ดั่งรักบันดาล 166

ตอนที่ 166

เมื่อเห็นอวี้อี่มั่วไม่มีท่าทีอดทนต่อไปแล้ว ซูอวี้เฉิงจึงรีบยิ้มแล้วขอโทษขอโพยทันที "ได้ได้ได้ ฉันจะไปแล้ว ร้อนใจจะตายอยู่แล้วเนี่ย!"

"ไม่ได้เจอหน้ากันมาพักหนึ่ง ฉันนึกว่านายจะคิดถึงฉันแล้วเสียอีก?"

"ช่างเถอะ ช่างเถอะ คุยกับเจ้าภูเขาน้ำแข็งแบบนายนี่นะ……"

ซูอวี้เฉิงบ่นพึมพำกับตนเองไม่หยุด เมื่อหันไปสบมองสีหน้าเคร่งขรึมของอวี่อี่มั่วแล้ว เห็นได้ชัดเจนเลยว่าความอดทนแทบจะเป็นศูนย์ เขารีบหุบปากปิดสนิทอย่างรู้ตัว ก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อประถูกปิดลง ในที่สุดหูของอวี้อี่มั่วก็กลับมาเงียบสงบดังเดิม เขาเดินเข้าไปที่ริมหน้าต่าง ก่อนจะหยิบแก้วบนโต๊ะที่มีเหล้ายุโรปอยู่เทอยู่ครึ่งแก้วติดมือไปด้วย ดื่มเข้าไปอึกหนึ่ง นัยน์ตาสุขุมนุ่มลึกสบมองไปยังนอกหน้าต่าง

เมื่อเห็นแสงไฟสว่างจากตึกสูง เขาสบมองไปที่ท้องฟ้าสีดำทมิฬ จุดที่ไกลที่สุดของท้องฟ้าด้านข้าง ท้องฟ้ามืดสนิทราวกับเลือดสีเข้ม รอที่จะกลืนกินโลกนี้ทั้งใบอยู่

เช้าวันถัดมา นาฬิกาปลุกของหร่วนซือซือดังขึ้น เธอรีบลุกขึ้นจากที่นอน แม้กระทั่งเวลาบิดขี้เกียจบนเตียงสิบนาทีก็ถูกปัดตกไป วันนี้เป็นวันแรกที่เธอจะเข้าไปศึกษาดูงานที่บริษัทไท่ต๋า ยังไงๆก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

เธอเปลี่ยนไปสวมใส่ชุดเดรสสบายๆหนึ่งชุด ถึงแม้จะเย็นแต่ก็ไม่ได้เย็นมากจนเกินไปขนาดนั้น เมื่อจัดเตรียมของทุกอย่างเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว เธอหยิบของใช้ที่จำเป็นขึ้นมา ก่อนจะตรงออกไปทันที

เมื่อเธอกับเสี่ยวหลิวมาถึงห้องอาหารแล้ว ประจวบเหมาะกับพวกเพื่อนๆร่วมงานที่ก็มาถึงกันแล้วพอดี ทุกคนบริการตักอาการด้วยตนเอง พร้อมทั้งหาที่นั่งเองด้วย

หร่วนซือซือตักอาหารเช้ามาแล้ว ก็มาหาที่นั่งทานอาหารกับเสี่ยวหลิว เธอดื่มน้ำเต้าหู้ไปได้สองสามอึก ก่อนที่อยู่ๆก็นึกถึงเรื่องที่เมื่อคืนวานได้บังเอิญเจอเข้ากับอวี้อี่มั่วได้

เมื่อครั้งก่อนที่จะมาที่ประเทศไทย เธอไม่ได้รับแจ้งอะไรเลยว่าอวี้อี่มั่วจะมาด้วย เมื่อคืนวานเธอก็ลืมถามอวี้อี่มั่วด้วยว่ามาทำอะไร แต่ทว่าเมื่อสังเกตเห็นท่าทีของทุกคนในวันนี้แล้ว ก็แทบจะไม่รู้เลยว่าอวี้อี่มั่วอยู่ที่ประเทศไทย

หร่วนซือซือรับประทานข้าวผัดไข่คำใหญ่ไปมา ก่อนจะแสร้งทำเป็นไม่สนใจพร้อมกับเอ่ยปากถามเสี่ยวหลิวขึ้นว่า "วันนี้ที่จะไปศึกษาดูงานกันก็มีแค่พวกเราเท่านี้หรือเปล่าจ๊ะ?"

เสี่ยวหลิวที่ถูกถามตอบกลับไปโดยไม่คิดอะไรเลยว่า "ใช่สิจ๊ะ ไม่อย่างนั้นแล้วยังจะมีใครได้อีกล่ะ?"

หร่วนซือซือพลันชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะไถ่ถามต่อไปว่า "เมื่อวานฉันรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเห็นท่านประธานอวี้มาด้วยนี่ คงไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม?"

"จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?" เสี่ยวหลิวพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจเต็มประดาขึ้นว่า "คุณหลัวไม่ได้บอกว่าท่านประธานอวี้จะมาด้วยนี่จ๊ะ เธอต้องดูผิดไปแล้วแน่ๆ"

เมื่อฟังเธอพูดมาดังนั้นแล้ว หร่วนซือซือพยักหน้าขึ้นลงหงึกหงัก ไม่ได้ถามอะไรต่อ ก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช้าต่อไป แต่ทว่าในใจราวกับว่ามีคำถามมัดแน่นอยู่รอบหนึ่งก็ไม่ปาน มันสับสนวุ่นวายไปหมด

ในเมื่ออวี้อี่มั่วไม่ได้บอกกับทุกคนถึงเรื่องที่เขาเดินทางมาดูงานที่ประเทศไทย ถ้าอย่างนั้นแล้วเขามาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้อย่างไรกันนะ? หรือว่าเขามีเรื่องอื่นอีก?

เธอคิดไปคิดมา ก็ไม่เข้าใจเสียที เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานกับทุกคนทันที เธอทำได้เพียงแค่ทิ้งเรื่องนี่ไว้ข้างหลัง

เมื่อวุ่นๆไปตลอดทั้งช่วงเช้า หลังจากที่เยี่ยมชมแต่ละแผนกของบริษัทไท่ต๋าแล้ว ก็ถึงช่วงเที่ยงวันแล้ว ผู้รับผิดชอบเชิญพวกเขาให้รับประทานอาหารด้วยกัน แถมยังจัดเตรียมคนขับรถพาพวกเขากลับไปพักผ่อนที่โรงแรมอีกด้วย

เป็นเพราะว่าอากาศด้านนอกร้อนเกินไป ก็เลยจัดสรรเวลาพักผ่อนให้พวกเขาได้พักถึงสองชั่วโมง ตอนบ่ายก็เข้าบริษัทไปเรียนรู้รูปแบบงานต่อ

วิ่งไปทั้งตลอดช่วงบ่าย หร่วนซือซือเหงื่อออกท่วมตัว คิดเพียงแค่ว่าจะต้องรีบกลับเข้าที่พักเพื่อจัดการอาบน้ำอาบท่าและพักผ่อนให้เร็วที่สุด เธอเดินมาถึงหน้าประตูห้องของตนเอง ก่อนจะอดไม่ได้ที่จะสบมองที่ตรงทางเลี้ยวของโถงทางเดินโดยอัตโนมัติ

หากเดินผ่านทางเลี้ยวนั่นไป ประตูห้องแรกก็จะเป็นห้องพักของอวี้อี่มั่ว

เมื่อลังเลได้อยู่ประมาณสองวินาที เธอหยิบคีย์การ์ดขึ้นมา ก่อนจะเปิดประตูแล้วเข้าไป

เมื่ออาบน้ำอาบท่าเสร็จสรรพ เธอแปรเปลี่ยนไปสวมใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นสบายๆ เดิมทีกะว่าจะพักผ่อนเสียหน่อย แต่ทว่ากลับนึกได้ว่าเธอยังไม่ได้ติดต่อสอบถามถึงช่องทางการติดต่อของหัวหน้าแผนกเฝิงเลย ทันใดนั้นเองกลับไม่มีอารมณ์ที่จะหลับต่อไปเสียแล้ว

หากรีบสอบถามถึงช่องทางการติดต่อขึ้นมาก่อนเสียหน่อย ก็สามารถให้ศาสตราจารย์หร่วนกับคุณนายหลิวติดต่อกับหัวหน้าแผนกเฝิง วางแผนจัดการเวลาผ่าตัดพร้อมกับแผนการผ่าตัด แผนการที่แต่เดิมเธอได้จัดการสอบถามเอาไว้เรียบร้อยแล้วก่อนที่จะเดินทางมาที่ประเทศไทย แต่ทว่าใครจะรู้ล่ะว่าแผนการจะถูกปรับเปลี่ยน

ตอนนี้เผอิญว่าอวี้อี่มั่วก็มาที่ประเทศไทยพอดี เธอก็เลยจะถือโอกาสนี้ไปสอบถามเขาเสียหน่อย

แต่ทว่าเมื่อคิดได้ว่าเมื่อคืนวานระหว่างพวกเขาทั้งสองคนเกิดเรื่องไม่สบอารมณ์ขึ้น หร่วนซือซือเหมือนกับลูกโป่งแห้งแฟบที่ไม่มีลม ความกล้าหาญมลายหายไปหมดแล้ว

ก็อวี้อี่มั่วพูดมาแล้วว่าจะคิดบัญชีกับเธอ ในเวลาแบบนี้เธอจะกล้าส่งตัวเองไปให้เขาเอาคืนได้อย่างไรล่ะ?

เธอพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียง นอนอย่างไรก็นอนไม่หลับ คิดไปคิดมา ก่อนจะทำได้เพียงพลิกตัวลงจากเตียง แล้วรวบรวมความกล้าไปถามเขาให้ชัดเจนอีกครั้ง

ถ้าหากว่าไม่ถามตอนนี้ รอให้กลับประเทศไปเธอก็ต้องหาโอกาสไปสอบถามอยู่ดี เมื่อถึงเวลานั้นก็จะเปลืองเวลาเข้าไปกันใหญ่ แทนที่จะถือโอกาสนี้แล้วแวะเข้าไปสอบถามยังจะดีกว่าอีก

เธอกัดฟันไปมาแน่น กำลังจะออกจากห้องไป ทว่าสายตาดันไปปะทะเข้ากับผลไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะก่อน เป็นในระว่างทางที่กลับมาของวันนี้เอง พวกเพื่อนๆร่วมงานลงไปซื้อผลไม้ที่แผงลอยข้างถนน

จะไม่พูดก็ไม่ได้ แผงลอยผลไม้ของประเทศไทยนั้นทั้งถูกและดีมากจริงๆ มีหลากหลายชนิด อีกทั้งยังหวานฉ่ำมาก ตอนนั้นทุกคนซื้อกลับมานิดหน่อย เธอก็ซื้อกลับมารับประทานด้วย

คิดไม่ถึงว่า ตอนนี้จำเป็นที่จะต้องใช้มันแล้วล่ะ

เธอตื่นเต้นดีใจ ก่อนจะรีบนำผลไม้ไปล้างให้สะอาด ก่อนจะหั่นเป็นชิ้นเล็กขนาดพอดีคำให้รับประทานได้ง่ายๆ มังคุด ทุเรียน อโวคาโด อีกทั้งยังมีสัปปะรดชิ้นเล็ก จัดเรียงจนเต็มถ้วยขนาดเล็ก รูปร่างสดใหม่น่ารับประทาน ดูท่าแล้วก็ไม่เลวเลยทีเดียว

ในเมื่อไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ยังไงๆก็ต้องจริงใจหน่อย

เมื่อทั้งหมดถูกจัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว หร่วนซือซือเดิมทีรู้สึกใจฝ่อขึ้นมาเล็กน้อย เธอหยิบคีย์การ์ดขึ้นมา นำถ้วยเล็กไปด้วย ออกจากห้องก่อนจะตรงไปที่ห้องพักของอวี้อี่มั่ว

เมื่อเดินมาถึงประตูแล้ว เธอยกมือขึ้นเคาะไปที่ประตูสองสามครั้ง

รอไปได้อยู่ครู่หนึ่ง กลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบรับกลับมา

หรือว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในห้องกันนะ?

หร่วนซือซือลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในตอนที่กำลังจะหมุนตัวจากไปนั้นเอง ใครจะรู้ล่ะว่าจะมีเสียงประตูดัง "แกร๊ก" ขึ้น แล้วถูกคนเปิดออก

หร่วนซือซือรีบหันกลับไปทันที ก่อนจะเห็นร่างของชายหนุ่มในชุดคลุมอาบน้ำ เส้นผมเปียกชื้น ดูท่าราวกลับว่าพึ่งจะอาบน้ำเสร็จหมาดๆ

ที่มากไปกว่านั้นก็คือ ต้นคอพร้อมกับหน้าอกเปลือยเปล่าของเขาเผยให้เห็นเส้นและกล้ามเนื้อทั้งหมด มีหยาดน้ำใสราวกับไข่มุกกลิ้งตกลงมาตามเส้นหน้าท้องนั่น……

อวี้อี่มั่วสบมองหญิงสาวที่ชะงักนิ่งไปที่กำลังยืนอยู่ที่เดิม สายตาสบมองผลไม้ที่ถูกจัดแต่งมาอย่างดีในมือเธอ ก่อนที่นัยน์ตาทั้งสองข้างจะฉายแววระหลาดใจออกมาให้เห็นไวๆ

เธอมาทำอะไรน่ะ? ขอบคุณ? หรือว่าขอให้ยกโทษให้?

เขายืนค้างอยู่หน้าประตู สบมองเธอจากระดับที่สูงกว่าทางด้านบน ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า "มีอะไรงั้นหรือ?"

หร่วนซือซือกุลีกุจอกักเก็บสายตากลับไป อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ความคิดตีกันจนยุ่งเหยิงเล็กน้อย "คือว่า……ฉันมาส่งผลไม้ให้ค่ะ…"

อวี้อี่มั่วแทบจะคิดว่ามันดูตลกดี สีหน้าบนใบหน้ากลับไม่แสดงความเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก เขาผละตัวออกไป ก่อนจะทิ้งประโยคไปว่า "เข้ามาส่งสิ"

เมื่อสบมองแผ่นหลังของชายหนุ่มแล้ว หร่วนซือซือคล้ายกับว่าถูกหน้าเย็นฉ่ำสาดเข้ามาทันที ทันใดนั้นเองถึงรู้สึกตัวขึ้นมา

เธอมาส่งผลไม้ให้ แต่ทว่าเขาเหมือนกับเทพบุตรบนสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน ทั้งเยือกเย็นทั้งดึงดู แถมยังกล้าที่จะให้เธอเข้าไปส่งที่ด้านในอีกงั้นหรือ?

แต่ทว่าเมื่อหวนนึกขึ้นได้ว่าจุดมุ่งหมายที่ตนเองมาหาเขาทำไม หร่วนซือซือกลับรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรให้มากความนัก ก่อนจะรีบถือถ้วยแล้วเดินเข้าไปด้านในทันที

อวี้อี่มั่วนั่งวางมาดอยู่บนโซฟา ก่อนจะหยิบวิสกี้ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาเทน้ำแข็งใส่ ส่งมันไปที่ริมฝีปากที่ปิดสนิทดื่มหนึ่งอึก ก่อนจะเบนสายตากลับไปสบมองเธอ "มีเรื่องอะไร?"

เธอมาหาแบบนี้ ไม่เพียงแค่จะมาส่งผลไม้ง่ายๆแบบนี้แน่ๆ

หร่วนซือซือฉีกยิ้มเกร็งออกหนึ่งครั้ง ก่อนจะนำถ้วยเล็กในมือวางลงบนโต๊ะ ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นว่า "นี่คือผลไม้ที่ซื้อมาจากร้านแผงลอยเมื่อตอนเที่ยงค่ะ สดมากๆ แล้วก็ยังหวานมากอีกด้วย ฉันซื้อมาเยอะมาก ก็เลยนำมาให้คุณส่วนหนึ่งค่ะ"

อวี้อี่มั่วช้อนสายตาขึ้น ราวกลับว่ามองทะลุเข้าไปในใจเธอได้ก็ไม่ปาน "แล้ว?"

ถูกเขาถามขนาดนี้ หร่วนซือซือก็ไม่อาจตบตาต่อไปได้อีก ก่อนจะถือโอกาสเอ่ยขึ้นมาว่า "ฉันมา..จริงๆแล้วยังมีอีกเรื่องหนึ่งค่ะ ครั้งก่อนที่คุณช่วยคุณพ่อฉันติดต่อหัวหน้าแผนกเฝิงที่โรงพยาบาลหลักน่ะค่ะ ฉันอยากได้ช่องทางการติดต่อของเขาค่ะ จะสอบถามเกี่ยวกับแผนการผ่าตัดเสียหน่อย"

เมื่อฟังเธอพูดมาดังนั้นแล้ว อวี้อี่มั่วก็เข้าใจได้ในทันที

ยายผู้หญิงคนนี้ หากว่าไม่มีเรื่องที่จะต้องร้องขอความช่วยเหลือจากเขาเข้า ก็คงจะไม่มาออดอ้อนเอาใจด้วยตัวเองแบบนี้สินะ?

Options

not work with dark mode
Reset