จอมใจจอมทัพ 28 ตกหลุมรัก

ตอนที่ 28 ตกหลุมรัก

ศึกสุดท้ายที่เราออกรบ ท่านแม่ทัพเอกเพลี่ยงพล้ำถูกสังหาร ทหารในทัพของเรากำลังใจเสื่อมถอย เป็นข้าที่ตัดสินใจไม่ยอมและเข้าตีรันกับศัตรูจนกระทั่งสามารถสังหารแม่ทัพของฝ่ายนั้นได้ ทหารหลายคน ณ ที่นั้นเป็นพยานได้ว่าข้านี่แหละที่กล้าหาญบุกบั่นอย่างบ้าคลั่งอย่าไม่ห่วงชีวิต แต่เพราะข้าเองก็บาดเจ็บหนักจึงยังไม่ทันกลับพร้อมทัพใหญ่เพราะต้องสมานแผลใหญ่เสียก่อน ทว่ายามข้าไปถึงกลับได้ข่าวว่าท่านเจ้าเมืองแต่งตั้งพี่ซือถงให้เป็นแม่ทัพเอกไปเสียแล้ว เพราะเขาเป็นคนตัดหัวแม่ทัพของศัตรูมาถวายและมดเท็จว่าตนเป็นผู้สังหาร โดยมีทหารลูกน้องที่หวังประโยชน์จากเขาส่วนหนึ่งเป็นพยานเท็จด้วย

ข้าผิดหวังจนแทบบ้า ใช่ว่าเสียดายยศตำแหน่ง แต่ข้าเสียใจที่พี่น้องร่วมสาบานอย่างพี่ซือถง เหตุใดจึงกล้าหักหลังข้าได้เพียงนี้ ทหารที่เห็นกับตาบอกให้ข้าทูลความจริงกับท่านเจ้าเมือง แต่ข้าไม่มีกะจิตกะใจใด ๆ ที่จะต่อความ อีกอย่างหากข้าทูลเจ้าเมืองเช่นนั้น หากมีการสืบสาวหาความจริง คนที่เดือดร้อนก็เป็นพี่ซือถง จึงตัดสินใจปล่อยมันไปตามนั้น และได้กลับไปหาเสี่ยวชิงคนรักของข้า

และที่นั่น ข้าก็ต้องทุกข์ทรมานราวตายทั้งเป็นอีกครั้ง เพราะเมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของเสี่ยวชิงบนเตียงที่ข้าและนางเคยพลอดรัก บัดนี้มีพี่ซือถงอยู่แทนและร่วมรักกับนางอย่างถึงอกถึงใจ

ข้าเคืองแค้นจนลมปราณแทบแตกซ่าน ชักกระบี่ออกจากฝักหมายสังหารชู้รักทั้งคู่ที่บังอาจทรยศข้า ทว่าเป็นเสี่ยวชิงที่ก้มคำนับข้าครั้งแล้วครั้งเล่าและกล่าวว่านางทำไปเพราะรู้ว่าพี่ซือถงได้เป็นแม่ทัพ นางไม่อยากทนลำบากใช้ชีวิตเป็นแม่ค้าอีกต่อไป นางต้องการความก้าวหน้าสุขสบาย

ยามนั้นหัวใจของข้าแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ คนที่ข้ารักและวางใจทั้งคู่กลับหยามหน้าทรยศหักหลังข้าได้ ข้าหมดสิ้นซึ่งศรัทธาในทุกสิ่ง ละทิ้งทุกอย่างแล้วควบม้าออกจากที่นั่นอย่างไร้จุดหมาย ค่ำไหนนอนนั่น ใช้ชีวิตล่องลอยไปเรื่อย ๆ แต่ข้าพบว่าการอยู่เฉย ๆ ไม่มีอะไรทำนั้นมันยิ่งทำให้ข้าเจ็บปวด ข้ายังไม่ลืมสิ่งเลวร้ายที่คนพวกนั้นกระทำต่อข้า ข้าก็เลยตัดสินใจเป็นทหารรับจ้าง ไม่สังกัดกับผู้ใดไปเรื่อย ๆ ” เขาหยุดเล่าและทอดสายตาไปเบื้องหน้านิ่ง ๆ แต่นางสามารถรับรู้ถึงกระแสความเจ็บปวดรวดร้าวนั้นได้อย่างดี มือน้อยข้างหนึ่งเอื้อมไปกุมมือใหญ่ของเขาเอาไว้แล้วบีบเบา ๆ เพื่อให้กำลังใจ

“ ข้าดำเนินชีวิตด้วยการรบราฆ่าฟัน พยายามจะชำระแค้นคราวนั้นลงไปในอีกร้อยพันชีวิต คิดว่าโลหิตศัตรูที่หลั่งลงบนผืนแผ่นดินจะช่วยชะล้างความปวดร้าวในใจได้ บางครั้งมันช่วยบรรเทา หากบางคราวแววตาของศัตรูที่ทั้งอ้อนวอนขอชีวิตและสาปแช่งให้ข้าตายตกไปตามพวกเขามันหลอนหลอก ข้าจึงหาทางปลดปล่อยสิ่งเหล่านี้ออกไป และหนทางนั้นก็คือผู้หญิงและกามราคะ

ข้าไม่ใช่คนดี แต่ข้าก็ไม่ได้ชั่วช้า ข้าไม่เคยขืนใจหญิงใดหากนางไม่เต็มใจ สิ่งที่ข้าได้คือลืมสงครามและความเจ็บปวด สิ่งที่พวกนางได้คือความสุขสมจากกามราคะ มีสิ่งใดที่ไม่ยุติธรรมเช่นนั้นหรือ ” เขาตวัดสายตามาหานางในประโยคสุดท้าย แม้ว่าจะเป็นคำถาม แต่สายตาคมกล้าฉายแววรวดร้าวชัดเจนจนนางรับรู้ได้

“ ข้าปฏิญาณตนเอาไว้ว่าจะไม่หลงรักหญิงใดอีก จะไม่ตั้งหลักปักฐานและไว้ใจใครหน้าไหนทั้งนั้น เพราะนานเหลือเกินกว่าข้าจะเยียวยาตนเองจากบาดแผลนั้นได้ จนกระทั่งข้าได้มาเจอเจ้า ซูเม่ย ”

“ ขะ… ข้า ทำไมหรือ ” นางตะกุกตะกักถาม เขายกมือใหญ่ข้างหนึ่งขึ้นมาไล้ไปบนใบหน้างามนั้นเบา ๆ

“ เจ้าแตกต่าง พิเศษจากหญิงอื่น ดื้อรั้นอวดดี มิเคยมีหญิงใดผลักไสและวิ่งหนีข้าทั้งยังด่าสารพัด มันทำให้ข้าประทับใจ ” คำตอบของเขาทำให้นางหัวเราะพรืดออกมา

“ ท่านคงวิกลจริตไปแล้วกระมัง ประทับใจผู้หญิงที่ทำร้ายและด่าทอเนี่ยนะ ”

“ ใช่ ข้ามันบ้า แต่ถึงจะบ้า ก็มีคนคนหนึ่งตกหลุมรักคนบ้าอย่างข้าก็แล้วกัน ”

Options

not work with dark mode
Reset