ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]บทที่ 417: จ้าวแห่งเจียงอิน

บทที่ 417: จ้าวแห่งเจียงอิน

บท​ที่​ 417: จ้าว​แห่ง​เจียง​อิน​

ธนู​พวก​นี้​รุนแรง​กว่า​ครั้งก่อน​มาก​

พวก​มัน​ให้​ความรู้สึก​ที่​หนักหน่วง​ และ​ยัง​ดู​เหมือนกับ​มีชีวิต​ มัน​เจาะเข้าที่​ศักดิ์ศรี​แห่ง​อำนาจ​ของ​ฉิน​เย่อ​ย่าง​รุนแรง​ จากนั้น​ ขณะที่​สายตา​ของ​เขา​ปรับ​มาเป็นปกติ​ เขา​ก็​พบ​ว่า​ตรงหน้า​ของ​ตน​ไม่มีอะไร​อยู่เลย​

ทุกสิ่งทุกอย่าง​มืด​ไป​หมด​

มัน​คือ​ความมืด​ที่​ไร้​จุดสิ้นสุด​

ท้องฟ้า​ ผืนดิน​ ทุกอย่าง​ล้วน​เป็น​สีดำ​สนิท​

ลูกธนู​หาง​ขนนก​สีดำ​อย่าง​ตำ่ไม่น้อยกว่า​หมื่น​ลูก​ยังคง​พุ่ง​มาที่​เขา​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ล้อมรอบ​ร่าง​ของ​เขา​ทั้งหมด​ มัน​เป็น​เหมือนกับ​สายฝน​ธนู​ที่​ดู​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​คลื่น​กระแทก​ที่​ถาโถมลงมา​ จากนั้น​ ก่อนที่​เขา​จะตอบสนอง​ได้​ทัน​ ทุกอย่าง​ก็​ปะทะ​ลงมา​ที่​ศักดิ์ศรี​แห่ง​อำนาจ​ของ​เขา​เป็นที่​เรียบร้อย​แล้ว​

ฉึก​ ฉึก​ ฉึก​! จังหวะ​ที่​รุนแรง​ทำให้​หัวใจ​ของ​ฉิน​เย่​เต็มไปด้วย​ความกลัว​ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ลูกธนู​นับ​หมื่น​นั้น​อยู่​คนละ​ระดับ​อย่าง​ชัดเจน​ หาก​มอง​จาก​ด้านนอก​ มัน​ดู​ราวกับ​ฉิน​เย่​ได้​กลายเป็น​เบาะ​สำหรับ​ปัก​เข็ม​ดี​ๆนี่เอง​

ทันใดนั้น​ เขา​ก็​ได้ยิน​เสียง​ๆหนึ่ง​

มัน​เป็น​เสียง​ของ​ผู้ชาย​

เสียง​ดังกล่าว​เบา​ ทว่า​ชัดเจน​แม้ว่า​ระเบิด​คลื่นเสียง​จะเกิดขึ้น​จาก​ลูกธนู​ที่​พุ่ง​แหวก​อากาศ​ และ​มัน​จะเป็นไปได้​ก็ต่อเมื่อ​ชาย​ผู้​นี้​อยู่​ขั้น​ตุลาการ​นรก​เท่านั้น​

“ระเบิด​”

ใน​เสี้ยว​วินาที​ต่อมา​ ฉิน​เย่​ก็​รู้สึก​ว่า​ทุกอย่าง​โดน​รอบ​สั่น​ไหว​อย่าง​รุนแรง​!

ฟึ่บ!​ แสงสว่าง​ส่อง​ทะลุ​ผ่าน​ความมืด​ของ​ศักดิ์ศรี​แห่ง​อำนาจ​เข้ามา​ มัน​เป็น​ตอนนั้น​เอง​ที่​ฉิน​เย่​สังเกตเห็น​ว่า​ยันต์​ที่​ถูก​ติด​อยู่​ที่​ปลาย​ลูกธนู​แต่ละ​ดอก​กำลัง​กระพือ​อย่าง​รุนแรง​

มัน​กระพือ​แรง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ และ​พลัง​หยิน​ที่อยู่​รอบ​ๆเขา​ก็​เริ่ม​ที่จะ​ทะลวง​การป้องกัน​ของ​เขา​ราวกับ​ปรอท​ที่​ไหล​ซึมไป​ตาม​พื้น​ จาก​ด้านนอก​ เขา​ดู​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​จุด​สีดำ​ที่​ถูก​กลืน​กิน​โดน​แผน​เผา​ด้วย​เปลวไฟ​จาก​ดวงอาทิตย์​เลย​แม้แต่น้อย​

เขา​ทนไม่ไหว​อีกแล้ว​…

เด็กหนุ่ม​รู้​ถึงสถาณการณ์​ที่​ตัวเอง​กำลัง​ประสบ​อยู่​ตอนนี้​ดี​ ดังนั้น​ฉิน​เย่​จึงรีบ​หยิบ​สมุด​แห่ง​ความ​เป็น​ตาย​ออกมา​ ในขณะเดียวกัน​ พร้อมกับ​เสียง​ระเบิด​ที่​ดังก้อง​ ดวงอาทิตย์​ทั้ง​ดวง​ก็​บิดเบี้ยว​และ​ความร้อน​รวมถึง​ความรุนแรง​ของ​มัน​ก็​ทวี​ความรุนแรง​มากขึ้น​!

พรึ่บ​! เปลวไฟ​จาก​ดวงอาทิตย์​แพร่สะพัด​ไป​ทั่ว​ป้อมปราการ​ทั้งหมด​ ทิ้ง​ไว้​เพียง​กลุ่ม​ควัน​และ​เศษฝุ่น​และ​ดิน​จาก​การระเบิด​ แต่​ก่อนที่​ทุกอย่าง​จะสลาย​ไป​ เปลวไฟ​ลูก​ที่สอง​ก็​ระเบิด​ตามมา​ติดๆ​ด้วย​ลูก​ที่สาม​ ลูก​ที่สี่​…จนกระทั่ง​ไป​จนถึง​ดวง​ที่​สิบ​!

ตู้​ม! ตู้​ม! ตู้​ม!

แม้แต่​ราชา​อสูร​วิญญาณ​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เบือนหน้า​หนี​ด้วย​ความหวาดกลัว​ แม้ว่า​จะมีความ​ล่อตา​ล่อใจ​จาก​วิญญาณ​จำนวนมาก​ แต่​สัญชาตญาณ​ของ​พวก​มัน​ก็​บอก​พวก​มัน​ว่า​สิ่งที่​พวก​มัน​เห็น​อยู่​นั้น​ไม่ใช่สิ่งที่​พวก​มัน​สามารถ​รับมือ​ได้​

เปลวไฟ​ทั้งหมด​ได้​เปลี่ยน​จาก​ดวงอาทิตย์​เป็น​ดอก​ปี่​อั้น​ที่​บิดเบี้ยว​ซึ่งเบ่งบาน​อยู่​ใน​ท้องฟ้า​ ครู่​ต่อมา​ ดอก​ปี่​อั้น​ดังกล่าว​ก็​ค่อยๆ​ร่วงโรย​ไป​ ทิ้ง​ไว้​เพียง​ประกายไฟ​ที่​เหลือ​ตกค้าง​เอาไว้​ ทั้งหมด​ตก​ลงมา​บน​พื้น​ราวกับว่า​พวกเขา​กำลัง​อยู่​ใน​นรก​ที่​ร้อนระอุ​ ขณะที่​เปลวไฟ​ทั้งหมด​ค่อยๆ​สงบ​ลง​ พวก​มัน​ก็​เผย​ให้​เห็น​ๆจุด​สีดำ​สอง​จุด​ด้านใน​ ทาง​ด้าน​ซ้าย​ มัน​คือ​สมุด​แห่ง​ความ​เป็น​ตาย​ที่​ห่อหุ้ม​ร่าง​ของ​ใครคนหนึ่ง​ไว้​ด้านใน​ ในขณะที่​ทาง​ด้าน​ขวา​ อาร์​ทิส​ยังคง​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​โดยที่​เส้น​ผม​สีดำ​สนิท​ยังคง​ห่อหุ้ม​ร่าง​ของ​นาง​เอาไว้​

“ไม่เลว​นี่​…” ด้วย​เสียงหัวเราะ​ที่​แหบ​พร่า​ เส้น​ผม​ที่​ก่อตัว​เป็น​ลูกบอล​ผม​ค่อยๆ​คลาย​ออก​ เผย​ให้​เห็น​สิ่งที่อยู่​ภายใน​ “ยัน​ไฟนรก​ระดับ​สาม… ถึงขนาดที่​ต้อง​ใช้ยันต์​ระดับ​ C 120,000 แผ่น​ใน​การ​จัดการ​เรา​… ช่างอวดเก่ง​เสีย​จริง​…”

พรึ่บ​… การป้องกัน​ของ​สมุด​แห่ง​ความ​เป็น​ตาย​เปิด​ออก​ในไม่ช้า​ และ​กระดาษ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ก็​เริ่ม​กระจัดกระจาย​ไป​ทั่ว​ท้องฟ้า​ก่อน​จะเปลี่ยน​กลับเป็น​สมุด​แห่ง​ความ​เป็น​ตาย​ขนาดเล็ก​ที่​ลอย​เข้าสู่​มือ​ของ​ฉิน​เย่​

“แต่​มัน​ก็​ยัง​ไม่สามารถ​สังหาร​พวก​เจ้าได้​” เสียง​ของ​อีก​ฝ่าย​ตอบ​กลับมา​เบา​ๆ

ประสาทสัมผัส​ของ​ฉิน​เย่​กลับ​เป็นปกติ​เป็นที่​เรียบร้อย​แล้ว​ และ​เขา​ก็​สามารถ​มองเห็น​ทุกสิ่งทุกอย่าง​โดยรอบ​ได้​ในที่สุด​

ทหาร​วิญญาณ​…

ทหาร​วิญญาณ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​!

ป้อมปราการ​ทั้งหมด​เต็มไปด้วย​ทหาร​วิญญาณ​ที่​ยืน​เรียงราย​กัน​ เปลวไฟ​นรก​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ลอย​ไปมา​ใน​อากาศ​ ในขณะที่​สายลม​พัด​ไปมา​อย่าง​รุนแรง​ ทุกอย่าง​โดยรอบ​มืด​ไป​หมด​ เว้นแต่​แหล่งกำเนิด​แสงเพียง​แหล่ง​เดียว​

มัน​คือ​โคมลอย​ขนาดใหญ่​

และ​มัน​ก็​ลอย​อยู่​ตรงหน้า​ของ​พวกเขา​

โคมลอย​ดังกล่าว​สูงประมาณ​หนึ่ง​เมตร​ ในขณะที่​เปลวไฟ​ด้านใน​สูงประมาณ​สิบ​เมตร​ หา​กลอง​สังเกต​ดูดี​ๆจะเห็น​ใบหน้า​ของ​ทหาร​วิญญาณ​ของ​ยมโลก​แห่ง​ใหม่​พุ่ง​เข้า​พุ่ง​ออก​อยู่​ใน​เปลวไฟ​น้ัน ใบหน้า​ทั้งหมด​คร่ำครวญ​และ​กรีดร้อง​ออกมา​เพื่อ​ขอ​ความเมตตา​ แต่​แล้วก็​ถูก​ดึง​กลับ​เข้าไป​ใน​เปลวไฟ​ที่​ลุกโชน​ซึ่งถูก​ใช้เป็น​เปลวเพลิง​ต่อไป​

เจ้า…กล้า​ดี​อย่างไร​ถึงใช้โทษ​ขี้ผึ้ง​น้ำมัน​มนุษย์​กับ​ประชากร​ของ​ยมโลก​?!

และ​ยัง​กล้า​ทำ​มัน​ต่อหน้า​จ้าว​นรก​อีกด้วย​?!

มัน​ไม่มีทาง​ที่​ขง​โม่จะเปิดเผย​ตัวตน​ของ​ฉิน​เย่​ต่อ​พันธมิตร​ทั้งหมด​อย่าง​แน่นอน​ และ​นั่น​ก็​หมายความว่า​ ชาย​ผู้​นี้​…กำลัง​ดูถูก​การดำรงอยู่​ของ​ยมโลก​แห่ง​ใหม่​อย่าง​ชัดเจน​!

“เจ้าเป็น​ใคร​?” รูม่านตา​ของ​ฉิน​เย่หด​เล็ก​ลง​ขณะที่​เขา​มอง​ไป​ที่​อีก​ฝ่าย​

ที่พำนัก​เคลื่อนที่​ซึ่งมีความสูง​ประมาณ​สิบ​เมตร​ตั้งอยู่​กลาง​กองกำลัง​ทหาร​วิญญาณ​ทั้งหมด​ มัน​ถูก​แบก​ไว้​โดย​เหล่า​วิญญาณ​ไร้​ศีรษะ​ เปลือยกาย​ด้านบน​ซึ่งโน้มตัว​มาด้านหน้า​และ​สวม​กางเกง​สีแดง​ ที่พำนัก​ดังกล่าว​ถูก​ออกแบบ​มาใน​ลักษณะ​ของ​ศาลา​โบราณ​ ในขณะที่​ด้านใน​ของ​ศาลา​ถูก​ปกปิด​ไว้​ด้วย​ม่าน​สีเขียว​ผืน​บาง​ และ​มีเงาของ​ร่าง​ๆหนึ่ง​นั่ง​อยู่​ด้านใน​ นอกเหนือ​จากนั้น​ มัน​ยังมี​วิญญาณ​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​อีก​เจ็ด​ตน​ยืน​อยู่​รอบ​ๆที่พำนัก​เคลื่อนที่​ – บาง​ตน​ถือ​ศีรษะ​ของ​ตนเอง​ บาง​ตน​มีลิ้นห้อย​ลงมา​จนถึง​พื้น​ ในขณะที่​ตน​อื่นๆ​มีช่อง​ท้องที่​มีบาดแผล​เหวอะหวะ​จน​ออกมา​ด้านนอก​ อย่างไรก็ตาม​ วิญญาณ​ทั้ง​เจ็ด​กลับ​ยังคง​จ้อง​มาที่​ฉิน​เย่​และ​อาร์​ทิส​ด้วย​จิต​สังหาร​ที่​รุนแรง​

“กลุ่ม​พันธมิตร​แห่ง​ความมืด​ เจ้าแห่ง​เจียง​อิน​ ซาเซียง​จู่” เสียงพูด​อัน​เรียบ​นิ่ง​ดัง​ออก​มาจาก​ที่พำนัก​เคลื่อนที่​

กลุ่ม​พันธมิตร​แห่ง​ความมืด​… ฉิน​เย่​จำมัน​เอาไว้​ก่อน​จะปรายตา​มอง​อาร์​ทิส​อย่าง​เยือกเย็น​ และ​ทันใดนั้น​แววตา​ของ​เขา​ก็​เป็นประกาย​ขึ้น​

เขา​สามารถ​บอก​ได้​ว่า​มือ​ของ​อาร์​ทิส​ได้​ขยับ​ไป​ที่​ด้านหลัง​ของ​นาง​เล็กน้อย​ แม้ว่า​การเคลื่อนไหว​ดังกล่าว​จะแทบ​ไม่ทัน​สังเกตุ​เห็น​เลย​ก็ตาม​ แต่​หลังจากที่​ได้​ทำงาน​ร่วมกับ​อีก​ฝ่าย​มาเป็นเวลา​หนึ่ง​ เขา​ก็​สามารถ​เข้าใจ​ได้​ทันที​ว่า​นาง​ต้องการ​จะทำ​สิ่งใด​

“ขง​โม่อย่างนั้น​หรือ​?” ฉิน​เย่​หัวเราะ​เบา​ๆ “ดูเหมือน​คน​บาป​แห่ง​ขงจื๊อ​จะรวบรวม​ผู้ใต้บังคับบัญชา​ที่​ดื้อด้าน​ไม่เบา​…”

ซาเซียง​จู่ส่งเสียง​ฮึดฮัด​ “โลก​ใต้พิภพ​ได้​เปลี่ยนไป​แล้ว​ และ​ยมโลก​ก็​ไม่มีอยู่​อีกต่อไป​ ผู้ใด​ที่​เป็น​คน​จัดระเบียบ​โลก​นี้​ได้​ย่อม​ได้รับ​การ​แต่งตั้ง​ให้​เป็น​จ้าว​แห่ง​ยมโลก​องค์​ถัดไป​! เขา​ได้​ถ่ายทอด​ศาสตร์​ต่างๆ​ให้​เรา​ บอก​เรา​ถึงเรื่อง​ที่​เรา​ไม่เคย​รู้​มาก่อน​ มิหนำซ้ำ​ยัง​บอก​ถึงวิธี​ที่จะ​เลื่อนขั้น​อย่าง​รวดเร็ว​อีกด้วย​ พวก​เจ้าคิด​ว่า​ข้า​สนใจ​หรือว่า​เขา​คือ​ใคร​?”

ฉิน​เย่​เหลือบมอง​อาร์​ทิส​ และ​ก็​พบ​ว่า​มือ​ของ​นาง​ยังคง​ขยับ​อย่าง​ต่อเนื่อง​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​เห็น​อาร์​ทิส​ประสานมือ​นาน​ขนาด​นี้​ อย่างไรก็ตาม​ เขา​รีบ​หัน​หา​ จ้าว​แห่ง​เจียง​อิน​และ​เอ่ย​ต่อ​ “ข้า​สงสัย​”

“หืม?”​ ซาเซียง​จู่มอง​ฉิน​เย่​ด้วย​สายตา​ที่​เหมือนกับ​แมว​ที่​กำลัง​เล่น​กับ​เหยื่อ​ของ​มัน​

มาดู​กัน​ว่า​ครั้งนี้​เจ้าจะหนี​ได้​อย่างไร​!

ขง​โม่ไม่สามารถ​ทำได้​ ดังนั้น​จึงบอก​ให้​เขา​จัดการ​กับ​สิ่งที่​ตัวเอง​ทำ​ค้าง​ไว้​ และ​เขา​ก็​จะได้​หัว​ของ​ชาย​ผู้​นี้​กลับ​ไป​ให้​กลุ่ม​พันธมิตร​เห็น​ว่า​ศิษย์​ได้​ก้าว​ข้าม​อาจารย์​ไป​แล้ว​เป็นที่​เรียบร้อย​! แล้ว​มาดู​กัน​ว่า​ตาแก่​นั่น​จะหา​เหตุผล​อะไร​มารักษา​ตำแหน่ง​ของ​ตัวเอง​!

“เจ้ารู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ข้า​จะมาที่นี่​?” ฉิน​เย่​จ้องมอง​โคมลอย​ที่​ลุกโชน​ตรงหน้า​ มัน​ไม่มีทาง​ที่​อีก​ฝ่าย​จะตรวจ​จับได้​ถึงการ​เดินทัพ​ของ​ยมโลก​

ซาเซียง​จู่หัวเราะ​เบา​ๆ ก่อน​จะกัดฟัน​ตอบ​ “เพราะว่า​…ที่​แห่ง​นี้​เคย​เป็น​ดินแดน​ของ​ข้า​! มัน​คือ​สถานที่​ซึ่งข้า​ได้​ตั้งรกราก​และ​เริ่ม​รวบรวม​กองกำลัง​ของ​ตนเอง​!!”

“เมือง​กู่​เฉิงนั้น​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​เมือง​เจียง​อิน​ และ​ข้า​ก็​คือ​จ้าว​แห่ง​เมือง​เจียง​อิน​! ข้า​คือ​ผู้​ที่​ได้​รับคำ​อวยพร​จาก​เหล่า​เทพ​ ใน​ตอนที่​ข้า​ตาย​ ข้า​พบ​ว่า​ตัวเอง​ได้​เร​ร่อน​ไป​เรื่อยๆ​ใน​ดินแดน​ที่​มีพลัง​หยิน​เข้มข้น​ ภายใน​ระยะเวลา​เพียง​ห้า​ปี​ ข้า​ได้​เลื่อน​ไป​สู่ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ จากนั้น​ข้า​จึงตอบรับ​โชคชะตา​ของ​ตัวเอง​และ​ก่อตั้ง​เมือง​เจียง​อิน​ขึ้น​ที่นี่​… ดังนั้น​ เจ้าคิด​ว่า​ตัวเอง​เป็น​ใคร​? ผู้ใด​อนุญาต​ให้​เจ้ามายึดครอง​ดินแดน​ของ​ข้า​เช่นนั้น​?!”

“ที่นี่​ ข้า​เป็นใหญ่​! แม้แต่​ราชา​อสูร​วิญญาณ​ก็​ไม่แม้แต่​จะกล้า​ก้าว​เข้ามา​โดย​ไม่ได้รับอนุญาต​! ดังนั้น​เจ้ามีสิทธิ์​อะไร​มาทำ​เช่นนั้น​? เจ้ามัน​เป็น​แค่​เศษเสี้ยว​ของ​อดีต​ราชวงศ์​ของ​ยมโลก​ก็​เท่านั้น​!”

“ทุกอย่าง​ได้​เปลี่ยนไป​แล้ว​ และ​มัน​ก็​ไม่ได้​เป็น​เหมือน​อย่าง​ที่​เคย​เป็นมา​ใน​ยุค​อดีต​! ตอนนี้​มัน​เป็นเวลา​ของ​ข้า​ที่จะ​ได้​ส่องสว่าง​!!”

ตู้​ม!! เสียง​ของ​เขา​ดัง​ขึ้น​จนถึง​ขีดสุด​ และ​ม่าน​บาง​สีเขียว​ก็​เปิด​ออก​ วิญญาณ​ทั้งหมด​ภายใน​กองกำลัง​ต่าง​ส่งเสียง​กู่​ร้อง​ออกมา​เพื่อ​สนับสนุน​ผู้​เป็น​ราชา​ของ​ตน​

แต่​ฉิน​เย่​กลับ​ไม่สะทกสะท้าน​ เขา​เพียง​แย้มยิ้ม​ออกมา​บาง​ๆ “เจ้าคงจะ​อายุ​น้อย​และ​ด้อย​ประสบการณ์​มาก​จริงๆ​”

เสียงคำราม​ที่​ดุร้าย​ชะงัก​ไป​ในทันที​

“เจ้าพูด​ด้วย​วาจา​อัน​ทันสมัย​ และ​สิ่งนี้​ก็​บอก​ข้า​ว่า​…เจ้ายัง​ด้อย​ประสบการณ์​มาก​ เจ้ายัง​ไม่มั่นคง​และ​แน่วแน่​พอ​ แม้ว่า​ข้า​จะมีรูปลักษณ์​ที่​อ่อนเยาว์​ แต่​ข้า​ก็​ยัง​ไม่ได้​เปิดเผย​ตัวตน​ที่​แท้จริง​ของ​ตัวเอง​ออกมา​เลย​แม้แต่น้อย​” เขา​แย้มยิ้ม​บาง​ ก่อน​จะก้าว​ถอย​ไป​ด้านหลัง​ และ​มัน​ก็​เป็น​ตอนนี้​เอง​ที่​อาร์​ทิส​เงยหน้า​ขึ้น​มา มือ​ของ​นาง​ไม่ได้​ขยับ​อีกแล้ว​

“วิญญาณ​ที่อยู่​ใน​ช่วง​ร้อย​ปี​ที่ผ่านมา​นี่​ไม่รู้​อะไร​เลย​จริงๆ​… ฮ่าๆๆๆ….”

ในขณะที่​ฉิน​เย่​ก้าว​ถอยหลัง​ อาร์​ทิส​ก็​ก้าว​ขึ้น​มาด้านหน้า​และ​มอง​โคมลอย​ที่​ลุกโชน​อยู่​ตรง​ด้านหน้า​ นาง​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ “เป็น​ฝีมือ​ของ​เจ้าอย่างนั้น​หรือ​?”

“เจ้าชอบ​หรือไม่​?” ซาเซียง​จู่ตอบกลับ​ด้วย​คำถาม​ “ไม่จำเป็นต้อง​ขอบคุณ​ เพราะ​อีกไม่นาน​ พวก​เจ้าก็​จะได้​ตาม​พวก​มัน​ไป​แน่​”

“ข้า​เบื่อ​ที่จะ​เล่น​เกม​เต็มที​ ฆ่ามัน​ทั้งสอง​ซะ”

ด้วย​คำสั่ง​สั้น​ๆ ทหาร​วิญญาณ​ทั้งหมด​ด้านล่าง​ก็​เคลื่อน​ทัพ​ด้วย​แววตา​ที่​ลุกโชน​ แต่​ในขณะที่​กองทัพ​ทั้งหมด​จะได้​ขยับตัว​ คลื่น​พลัง​หยิน​ที่​รุนแรง​ก็​ปะทุ​ออก​มาจาก​ร่าง​ของ​อาร์​ทิส​ราวกับ​กระแสน้ำ​ที่​ซัดสาด​ และ​เสียง​ของ​ของ​นาง​ก็​ดัง​ขึ้น​ราวกับ​มัน​ดัง​มาจาก​ทุกทิศทาง​ “มัน​ผ่าน​มากว่า​ร้อย​ปี​แล้ว​ที่​ข้า​ได้​เห็น​วิญญาณ​ร้าย​ที่​กล้า​มาท้าทาย​กับ​อำนาจ​ของ​ยม​โล​ก.​..”

ครืน​นน.​.. ทหาร​วิญญาณ​จำนวนมาก​พุ่งตัว​ไป​ข้างหน้า​พร้อมกับ​ปลาย​หอก​ที่​เล็ง​เป้า​ไป​ที่​อาร์​ทิส​และ​ฉิน​เย่​ พื้นดิน​สั่นสะเทือน​ภายใต้​ฝีเท้า​ที่​หนักหน่วง​นั้น​ แต่​อาร์​ทิส​กลับ​ไม่สนใจ​มัน​ นาง​ยังคง​เอ่ย​ต่อ​ “แต่​ก็​ไม่เป็นไร​ ข้า​จะทำให้​เจ้าได้​เข้า​ใจถึงน้ำหนัก​ของ​วลี​ที่​ถูก​ใช้อย่า​แงพร่​หลาย​ – ด้วย​คำพิพากษา​จาก​นรก​ เหล่า​วิญญาณ​ทั้งปวง​จงสูญสิ้น​ ด้วยตัวเอง​”

เป๊าะ​ ทันใดนั้น​ทุกคน​ก็​ได้ยิน​เสียง​ดีดนิ้ว​เบา​ๆ

และ​เสี้ยว​วินาที​ต่อมา​ กองกำลัง​ทหาร​วิญญาณ​ที่​พุ่งตัว​ไป​ข้างหน้า​ก็​หยุด​ลง​อย่าง​กระทันหัน​ พวก​มัน​จ้องมอง​ไป​ยัง​ด้านหน้า​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​

นั่น​เป็น​เพราะว่า​เปลวไฟ​นรก​อัน​รุนแรง​ได้​พุ่ง​ขึ้น​มาจาก​พื้น​บริเวณ​ที่​ฉิน​เย่​และ​อาร์​ทิส​กำลัง​ยืน​อยู่​!

มัน​เป็น​เหมือนกับ​การระเบิด​ของ​ภูเขาไฟ​! เปลวไฟ​นรก​สีขาว​บริสุทธิ์​ลุกโชน​ขึ้น​มาจาก​พื้น​และ​พุ่ง​เข้าหา​อาร์​ทิส​และ​ฉิน​เย่​ราวกับ​ฝน​ตาม​ตก​ ก่อน​จะห่อหุ้ม​และ​กลืน​กิน​ร่าง​ของ​ทั้งคู่​อย่าง​ช้าๆ

ฟึ่บ!​ ชาย​ที่อยู่​ภายใน​ที่พำนัก​เคลื่อนที่​ดึง​ม่าน​ขึ้น​ และ​เผย​ให้​เห็น​ศีรษะ​ที่​มีขนาด​ประมาณ​ครึ่ง​เมตร​

มัน​ไม่ใช่ใคร​อื่น​นอกจาก​ซาเซียง​จู่

เขา​คือ​ชายหนุ่ม​ที่​มีใบหน้า​ธรรมดา​ทั่วไป​ แต่​ใบหน้า​ของ​เขา​กลับ​มีสีฟ้าที่​แปลกประหลาด​ กะโหลก​ของ​เขา​ถูก​ผ่า​แยก​ออก​ตรงกลาง​ ในขณะที่​เปลวไฟ​สีแดงเข้ม​ลุกโชน​อยู่​ด้านใน​ดวงตา​ทั้ง​สาม ฟัน​ที่​แหลมคม​ยื่น​ออก​มาจาก​ปาก​ ซาเซียง​จู่จ้องมอง​ภาพ​ที่​น่าสะพรึงกลัว​ตรงหน้า​อย่าง​ไม่ละสายตา​

พลัง​หยิน​… เป็น​พลัง​หยิน​ที่​ทรงพลัง​มาก​!

มัน​ไม่ได้​ด้อย​ไป​กว่า​การ​รวมกำลัง​ของ​ทหาร​วิญญาณ​ทั้ง​แสน​นาย​ของ​เขา​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​!

นี่​มัน​…

พรึ่บ​!! ทันใดนั้น​ แม่น้ำ​ดวงดาว​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​เหนือศีรษะ​ของ​อาร์​ทิส​และ​ฉิน​เย่​ ในขณะที่​ทั้งคู่​ดู​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​ดวงอาทิตย์​และ​ดวงจันทร์​ที่​ส่อง​แสงสว่าง​อยู่​ตรงกลาง​ จากนั้น​ ท่ามกลาง​สายตา​อัน​ตกตะลึง​ของ​ทหาร​วิญญาณ​โดยรอบ​ เปลวไฟ​นรก​สีขาว​ที่​ห่อหุ้ม​ร่าง​ของ​ทั้งสอง​…ก็​เปลี่ยนเป็น​กองกำลัง​ทหาร​วิญญาณ​อย่าง​ช้าๆ!

นอกจากนี้​ พวกเขา​ยัง​สามารถ​บอก​ได้​ด้วยว่า​กองกำลัง​ตรงหน้า​นั้น​ไม่ได้​อ่อนแอ​ไป​กว่า​พวก​ตน​เลย​สักนิด​! อันที่จริง​ พวกเขา​ยัง​สัมผัส​ได้​ถึงพลัง​หยิน​ที่​อาจ​แข็งแกร่ง​กว่า​พวกเขา​ด้วยซ้ำ​!

อีก​ฝ่าย​มีทั้งหมด​เท่าไหร่​กัน​… กองกำลัง​ของ​ซาเซียง​จู่มอง​ไป​รอบ​ๆ แต่​แล้ว​พวกเขา​ก็​ต้อง​พบ​ว่า​มัน​ดู​มาก​ราวกับ​มหาสมุทร​

ทันใดนั้น​เอง​ เสียง​แตร​สงคราม​ดัง​ขึ้น​ และ​กองกำลัง​ของ​ยมโลก​ก็​ปัก​โล่​ของ​พวกเขา​ลง​บน​พื้น​ พร้อมกับ​หัน​ปลาย​หอก​เล็ง​ไป​ยัง​ศัตรู​ตรงหน้า​ พล​ธนู​และ​พล​หน้าไม้​ที่​ลุกโชน​ด้วย​เปลวไฟ​นก​และ​เปลวไฟ​แห่ง​กรรม​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​พล​โล่​และ​พล​หอก​อีกที​ นายทหาร​ทั้งหมด​ยืน​ล้อม​รอย​ฉิน​เย่​และ​อาร์​ทิส​เอาไว้​ “ฮ่า!!!” ด้วย​เสียงร้อง​ที่​ดังลั่น​ กองกำลัง​ทั้งหมด​ที่​ยืน​ประจำการ​อยู่​ภายใน​ป้อมปราการ​สั่นเทา​เล็กน้อย​

เค​ร้ง…​กระ​เบื้องบน​หลังคา​บ้าน​บาง​หลัง​ร่วงหล่น​และ​แตก​ออก​ทันทีที่​ตกลง​กับ​พื้น​

สาย​ลมกระโชก​แรง​พัดผ่าน​ทั่ว​ทั้ง​ดินแดน​ จากนั้น​ ฉิน​เย่​ก็​ค่อยๆ​ลอย​ขึ้น​จาก​ใจกลาง​กองกำลัง​ทั้งหมด​และ​เอ่ย​กับ​กองทัพ​ของ​เขา​ด้วย​น้ำเสียง​นิ่ง​เรียบ​ “บอก​เขา​ ว่า​พวกเรา​คือ​ใคร​…”

“ด้วย​คำพิพากษา​จาก​นรก​ เหล่า​วิญญาณ​ทั้งปวง​จงสูญสิ้น​!!!”

มัน​เป็น​เสียงคำราม​ที่​ทำให้​พื้น​แผ่นดิน​ต้อง​สั่นสะเทือน​! หาก​เสียง​ตะโกน​ก่อนหน้านี้​สามารถ​เปรียบ​ได้​กับ​คำสาบาน​ที่​จริงจัง​ เช่นนั้น​เสียง​ตะโกน​ของ​พวกเขา​ตอนนี้​ก็​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​เสียง​การ​ประกาศ​ชัยชนะ​! หาก​พูด​กัน​ตามตรง​ เสียง​ตะโกน​ของ​พวกเขา​นั้น​ทรงพลัง​จน​มัน​หลอม​รวม​เป็น​คลื่น​ที่​ระเบิด​ออกมา​พร้อมกับ​พลัง​หยิน​ซึ่งสาด​สะพัด​ไป​ทั่ว​ทั้ง​ดินแดน​

“ทหาร​วิญญาณ​… ทหาร​วิญญาณ​ของ​ยมโลก​?!” สอง​วินาที​ต่อมา​ ซาเซียง​จู่ก็​ได้สติ​และ​ตะโกน​ออกมา​ “พวก​เจ้ามาจาก​ที่ใด​กัน​?! ไม่… นี่​มัน​เป็นไปได้​อย่างไร​? ที่​ยมโลก​เกิด​หายนะ​ขึ้น​ไม่ใช่หรือ​? เหตุใด​ทหาร​วิญญาณ​เหล่านี้​จึงปรากฏตัว​ขึ้น​มาอย่าง​กระทันหัน​อย่าง​ที่​พวกเรา​ไม่เคย​เห็น​มาก่อน​ใน​รอบ​ร้อย​ปี​?!”

ทหาร​เหล่านี้​ไม่ได้​อ่อนแอ​ไป​กว่า​กองกำลัง​ของ​เขา​เลย​ หาก​พูด​กัน​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ เขา​สามารถ​บอก​ได้​ด้วยว่า​ พลัง​หยิน​ที่​อีก​ฝ่าย​แสดง​ออกมา​นั้น​แข็งแกร่ง​กว่า​ที่​พวกเขา​สามารถ​เข้าถึง​ได้​เสียง​อีก​!

การ​เผชิญหน้า​ระหว่าง​ขั้น​ตุลาการ​นรก​สอง​ตน​นั้น​เป็นเรื่อง​หนึ่ง​ แต่​การ​เผชิญหน้า​กับ​ทหาร​วิญญาณ​หมื่น​นาย​นั้น​ก็​เป็น​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​!

ฉิน​เย่​ยังคง​เอ่ย​ต่อ​เสียง​เย็น​ “นี่​คือ​บทเรียน​สำหรับ​เจ้า”

“ทุกคน​ล้วน​มีไพ่ตาย​ซ่อน​ไว้​อยู่​กับ​ตัว​ทั้งสิ้น​ และ​มัน​ก็​เห็นได้ชัด​เลย​ว่า​เจ้าไม่ได้​มีความสำคัญ​มาก​พอ​ถึงขนาดที่​ขง​โม่จะยอม​เปิดเผย​เรื่อง​ที่​สำคัญ​พวก​นี้​กับ​เจ้า”

เงียบ​

จิต​สังหาร​ที่​แผ่ออก​มาจาก​การ​เผชิญหน้า​ของ​ทั้งสองฝ่าย​นั้น​รุนแรง​จน​แม้แต่​เหล่า​ราชา​อสูร​วิญญาณ​ที่อยู่​บริเวณ​ใกล้เคียง​เริ่ม​ถอย​หนี​อย่าง​รวดเร็ว​ ความตึงเครียด​ใน​อากาศ​นั้น​รุนแรง​จน​แทบจะ​สามารถ​ถูก​ตัด​ได้​ด้วย​ใบ​มีด​ บรรยากาศ​โดยรอบ​บีบ​อัด​อย่าง​ไม่น่าเชื่อ​

มัน​เป็น​การปะทะ​ที่​ตรงไปตรงมา​

ทหาร​กับ​ทหาร​ แม่ทัพ​กับ​แม่ทัพ​ หอก​กับ​หอก​ และ​ธนู​กับ​ธนู​

ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​จ้องมอง​กัน​ด้วย​แววตา​ที่​ลุกโชน​ ในขณะที่​ขั้น​ตุลาการ​นรก​ของ​ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​พึงระวัง​ถึงการ​มีอยู่​ของ​กันและกัน​

กลิ่น​เลือด​จางๆลอย​คละคลุ้ง​อยู่​ใน​อากาศ​โดยรอบ​

ทุกฝ่าย​ต่าง​รอคอย​คำสั่ง​เพียง​คำสั่ง​เดียว​

ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]

ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]

Score 10
Status: Completed

ฉินเย่เด็กหนุ่มมัธยมปลายที่ไม่มีวันแก่ เพราะกิน “เห็ดเทียนสุ่ย” เข้าไปทำให้มีชีวิตอยู่ระหว่างสองโลก เป้าหมายในชีวิตของเขาเพียงต้องการมีชีวิตเล่นเกมอยู่ไปวัน ๆ เท่านั้น

แต่ดูเหมือนนรกจะไม่ได้ยินเสียงเรียกร้องของเขา เมื่อนรกถึงกาลอวสาน ผีร้ายออกอาละวาดบนโลกมนุษย์ ทำให้ฉินเย่ที่เป็นยมทูตคนสุดท้ายต้องรับหน้าที่จ้าวนรกเพื่อพิทักษ์โลกใบนี้!

Options

not work with dark mode
Reset