ดั่งรักบันดาล 155

ตอนที่ 155

หร่วนซือซือยืนอยู่ข้างๆ มองบทสนทนาแปลกๆของทั้งสองคน ในใจก็ยิ่งเกิดความอยากรู้

ต่อให้อวี้อี่มั่วกับอวี้กู้เป่ยสองคนนี้ไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ แต่ไม่ว่ายังไง ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็ไม่ควรจะเป็นแบบตอนนี้ที่เจอหน้ากันทีไรเป็นต้องมีสายตาเย็นชาใส่กันทุกที

สายตาของอวี้อี่มั่วอึมครึม มองด้วยความเยือกเย็น ตอบไม่ตรงคำถาม “อวี้กู้เป่ย นายอยู่ตรงหน้าฉันไม่จำเป็นต้องเสแสร้งหรอกนะ”

พอพูดประโยคนี้ออกไป เขาก็ไม่ลังเลอีก หมุนร่างเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ตู้เยี่ยมองซ่งอวิ้นอันที่อยู่ข้างๆ แล้วเดินตามไปอย่างเงียบๆ

หร่วนซือซือมองอวี้กู้เป่ยที่นั่งอยู่บนรถเข็น แล้วยิ้มให้เขาอย่างรู้สึกผิด หลังจากนั้นก็ดึงซ่งอวิ้นอันที่ใบหน้ากำลังมึนงงหมุนร่างเดินตามออกไป

หลังจากที่เดินไปไม่กี่ก้าว ซ่งอวิ้นอันถึงจะพึ่งรู้สึกตัว มองไปทางหร่วนซือซือแล้วพูดด้วยความอยากรู้ กดเสียงต่ำแล้วถาม “ซือซือ คนเมื่อกี้คือน้องชายของอวี้อี่มั่วเหรอ?”

หร่วนซือซือพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรออกไป

“โห!” ซ่งอวิ้นอันถอนหายใจออกมา “น้องชายคนที่นั่งบนรถเข็นอ่อนโยนมากเลยอะ หน้าตาก็หล่อมาก!แถมยังช่วยกู้หน้าให้พวกเราอีก เป็นคนดีคนหนึ่งเลยนะเนี่ย!ทำไมอวี้อี่มั่วถึงทำแบบนั้นกับเขาล่ะ?”

หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดเสียงเบา “เรื่องของตระกูลอวี้ฉันก็ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ อันอัน อีกเดี๋ยวตอนที่อยู่ต่อหน้าอวี้อี่มั่ว เธออย่าพูดมั่วซั่วล่ะ”

เธอเคยผ่านมาเธอรู้ดี อวี้อี่มั่วไม่อยากที่จะพูดถึงเรื่องของน้องชายคนนี้สักเทาไหร่ ถ้าอันอันพูดขึ้นมาโดยไม่ได้คำนึงถึงความเป็นความตายล่ะก็ ไม่แน่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

พอออกมาจากเวสเกอร์ บรรยากาศถึงจะนับได้ว่าไม่มีความกังวลแล้ว ซ่งอวิ้นอันถอนหายใจออกมา อดไม่ได้ที่จะพูด “คิดไม่ถึง ว่าวันนี้จะตกอยู่ในกำมือของซ่งฉี!เห้อ คิดแล้วก็โมโห”

“มันผ่านไปหมดแล้ว ไม่ต้องไปคิดแล้ว” หร่วนซือซือตบเบาๆที่หลังซ่งอวิ้นอันเพื่อปลอบใจ

เธอเงยหน้าขึ้น เห็นว่าอวี้อี่มั่วกับตู้เยี่ยเดินอยู่ข้างหน้าไม่ไกลมากนัก จู่ๆก็คิดอะไรออก

“จริงสิอันอัน เธอสนิทกับตู้เยี่ยมากเหรอ?”

ครั้งที่แล้วตอนที่เธอถูกสวี่เฟิงหมิงกับประธานคนอื่นๆล้อมไว้ในห้องน้ำของห้องอาหาร ก็เป็นซ่งอวิ้นอันนี่แหละที่พาตู้เยี่ยมาช่วยไว้ ครั้งที่แล้วลืมถามไปเลย คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้เธอก็เรียกตู้เยี่ยมาอีก แถมยังพาอวี้อี่มั่วมาด้วย

ซ่งอวิ้นอันที่จู่ๆก็ถูกถามแบบนี้ สีหน้าก็แปลกไป เธอรีบปฏิเสธ “ไม่สนิท ฉันกับเขาเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งเอง!”

หร่วนซือซือยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ “เจอกันไม่กี่ครั้ง? หรือว่าพวกเธอเจอกันเป็นการส่วนตัวด้วยเหรอ?”

ตอนที่เธอไล่ถามนั้น แก้มของซ่งอวิ้นอันทั้งสองข้างก็แดงก่ำขึ้นมา การพูดก็ติดๆขัดๆ ทำให้คนมองอดไม่ได้ที่จะจินตนาการไปไกล

“เจอกันที่ไหน? ไม่มีสักหน่อย ซือซือเธออย่าคิดมั่วๆสิ!”

มองเพื่อนสนิทที่ปกติไม่สนใจอะไรตอนนี้กลับหน้าแดง หร่วนซือซือก็อดไม่ได้ที่จะอยากขำ เมื่อครู่เธอพบว่าระหว่างซ่งอวิ้นอันกับตู้เยี่ยมันมีอะไรที่ค่อนข้างอธิบายยาก คิดไม่ถึงว่ามันคือเรื่องจริง

“พอแล้วๆ ฉันไม่พูดแล้วไม่ได้เหรอ?”

หร่วนซือซือหัวเราะแล้วลากเธอเดินไปข้างหน้า พอเงยหน้าก็เห็นว่าอวี้อี่มั่วกำลังยืนรอพวกเขาอยู่ที่ข้างๆรถ

เธอรีบเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า มองตู้เยี่ยแล้วเดินไป

ตู้เยี่ยเดินมาข้างๆซ่งอวิ้นอัน แล้วพูดเสียงเบา “ผมไปส่งคุณที่บ้านนะ”

ซ่งอวิ้นอันมองตาขวาง ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “ไม่ต้อง ฉันไปกับซือซือ”

พอเธอพูดจบ เงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าอวี้อี่มั่วที่ยืนอยู่ไม่ไกลกำลังจ้องมาทางนี้ จู่ๆเธอก็เข้าใจขึ้นมา เธอรีบหันหน้าไปมองทางหร่วนซือซือ “ซือซือ เธอคงไม่ได้ไปกับเขาใช่ไหม?”

ทำซะเหมือนเธอเป็นก้างขวางคอ

หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆ มองไปทางซ่งอวิ้นอัน แล้วพูดเสียงเบา “อันอัน เธอให้ตู้เยี่ยไปส่งเธอเถอะ เมื่อกี้เธอดื่มเหล้านี่ ยังไงก็ขับรถไม่ได้อยู่แล้ว”

พอพูดแบบนี้ ซ่งอวิ้นอันถึงจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองดื่มเหล้าไป เธอกวาดสายตามองตู้เยี่ยที่อยู่ข้างๆ แล้วตอบรับด้วยความแค้นใจ “ก็ได้”

พอมองทั้งสองคนซ่งอวิ้นอันกับตู้เยี่ยจากไป หร่วนซือซือก็ถอนหายใจออกมา แล้วเดินไปทางอวี้อี่มั่ว

เธอรู้ดี เขาให้ตู้เยี่ยไปส่งซ่งอวิ้นอันแล้วเหลือเธอไว้ คงจะมีเรื่องคุยกับเธอเป็นแน่

ตอนที่เดินมาถึงข้างรถ อวี้อี่มั่วได้ขึ้นรถไปแล้ว หร่วนซือซือกัดฟันแล้วขึ้นตามไป

พอปิดประตูรถ ได้ตัดขาดจากโลกภายนอก ภายในรถก็เงียบจนน่ากลัว เงียบซะจนหร่วนซือซือเกือบจะได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้น

อวี้อี่มั่วไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาสตาร์ทรถอย่างรวดเร็ว แล้ววางเบรกมือลง

เขาขับเร็วมาก ไม่ได้ใช้เวลานานมากเท่าไหร่ ก็มาถึงประตูหน้าหมู่บ้านคอนโดของหร่วนซือซือ

ระหว่างทาง ทั้งสองคนไม่มีใครพูดอะไรออกมา บรรยากาศทั้งอึดอัดทั้งแปลกประหลาด

ทรมานมาตลอดทาง ไม่ง่ายกว่าจะถึงหน้าหมู่บ้าน หร่วนซือซือถอนหายใจในใจ แล้วรีบพูดออกมา “ส่งที่ประตูก็พอ เรื่องวันนี้ สร้างความลำบากให้คุณแล้ว ขอโทษด้วยนะ”

เธอพูดจบ ก็ยื่นมือออกไปเปิดประตู ใครจะไปรู้จังหวะที่มือแตะกับประตูรถนั้น มือซ้ายก็ถูกเขากดไว้

พอเธอหันหน้ากลับมา ก็เจอกับสายตาคู่นั้นของอวี้อี่มั่วที่ลึกลงไป หวาดผวาอย่างอดไม่ได้

ริมฝีปากที่บางของเขาเริ่มพูด “หร่วนซือซือ อย่างน้อยก็ควรจะขอโทษจากใจจริงหน่อยสิ”

ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าบนตัวหร่วนซือซือคงพรุนไปแล้ว

เธอสามารถรับรู้ถึงความอึดอัดใจและความโกรธเบาๆของอวี้อี่มั่วได้ แต่ไม่รู้ว่าจะรับมือยังไง ยิ่งไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงโกรธ

เพราะตัวเธอเอง? หรือว่าเพราะอวี้กู้เป่ย? หรือทั้งสอง? เธอมองไม่ออก

หร่วนซือซือกัดริมฝีปาก สูดหายใจแล้วถาม “งั้นคุณจะเอายังไงถึงจะหายโกรธ?”

มือของอวี้อี่มั่วที่จับข้อมือของเธอจู่ๆก็จับแน่นขึ้น ตาที่เป็นประกายทั้งสองข้างจ้องเธอ

“คุณรู้ว่าผมโกรธ?”

หร่วนซือซือมองตาเขาที่มีเปลวไฟ แล้วพยักหน้า

อวี้อี่มั่วเม้มริมฝีปากแน่น แล้วพูดเสียงขรึม “งั้นคุณลองบอกมาหน่อย ว่าทำไมผมถึงโกรธ?”

หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆ เพิ่มความกล้าให้ตัวเองแล้วพูด “เพราะฉันสร้างความลำบากให้คุณ……แถมยังเจอกับอวี้กู้เป่ยด้วย”

พอเขาได้ยิน สีหน้าก็เห็นว่าอึมครึมขึ้น

สาเหตุที่เขาโกรธส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะอวี้กู้เป่ยจริงๆ แต่อีกส่วนหนึ่งที่มากไปกว่านั้นก็เพราะเธอ โกรธที่เธอใจกล้าถึงขนาดกล้าไปสถานที่อย่างเวสเกอร์นั่น โกรธที่เธอแต่งตัวล่อแหลมอย่างชุดกระโปรงตัวนี้ที่เผยให้เห็นหน้าอกเผยให้เห็นต้นขาแล้วเดินไปทั่ว โกรธที่เธอก่อนจะไปยังคิดจะไปเป็นห่วงผู้ชายคนอื่นอีก!

เขาขมวดคิ้ว จ้องดวงตาคู่นั้นของเธอที่กลมโตเหมือนไม่มีความผิด แล้วสบถออกมา “ยัยบื้อ!”

หร่วนซือซือที่ถูกด่าอย่างไม่มีสาเหตุ โกรธขึ้นมาเล็กน้อย “ฉันพูดผิดตรงไหน? งั้นคุณบอกมาสิ ทำไมคุณถึงโกรธ?”

จู่ๆก็ถูกคนยั่วยุ ความโกรธในใจอวี้อี่มั่วก็ยิ่งเพิ่มขึ้น คิดไม่ถึง แมวป่าก็ยังคงเป็นแมวป่า กรงเล็บที่แหลมคมโผล่ออกมาแล้ว!

ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ พอเธอโกรธ ก็มักจะเงยคางขึ้นสูง เผยให้เห็นต้นคอที่ขาวเนียน และก็เผยให้เห็นเส้นโค้งที่ด้านหน้าหน้าอกเธอเช่นกัน มันกระเพื่อมตามจังหวะการหายใจของเธอ

ในใจอวี้อี่มั่วหวั่นไหว เขารับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่กำลังเพิ่มขึ้นในร่างกายเขา ถึงขนาดลำคอก็ยังอึดอัดไปด้วย

เขารู้สึกยังไง หลังจากที่เจอกับเธอ ความสามารถในการควบคุมตัวเองยิ่งนับวันก็ยิ่งแย่ ยิ่งไปกว่านั้นกลับมีปฏิกิริยาเอาตอนนี้!

มองสายตาของเธอที่ดื้นรั้น อวี้อี่มั่วก็ขมวดคิ้ว ปล่อยข้อมือของเธอ แล้วหันหน้ากลับไป ขับรถออกไปจากหมู่บ้าน

หร่วนซือซือนิ่งอึ้งไป รีบพูดออกมา “คุณจะทำอะไร?”

หรือว่าจะไปยึดพื้นที่กินและนอนที่คอนโดเล็กของเธอ?

เธอมองอวี้อี่มั่วที่ไม่คิดจะหยุดรถ ขับตรงไปทางตึกที่เธออยู่ ในใจก็ยิ่งกระสับกระส่าย

“อวี้อี่มั่ว คุณคิดจะทำอะไรกันแน่……”

อวี้อี่มั่วไม่ได้พูดอะไร ขับรถมาที่ชั้นล่าง จอดรถ แล้วหันหน้ามาหาเธอ

เขาค่อยๆเข้ามาใกล้เธอ ระยะห่างของทั้งสองคนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สายตาลุ่มลึกของเขา เสียงที่เย็นชามีความเผด็จการปนอยู่ด้วย “หร่วนซือซือ คุณว่าผมจะทำอะไร?”

เขาคิดจะทำอะไร เธอยังไม่รู้อีกงั้นเหรอ?

Options

not work with dark mode
Reset