ซ่างเย่ 20 จิ้นไม่กลัว

ตอนที่ 20 จิ้นไม่กลัว

ฮูหยินรองหลิ่วซื่อที่ยืนสังเกตการณ์อยู่หน้าประตู กระจิบปากพูดออกมา "อ้ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"

"เจ้ามาที่นี่ทำไม?" ซุนซื่อถามด้วยน้ำเสียงกัดกรอด

เสียงดังโวยวายขนาดนี้ คิดหรือว่าไม่มีตามอง?

"พี่คะ นี่พี่กำลังทะเลาะกับสะใภ้ห้าหรือคะ?" หลิ่วซื่อทำหน้าประหลาดใจ "อยู่เรือนเดียวกัน ทำไมต้องมาทะเลาะกันถึงเพียงนี้?"

ซุนซื่อโกรธจัดพร้อมกล่าวออกมา "เจ้าอย่ามาทำหน้าซื่อใจคด อย่าคิดว่าฉันไม่รู้…"

"หุบปากให้หมดทุกคน!" ฟู่เจิ้งไป่เดินทำหน้าหน้าเคร่งเครียดเข้ามา

ใบหน้าที่เข้มขึมดุดัน ทำให้ทุกคนต่างพากันตกใจกลัว

"ท่านพี่!" ซุนซื่อตื่นตระหนก "ข้ากำลังสั่งสอนนังเด็กนั่นให้รู้จักกฏระเบียบ!"

"สอนกฏระเบียบยังไงถึงเป็นเช่นนี้ ข้าวของล้มคว่ำกระจัดกระจายไปทั่ว ถ้ายังจะสอนต่อไปอีกคงจะไม่เหลือ" หลิ่วซื่อถอนถอนใจเบา ๆ

ปราดสายตามาดูแต่ละคน ถือดาบราวกับจะออกรบ นี่มันคือการสอนกฏระเบียบที่ไหน ดูออกว่ากำลังทะเลาะวิวาทกัน

ซุนซื่อเร่งรีบแก้ตัวในทันใด "ท่านพี่ เรื่องราวมันเป็นเช่นนี้ต่างหาก จิ้นเย่วสะดุดล้ม บังเอิญพวกคนใช้เห็นเข้าจึงเขาไปช่วย แต่ไม่ทันระวังเลยเลยพากันล้มไม่เป็นท่าเช่นนี้"

ขณะพูดแก้ตัวอยู่นั้น ซุนซื่อแอบขยิบตามองมายังจิ้นเย่ว

จิ้นเย่วทำเป็นมองไม่เห็น ยืนอยู่กับที่ไม่สนใจใด ๆ

"คุณหญิงห้า เรื่องมันเป็นเช่นนี้หรือ?" หลิ่วซื่อหัวเราะถาม

จิ้นเย่วไม่ใช่คนโง่อะไร ที่จะทายไม่ออกว่าผู้หญิงพวกนี้กำลังคิดอะไร หากเธอตอบว่าใช่ก็จะเป็นการช่วยให้ซุนซื่อโกหกทุกคน แต่หากตอบว่าไม่ เธอจะยังมีชีวิตที่สบายในจวนหลังนี้อีกไหม

อ่า…

จิ้นเย่วคิดไม่ตก พลันหันหน้าไปทำความเคารพฟู่เจิ้งไป่ "ท่านพ่อ ข้าขอพูดความจริงได้ไหม"

"เรื่องมันเกิดแล้ว ยังจะกลัวพูดความจริงอีกหรือ?" ฟู่เจิ้งไป่นั่งลง พูดด้วยเสียงที่เยือกเย็น

จิ้นเย่วสูดหายใจเข้าลึก ๆ หันไปมองยันซุนซื่อที่ขณะนี้ใบหน้าเหมือนเป็นสีขาวซีด "เรื่องมันเป็นเช่นนี้ ฮูหยินใหญ่บอกว่าก่อนพระอาทิตย์ตกดิน หากข้าท่องกฏระเบียบภายในบ้านไม่ได้ ข้าจะต้องถูกทำโทษ!"

หลิ่วซื่อแสร้งถามด้วยความประหลาดใจ "อะไรนะ เวลาไม่ถึงหนึ่งวัน? คนปกติยังต้องใช้เวลาถึงหนึ่งวันเต็มในการอ่านกฏระเบียบ นับประสาอะไรกับท่องจำ ฮูหยินใหญ่นี่ไม่เป็นการทรมานคนอื่นเกินไปหรือ? ท่านพี่ ท่านว่าอย่างไร?"

ฟู่เจิ้งไป่หันไปมองซุนซื่ออย่างดุดัน

ซุนซื่อที่ก่อนหน้านี้ดูก้าวร้าวไม่ยอมคน บัดนี้กลับนั่งก้มหน้าไม่กล้าสบตาผู้ใด

''แต่ข้าท่องได้แล้ว!" จิ้นเย่วพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว

หลิ่วซื่อตื่นตะลึงอยู่กับที่ "ท่องได้แล้ว?"

ฟู่เจิ้งไป่ก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย "เจ้าว่าไงนะ?"

"ข้าท่องได้แล้ว สักคำก็ไม่ขาด!" จิ้นเย่วหันหลังให้ซุนซื่อด้วยความเย็นชา "แต่ฮูหยินใหญ่ไม่เชื่อ กลับกล่าวหาว่าข้าทุจริต บนตัวข้าไม่มีแม้แต่หนังสือกฏระเบียบ แล้วข้าจะไปทุรจิตได้เยี่ยงไรกัน? หลสงลวงกันเห็น ๆ"

ฟู่เจิ้งไป่ผู้เป็นหัวหน้าของเรือนหลังนี้ ประหลาดใจไม่น้อย ทำน้ำเสียงเย็นชา "เจ้าท่องได้ไม่พลาดสักคำจริง ๆ เหรอ?"

"เจ้าค่ะ!" จิ้นเย่วกล่าวต่อ "ท่านพ่อ หากท่านไม่เชื่อ ข้าจะท่องให้ท่านฟังตอนนี้เลย"

ตระกูลฟู่มีกฏระเบียบทั้งหมดสามร้อยกว่ากฏระเบียบ เมื่อจิ้นเย่วท่องไปถึงข้อที่ห้าสิบกว่า ฟู่เจิ้งไป่ทำมือ แสดงให้เห็นว่าไม่ต้องท่องต่อไปแล้ว

"ข้าเชื่อเจ้า!" ฟู่เจิ้งไป่กล่าว

หลิ่วซื่อมองไปที่จิ้นเย่วอย่างเหลือเชื่อ ใครจะไปคิดว่าลูกสาวหมอจะมีความสามารถที่ยากจะลืมเลือนเช่นนี้? หลิ่วซื่อรู้สึกกังวลเล็กน้อย เกรงว่าเด็กคนนี้จะนำพาความยุ่งยากมาให้ในอนาคต

ซุนซื่อตีหน้าเศร้า "ท่านพี่?"

"เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก?" ฟู่เจิ้งไป่ทำน้ำเสียงดุดัน "เป็นถึงฮูหยิน เพียงแค่ให้ความยุติธรรมก็ทำให้ไม่ได้ ยังจะสร้างปัญหาให้ผู้น้อย ข้าว่าคนที่ควรท่องกฏระเบียบควรเป็นเจ้ามากกว่า!"

ซุนซื่อก้มศีรษะสูดหายใจเล็กน้อย "ท่านพี่ ข้า ข้าสำนึกผิดแล้ว!"

ฟู่เจิ้งไป่ลุกขึ้นยืนอย่างเย็นชา "องค์ชายเล็กยังประทับอยู่ในจวน พวกเจ้าไม่อยากมีชีวิตต่อไปหรืออย่างไร?"

ทุกคนพากันก้มลงคุกเข่า ไม่มีใครกล้าจะเอ่ยคำใด ๆ

"ท่านพ่อ?" จิ้นเย่วเพียงจะอ้าปาก

กลับมองเห็นใบหน้าของฟู่เจิ้งไป่ที่กวาดมองไปรอบ ๆ ด้วยความสะเทือนใจ "ยังไงเจ้าก็เป็นผู้น้อย เข้าไปอยู่ในเรือนศาลาหมิงฮุยกักบริเวณ ช่วงนี้ไม่ต้องออกมาก่อน งานเทศกาลไหว้พระจันทร์ปีนี้ก็ไม่ต้องเข้าร่วมแล้ว!"

จิ้นเย่วไม่ได้สนใจงานเทศกาลไหว้พระจันทร์นั่น เพียงแต่เธอรู้สึกว่ารอยยิ้มของหลิ่วซื่อ ดูยังไมก็ชอบกล ทำให้เธอรู้สึกไม่เป็นสุข

"คุณหญิงห้า ข้าไปส่งเจ้า!" หลิ่วซื่อแอบยิ้มอย่างมีนัยย์

จิ้นเย่วเหลือบไปเห็นใบหน้าซีดขาวของซุนซื่อ แล้วมองกลับมายังหลิ่วซื่อ "ฮูหยินรองไม่ต้องลำบากกระมัง หรือนี่คงเป็นเรือนศาลาหมิงฮุย กฏระเบียบข้อที่ยี่สิบห้า มีกฏระเบียบของตัวเองและไม่ล่วงเกินอำนาจกัน"

รอยยิ้มของหลิ่วซื่อหุบลงทันที โกรธจนแทบจะกัดฟันกรอด

จิ้นเย่ว!

ซ่างเย่

ซ่างเย่

Score 10
Status: Completed
ในใจของฟู่จิ่วชิงมีความลับใหญ่ซ่อนอยู่ เมียของตัวเอง ถูกเขาแอบขโมยมา...... ใครๆล้วนรู้ว่า ตระกูลฟู่ในเมืองเหิงโจว ร่ำรวยเท่ากับประเทศชาติเลยทีเดียว แต่เสียที่ทายาทล้วนไม่เอาไหนทั้งนั้น ลูกคนโตตายตั้งแต่ยังเด็ก ลูกคนที่สองใช้เงินทองสุรุ่ยสุร่าย ลูกคนที่สามชอบหาโสเภณี ลูกคนที่สี่เป็นคนโง่ ฟู่จิ่วชิงเป็นลูกหลงซึ่งออกโดยเมียน้อย และก็เป็นคนขี้โรคมาตั้งแต่เกิดด้วย จิ้นเยว่ไม่ยอมแต่งเข้าไปในตระกูลฟู่ แต่พ่อเข้าคุก นางในฐานะที่เป็นแค่หญิงอ่อนแอเท่านั้น จะทำอะไรได้ล่ะ? แต่ว่าหลังจากแต่งเข้าไปแล้ว คนขี้โรคที่ได้ยินมานั้น เหมือนไม่ได้ป่วยหนักขนาดนั้น โดยเฉพาะวิธีการทรมานคน ทำไมถึง......โหดร้ายขนาดนั้น? อยู่มาวันหนึ่ง จิ้นเยว่ตื่นตัวขึ้นมาทันที สามีของตัวเองเป็นหมาป่าหางโตที่ใส่หนังแกะนี่เอง! หัวใจของข้าแบ่งเป็นสามส่วน ตะวัน นิศาบดีและเจ้า ตะวันและนิศาบดีมอบให้กับเจ้า ยอมล่มสิ้นใต้หล้าเพื่อเจ้าเพียงผู้เดียว!——ฟู่จิ่วชิง

Options

not work with dark mode
Reset