ดั่งรักบันดาล 124

ตอนที่ 124

รถของซ่งอวิ้นอันยังคงจอดอยู่ที่ประตูใหญ่หน้าหมู่บ้าน เหมือนกับว่าไม่คิดจะออกจากที่นี่

ตู้เยี่ยนั่งอยู่ที่เบาะหลัง แอบสังเกตสีหน้าของซ่งอวิ้นอันอย่างเงียบๆ เก็บความรู้สึกเอาไว้อยู่นาน แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถาม “คุณเป็นอะไรไป?”

ซ่งอวิ้นอันหน้านิ่วคิ้วขมวด พอถูกเขาถามแบบนี้ สีหน้าเธอก็หน้านิ่วคิ้วขมวดเข้าไปอีก เธอยกกำปั้นขึ้นมาอย่างโกรธเคือง ทุบไปที่พวงมาลัยอย่างแรง ใครจะไปรู้ว่ากำปั้นนั้นตรงไปโดนที่แตรรถเข้าอย่างจัง

ซ่งอวิ้นอันสบถคำด่าออกมา กดเบรกมือลงด้วยความใจร้อน เตรียมที่จะออกรถ

“เดี๋ยวก่อน!”

ตู้เยี่ยจู่ๆก็พูดออกมา หลังจากนั้นก็ผลักประตูลงรถไป เดินอ้อมมาที่หน้าประตูคนขับ

เขายื่นมือออกมาดึงประตูรถ เอียงศีรษะมองซ่งอวิ้นอันเล็กน้อย “คุณลงมา ผมขับเอง”

“ทำไมอะ?”

ตู้เยี่ยขมวดคิ้ว ตอบอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ “ผมกลัวว่าคุณจะระบายความโกรธกับถนน เพื่อความปลอดภัย ให้ผมขับเถอะ”

ซ่งอวิ้นอันได้ยินก็มองบน แต่ก็เชื่อฟังแล้วลงรถมา ขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ

ตู้เยี่ยคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ ก็หันไปมองผู้หญิงข้างๆ “บอกมาสิ จะไปไหน?”

ซ่งอวิ้นอันลังเลอยู่ประมาณสองวินาที หลังจากนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ “ไปบาร์เหล้า!”

ตู้เยี่ยนิ่งไปสักพัก สุดท้ายก็เริ่มออกรถ ขับไปยังถนนบาร์เหล้าในเมือง

พอรถเคลื่อนบนถนน ซ่งอวิ้นอันก็อดใจไม่ไหวหันหน้าไปถามตู้เยี่ย “ฉันรู้สึกว่าซือซือชอบนายอวี้ผู้ชายเลวนั่น!เมื่อกี้พอเธอได้ยินว่าเขากำลังอยู่เป็นเพื่อนผู้หญิงคนอื่นที่โรงพยาบาล ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความผิดหวังอะ!”

ตู้เยี่ยที่อยู่ข้างๆก็ไม่กล้าพูดตรงๆ ยังไงซะคำว่า“ผู้ชายเลว”จากปากของซ่งอวิ้นอันหมายถึงเจ้านายของเขา

ซ่งอวิ้นอันทั้งโกรธทั้งโมโห อดไม่ได้ที่จะแขวะต่อ “อวี้อี่มั่วนั่นก็ชั่วร้ายอำมหิตจริงๆเลย ตอนแรกเข้าหาซือซือของพวกเราด้วยจุดประสงค์บางอย่าง ตอนนี้พอหย่ากันก็ไม่ปล่อยเธอไปอีก นี่มันตรรกะอะไรเนี่ย?”

ตู้เยี่ยนั่งอยู่ด้านข้าง ฟังเธอแขวะแต่ละอย่างมาตลอดทาง ก็ยิ่งไม่กล้าพูดอะไรต่อสักประโยค

มาถึงถนนบาร์เหล้า ตู้เยี่ยก็หาที่จอดรถเพื่อเอารถจอด

ซ่งอวิ้นอันผลักประตูลงจากรถ แล้วรับกุญแจที่เขาส่งมา เชิดคางไปที่เขา “คุณกลับบ้านเองนะ ฉันอารมณ์ไม่ดี คงไม่ไปส่งคุณ”

พูดจบ เธอก็โบกมือให้เขา แล้วหันหลังหมุนร่างเดินไปยังบาร์เหล้า

ตู้เยี่ยมองแผ่นหลังที่เดินไปอย่างผ่าเผยของเธอก็ขมวดคิ้ว เอ่ยปากเรียกเธอ “เดี๋ยวก่อน!”

ตอนนี้เวลาก็ไม่เช้าแล้ว เขาจะมองเธอเดินเข้าไปในบาร์เหล้าคนเดียวตาปริบๆได้ยังไง?

ซ่งอวิ้นอันหยุดเดินลง แล้วหันหน้ามามองเขา เลิกคิ้วถาม “ทำไม? คุณจะดื่มเป็นเพื่อนฉันเหรอ?”

ตู้เยี่ยลังเลอยู่สักพัก ก็เดินหน้าไปยังเธอ “งั้นผม…ดื่มเป็นเพื่อนคุณสักสองสามแก้วแล้วกัน”

สายตาของซ่งอวิ้นอันเผยให้เห็นความแปลกใจและดีใจพร้อมกันอยู่แวบหนึ่ง แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ เธอยกมือไปตบบนไหล่เขาเบาๆ “ได้ ฉันเลี้ยงเอง!”

เมื่อกี้พอเห็นท่าทางของหร่วนซือซือ ในใจเธอก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไร เธอรู้สึกอัดอั้น อยากจะดื่มสักสองแก้ว ในเมื่อตู้เยี่ยดื่มเป็นเพื่อนเธอ เธอก็ไม่ได้จะแย้งอะไร

พอมาถึงเคาน์เตอร์บาร์ในบาร์เหล้า ซ่งอวิ้นอันก็ไม่พูดอะไร พุ่งเข้าไปที่หนุ่มบาร์เทนเดอร์สั่งตามนิ้วที่ชี้ “มาร์ตินี่สองแก้ว!”

หนุ่มบาร์เทนเดอร์ยิ้มให้เธอ แล้วรีบเริ่มลงมือปรุงผสม

ซ่งอวิ้นอันหันหน้ามามองตู้เยี่ยที่อยู่ข้างๆ แล้วเอ่ยปากถาม “คุณดื่มอะไร?”

ตู้เยี่ยนิ่งสักพัก “เมื่อกี้คุณไม่ได้สั่งไปสองแก้วแล้วเหรอ?”

เขาได้ยินว่าเธอสั่งมาร์ตินี่สองแก้วอย่างชัดเจน

ซ่งอวิ้นอันได้ยินก็เลิกคิ้ว แล้วยิ้มมุมปาก “เวลาฉันดื่มเหล้า ฉันจะดื่มเป็นแพคคู่ตลอด”

แสงไฟในความมืดส่องลงมา หางตาที่งอนของเธอตามด้วยท่าทางเลิกคิ้วนั่นทำให้ผู้คนหลงใหลได้มาก สายตาระยิบระยับ ดึงดูดผู้คนเป็นพิเศษ

ในใจตู้เยี่ยติดๆขัดๆ รู้สึกว่าแม้แต่หายใจก็ยังหายใจไม่ทัน เขาเลื่อนสายตาออกอย่างลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย กระแอมเสร็จ ก็สั่งวิสกี้หนึ่งแก้ว

พอซ่งอวิ้นอันได้เหล้ามา ก็ยกแก้วขึ้นมาดื่มอึกหนึ่ง รู้สึกว่ารสชาติไม่เลวเลย ก็เลยเงยหน้าดื่มลงไปครึ่งแก้วน่าจะได้

ตู้เยี่ยนิ่งอึ้งไป เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ดื่มเหล้าเหมือนกับดื่มน้ำเปล่าแบบนี้มาก่อน ขนาดตายังไม่ทันได้กะพริบเลย

สายตามองไปแก้วที่สองของเธอที่ใกล้จะเห็นก้นแก้ว เขาอดไม่ได้ที่จะพูดเตือน “คุณซ่ง ดื่มน้อยๆหน่อย”

ซ่งอวิ้นอันได้ยินคำเรียกอย่างนี้ ก็ขมวดคิ้ว “ตู้เยี่ย คุณอย่าเรียกทื่อๆแบบนี้จะได้ไหม? คุณซ่งนี่คุณซ่งนั่น ฟังแล้วฉันปวดใจจริงๆ เรียกชื่อฉันเถอะ ซ่ง อวิ้น อัน”

ตู้เยี่ยได้ยิน ก็มองหน้าด้านข้างของเธอ ในใจรู้สึกทำตัวไม่ถูกอย่างแปลกๆ

จู่ๆซ่งอวิ้นอันก็หันหน้ากลับมา ถามเขาด้วยท่าทางจริงจัง “ตู้เยี่ย ฉันถามคุณหน่อย ทำไมคุณต้องไปเป็นลูกน้องของผู้ชายเลวคนนั้น?”

ตู้เยี่ยคิดไม่ถึงว่าอ้อมไปอ้อมมา หัวข้อสนทนาก็ยังอ้อมมาที่ประธานของเขาอีก อดไม่ได้ที่จะเจ็บใจเล็กน้อย

“ที่จริงประธานอวี้ไม่ใช่ในแบบที่พวกคุณเห็นภายนอกหรอก เขามีความรับผิดชอบมาก ส่วนกับหร่วนซือซือนั้น เขารู้สึกผิดมาก เลยอยากจะชดใช้”

“ชดใช้?” ครั้งที่แล้วซ่งอวิ้นอันได้ยินเรื่องตลกมาแล้ว เธอกระตุกมุมปากขึ้น “เก็บคนไว้ข้างกายตัวเองนับว่าชดใช้แล้วเหรอ?”

เธอหัวเราะเยาะแล้วตอบคำถามของตัวเอง “ตลกสิ้นดี!”

ตู้เยี่ยรู้ดีว่าเวลานี้ไม่ว่าเขาจะพูดยังไง ซ่งอวิ้นอันก็ไม่ยอมฟังหรอก เขาก็เลยเลือกที่จะไม่พูดอีก

เหล้าลงไปในท้องแก้วแล้วแก้วเล่า ซ่งอวิ้นอันก็เริ่มเมาอย่างไม่รู้ตัว เธอดึงตู้เยี่ยแล้วเล่นเกมสนุกๆกับเขา เธอกวนอยู่พักใหญ่ เหล้าก็ดื่มหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่ไป

เวลาก็นานพอสมควรแล้ว ตู้เยี่ยมองซ่งอวิ้นอันที่เมาจนไม่เหลือความเป็นคน รู้ว่าถ้ารั้งอยู่ต่อไปก็ไม่ใช่วิธี เลยทำได้แค่คิดเงิน แล้วพยุงเธอเดินออกจากบาร์เหล้า

พวกเขาสองคนต่างก็ดื่มเหล้าทั้งคู่ ไม่สามารถขับรถได้ ตู้เยี่ยก็เลยเรียกคนให้มาขับรถแทน

เขามองผู้หญิงที่กำลังพิงที่ไหล่ของเขา แก้มแดง ปากก็พูดพึมพำไม่หยุด ตู้เยี่ยยิ้มขึ้นมาแล้วถาม “ซ่งอวิ้นอัน บ้านคุณอยู่ที่ไหน? ผมจะไปส่ง”

ได้ยินเสียง ซ่งอวิ้นอันก็ขมวดคิ้ว ตาทั้งสองข้างลืมตาขึ้นอย่างเลอะเลือน “คุณ……จะหลอกถามที่อยู่บ้านฉันล่ะสิ? ไม่บอกคุณหรอก……”

ตู้เยี่ยทั้งโมโหทั้งยิ้ม “ไม่บอกผมแล้วผมจะไปส่งคุณได้ยังไง?”

“ฉันไม่กลับ……กลับไปก็ต้องถูกนายท่านบังคับให้ไปดูตัวอีก!”

ซ่งอวิ้นอันโบกมือ หันหน้าไปเพื่อจะเดินไปอีกฝั่ง

เท้าของเธอยืนไม่มั่นคง ถ้าไม่มีตู้เยี่ยพยุงไว้ เธอก็คงเกือบล้มพับลงไปแล้ว

ตู้เยี่ยรีบยื่นมือออกมา ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด “คุณระวังหน่อย!”

ซ่งอวิ้นอันเงยหน้า มองสีหน้าของผู้ชายคนนี้ที่ร้อนรน เธอหัวเราะคิกคักออกมา จู่ๆก็ยื่นมือขึ้นไปคล้องคอของเขาไว้ ก่อนที่จะเขย่งปลายเท้าจูบไปที่ริมฝีปากของเขา

ทันใดนั้น ตู้เยี่ยราวกับถูกจับจุด ร่างกายยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ในสมองว่างเปล่า

จูบนั่นจูบมาอย่างเนิบๆ แล้วก็จากไปอย่างเนิบๆอีก พัดผ่านไปราวกับความฝัน

หัวใจของตู้เยี่ยเต้นอย่างบ้าคลั่ง แก้มและหูของเขาจู่ๆก็ร้อนขึ้นมา เขายืนนิ่งอยู่พักใหญ่ ถึงจะค่อยๆฟื้นสติกลับมา

เขาก้มหน้ามองซ่งอวิ้นอันที่พิงอยู่ตรงกลางอกเขา เหมือนกับหลับสนิทไปแล้ว

ตู้เยี่ยรู้สึกเหมือนว่าตัวเองพึ่งผ่านมรสุมพายุฝนมา แบกรับทุกอย่างที่กระหน่ำซัดมาด้วยตัวคนเดียว และคนที่อยู่ในอ้อมกอด กลับไม่รู้เลยว่าตัวเองคือผู้ริเริ่มพายุฝนนั่น

ไม่นาน คนที่จะมาขับรถแทนก็มาถึง ตู้เยี่ยมองซ่งอวิ้นอันที่หลับสนิทไปแล้ว กระตุกมุมปากอย่างช่วยไม่ได้ แล้วพยุงเธอขึ้นรถ “โชเฟอร์ รบกวนไปส่งพวกเราที่โรงแรมซีหย่าซือทีครับ”

ในสถานการณ์แบบนี้ เขาคงทำได้แค่พาเธอไปพักที่โรงแรมก่อน

พอมาถึงโรงแรม เขาเปิดห้องหนึ่งห้อง ส่งซ่งอวิ้นอันที่ห้อง อุ้มเธอไปไว้บนเตียง แล้วยังช่วยห่มผ้าให้เธอดีๆอีกด้วย

ก่อนที่จะไป เขายืนอยู่ข้างๆเตียง มองคนที่อยู่บนเตียงแล้วแอบหวัง

หวังว่าพรุ่งนี้พอเธอตื่นขึ้นมา เธอจะจำอะไรไม่ได้

Options

not work with dark mode
Reset