คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า 382 แม่นางฉินคือเทพธิดาอย่างแท้จริง

ตอนที่ 382 แม่นางฉินคือเทพธิดาอย่างแท้จริง

ตอนที่ 382 แม่นางฉินคือเทพธิดาอย่างแท้จริง

สยงเอ้อร์มีผ้าสีขาวผูกอยู่บนใบหน้า มือหนึ่งพยุงจิ่งเสี่ยวซื่อที่ถ่ายจนเพลีย สายตาเหม่อลอย

ใช้ชีวิตมาหลายปี ไม่เคยต้องมาเจออะไรเช่นนี้ การเห็นคนท้องเสีย ต่างจากการเอามีดควักหัวใจตรงไหน

เขาคงทำบาปทำกรรมอะไรไว้จริงๆ

“ข้าไปทำบาปทำกรรมอะไรไว้ จึงต้องมาถูกทรมานเช่นนี้” สยงเอ้อร์พึมพำ

จิ่งเสี่ยวซื่อรู้สึกอ่อนแรงและสั่นเทาไปทั้งตัว ราวกับถูกดึงขึ้นมาจากน้ำ เหงื่อไหลราวกับสายฝน ใบหน้าเขียวปากซีด แม้แต่แรงจะตอบก็ยังไม่มี หากไม่ใช่เพราะสยงเอ้อร์กับบ่าวรับใช้ช่วยพยุงเขาซ้ายขวา เกรงว่าคงจะตกลงไปในถังชำระแล้ว

สยงเอ้อร์ต้องรับกรรม ส่วนเขาเองก็ขายหน้าไปจนหมดสิ้น ประวัติศาสตร์มืดเช่นนี้ ต่อไปนี้เกรงว่าจะถูกล้อไปตลอดชีวิต

จิ่งเสี่ยวซื่อหลับตาลง

เขาเคยจินตนาการถึงวิธีในการรักษาโรคต่างๆ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้ ซ้ำยังต้องขายหน้าต่อหน้าสตรี

นี่ช่างน่าละอายจนรู้สึกโมโห

ตอนที่เดินออกมาจากห้องชำระ จิ่งเสี่ยวซื่อถูกสยงเอ้อร์แบกออกมา อย่าว่าแต่เดินเลย ขนาดถูกแบกก็ยังคงตัวสั่น ริมฝีปากแห้งแตก เขาอยู่ในสภาพทรุดโทรมอย่างรุนแรง

เมื่อฉินหลิวซีเห็นดังนั้นก็ให้บ่าวรับใช้ส่งชามน้ำเกลือมา แล้วป้อนยาอีกหนึ่งเม็ด

จิ่งเสี่ยวซื่อพยายามยกเปลือกตาขึ้นเหลือบมองนาง พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

“เอาถังชำระไปไว้ข้างนอก” ฉินหลิวซีกำชับบ่าวรับใช้

บ่าวรับใช้ตกตะลึง จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปเอาถังชำระนั้นออกมา

ฉินหลิวซีและท่านหัวหน้าเผ่าเดินออกไป จิ่งเสี่ยวซื่อเห็นดังนั้นก็เหลือบมองสยงเอ้อร์พลางส่งสายตาให้เขา

สยงเอ้อร์เองก็อยากรู้เช่นกัน จึงรีบแบกเขาขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าประตู

เห็นฉินหลิวซีหยิบกิ่งไม้ขึ้นมาคนในถังโดยไม่รู้สึกว่าสกปรกเลยแม้แต่นิด

แหวะ

สยงเอ้อร์ท่าทางกระอักกระอ่วน

แม่เจ้า แม่นางฉินคือเทพธิดาอย่างแท้จริง ไม่รังเกียจสิ่งสกปรกเลยแม้แต่นิด

ในหัวจิ่งเสี่ยวซื่อว่างเปล่า ความรู้สึกร้อนพุ่งขึ้นไปยังจุดสูงสุดของศีรษะ จากนั้นก็ลงมาที่ใบหน้า จากสีหน้าซีดขาวกลายเป็นแดงเข้ม

ลองคิดดูว่าสตรีผู้หนึ่งหยิบกิ่งไม้มาเขี่ยสิ่งที่ตัวเองถ่ายท้องออกมาโดยสีหน้าไม่เปลี่ยน จะรู้สึกอย่างไร

จิ่งเสี่ยวซื่อคิดว่าการที่ตัวเองผายลมและถ่ายท้องต่อหน้าผู้คนก็น่าอายมากพอแล้ว คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่น่าอายกว่าคือจุดนี้

ฉินหลิวซีมองดูสิ่งสกปรกที่ผสมกับน้ำเลือดในถังชำระ เห็นตะกอนกลุ่มหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยกับท่านหัวหน้าเผ่าว่า “คงจะขับออกมาแล้ว”

หัวหน้าเผ่าก็เห็นด้วยเช่นกัน เอ่ย “ข้าก็คิดเช่นนั้น”

ฉินหลิวซีโยนกิ่งไม้ลงไปในถัง หันกลับมา ซือเหลิ่งเย่ว์กำลังถืออ่างน้ำรออยู่ ยิ้มพลางเดินไปล้างมือด้วยหญ้าหอม ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมือ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ให้คนอื่นตักน้ำมาให้ก็พอ เจ้าไม่ต้องทำเองหรอก”

“แค่เรื่องเล็กน้อย” ซือเหลิ่งเย่ว์ยิ้ม

สยงเอ้อร์อดไม่ได้ เอ่ยว่า “แม่นางฉิน เมื่อครู่ท่าน?”

“ก็แค่ดูว่าเขาขับแมลงพิษออกมาหรือยัง วางใจเถิด สิ่งสกปรกถูกขับออกมาจนหมด พวกเจ้าเองก็มาดูได้”

สยงเอ้อร์อยากจะปฏิเสธ แต่จิ่งเสี่ยวซื่อบีบมือของเขา ไปดู หากไม่ดูเขาไม่วางใจ จึงต้องเดินไป

เมื่อจิ่งเสี่ยวซื่อเห็นถังที่ใส่สิ่งสกปรกใบนั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปหลายครั้ง เขารู้ว่าตัวเองถ่ายออกมาจนหมดแรง แต่คิดไม่ถึงว่าจะน่ากลัวเช่นนี้ แต่หลังจากที่ตกใจ เขาก็รู้สึกผ่อนคลาย

เขาไม่เป็นอะไรแล้วใช่หรือไม่

กลุ่มคนเดินกลับเข้าไปในห้อง ฉินหลิวซีจับชีพจรให้เขาอีกครั้ง เอ่ย “หลังจากการฝังเข็มและใช้ยา พิษในร่างกายของเจ้าถูกขับออกมาแล้ว เส้นลมปราณก็เปิดออก จากนี้ไปก็กินตามใบสั่งยารักษาร่างกาย ค่อยๆ บำรุงไปเรื่อยๆ ก็จะไม่ต่างจากคนทั่วไป ส่วนตอนนี้เจ้าถ่ายท้องจนหมดสิ้น อยู่พักฟื้นที่นี่สักสองสามวันก็จะดีขึ้น ให้กินอาหารเหลวที่ย่อยง่ายก่อนเพื่อช่วยบำรุงกระเพาะ”

อูหยางเอ่ย “สหายเต๋าฉิน หนึ่งเรื่องไม่ควรรบกวนถึงสองคน เจ้าเขียนใบสั่งยาให้เขาเถิด”

ฉินหลิวซีไม่ได้ปฏิเสธ หยิบกระดาษและพู่กันมาแล้วเขียนใบสั่งยาบำรุงร่างกายอย่างรวดเร็ว และกล่าวถึงยาหย่างหรงของร้านยาตำหนักอายุวัฒนะด้วย

ไม่ขาดเงินไม่ใช่หรือ เช่นนั้นก็กินของดีๆ หน่อย

สยงเอ้อร์รับใบสั่งยามา ถามด้วยความสงสัยว่า “แม่นางฉิน ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่น แม้แต่ถังสกปรกนั่นเจ้าก็ยังไปดู ไม่รังเกียจที่มันส่งกลิ่นเหม็นหรือ”

ฉินหลิวซีหัวเราะ หันไปถามอูหยางว่า “ท่านหัวหน้าเผ่าคิดว่าสกปรกหรือไม่”

อูหยางส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม กล่าวกับสยงเอ้อร์ว่า “ผู้ที่เป็นหมอ ไหนเลยจะกลัวสิ่งสกปรก หมอยึดหลักการมอง ดม ถาม สัมผัส บางโรคต้องตรวจอย่างละเอียด อย่าว่าแต่สิ่งสกปรกเลย มีคนเป็นบ้าหลังจากเรียนวิชาแพทย์ อย่างเช่นเสินหนงชิมสมุนไพรร้อยชนิด[1] แล้วก็ยังชิมยาพิษ อย่างเช่นเลือดที่คุณชายจิ่งอาเจียนออกมา หลังจากที่ตรวจดูอย่างละเอียดแล้ว จึงจะสามารถสั่งยาได้ถูกต้อง รักษาต้นเหตุได้”

เมื่อสยงเอ้อร์และคนอื่นๆ ได้ฟังก็รู้สึกนับถือ

ใครบอกว่าหมอเป็นแรงงานราคาถูก บุคคลที่สูงส่งจริงๆ คือคนที่กล้าช่วยชีวิตคน นั่นก็คือหมอ

ฉินหลิวซีเอ่ย “ข้าเคยเห็นสิ่งที่สกปรกและน่าขยะแขยงกว่านี้ จึงไม่คิดว่าสิ่งนี้เป็นปัญหาใหญ่อะไร”

สยงเอ้อร์ยกมือประสานคารวะ “เป็นพวกเราที่ขาดความรู้”

“ตั้งใจรักษาตัวเถิด” ฉินหลิวซีเอ่ยจบแล้วเดินออกไป

“แม่นาง” จิ่งเสี่ยวซื่อให้บ่าวรับใช้พยุงขึ้นมา ดันเขาออก ยกมือขึ้นประสานขอบคุณด้วยท่าทางทุลักทุเล “ขอบคุณแม่นางฉินเป็นอย่างมากที่ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น จิ่งเหลียนรู้สึกขอบคุณอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และขอบคุณท่านหัวหน้าเผ่าที่ช่วยรักษาข้า”

เขาบอกนามทางการของตัวเองออกไป โนเวลพีดีเอฟ

อูหยางหัวเราะเบาๆ “มันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว เป็นเพราะคุณชายโชคดีได้บังเอิญพบกับสหายเต๋าฉินพอดี หากไม่มีวิชาฝังเข็มอันล้ำเลิศของนางช่วยขับพิษ การจำกัดพิษนี้คงต้องใช้เวลาพอสมควร”

ฉินหลิวซีกล่าวถ่อมตัวสองสามประโยคแล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ท่านหัวหน้าเผ่า ข้ามีเรื่องอยากจะปรึกษา พวกเราไปคุยกันที่หอเก็บตำราดีหรือไม่”

“เอาสิ”

อูหยางให้จิ่งเสี่ยวซื่อพักผ่อน จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับฉินหลิวซี

ให้ห้องเงียบสงบลง จิ่งเสี่ยวซื่อร่างกายอ่อนแรงกำลังจะล้มลง ถูกสยงเอ้อร์คว้าเอาไว้ พาเขากลับไปนอนราบบนเตียง

“ไปเตรียมอาหารเหลวมาให้คุณชายเจ้า” สยงเอ้อร์กำชับบ่าวรับใช้

จิ่งเสี่ยวซื่อยังเอ่ยต่อว่า “ต้มน้ำร้อนอีกสองถังไว้อาบน้ำด้วย”

บ่าวรับใช้รับคำสั่งแล้วออกไป

สยงเอ้อร์จ้องมองสีหน้าของจิ่งเสี่ยวซื่อ ทันใดนั้นก็หัวเราะออกมาดังลั่น ชี้ไปที่เขาแล้วจึงเอ่ย “เสี่ยวซื่อหนอเสี่ยวซื่อ ครั้งนี้เจ้าได้ทิ้งจุดอ่อนเอาไว้อยู่ในกำมือของข้าแล้ว มากพอที่ข้าจะล้อเจ้าไปตลอดชีวิต”

จิ่งเสี่ยวซื่อจ้องเขาอย่างอารมณ์เสีย แก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าว

สยงเอ้อร์รู้ว่าเขาเป็นคนหน้าบาง จึงไม่กล้าเอ่ยไปมากกว่านี้ กระแอมแล้วเอ่ย “ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอย่ามองสตรีทุกคนเป็นคนไม่ดีไปเสียหมด อย่างไรก็ย่อมมีคนดีอยู่เสมอ เจ้าดูครั้งนี้สิ หากเป็นคนใจแคบเหล่านั้น เกรงว่าคงจะไม่ช่วยรักษาพิษแมลงให้เจ้าแล้ว นางไม่เพียงแต่ช่วยรักษาโดยไม่ถือสาเจ้า ซ้ำยังไม่รังเกียจความสกปรกแม้แต่นิด แม่นางฉินผู้นี้แตกต่างจากสตรีที่เคยเห็นมาก่อน นางใจกว้าง มีความสามารถ ถ้าหาก…”

จิ่งเสี่ยวซื่อเอ่ย “เลิกคิดไร้สาระได้แล้ว นางเป็นนักพรตหญิง”

สยงเอ้อร์สบถเบาๆ “ข้าคิดอะไร ข้าหมายถึงคนที่มีความสามารถเช่นนี้ ควรจะคบไว้เป็นเพื่อนจึงจะดี จริงสิ ของขวัญขอบคุณก็ควรเตรียมให้ครบครัน จะตระหนี่ไม่ได้”

“ข้ารู้แล้ว” จิ่งเสี่ยวซื่อเอ่ยต่อ “เจ้าว่าให้อะไรดี พวกเครื่องเงินเครื่องทองที่ไร้ประโยชน์เหล่านั้น นางก็คงไม่ชอบหรอกกระมัง”

สยงเอ้อร์ได้ยินดังนั้นก็เกิดความคิดขึ้นมาในหัว เอ่ยว่า “พี่จะไปสืบมาให้เจ้าเดี๋ยวนี้ เจ้าพักผ่อนอย่างสบายใจเถิด”

จิ่งเสี่ยวซื่อมองดูเขาวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว สีหน้ามืดครึ้ม สัมผัสที่หน้าท้อง รู้สึกถึงความโล่งของร่างกาย อดถอนหายใจด้วยความโล่งอกไม่ได้

เมื่อนึกถึงฉินหลิวซี สีหน้าก็ทั้งขาวทั้งแดง ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดแม้แต่น้อย

[1] เสินหนงชิมสมุนไพรร้อยชนิด ตำนานจีนโบราณ

คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Score 10
Status: Completed
คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า นางคือปรมาจารย์ปู่ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น! รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาชีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่ง ฉินหลิวชี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเดำเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไป เบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู่ฉิว ผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงิน ปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิด เมื่อโชชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่นปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้ เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมรื่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัว เฮ้อ แม้ไม่หวังการก้วหน้าใดๆ แต่สรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเขียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้า เขาก็ดั้นดันเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า! "เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ" "ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ" "ไม่ป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง" "ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า" ฉีเซียนเอ่ย "ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป..." ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ "เดิมที่ท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน" "..."

Options

not work with dark mode
Reset