องมีอะไรบางอย่างระหว่างเขากับซูหลิง!

ก่อนที่เธอจะกลับมามีสติอีกครั้งเจียงฮ้วนเฉินได้พูดไปแล้วสายตาของเขาเปลี่ยนไปจากอดีตที่ไม่ถูกยับยั้งและเขาพูดอย่างเย็นชา "หร่วนซือซือคุณต้องการทำอะไร?"

หร่วนซือซือยิ้มหยิบสัญญาออกมาจากกระเป๋าและผลักมันไปยังเจียงฮ้วนเฉิน “ ที่จริงคุณต้องเซ็นชื่อรับรองนี้ แต่คุณแขวนคอฉันไว้ในช่วงเวลานี้ แต่ฉันรอไม่ไหวแล้วเพียงแค่เซ็นชื่อ ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่พูดเรื่องไร้สาระและไม่ทำอะไรเลย”

เจียงฮ้วนเฉินขมวดคิ้วและจ้องไปที่หร่วนซือซือเป็นเวลานาน หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็หัวเราะเบา ๆ ริมฝีปากของเขาอย่างรวดเร็ว "คุณคิดว่าคุณคุกคามฉันหรอ คนที่ต้องกลัวไม่ใช่ฉันมันควรจะเป็นคุณ"

ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนเดินไปข้างหน้า หร่วนซือซือเอนตัวไปดูเธออย่างอ่อนน้อม “รูปเหล่านี้ระเบิดออกมาสำหรับฉันมันเป็นแค่เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับลูกไม้ มันแตกต่างสำหรับคุณ แฟน ๆ ของฉันจะพาคุณออกจากมนุษย์ แล้วการสูญเสียของใครจะยิ่งใหญ่กว่ากัน?”

หร่วนซือซือได้ยินคำพูดนั้นความวิตกกังวลเล็กน้อยก็เกิดขึ้นในใจของเธอ แต่ในไม่ช้าเธอก็หายใจเข้าลึก ๆ กัดฟันหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเปิดใช้งานอินเทอร์เฟซแชท WeChat

เธอหันหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอและแสดงท่าทางไปที่เจียงฮ้วนเฉิน ส่วนท้ายของกล่องโต้ตอบคือหัวหน้าบรรณาธิการของสื่อบันเทิงที่มีชื่อเสียงในเมืองเจียงโจว ที่นี่เธอได้แก้ไขรูปภาพและข้อความแล้ว

"มันไม่ใช่แค่ความรุนแรงบนอินเทอร์เน็ต ตอนนี้สีดำและสีแดงก็เป็นที่นิยมเช่นกัน ฉันก็อยากเป็นที่นิยมเช่นกัน การรวมตัวกับเจียงฮ้วนเฉินนักแสดงที่มีชื่อเสียง ฉันไม่เดือดร้อน แต่คุณนายหน้าบริษัท และซูหลิงจะเกิดอะไรขึ้นฉันไม่รู้ … "

หร่วนซือซือกล่าวพร้อมกับเคาะนิ้วของเขาสองครั้งบนหน้าจออย่างกระตือรือร้นแล้วพูดว่า "เจียงฮ้วนเฉิน ตราบใดที่นิ้วของฉันเบา ๆ เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสิ่งต่างๆจะไปที่ใดเราไม่สามารถคาดเดาได้ … "

เมื่อเจียงฮ้วนเฉินเห็นสิ่งนี้ ความสงบบนใบหน้าของเขาก็หายไปเขามองไปที่นิ้วของหร่วนซือซือและพูดอย่างเย็นชาว่า "หยุด!"

เมื่อเห็นสิ่งนี้ หร่วนซือซือก็ดีใจยกคางขึ้นและพูดกับเขาว่า "แล้วสัญญานั้น คุณจะเซ็นหรือไม่?"

เจียงฮ้วนเฉินก้าวถอยหลังเหลือบมองไปที่หร่วนซือซือ จากนั้นก็ทำสัญญาบนโต๊ะ หลังจากลังเลในที่สุดเขาก็หยิบปากกาขึ้นมาและเซ็นชื่อลงไป

หลังจากทำทั้งหมดนี้ เจียงฮ้วนเฉินมองไปที่เธอไม่กี่วินาทีต่อมาเขายกมุมริมฝีปากขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้และพูดอย่างเยาะเย้ย "หร่วนซือซือ คุณหมดหวังกับอวี้อี่มั่วมาก"

เมื่อได้ยินชื่อนี้ หัวใจของหร่วนซือซือ ก็แน่นขึ้น สองวินาทีต่อมาเขาปฏิเสธทันทีและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ฉันไม่เคยเป็นของเขา ฉันทำเพื่อตัวฉันเอง"

เมื่อได้ยินเช่นนี้เจียงฮ้วนเฉินก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง "ถ้าคุณไม่มีเงินก็แค่พูดกับฉันโดยตรง วิธีนี้มันไม่จำเป็นจริงๆ"

"ฉันไม่ได้ขาดแคลนเงิน ฉันแค่ทำเพื่ออิสรภาพของฉัน"

เมื่อพูดเช่นนั้นหร่วนซือซือจึงผลักโทรศัพท์มือถือตรงหน้าเจียงฮ้วนเฉิน จากนั้นจึงนำสัญญาที่เซ็นสัญญาทั้งสองคืนกลับมา

"คุณสามารถลบรูปภาพได้ ฉันไม่ได้เก็บสำรองไว้"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงฮ้วนเฉินยิ้มอย่างเย้ยหยันที่มุมริมฝีปากของเขา เขาพลิกดูรูปถ่ายในโทรศัพท์และไม่ได้ลบออก แต่ทันใดนั้นเขาก็โน้มตัวเข้าหาเธอเขาเข้าหาหูของเธอและพูดด้วยเสียงต่ำ "หร่วนซือซือ คุณคือหมายเลขหนึ่งของผู้หญิงที่ทำให้ฉันสารภาพถือว่าคุณเป็นคนโหดร้าย "

ทิ้งประโยคนี้ไว้เขายืดตัวขึ้นจับขายาว ๆ แล้วเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นประตูก็ปิดลงและเหลือเพียง หร่วนซือซือในห้อง

เธอหายใจเข้ายาว ๆ เหลือบมองเอกสารในกระเป๋าแล้วค่อยๆผ่อนคลายร่างกายที่คับแน่น

Options

not work with dark mode
Reset