ดั่งรักบันดาล 210

ตอนที่ 210

เธอยังไม่ทันเข้าใจ ตู้เยี่ยก็เดินออกมาจากบาร์ และตรงมาขับรถ

อวี้อี่มั่วขึ้นรถไปด้วยสีหน้าเย็นชา

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ซูอวี้เฉิงพูดมันหมายความว่ายังไง แต่สิ่งที่เธอเข้าใจและรู้ดีนั่นก็คือถึงแม้ว่าเธอจะไล่ตามไปขอโทษเขาตอนนี้ อวี้อี่มั่วก็คงยังไม่ยอมให้อภัยเธอแน่นอน

ช่างเถอะ กลับไปหาอันอันที่บาร์ก่อนดีกว่า

หร่วนซือซือหันหลังกลับไปและเดินเข้าไปที่บาร์พร้อมกับความรู้สึกที่ผิดหวังเล็กน้อย

พอรถแล่นออกไป สายตาของอวี้อี่มั่วก็มองออกไปนอกหน้าต่างรถ เมื่อเห็นหญิงสาวที่หันหลังเดินเข้าไปอย่างโดดเดี่ยว เขาก็รู้สึกจุกที่อก

ในขณะนั้นเอง จู่ๆซูอวี้เฉิงที่นั่งอยู่ข้างๆก็หันหน้ามาพร้อมกับหัวเราะให้เขา แววตาเขาแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะดูออก

อวี้อี่มั่วหลบสายตาเขา และมองเขาอย่างเยือกเย็นแวบหนึ่ง และพูดนิ่งๆว่า " นายไม่ได้เอารถมาหรอ? ถึงได้ขอติดรถฉันมาด้วย "

" ก็ฉันดื่มแอลกอฮอล์ " ซูอวี้เฉิงหัวเราะพลางสบตาเขาและพูดว่า " ขับรถไม่ได้ "

อวี้อี่มั่วไม่ได้สนใจเขา และละสายตามองไปทางอื่น แก้มซ้ายของเขาชาเล็กน้อย เขาเปลี่ยนท่านั่งเปลี่ยนไปนั่งพิงพนักพิง และแสร้งทำเป็นหลับตานอน

ซูอวี้เฉิงที่นั่งอยู่ข้างๆพอเห็นเข้า เขาก็นั่งไขว่ห้างและพูดขึ้นอย่างสบายๆว่า " นายไม่อยากรู้เลยหรอว่าเมื่อกี้เราคุยอะไรกัน? "

เมื่อกี้หลังจากที่เขาคุยกับหร่วนซือซือเสร็จ เขาสังเกตเห็นสายตาของอวี้อี่มั่วที่ตั้งใจจับจ้องมาที่พวกเขาแต่เขากลับแสร้งทำเป็นไม่สนใจ

ผู้ชายที่นั่งข้างๆเขาทำราวกับว่าไม่ได้ยิน เขาไม่ส่งเสียงใดๆ

ยากมากที่จะเห็นฉากที่อวี้อี่มั่วเสียเปรียบ แน่นอนว่าซูอวี้เฉิงไม่ยอมให้มันผ่านไปง่ายๆ เขาพูดขึ้นว่า " พูดก็พูดเถอะ นี่คงเป็นครั้งแรกที่นายเสียเปรียบต่อหน้าผู้หญิงสินะ? "

ทันทีที่เขาพูดจบ ผู้ชายข้างๆที่หลับตาอยู่ก็ลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน และมองมาทางเขาด้วยสายตาที่น่ากลัว

ซูอวี้เฉิงหัวเราะและถามต่ออย่างไม่กลัวตาย " รู้สึกชอบเธอจริงๆงั้นหรอ? "

แววตาของอวี้อี่มั่วเต็มไปด้วยความโกรธ และหันไปสั่งตู้เยี่ยว่า " จอดรถ และโยนเขาลงรถไป "

พอเห็นว่าเขาเอาจริง ซูอวี้เฉิงถึงกับหัวเราะไม่ออก เขารีบพูดยอมแพ้ว่า " ก็ได้ๆๆ ฉันไม่พูดแล้วก็ได้! ไม่พูดแล้ว! "

พอเห็นเขายอมแบบนี้ อวี้อี่มั่วก็ไม่พูดอะไรต่อ เขาหลับตาพักผ่อนต่อ

เมื่อกี้เขาโดนตบอย่างจังไปหนึ่งที เขาก็โกรธมากพออยู่แล้ว มายั่วโมโหเขาในเวลานี้ มันเป็นการรนหาที่ตายชัดๆ

พูดก็พูดเถอะ ตั้งแต่เด็กจนโตเขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่ลงมือกับเขาเลยแม้แต่คนเดียว!

เมื่อคิดถึงท่าทางของหญิงสาวที่ดุราวกับแมวป่า อวี้อี่มั่วก็ขมวดคิ้วและรู้สึกหงุดหงิดมาก

ซูอวี้เฉิงที่นั่งอยู่ข้างๆเห็นท่าทางของเขาเต็มๆสองลูกตา เขาเลยแอบยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เห็นอวี้อี่มั่วอารมณ์ขึ้นแบบนี้เพราะผู้หญิงครั้งแรกเลยนะ นี่มันเป็นอะไรที่หายากสุดๆ

กลับไปยังบาร์ ทันทีที่หร่วนซือซือกลับไปยังโต๊ะบาร์ ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยลอยมา " ซือซือ! ”

ซ่งอวิ้นอันรีบวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย ทันทีที่เธอวิ่งมาเธอก็รีบจับหร่วนซือซือหมุนตัวเพื่อสังเกตเธอ " เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? "

" ไม่เป็นไร " หร่วนซือซือสังเกตเห็นท่าทีเธอแปลกๆ " เธอเป็นอะไรไป? "

สีหน้าของซ่งอวิ้นอันผิดปกติไปอย่างชัดเจน

เธอพูดขึ้นอย่างรีบร้อน " เกิดอุบีติเหตุขึ้นกับพี่ชายฉัน ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาล เมื่อกี้เขาโทรมาหาฉันเลยไม่ทันได้อยู่สังเกตเธอ อวี้อี่มั่วไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม? "

ทันทีที่หร่วนซือซือได้ฟังแบบนั้น เธอก็รีบถามขึ้น " ฉันไม่เป็นไร เกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายเธอ? "

" รถถูกชนท้ายหน่ะ ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย ตอนนี้ฉันต้องรีบไปทีโรงพยาบาลก่อน "

" งั้นให้ฉันไปเป็นเพื่อนด้วยไหม? "

ในเวลาแบบนี้ ถ้าปล่อยให้ซ่งอวิ้นอันไปตามลำพังไม่รู้ว่าเธอจะไปไหวไหม ทางที่ดีให้เธอไปเป็นเพื่อนด้วยจะดีกว่า

ฉีเซียวที่อยู่ข้างๆพูดขึ้น " เดี๋ยวฉันขับรถไปส่ง "

ทั้งสามคนออกจากบาร์ และมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล

พวกเขามาถึงห้องผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว ซ่งอวิ้นอันผลักประตูเข้าไปอย่างรีบร้อนสุดๆ

เมื่อเห็นซ่งเย้อันที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย ซ่งอวิ้นอันก็รีบถามขึ้นทันทีว่า " พี่ชาย เป็นไงบ้าง? ได้รับบาดเจ็บรุนแรงไหม! "

" ไม่รุนแรง " เขาพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองหร่วนซือซือ และถามขึ้นว่า " ซือซือ ทำไมเธอถึงมาด้วยล่ะ? "

หร่วนซือซือรีบตอบทันทีว่า " ฉันได้ยินอันอันบอกว่านายได้รับบาดเจ็บ เลยมาเยี่ยมค่ะ "

ซ่งเย้อันยิ้มและพูดว่า " ไม่เป็นไรมากหรอก ก็แผลนิดเดียว "

มีผ้าก๊อซพันอยู่ที่หลังแขนเขา และบริเวณหน้าผากเล็กน้อย ตรงส่วนอื่นก็แค่ถลอกนิดๆหน่อยๆ ไม่ได้เป็นอะไรมาก

ซ่งอวิ้นอันที่อยู่ข้างก็รู้สึกโล่งอก ที่ซ่งเย้อันสามารถพูดคุยกับหร่วนซือซือและฉีเซียวได้อย่างสบายๆ ใจที่เป็นห่วงเขาก็รู้สึกดีขึ้น

ซ่งอวิ้นอันเหลือบดูเวลาแวบหนึ่ง จึงพูดขึ้นว่า " จริงด้วย อันอัน เดี๋ยวพี่ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่เดี๋ยวต้องไปติดต่อเรื่องเอกสารการชำระเงินก่อน"

" ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปติดต่อเดี๋ยวนี้ " ซ่งอวิ้นอันตอบรับ พร้อมกับดึงแขนหร่วนซือซือ " ซือซือ ไปกับฉัน……"

เธอยังไม่ทันพูดจบ ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบแบบแปลกๆ เมื่อเห็นสายตาของพี่ชายตัวเองทันใดนั้นเธอจึงเข้าใจทันที

เธอยิ้มและแตะแขนหร่วนซือซือเบาๆ " ซือซือ เธออยู่คุยกับพี่ชายฉันไปก่อนแล้วกัน "

" ฉีเซียว เธอไปติดต่อเรื่องค่าใช้จ่ายกับฉัน "

เธอพูดพร้อมกับดึงฉีเซียวและออกจากห้องผู้ป่วยไป

ประตูห้องปิดลง หร่วนซือซือรู้สึกงุนงง และยังไม่ทันตั้งตัว แต่จู่ๆซ่งเย้อันก็พูดขึ้นว่า " ซือซือ แขนขแงเธอเป็นอะไร? "

หร่วนซือซือหันกลับมาสบเข้ากับสายตาที่อบอุ่นของซ่งเย้อัน จากนั้นเธอก็ก้มมองแขนตัวเองและยิ้ม " ตอนทำกิจกรรมไม่ทันระวังตัวเลยได้รับบาดเจ็บมานิดหน่อย ใกล้จะหายดีแล้วล่ะ "

ซ่งอวิ้นอันได้ยินแบบนั้น ก็หันมามองตัวเองและมองเธอสลับกันไปมา และพูดติดตลกว่า " ตอนนี้เราทั้งสองต่างก็บาดเจ็บ บังเอิญจัง "

เขาพูดพร้อมกับยกแขนที่เขาได้รับบาดเจ็บโบกไปมา

เมื่อเห็นซ่งเย้อันที่ทำท่าทีเหมือนเด็กๆ หร่วนซือซือก็อดหัวเราะไม่ได้

ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ซ่งเย้อันยื่นมาไปเหมือนอยากจะรินน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะ

นิ้วมือของเขาพันรอบๆไปด้วยผ้าก๊อซ แขนอีกด้านหนึ่งก็ได้รับบาดเจ็บ ตอนที่เขายื่นมือไปหยิบแก้วเขาเลยไม่ค่อยสะดวกที่จะหยิบ

หร่วนซือซือเห็นเข้า ก็รีบเดินเข้าไปข้างหน้าอย่างไม่รอช้า " ให้ฉันช่วยนะคะ "

เธอพูดพร้อมกับหยิบแก้วและรินน้ำ

พอหลังจากเธอยกแก้วขึ้น เธอก็ชะงักไป

เธอช่วยเขาหยิบแก้วขึ้นมาก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะป้อนน้ำเขาสักหน่อย แบบนี้มันจะไม่น่าเกลียดไปใช่ไหม……

พอเห็นท่าทางที่ลังเลของเธอ ซ่งเย้อันก็ยิ้มและพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า " ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันดื่มเองได้ "

หร่วนซือซือได้ยินแบบนั้น ก็มองดูแก้วน้ำในมือตัวเองและมือที่ได้รับบาดเจ็บของเขาสลับกันไปมา ก็ยากที่จะตัดสินใจ

ช่างเถอะ ไหนๆก็ยกขึ้นมาแล้ว เป็นคนดีทั้งทีก็ต้องเป็นให้สุด

" ไม่เป็นไร ฉันป้อนให้เอง "

ในขณะที่หร่วนซือซือพูดประโยคนี้ เธอเดินขึ้นไปข้างหน้าอย่างเขินๆเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เลื่อนแก้วน้ำเข้าไปใกล้ๆปากของซ่งเย้อันอย่างระมัดระวัง

ซ่งเย้อันเห็นเข้า แววตาของเขาก็มีประกายของความดีใจเปล่งออกมา แต่สีหน้าเขาก็กลับมาดูปกติอย่างรวดเร็ว เขาค่อยๆเงยคางขึ้นและดื่มน้ำ

หร่วนซือซือค่อยๆเอียงแก้วน้ำป้อนให้เขาดื่มได้อย่างถนัด ในขณะที่ป้อนเขาแก้มของเธอก็แดงก่ำอย่างไม่รู้ตัว

ซ่งเย้อันเองก็เหมือนจะไม่ทันสังเกต หลังจากที่ดื่มน้ำเสร็จ เขาก็เงยหน้ามองไปทางเธอด้วยสายตาที่อบอุ่น จากนั้นก็พูดขึ้นว่า " พอแล้ว ขอบคุณมากนะ ซือซือ "

ถึงสีหน้าของเขาจะนิ่งเป็นปกติ แต่ใจดวงน้อยๆของเขากลับเต้นรัวและเร็วอย่างรวบคุมไม่ได้

หร่วนซือซือยิ้มและพูดว่า " ยินดีค่ะ "

เธอพูดพร้อมกับวางแก้วน้ำในมือลง

ในขณะนั้นเอง ก็มีคนเปิดประตูห้อง จากนั้นซ่งอวิ้นอันและฉีเซียวเดินเข้ามา

" จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่ะ "

ซ่งอวิ้นอันสะบัดใบเสร็จในมือไปมา เธอมองหร่วนซือซือและซ่งเย้อันสลับกันไปมา ทันใดนั้นก็รู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ

ทำไมพี่ชายของเธอถึงหูแดง? แล้วหร่วนซือซือก็อีกคน แก้มแดงอมชมพูราวกับสาวน้อยเลย

พวกเขาทั้งสองคนคงไม่ได้แอบทำอะไรกันลังหลังเธอใช่ไหม?

Options

not work with dark mode
Reset