จอมศาสตราพลิกดาราบทที่ 433 ส่วนในสุสานเทพ

บทที่ 433 ส่วนในสุสานเทพ

พี่น้อง​สอง​คน​นี้​ พี่สาว​เป็น​สาวงาม​อายุ​สิบ​หก​ คิ้ว​ใบ​หลิว​ ผิวขาว​บริสุทธิ์​เกลี้ยงเกลา​ดั่ง​หยก​ จอน​ผม​ปลิว​ไสว​ดุจ​เซียน​ สวม​ชุด​คลุม​สีขาว​ปัก​ภาพ​ดอก​เหมย​แซมหิมะ​ ขับ​ให้​เห็น​เรือนร่าง​โค้ง​เว้า​สมบูรณ์แบบ​ โดยเฉพาะ​ยอดเขา​สูงตระหง่าน​คู่​นั้น​ งดงาม​ถึงที่สุด​ ราวกับ​จะปริ​ออกจาก​ชุด​คลุม​เลย​ทีเดียว​

จุด​ที่​ควร​ต้อง​พูดถึง​ก็​คือ​ พี่สาว​คน​นี้​ถึงแม้รูปร่าง​จะดู​เผ็ดร้อน​ ทว่า​นิสัย​เฉพาะตัว​กลับ​มีกลิ่นอาย​สง่าสุภาพ​เยือกเย็น​ มีความขัดแย้ง​กัน​อย่าง​ประหลาด​

น้องสาว​ดู​ไป​แล้ว​อายุ​เพียง​สิบ​สามสิบ​สี่ปี​ ใบหน้า​งามวิจิตร​นัก​ ราวกับ​หยก​แกะสลัก​ แต่​มีบุคลิก​องอาจ​เหมือน​ชาย​ คิ้ว​กระบี่​ชี้จรด​จอน​ผม​ ใน​ดวงตา​มีประกาย​คมกริบ​ข่มขวัญ​คน​ ข้าง​เอว​คาด​กระบี่​ที่​ยาว​กว่า​ร่าง​ของ​นาง​ไว้​เล่ม​หนึ่ง​ ท่าทาง​ดู​แล้ว​แสน​ประหลาด​

เมื่อ​ครู่​ผู้​ที่​พูด​ขึ้น​มาคือ​น้องสาว​ เอ่ย​วาจา​อย่าง​ผู้ใหญ่​ นาง​มอง​ทางเข้า​สุสาน​ที่​มีไอ​ร้อน​สีดำ​พุ่ง​ออกมา​ตรงหน้า​ เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “ท่าน​พี่​ ทำไม​ดู​แล้ว​เหมือน​รู​หนู​ดำ​ๆ เลย​?”

พี่สาว​หัวเราะ​ ตอบกลับ​ว่า​ “อย่า​พูด​อะไร​ซี้ซั้ว​ สิ่งที่​ฝังอยู่​ใน​นี้​ศักดิ์สิทธิ์​จริงๆ​ พวกเรา​เข้าไป​กัน​เถอะ​”

ร่าง​ทั้งสอง​เข้าไป​ใน​ปาก​ทางเข้า​สุสาน​

เวลา​เดียวกัน​ หลุม​สวรรค์​ทาง​ทิศตะวันออกเฉียงใต้​ ชาย​หญิง​ที่​แต่งกาย​ชุด​เผ่า​ผู้วิเศษ​แห่ง​แผ่นดิน​สุด​แดน​ใต้​สิบ​กว่า​คน​เข้าไป​ใน​สุสาน​จาก​ปาก​ทางเข้า​หนึ่ง​

ผู้​ที่​นำ​หน้าเป็น​หญิง​เผ่า​ผู้วิเศษ​อายุ​สิบ​หก​ปี​คน​หนึ่ง​ คิ้ว​ตา​ดุจ​ภาพวาด​ สวม​เสื้อ​แขน​สั้น​กระโปรง​สั้น​ ใส่รองเท้า​ผ้า​ บน​ตัว​แขวน​เครื่องประดับ​เงิน​แต่ละ​ชนิด​ไว้​เต็มตัว​ ขณะ​ก้าว​เท้า​จะมีเสียงดัง​กรุ๊ง​กริ๊ง​

ใน​อ้อมกอด​นาง​มีเด็กชาย​อายุ​ราว​หนึ่ง​ถึงสอง​ปี​คน​หนึ่ง​

ใน​มือ​เด็กชาย​ถือ​ถาด​หยก​เปล่งแสง​วาววับ​ คลุม​ปกป้อง​คน​ทั้งหมด​เอาไว้​

“ไม่ต้อง​กลัว​ไป​ ข้า​จะปกป้อง​พวก​เจ้าเอง​” เด็กชาย​เอ่ยปาก​ขึ้น​

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ​ ชายหนุ่ม​ใน​ชุด​สีดำ​คน​หนึ่ง​มีสีหน้า​เคร่งขรึม​ เดิน​เข้าไป​ใน​ทางเข้า​สุสาน​เส้น​หนึ่ง​ ด้านหลัง​ชายหนุ่ม​มีหญิง​ชรา​อีก​คน​ตามมา​ ผม​สีเงิน​ทั้ง​ศีรษะ​ หลัง​โค้ง​ค่อม​ ค้ำ​ประคองตัว​ด้วย​ไม้เท้า​หัว​มังกร​ ที่​เอว​คาดเชือก​สีเลือด​เส้น​หนึ่ง​เอาไว้​ ดึงดูดสายตา​เป็นอย่างมาก​

หนึ่ง​หนุ่ม​หนึ่ง​ชรา​เงียบขรึม​ยิ่งนัก​ ค่อยๆ​ เดิน​เข้าไป​ด้านใน​สุสาน​เทพ​

และ​หลังจาก​พวกเขา​เข้าไป​ใน​สุสาน​ไม่นาน​นัก​ ก็​มีอีก​หนึ่ง​ชรา​หนึ่ง​สาวน้อย​เข้ามา​ คราวนี้​เป็น​ชาย​ชรา​ผม​เทา​รูปร่าง​สูงใหญ่​กว่า​เจ็ด​ฉื่อ​ใน​ชุด​คลุม​ยาว​ผ้าป่าน​ บน​ศีรษะ​สวม​รัดเกล้า​ทอง​ ท่าที​ไม่ธรรมดา​ บน​บ่า​มีเด็กสาว​ตัว​น้อย​อายุ​ราว​สี่ห้า​ปี​นั่ง​อยู่​ นาง​สวม​ชุด​เอี๊ยม​สีแดง​ แขนขา​ขาว​อม​ชมพู​ดุ​จราก​บัว​เผย​ให้​เห็น​อยู่​ด้านนอก​ เท้า​เปลือยเปล่า​ กำลัง​สะบัด​แพร​ต่วน​ยาว​สีแดง​เล่น​…

“ท่าน​ลุง​หม่า​ ใน​นี้​มัน​มืด​ๆ ห​ลิง​เอ๋อร์​กลัว​จัง” เด็กน้อย​หัวเราะ​คิกคัก​เอ่ย​ขึ้น​ บน​หน้า​มีความกลัว​อยู่​เสีย​ที่ไหน​

“เด็กดี​ ไม่ต้อง​กลัว​” ชาย​ชรา​ปลอบโยน​เด็กน้อย​ด้วย​เสียง​เบา​

หนึ่ง​คนชรา​หนึ่ง​เด็กน้อย​สอง​คน​นี้​เข้าสู่​สุสาน​เทพ​เช่นกัน​

……

“เข้าทาง​ไหน​ดี​ล่ะ​?”

ห​ลี่​มู่กับ​กัว​อวี่​ชิงสอง​คน​ยืน​อยู่​ที่​ส่วน​ก้น​หลุม​สวรรค์​ ใน​ดิน​โคลน​สีดำ​เบื้องหน้า​ปรากฏ​รูปร่าง​ของ​เค้าโครง​สิ่งปลูกสร้าง​แปลกประหลาด​บางส่วน​ มีทางเข้า​คล้าย​ประตู​ทั้งหมด​สิบสอง​บาน​ รูปร่าง​และ​ขนาดเล็ก​ใหญ่​ไม่เท่ากัน​

ชัดเจน​มากว่า​ สุสาน​เทพ​เป็น​สิ่งปลูกสร้าง​ขนาด​มโหฬาร​ที่​ถูก​ฝังอยู่​ส่วนลึก​ใต้ดิน​ หลุม​สวรรค์​มากมาย​ซึ่งระเบิด​เปิด​ออก​ใน​เมือง​หลิน​อัน​เพียง​เผย​ส่วนหนึ่ง​ของ​สิ่งปลูกสร้าง​ขนาด​ยักษ์​นี้​ออกมา​เท่านั้น​

“โอกาส​วาสนา​ ขึ้นอยู่กับ​คุณสมบัติ​แต่ละคน​ เรา​เข้า​จาก​ทาง​นี้​ก็แล้วกัน​” กัว​อวี่​ชิงสุ่มชี้ไป​ที่​ประตู​ใหญ่​ทางเข้า​บาน​หนึ่ง​

ห​ลี่​มู่หัวเราะ​ร่า​ “ได้​สิ”

ทั้งสอง​คน​เข้าสู่​ประตู​บาน​นั้น​ไป​อย่าง​เอาแต่ใจ​ยิ่ง​

เปลวไฟ​สีดำ​แผ่​เข้ามา​หา แม้ไม่มีความร้อน​ แต่กลับ​พา​สิ่งที่​เหมือน​พลัง​กัดกร่อน​เข้ามา​ ไม่ได้​มีผล​เพียง​กาย​เนื้อ​เท่านั้น​ แต่​ดูเหมือน​จะตรวจจับ​พลัง​จิตวิญญาณ​ได้​ด้วย​ น่ากลัว​อย่าง​มาก​

ห​ลี่​มู่และ​กัว​อวี่​ชิงต่าง​คน​ต่าง​แสดง​อภินิหาร​ต้านทาน​พลัง​กัดกร่อน​ที่​ประหลาด​นี้​

เข้า​ประตู​ไป​ได้​ไม่นาน​ ก็​มาถึงด้านใน​วิหาร​ใหญ่​ที่​รก​ระเกะระกะ​แห่ง​หนึ่ง​ เสาหิน​ที่​ล้ม​พัง​ รวมไปถึง​ชุด​เกราะ​ขึ้นสนิม​บน​พื้น​และ​กระ​ดู​ขาว​เน่า​ผุ​ อธิบาย​ได้​ว่า​ที่นี่​เคย​เกิด​การ​สู้รบ​ครั้ง​ใหญ่​ขึ้น​ เพดาน​โค้ง​ของ​วิหาร​ถูก​พัง​ทะลุ​ มีรู​ใหญ่​อยู่​มากมาย​…

ห​ลี่​มู่แหงนหน้า​มอง​เพดาน​โค้ง​ ใจลอย​เล็กน้อย​

สุสาน​เทพ​ถูก​ฝังเอาไว้​ใต้​พื้นดิน​ ตามหลักการ​แล้ว​ ด้านนอก​เพดาน​โค้ง​ควรจะเป็น​ดิน​โคลน​ แต่​นี่​ทำไม​กลับ​มีแสงดาว​รางๆ​ ลอดผ่าน​รู​ใหญ่​บน​เพดาน​ลงมา​ได้​?

ชุด​เกราะ​กับ​อาวุธ​ที่​แตกหัก​บน​พื้น​มีสนิม​ขึ้น​เป็น​ด่างดวง​แล้ว​ ราวกับ​แค่​ลม​พัด​ก็​ทำให้​พวก​มัน​สลาย​ไป​ได้​ ทว่า​ห​ลี่​มู่สุ่มหยิบ​ดาบ​โค้ง​ที่​สนิม​กิน​ไป​ถึงตัว​ดาบ​ขึ้น​มาเล่ม​หนึ่ง​ โบกสะบัด​เบา​ๆ อากาศ​ถูก​ตัดออก​ราว​เนย​ จากนั้น​เขา​หยิบ​ดาบ​ยาว​ที่​หลอม​ตี​ขึ้น​มาเอง​ออกจาก​มิติ​เก็บ​ของ​ เคาะ​ดูเบา​ๆ ดาบ​ยาว​เล่ม​นั้น​ก็​แตกหัก​ออกเป็น​สอง​ท่อน​ปาน​เต้าหู้​…

“บ้า​เอ๊ย​…”

ห​ลี่​มู่สะดุ้งโหยง​

เขา​ส่งปราณ​ดาบ​สาย​หนึ่ง​ฟัน​ไป​บน​เกราะ​หน้าอก​ขึ้นสนิม​ชิ้น​หนึ่ง​ข้างๆ​ เสียง​เค​ร้ง​ดัง​ขึ้น​มา ไม่มีแม้แต่​รอย​ดาบ​ที่​ฟัน​ลง​ไป​

“พวก​นี้​เป็น​อาวุธ​เต๋า​ที่​ยอดเยี่ยม​เป็นพิเศษ​ เพียงแค่​เสียหาย​ใน​ระหว่าง​การต่อสู้​ พอ​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​วัน​เข้า​ พลัง​วิญญาณ​จึงแตก​ซ่าน​กระเซ็น​ไป​หมด​ ทว่า​ไม่ต้องสงสัย​เลย​ มัน​ยัง​แข็งแกร่ง​อย่าง​มาก​อยู่​” กัว​อวี่​ชิงชี้ไป​ยัง​โครงกระดูก​ที่นั่ง​เอียง​อยู่​ด้าน​ข้าง​เสาหิน​ซึ่งล้ม​ลงมา​ เอ่ย​ว่า​ “คน​ผู้​นี้​ตอนที่​มีชีวิต​ คง​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​ทะลวง​สวรรค์​ขึ้นไป​”

ห​ลี่​มู่พยักหน้า​

อาวุธ​เต๋า​ล้วน​ขึ้นสนิม​เกรอะกรัง​ เห็น​ได้​ว่า​เวลา​ผ่าน​ไป​ยาวนาน​มาก​ แต่​โครงกระดูก​ร่าง​นี้​กระดูก​ขาว​แวววาว​ เปล่งแสง​ประกาย​ พอ​จะเห็น​ได้​ว่า​ช่วง​ยัง​มีชีวิต​อยู่​เขา​มีพลัง​ฝึก​ที่​แข็งแกร่ง​มาก​

ดูเหมือนว่า​กระดูก​เช่นนี้​ยังมี​อีก​มาก​บน​พื้น​ กระจัดกระจาย​กัน​อยู่​

“อย่าง​น้อย​คง​ผ่าน​ไป​ราว​สอง​ถึงสามพันปี​แล้ว​…” ห​ลี่​มู่กล่าว​อย่าง​ทอดถอนใจ​

พื้นที่​ของ​วิหาร​ใหญ่​นี้​ไม่ได้​กว้างใหญ่​นัก​ ผุ​ๆ พัง​ๆ บน​เสาหิน​ที่​พัง​ถล่ม​เต็มไปด้วย​ร่องรอย​การต่อสู้​ รอย​ดาบ​รู​กระบี่​ และ​ยังมี​รอย​ฝ่ามือ​รอย​หมัด​อย่าง​ชัดเจน​ นอกจาก​ชุด​เกราะ​กับ​อาวุธ​พัง​ๆ ที่​กระจัดกระจาย​เต็ม​พื้น​แล้ว​ ก็​ไม่มีสิ่งของ​พิเศษ​ใด​อีก​

ห​ลี่​มู่คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​เก็บ​เกราะ​ดาบ​ที่​ผุพัง​เหล่านี้​มา

“นี่​ก็​จะเอา​หรือ​?” กัว​อวี่​ชิงพูด​ติดตลก​

ห​ลี่​มู่ตอบกลับ​อย่าง​หน้าไม่อาย​มาก​ “เอา​สิ ทำไม​จะไม่เอา​เล่า​ ยุง​ตัวเล็ก​แค่​ไหน​ก็​มีเนื้อ​อยู่​นา​”

นำ​ขยะ​มาใช้ใหม่​ มัน​ก็​ยัง​ใช้ประโยชน์​ได้​อยู่​

เขา​คิด​สักครู่​ ก่อน​จะเก็บ​กระดูก​ขาว​เหล่านี้​ทั้งหมด​มาด้วย​ “รอ​ข้า​ออก​ไป​แล้​วจะ​ฝังพวกเขา​ให้​เรียบร้อย​ ดีกว่า​มาตาย​อยู่​ใน​ที่​แบบนี้​”

เมื่อ​ผ่าน​วิหาร​ใหญ่​ออกมา​ ก็​พบ​กับ​ระเบียง​ทางเดิน​ทอด​ยาว​

สอง​ด้าน​ของ​ของ​ระเบียง​ทางเดิน​เป็น​เสาหิน​กลม​ต้น​ใหญ่​ขนาด​สอง​คนโอบ​ ค้ำ​ยัน​เพดาน​ระเบียง​ไว้​ ระหว่าง​เสาหิน​มีรั้ว​หิน​ล้อมรอบ​ ด้านนอก​เป็น​เปลวไฟ​สีดำ​ซึ่งกำลัง​เดือด​พล่าน​ราว​หิน​หลอมเหลว​ ช่างน่ากลัว​ยิ่งนัก​ ห​ลี่​มู่มีลางสังหรณ์​ว่า​หาก​ตน​ตกลง​ไป​ เกรง​ว่า​จะกลายเป็น​เถ้าไป​ในทันที​

บน​ระเบียง​ทางเดิน​ยังคง​มีร่องรอย​การต่อสู้​

มีชุด​เกราะ​ผุพัง​กับ​อาวุธ​แตกหัก​มากมาย​ รวมไปถึง​โครงกระดูก​กระจัดกระจาย​อยู่​

ห​ลี่​มู่ยังคง​ทำ​เช่น​เดิม​ เก็บ​มัน​มาทั้งหมด​

เดิน​ไป​ด้านหน้า​เช่นนี้​ต่อไป​ราว​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ พบ​กับ​ร่องรอย​สนามรบ​เก่า​ไม่น้อย​ และ​ยิ่ง​เข้าไป​ด้านใน​ ร่องรอย​การต่อสู้​ก็​ยิ่ง​รุนแรง​ขึ้น​ นอกจาก​โครงกระดูก​คน​แล้ว​ ยังมี​ซากศพ​ของ​สัตว์ประหลาด​บางส่วน​ น่ากลัว​อย่าง​มาก​ กระดูก​แห้ง​แวววาว​มีแรงกดดัน​และ​พลัง​วิญญาณ​ไหลเวียน​อยู่​รางๆ​ ขณะ​ยัง​ไม่ตาย​จะต้อง​เป็น​สิ่งมีชีวิต​น่า​สะพรึง​ที่​เหนือกว่า​ขั้น​ทะลวง​สวรรค์​แน่นอน​

“ใน​สุสาน​เทพ​นี้​ ทำไม​ถึงมีสนามรบ​เก่า​ตั้ง​มากมาย​? หรือว่า​เคย​มีคน​บุก​เข้ามา​โจมตี​ใน​นี้​?” ห​ลี่​มู่สงสัย​มาก​

กัว​อวี่​ชิงเอ่ย​ “ก่อนที่​ข้า​จะมาได้​อ่าน​บันทึก​บางส่วน​จาก​วิหาร​เทพ​หมาป่า​ สุสาน​เทพ​นี้​น่าจะเป็น​สุสาน​ราชา​เซียน​ที่​เล่าลือ​กัน​ เคย​เปิด​มาแล้ว​ และ​ก่อให้เกิด​ความวุ่นวาย​ครั้ง​ใหญ่​บน​โลก​มนุษย์​ เลือด​หลั่ง​ริน​เป็น​แม่น้ำ​ ผู้​แข็งแกร่ง​ดับสูญ​ดุจ​เม็ดฝน​ น่าจะเป็น​ตอน​เปิด​ครั้ง​ที่แล้ว​ ผู้​แข็งแกร่ง​จาก​ด้านนอก​บุก​เข้ามา​ทำศึก​ใหญ่​กับ​ผู้คุ้มครอง​สุสาน​ จึงเหลือ​ร่องรอย​เหล่านี้​ทิ้ง​เอาไว้​”

“ผู้คุ้มครอง​สุสาน​?” ห​ลี่​มู่สะดุ้งโหยง​ กล่าว​ต่อว่า​ “ใน​สุสาน​เทพ​ยังมี​ผู้คุ้มครอง​สุสาน​ด้วย​หรือ​?”

ก่อนหน้านี้​ จ้าว​วิหาร​เทพ​หมาป่า​เจียง​ชิว​ไป๋​เคย​พูดถึง​สุสาน​ราชา​เซียน​ และ​ใช้ข้ออ้าง​นี้​ชิงตัว​ซ่างกวน​อวี่ถิง​ บีบ​ให้​ห​ลี่​มู่กับ​กัว​อวี่​ชิงกลับ​ไป​ยัง​วิหาร​เทพ​หมาป่า​ ที่แท้​สุสาน​ราชา​เซียน​ก็​คือ​ที่​เดียวกัน​กับ​สุสาน​เทพ​นี้​

เพียงแต่​คาดไม่ถึง​ว่า​จะมีผู้คุ้มครอง​สุสาน​อยู่​ด้วย​ ทำเอา​คน​ปวด​จิต​จริงๆ​

ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้นสูง​กว่า​ทะลวง​สวรรค์​ถูก​ผู้คุ้มครอง​สุสาน​สังหาร​ใน​นี้​ เช่นนั้น​พวก​ตน​สอง​คน​เข้าไป​ จะไม่ใช่การ​ส่งอาหาร​ถึงที่​หรอก​หรือ​?

ห​ลี่​มู่ตระหนัก​ขึ้น​มาได้​ สถานการณ์​อันตราย​ยิ่งกว่า​ที่​ตนเอง​คาดการณ์​ไว้​เล็กน้อย​

ทั้งสอง​คน​เดิน​ไป​ด้วยกัน​ กัว​อวี่​ชิงเอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “ดูท่าทาง​ ผู้คุ้มครอง​สุสาน​ใน​สุสาน​เทพ​เอง​ก็​เสียหาย​หนัก​เช่นกัน​ น่าจะ​ตาย​กัน​ไป​หมด​แล้ว​ พวกเรา​ใช่ว่า​จะไม่มีโอกาส​”

เมื่อ​ผ่าน​ระเบียง​ยาว​มา ทาง​ด้านหน้า​ถูก​ตัดขาด​ ระเบียง​ขาด​ลง​กลางคัน​ หิน​หลอมเหลว​สีดำ​กีดขวาง​ทางเดิน​ไว้​ ทว่า​มีเสาดำ​ยักษ์​ขนาด​สอง​คนโอบ​ต้น​หนึ่ง​ล้ม​พัง​ พาด​อยู่​ระหว่าง​สอง​วิหาร​ใหญ่​ดุจ​สะพาน​ไม้อย่างไร​อย่างนั้น​

พวก​ห​ลี่​มู่สอง​คน​เดิน​ไป​บน​เสาหิน​

เดิน​ไป​ข้างหน้า​เช่นนี้​ซ้ำไปซ้ำมา​อยู่​กว่า​สอง​ชั่ว​ยาม​ อย่าง​น้อย​ก็​เป็น​ระยะทาง​หลาย​ลี้​ ทางเดิน​ด้านหน้า​ถึงค่อยๆ​ กว้าง​ขึ้น​ เหนือศีรษะ​มีท้องฟ้า​ดวงดาว​เวิ้งว้าง​ ทำให้​คน​เกิด​ความเข้าใจผิด​ว่า​ราวกับ​เดิน​จาก​พื้นดิน​เข้าสู่​จักรวาล​ดวงดาว​

ห​ลี่​มู่ใช้เนตร​สวรรค์​กวาด​ดู​ก็​สามารถ​แยกแยะ​ออก​ นี่​คือ​ค่าย​กล​ลวงตา​ชั้นสูง​ชนิด​หนึ่ง​ แท้จริง​แล้ว​ด้านบน​เป็น​แผ่น​หิน​ เป็น​เพดาน​บนสุด​ของ​สุสาน​เทพ​

“ผ่าน​รอบนอก​สุสาน​เทพ​มาแล้ว​ ตรง​ไป​ข้างหน้า​อีก​ก็​จะเข้าสู่​พื้นที่​ใจกลาง​ ระมัดระวัง​ให้​ดี​” กัว​อวี่​ชิงพูด​เตือน​ สีหน้า​ก็​ปรากฏ​แวว​เคร่งขรึม​

ห​ลี่​มู่พยักหน้า​

เขา​เอง​ก็​รู้สึก​ได้​ ใน​อากาศ​เริ่ม​มีพลัง​กดดัน​อย่างหนึ่ง​แผ่​กระจาย​ ทำให้​ปราณ​แท้​ใน​ร่างกาย​ถูก​กด​ไว้​ กฎเกณฑ์​ถูก​พลิกกลับ​ ไม่สามารถ​เดินเหิน​บน​อากาศ​ได้​แล้ว​

ด้านหน้า​ปรากฏ​แม่น้ำ​สีดำ​กว้าง​หลาย​ลี้​สาย​หนึ่ง​ ของเหลว​แปลกประหลาด​สีดำ​ไหล​อยู่​เหมือน​น้ำ​ มีระลอกคลื่น​เล็กน้อย​ ด้านล่าง​คล้าย​มีสิ่งมีชีวิต​บางอย่าง​ซ่อนตัว​อยู่​ ชวน​ให้​หวาดกลัว​สั่น​ผวา​

“กระโดด​ข้าม​ไป​” ห​ลี่​มู่มอง​ทาง​ผิวน้ำ​นี้​

กัว​อวี่​ชิงส่าย​ศีรษะ​ โบกมือ​ซัด​หิน​สูงเท่า​คน​ก้อน​หนึ่ง​ด้าน​ข้าง​พุ่ง​ลอย​ออก​ไป​ทาง​ฝั่งตรงข้าม​

ซูม

หิน​ลอย​ออก​ไป​ได้​ครึ่ง​เดียว​ บน​ผิวน้ำ​ก็​พลัน​มีคลื่น​สีดำ​สาย​หนึ่ง​สาด​ขึ้น​มาประหนึ่ง​มีชีวิต​ ดุจดั่ง​ฉลาม​ยักษ์​สีดำ​ม้วน​กลืน​เอา​ก้อนหิน​ไป​ แล้ว​กัดกร่อน​จน​สลาย​กลายเป็น​อากาศ​ ควัน​ลอย​กรุ่น​เสียงดัง​…

“ให้​ตาย​เถอะ​” ห​ลี่​มู่อ้าปากค้าง​

ตอนนี้​เขา​เพิ่ง​ตระหนัก​ได้​ว่า​สายน้ำ​ดำ​ใน​แม่น้ำ​สาย​นี้​น่ากลัว​ขนาด​ไหน​

หิน​ก้อน​เมื่อ​ครู่​ ตอนที่​วาง​อยู่​รอบนอก​สุสาน​เทพ​แข็งแกร่ง​เป็นอย่างมาก​ ถูก​ฝ่ามือ​กัว​อวี่​ชิงซัด​เข้าไป​ก็​ยัง​ไม่แตก​ ระดับ​ความทนทาน​เทียบ​ได้​กับ​อาวุธ​เต๋า​เลย​ทีเดียว​ ทว่า​ใน​พริบตาเดียว​กลับ​ถูก​น้ำ​สีดำ​กัดกร่อน​หมด​ หาก​เป็น​กาย​เนื้อ​คงจะ​ถูก​กัดกร่อน​ทิ้ง​เสีย​ครึ่ง​ทันที​ และ​ทิ้ง​ชีวิต​ไป​แล้ว​ครึ่งหนึ่ง​

ทั้งสอง​เดิน​เลียบ​ฝั่งต่อมา​อีก​สอง​ลี้​ จึงมองเห็น​สะพาน​ยักษ์​สีดำ​แห่ง​หนึ่ง​วาง​พาด​อยู่​ด้านบน​แม่น้ำ​ ด้าน​ตรงข้าม​เป็น​รูป​สลัก​สัตว์ประหลาด​วัว​ขา​เดียว​สูงกว่า​สิบ​จั้งสอง​ตัว​ ซ้าย​หนึ่ง​ขวา​หนึ่ง​ เฝ้าสะพาน​อยู่​ทั้งสอง​ด้าน​

เมื่อ​ผ่าน​สะพาน​หิน​ไป​จะเป็นพื้น​ที่ทาง​เรียบ​

พื้นดิน​สีดำ​เหมือน​ทะเลทราย​ ไม่มีหญ้า​แม้สัก​ต้น​

ไป​ต่อ​อี​กราว​ยี่สิบ​ลี้​ ตรง​เส้น​ขอบฟ้า​ถึงปรากฏ​แนว​กำแพง​สูงแถว​หนึ่ง​

จอมศาสตราพลิกดารา

จอมศาสตราพลิกดารา

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 105 อ่านนิยาย

สำนักฝึกวิชายุทธ์ชั้นสูงบนกลุ่มดาวจื่อเวยได้สร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายมวลสารขนาดใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เพื่อให้สะดวกต่อการบุกเบิกดาราจักรทางใต้ของทางช้างเผือก

ชีพจรพลังเซียนของค่ายกลต้องตัดผ่านโลกมนุษย์พอดี หลังจากนี้อีกราว 20 ปี…โลกจะถูกทำลาย

หลี่มู่ เด็กหนุ่มกำพร้าผู้ปราดเปรื่อง

อาศัยอยู่กับซินแสเฒ่าสติไม่ดีที่วันๆ พร่ำเพ้อแต่การฝึกวิชา ซึ่งไม่จำเป็นสำหรับโลกปัจจุบันนี้สักนิด

แต่แล้ววันหนึ่ง เขากลับถูกส่งไปยังโลกที่เต็มไปด้วยเคล็ดวิชาและยอดฝีมือ

กลายเป็นขุนนางเมืองบนดาวดวงนี้ ออกแรงแค่เล็กน้อยก็ส่งผลร้ายแรงมหาศาล

ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด เขาจำต้องสวมบทบาทผู้นำ พร้อมหาวิถีทางกอบกู้โลกให้ทันกาล…

Options

not work with dark mode
Reset