คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตายบทที่ 269 ปกป้องวิถีชีวิตของตนเอง

บทที่ 269 ปกป้องวิถีชีวิตของตนเอง

เปลือง​คารม​ไป​ไม่น้อย​ จิน​เฟย​เหยา​จึงไล่​เจ้าหมอ​นี่​ไป​ได้​

เห็น​จู๋ซวี​อู๋​เดิน​จากไป​พลาง​ส่าย​ศีรษะ​อย่าง​ไม่เข้าใจ​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​คร้าน​จะสนใจ​ว่า​เจ้าหมอ​นี่​คิดได้​ปรุโปร่ง​หรือไม่​ ถึงอย่างไร​เขา​ก็​ไม่ได้​กลายเป็น​สัตว์​ จากนั้น​นาง​ก็​หาว​หวอด​อย่าง​เกียจคร้าน​ บิด​ก้น​แล้ว​กระโดด​ขึ้นไป​บน​แท่น​ศิลา​

ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ระดับสูง​ของ​ทั้งสอง​เผ่า​หลาย​สิบ​คน​บน​แท่น​ศิลา​กำลัง​เจรจา​กัน​อย่าง​คึกคัก​ ทำสงคราม​คารม​กัน​เรื่อง​แบ่ง​ดินแดน​ เห็น​จิน​เฟย​เหยา​กระโดด​ขึ้น​มากะทันหัน​ เผ่า​มาร​นั้น​ไม่เป็นไร​ ทว่า​คน​เผ่า​มนุษย์​กลับ​ตะลึงงัน​ หรือว่า​เทา​เที่ย​หิว​แล้วจึง​ขึ้น​มาหาอาหาร​กิน​?

จิน​เฟย​เหยา​ขึ้น​มามิใช่เพื่อ​หา​ของกิน​ ค้นหา​ใน​กลุ่มคน​จึงพบ​หลง​ จากนั้น​นาง​ก็​วิ่ง​ไปหา​อย่าง​ร่าเริง​และ​นอนหลับ​อยู่​ด้านหลัง​หลง​

นาง​ว่าง​จน​เบื่อหน่าย​อยาก​จะนอน​ ทว่า​มีคน​รอบด้าน​มากเกินไป​ ไม่มีความรู้สึก​ปลอดภัย​จึงนอนไม่หลับ​ คิดไปคิดมา​จึงไป​นอนหลับ​อยู่​ข้าง​จอม​มาร​หลง​ มีเขา​เป็น​โล่​ย่อม​หลับ​ได้​สนิท​ ใคร​ให้​เขา​เป็น​บิดา​ของ​ข้า​เล่า​

จิน​เฟย​เหยา​ไม่ได้​ตระหนัก​เลย​สักนิด​ นอนหลับ​ไป​อย่าง​เปิดเผย​ หลง​ย่อม​ต้อง​รับ​สายตา​มอง​มาตามมารยาท​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ แต่​เขา​คือ​ใคร​ เรื่อง​เช่นนี้​เล็กน้อย​จน​ไม่ควรค่า​แก่​การเอ่ยถึง​

เห็น​เขา​เอน​พิง​บน​หลัง​ของ​จิน​เฟย​เหยา​อย่าง​เปิดเผย​ เอ่ย​อย่าง​ชืด​ชา “ถ้าทุกท่าน​ไม่คัดค้าน​ ก็​แบ่ง​ตาม​ความคิด​ที่​พวกเรา​เสนอ​เถอะ​”

“ไม่ได้​ ที่​เผ่า​มาร​ของ​พวก​เจ้าต้องการ​ล้วน​เป็น​ดินแดน​ดี​ๆ แบ่ง​แบบนี้​ไม่ได้​!” หัวข้อ​สนทนา​ถูก​เขา​เบน​กลับ​ไป​ทันที​ การโต้เถียง​อย่าง​คึกคัก​ใน​ที่​นั้น​เริ่ม​ขึ้น​อีกครั้ง​

สุดท้าย​ผลลัพธ์​เป็น​อย่างไร​จิน​เฟย​เหยา​ก็​ไม่รู้​ นาง​หลับ​จริงๆ​ และ​ฝัน​ว่า​ตนเอง​แบก​ภูเขา​ขนาดใหญ่​เดิน​บน​ทาง​ภูเขา​อัน​ไร้​ที่​สิ้นสุด​สาย​หนึ่ง​ ไม่ว่า​เดิน​อย่างไร​ก็​ดูเหมือน​จะเดิน​ไม่สุด​ทาง​เสียที​ เหน็ดเหนื่อย​แทบตาย​จริงๆ​

ตอนที่​นาง​ตื่นขึ้น​มาด้วย​ความไม่พอใจ​เต็มอก​ กลับเป็น​เพราะ​นาง​ถูก​หลง​ลาก​จน​ตื่น​ เห็น​ตนเอง​ถูกลาก​ลงมา​จาก​แท่น​ศิลา​ ร่าง​กระแทก​ลงมา​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​คำราม​อย่าง​ไม่พอใจ​ ไม่ได้​ตาย​เสียหน่อย​ ทำไม​ต้อง​ลาก​ไป​ด้วย​ ไม่ใช่ถุงกระสอบ​นะ​

ก่อน​กลับ​เรือ​กระดูก​ จิน​เฟย​เหยา​หันกลับ​ไป​มอง​พินิจ​ทาง​เผ่า​มนุษย์​ หาก​มิใช่โชคดี​บ้า​ๆ ตนเอง​สมควร​อยู่​ใน​กลุ่ม​มนุษย์​ทาง​ด้าน​นั้น​จึงถูกต้อง​ เทา​เที่ย​ที่​น่า​ตาย​ ที่แท้​ทำไม​จึงเลือก​มาโดน​ตนเอง​นะ​!

ไม่รู้​ว่า​หลาย​คนใน​กลุ่ม​เผ่า​มนุษย์​ทาง​ด้าน​นั้น​มอง​ตนเอง​ด้วย​ความริษยา​หรือ​โกรธแค้น​ บางที​อาจ​ยังมี​ความเห็นใจ​…

นาง​หันหน้า​กลับมา​ขึ้น​เรือ​กระดูก​ร้อย​สรรพสัตว์​อย่าง​สง่างาม นอน​ใช้กรงเล็บ​สางขน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ หูฟัง​คำ​สนทนา​ของ​พวกเขา​ราวกับ​มีเจตนา​และ​ไร้​เจตนา​

สุดท้าย​คิดไม่ถึง​ว่า​แบ่ง​ดินแดน​แบบนี้​ เริ่ม​แบ่ง​จาก​ตรงกลาง​ฝ่าย​ละ​ครึ่ง​ ไม่ว่า​ดินแดน​จะใหญ่​หรือ​เล็ก​ ดี​หรือไม่​ดี​ ถึงอย่างไร​ก็​แบ่ง​คนละ​ครึ่ง​ ทั้งสองฝ่าย​ห้าม​ข้าม​ไป​ดินแดน​ของ​อีก​ฝ่าย​ ส่วน​โลก​ระดับ​เทพ​ส่วนนอก​ก็​คนละ​ครึ่ง​เช่นกัน​ ส่วน​สถานที่​ห่วย​ๆ อย่าง​ชั้น​เมฆส่วนนอก​ของ​โลก​ระดับ​เทพ​ ใคร​อยาก​จะไป​ก็​ไป​ ไม่ต้อง​แบ่ง​ แบ่ง​ดินแดน​เหมือน​เด็ก​ๆ แบบนี้​คิดไม่ถึง​ว่า​ยัง​หารือ​กัน​อยู่​นาน​ ไม่รู้​ว่า​คน​เหล่านี้​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​

กลับ​ถึงเมือง​ตัน​ห​ลิง​ หลง​ไม่ได้​ลาก​จิน​เฟย​เหยา​กลับ​ไป​อุ่น​ตั่ง​ ทว่า​โยน​ให้​ไป​เฝ้าประตู​ต่อ​ นี่​ตรง​กับ​ใจจิน​เฟย​เหยา​พอดี​ เพียงแต่​พลัน​นึกถึง​เรื่อง​ก่อน​ไป​ที่​หลง​บอ​กว่า​ต้อง​ลด​ปริมาณ​อาหาร​ลง​ครึ่งหนึ่ง​ นาง​รีบ​ส่าย​หาง​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ประจบประแจง​ “ใต้เท้า​หลง​ ท่าน​จะจำกัด​ปริมาณ​อาหาร​ของ​ข้า​จริงๆ​ หรือ​ อย่า​ทำ​แบบนี้​สิ ถ้ากิน​ไม่อิ่ม​ ผู้อื่น​จะไม่โต​ ต่อไป​จะช่วย​ท่าน​สังหาร​สัตว์ประหลาด​กิน​คน​ไม่ได้​นะ​”

เห็น​นาง​กระพริบตา​ ส่าย​หาง​อย่าง​ร่าเริง​ ถ้าเป็น​สุนัข​ตัว​หนึ่ง​เกรง​ว่า​ยัง​ต้อง​แลบลิ้น​ด้วย​ หลง​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ด้านหลัง​นาง​ เอ่ย​เรียบๆ​ “กิน​ต่อไป​เถอะ​”

เอ่ย​จบ​เขา​ก็​เดิน​จากไป​อย่าง​วางอำนาจ​ ส่วน​หง​หรี่ตา​มอง​นาง​แวบ​หนึ่ง​จึงติดตาม​หลง​จากไป​ “ใต้เท้า​หลง​ ท่าน​เป็น​คนดี​จริงๆ​” จิน​เฟย​เหยา​ฉวยโอกาส​ประจบประแจง​ ถึงอย่างไร​พูดจา​ดี​ๆ ก็​ไม่ต้อง​เสียเงิน​ พูดมาก​หน่อย​ก็​ไม่เป็นไร​

จากนั้น​พอ​นาง​หมุนตัว​ก็​กลายเป็น​หิน​ใน​พริบตา​ สถานที่​ซึ่งไม่ไกล​จาก​ด้านหลัง​นาง​ ไม่รู้​ว่า​ปู้จื้อ​โหย​ว​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ตั้งแต่​เมื่อใด​ ข้าง​กาย​ยังมี​กบ​สอง​ตัวยืน​อยู่​และ​มอง​อย่าง​ประหลาดใจ​

อารมณ์​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ใน​ยาม​นี้​กระอักกระอ่วน​และ​ย่ำแย่​อย่างยิ่ง​ ปู้จื้อ​โหย​ว​นั้น​ช่างเถอะ​ นาง​จ้องมอง​พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิว​ ถึงแม้พวก​มัน​สอง​ตัว​จะมีท่าทาง​โง่งมดังเดิม​ แต่​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ จิน​เฟย​เหยา​จึงเห็น​เสียงหัวเราะ​อย่าง​บ้าคลั่ง​ซ่อน​อยู่​ภายใต้​ท่าทาง​โง่งม

ทันใดนั้น​ นาง​ก็​เห็น​ต้า​นิว​มุมปาก​กระตุก​ราวกับ​คิด​จะหัวเราะ​ ส่วน​พั่งจื่อ​ใบหน้า​แปรเปลี่ยน​ มีรอยยิ้ม​ชั่วร้าย​ทันที​ จิน​เฟย​เหยา​อับอาย​จน​กลายเป็น​โทสะ​ โก่ง​หลัง​พุ่ง​เข้าใส่​พวกเขา​

“อา​ อับอาย​จน​กลายเป็น​โทสะ​แล้ว​” ปู้จื้อ​โหย​ว​อุทาน​อย่าง​ตกตะลึง​ พริบตา​ก็​หาย​ไป​จาก​ที่​เดิม​กลับ​เข้า​มุก​เทียน​จี้ของ​เขา​ ส่วน​พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิว​ไม่มีที่​หลบ​จึงถูก​จิน​เฟย​เหยา​ใช้ฝ่ามือ​ตบ​ลอย​ออก​ไป​

แต่​นาง​ใช้ระดับ​แรง​ไม่มาก​นัก​ แค่​เนื่องจาก​เข้าหน้าไม่ติด​จึงระบาย​โทสะ​กับ​พวก​มัน​เท่านั้น​

“ฮ่าๆๆ! น่าขำ​แทบตาย​แล้ว​ เจ้าเล่นลูกไม้​อะไร​น่ะ​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะกลายเป็น​สุนัข​” ปู้จื้อ​โหย​ว​นั่ง​บน​พื้น​ ชี้ปลอกคอ​ธารา​ที่​ห้อย​ไว้​บน​ลำคอ​ของ​จิน​เฟย​เหยา​แล้ว​หัวเราะ​อย่าง​บ้าคลั่ง​

พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิว​ก็​นั่ง​อยู่​ข้าง​เขา​และ​กลั้น​หัวเราะ​ใน​ใจ หนึ่ง​คน​สอง​กบ​นั่ง​หัวเราะ​นาง​อยู่​ตรงนั้น​

สีหน้า​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ไม่ดี​อย่างยิ่ง​ นาง​เอ่ย​อย่าง​จริงจัง​ “นี่​คือ​เทา​เที่ย​ใน​สัตว์ร้าย​ทั้ง​สี่ ขอร้อง​ล่ะ​พวก​เจ้ามอง​ให้​ชัดเจน​หน่อย​ นี่​ไม่ใช่สุนัข​”

“เจ้าจะเป็น​อะไรก็ตาม​ใจ น่าขำ​แทบตาย​แล้ว​ ท่าทาง​ประจบประแจง​ของ​เจ้าเมื่อ​ครู่​ น่าขำ​จริงๆ​” ปู้จื้อ​โหย​ว​ยัง​หัวเราะ​อีก​ ทำให้​จิน​เฟย​เหยา​ไม่เข้าใจ​ เจ้าหมอ​นี่​มาทำ​อะไร​กัน​แน่​ จริงจัง​หน่อย​ได้​หรือไม่​

“ท่าทาง​เจ้าจะอยู่ดี​มีสุข​ กิน​จน​อ้วน​ขนาด​นี้​ แต่​ข้า​รู้สึก​ว่า​ต่อไป​เจ้าคงอยู่​อย่าง​ลำบาก​ ข้า​ได้ยิน​มานาน​แล้ว​ หลังจาก​ตอนที่​ท่าน​ลุง​รู้​ว่า​เจ้าบอ​กว่า​เป็น​บุตรสาว​ของ​เขา​ก็​หัวเราะ​ ข้า​ยัง​นึกว่า​หลังจาก​เจ้าถูกจับ​มาจะถูก​เขา​สังหาร​ทิ้ง​ตรงนั้น​เสีย​อีก​ คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้าจะกลายเป็น​สุนัข​ตัว​โต​ ประจบ​ได้​ไม่เลว​” ปู้จื้อ​โหย​ว​หัวเราะ​พลาง​บอกเล่า​

จิน​เฟย​เหยา​มอง​ท่าทาง​ยินดี​ใน​ครา​เคราะห์​ของ​ผู้อื่น​ก็​อยาก​จะฉีกหน้า​ของ​เขา​จริงๆ​

รอ​อยู่​นาน​ ในที่สุด​ปู้จื้อ​โหย​ว​ก็​หัวเราะ​จน​พอ​ เริ่ม​พูด​ธุระ​สำคัญ​ เขา​ชี้พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิว​แล้ว​ยิ้ม​ตาหยี​พลาง​เอ่ย​ว่า​ “หา​เจ้าพบ​พอดี​ ข้า​ขอ​คืน​เจ้าสอง​ตัว​นี้​ให้​เจ้า ถุงเฉียน​คุ​น​ของ​เจ้าก็​อยู่​ที่​พวก​มัน​ จริง​สิ ข้า​ดู​ใน​ถุงเฉียน​คุ​น​ของ​เจ้าแล้ว​ พวก​กำไล​เฉียน​คุ​น​เข้าไป​ไม่ได้​ แต่​โยน​ขยะ​ใน​ถุงของ​เจ้าทิ้ง​ไป​ได้​หรือไม่​ ข้า​ยัง​พบ​เนื้อ​ย่าง​ที่​บอก​ไม่ถูก​ ย่าง​จน​ดำปี๋​ราวกับ​ถ่าน​ ฝีมือ​ทำอาหาร​ของ​เจ้าย่ำแย่​เกินไป​แล้ว​ ของ​แบบนี้​กิน​ได้​หรือ​?”

“เจ้าจบสิ้น​แล้ว​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะบอ​กว่า​เนื้อ​ย่าง​ที่​ใต้เท้า​หลง​ทำ​ดำ​เหมือน​ถ่าน​” จิน​เฟย​เหยา​ปิดปาก​หัวเราะ​หึๆ​

ปู้จื้อ​โหย​วตะ​ลึง​งัน​ รีบ​ลุกขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​และ​เสย​ผม​ “ข้า​ยัง​มีธุระ​ต้อง​ทำ​ ข้า​พา​กบ​กลับมา​ให้​เจ้าแล้ว​ ข้า​ขอตัว​ก่อน​ล่ะ​”

“นี่​! เจ้ามีธุระ​ด่วน​อะไร​ เพิ่ง​อยู่​ครู่เดียว​ก็​จะไป​แล้ว​ อีก​ทั้ง​ตอนนี้​ข้า​มีสารรูป​แบบนี้​ เลี้ยงสัตว์​ภูติ​ไม่ได้​ เจ้าช่วย​ข้า​เลี้ยง​ต่อ​หน่อย​!” เห็น​เขา​คิด​จะหนี​ไป​อย่าง​กะทันหัน​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​ใช้กรงเล็บ​ไป​กด​ชาย​เสื้อ​ของ​เขา​ไว้​

ปู้จื้อ​โหย​ว​ดึง​ชาย​เสื้อ​ไม่ออก​จึงมอง​ไป​ยัง​บ้าน​ทาง​ด้าน​ข้าง​ หลังจาก​แน่ใจ​ว่า​หลง​ไม่ได้​จ้องมอง​พวกเขา​อยู่​ จึงเอ่ย​ช้าๆ “ข้า​ยุ่ง​จริงๆ​ หยวน​เห​มิ่งที่​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ผัง​สงคราม​วิญญาณ​ตาย​แล้ว​ ตอนนี้​ข้า​เลื่อน​จาก​อันดับ​สิบเอ็ด​มาเป็น​อันดับ​สิบ​ ถือว่า​เป็น​คนดัง​แล้ว​ ทุก​ห้าสิบ​ปี​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​และ​โลก​วิญญาณ​อื่นๆ​ จะจัดงาน​คบหา​สหาย​ทาง​เวทมนตร์​ครั้งหนึ่ง​ สิบ​อันดับ​แรก​ของ​ผัง​สงคราม​วิญญาณ​ล้วน​ต้อง​ไป​ เงิน​รางวัล​สูงอย่างยิ่ง​ มีกระทั่ง​ของ​วิเศษ​ชั้นยอด​ ข้า​ย่อม​ต้อง​ไป​อย่าง​ไม่เปิดเผย​ฐานะ​สัก​ครา​”

“ดีจริง​ ข้า​ก็​อยาก​ไป​ ที่จริง​เผ่า​มาร​ที่​ข้า​กำจัด​มากกว่า​เจ้าเย​อะนะ​ ทำไม​บน​ผัง​สงคราม​วิญญาณ​จึงไม่มีชื่อ​ของ​ข้า​” จิน​เฟย​เหยา​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ไม่พอใจ​

“พี่สาว​ นั่น​เจ้ากิน​ไม่ใช่สังหาร​ ป้าย​สงคราม​วิญญาณ​ก็​ไม่มี เจ้าขึ้น​ผัง​นักกิน​เถอะ​ อีก​ทั้ง​เจ้ายัง​กิน​เผ่า​มนุษย์​ไป​ไม่น้อย​ ถ้าจะขึ้น​ผัง​จริงๆ​ ทั้ง​ผัง​วิญญาณ​และ​ผัง​โลหิต​ล้วน​มีชื่อ​ของ​เจ้า” ปู้จื้อ​โหย​ว​ถลึงตา​ใส่นาง​อย่าง​อารมณ์ไม่ดี​

จากนั้น​เขา​ก็​เอ่ย​อย่าง​เดือดดาล​อีก​ “สัตว์​ภูติ​สอง​ตัว​ของ​เจ้ากิน​เก่ง​เกินไป​ ข้า​ยุ่ง​แทบตาย​ทั้งวัน​ ยัง​ต้อง​หาอาหาร​ให้​พวก​มัน​กิน​ ข้า​เลี้ยง​ไม่ไหว​จริงๆ​ พอดี​เจ้ากิน​ฟรี​ดื่ม​ฟรี​อยู่​ที่นี่​ดู​แล้ว​ไม่เลว​ ขอ​คืน​พวก​มัน​ให้​เจ้า คิดไม่ออก​จริงๆ​ ว่า​จะมีคน​ยอม​เลี้ยงสัตว์​ภูติ​แบบนี้​”

“อา​!” คิดไม่ถึง​ว่า​จะถูก​รังเกียจ​เสียแล้ว​ จิน​เฟย​เหยา​มอง​ไป​ด้าน​ข้าง​ พบ​ว่า​พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิว​ยืน​อยู่​ฝั่งตนเอง​ ต้า​นิว​กำลัง​ช่วย​ตนเอง​สางขน​ ส่วน​พั่งจื่อ​นั่ง​อยู่​ด้าน​ข้าง​เริ่ม​เฝ้าบ้าน​แทน​นาง​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​

เจ้าสารเลว​สอง​ตัว​นี้​

“เจ้าเป็น​ชนชั้นสูง​เผ่า​มาร​มิใช่หรือ​? บ้าน​เจ้าร่ำรวย​มีอำนาจ​ขนาด​นั้น​ เลี้ยงสัตว์​ภูติ​สอง​ตัว​ต้อง​บ่นว่า​ลำบาก​และ​หา​ข้ออ้าง​มาปฏิเสธ​ด้วย​หรือ​” จิน​เฟย​เหยา​ไม่พอใจ​ เจ้าเศรษฐี​นี่​ตระหนี่​เกินไป​แล้ว​

ปู้จื้อ​โหย​ว​มอง​นาง​อย่าง​ประหลาดใจ​ “นั่น​เป็น​ของ​ท่าน​แม่ข้า​ กฎ​ตระกูล​ของ​เผ่า​มาร​ นอกจาก​ผู้อาวุโส​มอบให้​ ไม่เช่นนั้น​สิ่งของ​ทั้งหมด​ล้วน​ต้อง​ไปหา​มาเอง​ นอกจาก​ผู้อาวุโส​สิ้น​ลง​ ไม่เช่นนั้น​อย่าง​มาก​ที่สุด​ก็​แค่​ให้​สถาน​ที่อยู่อาศัย​แก่​เจ้า ไม่เช่นนั้น​ข้า​จะเข้า​ร่วมงาน​คบหา​สหาย​ทาง​เวทมนตร์​นั่น​เพื่อ​ให้ได้​ของ​วิเศษ​ชั้นยอด​มารักษา​ชีวิต​สัก​ชิ้น​หรือ​”

“คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้ากับ​ข้า​จะเป็น​ยาจก​เหมือนกัน​” จิน​เฟย​เหยา​มีความรู้สึก​เห็นอกเห็นใจ​

“ยังมี​เวลา​ห้า​ปี​ ข้า​ต้อง​ยกระดับ​พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​และ​เตรียม​ศร​วิญญาณ​หน่อย​ คน​พวก​นั้น​แต่ละคน​ร้ายกาจ​อย่างยิ่ง​” ปู้จื้อ​โหย​ว​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ

จิน​เฟย​เหยา​มอง​ไป​รอบด้าน​ แล้ว​เอ่ย​กระซิบ​ “ตอน​เจ้าไป​พา​ข้า​ไป​ด้วย​ได้​หรือไม่​ ข้า​ก็​อยาก​เห็น​ว่า​โลก​วิญญาณ​อื่นๆ​ ว่า​เป็น​อย่างไร​ อีก​ทั้ง​ท่าน​ลุง​ของ​เจ้าก็​น่ากลัว​มาก​ ไม่แน่​ว่า​ถ้าไม่พอใจ​เมื่อไร​จะปาด​ข้า​ฉับ​ แต่​ตอนนี้​ยัง​ไม่ต้อง​ชั่วคราว​ อยู่​ที่นี่​มีกิน​มีดื่ม​ ข้า​ขอ​อยู่​สัก​หลาย​ปีก่อน​”

“เจ้า…” ปู้จื้อ​โหย​ว​มอง​นาง​อย่าง​หมด​วาจา​ อยาก​หลบหนี​ยัง​คิด​จะกินข้าว​ฟรี​เพิ่ม​อีก​หลาย​ปี​

“สิ่งนี้​ให้​เจ้า เจ้าคิด​เอา​เอง​เถอะ​” ปู้จื้อ​โหย​ว​ฉวยโอกาส​ที่​คน​ไม่ทัน​ระวัง​ป้องกัน​ โยน​แผ่น​หยก​ชิ้น​หนึ่ง​ลง​บน​พื้น​อย่าง​กะทันหัน​ จิน​เฟย​เหยา​ยื่น​กรงเล็บ​ไป​ทับ​แผ่น​หยก​ไว้​ใต้​ฝ่าเท้า​

“นี่​คือ​สิ่งใด​?”

“เป็น​วง​เวท​เล็ก​ๆ หลาย​อัน​ ใช้สำหรับ​ทำลาย​ของ​วิเศษ​กักขัง​โดยเฉพาะ​ เจ้าคิด​เอา​เอง​ ตอน​อยาก​จะหลบหนี​ก็​ทำลาย​ปลอกคอ​บน​ลำคอ​เอง​”

“ใต้เท้า​อา​ปู้​ เจ้าใจร้าย​มาก​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะให้​ข้า​หลบหนี​เอง​ เจ้าลงมือ​ก็​ไม่ตาย​เสียหน่อย​”

“ข้า​ไม่หาเรื่อง​ใส่ตัว​หรอก​ คน​ที่​แอบมอง​คนอื่น​อยู่​บน​คม​หอก​คม​ดาบ​อย่าง​ข้า​ ถ้าไม่หัวไว​สักหน่อย​จะอยู่​มาจนบัดนี้​ได้​หรือ​?”

“ถ้าเจ้าไม่แอบมอง​ความลับ​ของ​ผู้อื่น​ก็​ไม่ต้อง​ใช้ชีวิต​อยู่​บน​คม​หอก​คม​ดาบ​ เปลี่ยน​นิสัย​แย่​ๆ ของ​เจ้าเสีย​ หน้าอก​ของ​ภรรยา​ผู้อื่น​จะใหญ่​หรือไม่​ใหญ่​ก็​ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​เจ้า”

“เช่นนั้น​เจ้าก็​ควบคุม​กระเพาะ​ของ​เจ้าหน่อย​เถอะ​”

“…”

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset