ข้อห้าม 16 คำพูดฆ่าคน!

ตอนที่ 16 คำพูดฆ่าคน!

ทุจริต!

ทุกๆคนที่รู้ผลการเรียนของหลี่มู่หยางเป็นอย่างดีถ้าได้มาดูกระดาษข้อสอบฉบับนี้ก็ต้องมีความคิดแบบนี้กันทั้งนั้น

เพราะหลี่มู่หยางในเมื่อก่อนนอกจากเขาจะกามั่วๆในข้อสอบที่เป็นช้อยส์ให้เลือกแล้ว ในส่วนอื่นๆก็จะเว้นว่างเอาไว้ แต่ในครั้งนี้ กระดาษข้อสอบที่เขาส่งมาเขาทำเสร็จหมดแล้ว และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือเขาตอบถูกทุกข้อ

ถึงแม้จ้าวหมิงจูจะพ฿ดว่าข้อสอบในครั้งนี้ไม่ยาก ล้วนเป็นข้อสอบที่เคยให้นักเรียนทำมาหมดแล้ว แต่ในใจของเธอรู้ดีว่า ข้อสอบในครั้งนี้ค่อนข้างยาก และเธอก็ตั้งใจจะใส่ข้อสอบที่เป็นกับดัดที่มักจะใช้สอบเอ็นทรานซ์ๆบ่อยๆลงไปด้วย

ขนาดข้อที่เป็นกับดักหลี่มู่หยางก็ตอบมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และคำตอบที่เขาเขียนมาก็ถูกต้องและชัดเจนมากกว่าที่เธอคิดไว้ซะอีก

นี่ถ้าไม่ใช่ทุจริตแล้วมันคืออะไร? หรือว่านักเรียนที่ไม่เอาไหนอย่างหลี่มู่หยางจะมีความรู้ที่กว้างขวางและลึกซึ้งมากกว่าตัวเธอที่เป็นคุณครูมายี่สิบปีแล้ว?

ตอนนี้เป็นเวลาของการสอบ นักเรียนส่วนใหญ่กำลังทำข้อสอบเพื่อแข่งกับเวลา นอกจากตอนที่หลี่มู่หยางเดินมาส่งข้อสอบ พวกเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองและส่งเสียงทางจมูกแล้ว เวลาที่เหลือพวกเขาก็ตั้งใจเขียนคำตอบลงในข้อสอบ ตอนนี้พวกเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะหัวเราะเยาะหลี่มู่หยาง

ข้อสอบในครั้งนี้ยากมาก และข้อสอบในครั้งนี้มีค่อนข้างเยอะ นอกจากหลี่มู่หยางที่เป็นคนไม่รักความก้าวหน้าตอบไปมั่วๆแล้ว สำหรับคนอื่นๆก็ไม่สามารถทำข้อสอบออกมาให้เสร็จได้เพียงระยะเวลาอันสั้น

แม้แต่คนที่เก่งที่สุดอย่างชุยเสี่ยวซินเธอก็เพิ่งจะทำข้อสอบข้อสุดท้ายเสร็จ เธอวางปากกาลงบนโต๊ะและเริ่มตรวจทานข้อสอบ

หลังจากได้ยินเสียงตะคอกของจ้าวหมิงจูแล้ว ทุกคนต่างก็ตกใจและเงยหน้าขึ้นมามองที่โพเดี้ยม

ขืด……………..

จ้าวหมิงจูใช้ก้นดันเก้าอี้ไปด้านหลัง เธอจับกระดาษข้อสอบของหลี่มู่หยางและยืนขึ้น มองหลี่มู่หยางด้วยสายตาดุร้าย และพูดว่า “หลี่มู่หยาง นายอธิบายมาเดี๋ยวนี้ ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

เมื่อได้ยินคำถามของจ้าวหมิงจูแล้ว สายตาของทุกคนต่างก็หันไปมองหน้าหลี่มู่หยางแทน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย คิดในใจว่า คะแนนของหลี่มู่หยางเป็นอย่างไรทุกคนในห้องต่างรู้ดี……ไม่สิ ทุกคนในโรงเรียนมัธยมฟู่ซิ่งต่างรู้ดี เขาทุจริตในตอนนี้แล้วจะมีประโยชน์อะไร?

อีกอย่าง ยี่สิบคะแนนกับสามสิบคะแนนมันต่างกันตรงไหน?

มีเพียงชุยเสี่ยวซินคนเดียวที่ตั้งใจตรวจทานข้อสอบของตัวเอง ไม่ได้เงยหน้าไปมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะผลที่ออกมาเป็นแบบนี้เธอรู้อยู่ก่อนแล้ว

หลี่มู่หยางกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง เงยหน้ามองจ้าวหมิงจูและพูดว่า ” คุณครูจ้าวครับ ผมไม่เข้าใจว่าคุณครูกำลังพูดอะไร”

“นายไม่เข้าใจ?” จ้าวหมิงจูหัวเราะด้วยความเย็นชา “นายจะไม่เข้าใจได้อย่างไร? คำตอบที่นายตอยมาถูกทุกข้อ นายอธิบายให้ฉันฟังหน่อย ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

“ถูกทุกข้อเลยหรอ?” หลี่มู่หยางยิ้มด้วยความดีใจ ก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ในใจของเขาก็หายไป ในตอนที่เขาทำข้อสอบมีหลายๆข้อที่เขารู้สึกว่าเขาเคยเห็น แต่ความทรงจำนั้นกลับเลือนลาง เขาเองก็เลยไม่แน่ใจว่าที่เขาตอบลงไปมันถูกหรือเปล่า……..ตอนนี้คุณครูจ้าวบอกว่าถูกหมดทุกข้อ งั้นก็แสดงว่าครั้งนี้เขาต้องสอบได้คะแนนดีแน่ๆ

“หลี่มู่หยาง……….” จ้าวหมิงจูหยิบแปรงลบกระดานขึ้นมา อยากที่จะเอามาเคาะโต๊ะโพเดี้ยม แต่เมื่อเธอนึกถึงครั้งที่แล้วที่เธอทำแปรงลบกระดานพัง เธอก็พยายามบังคับระงับพฤติกรรมที่โหดร้าย เธอไม่อยากให้มีชื่อของตัวเองอยู่ร่วมกับชื่อของหลี่มู่หยางอีกแล้ว ” ฉันบอกให้นายอธิบายมา นายคิดว่าการที่นายเงียบไปตอบอะไรฉันจะปล่อยนายไปง่ายๆงั้นหรอ?”

“คุณครูครับ……….” รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่มู่หยางค่อยๆหายไป เขาพูดว่า ” ผมก็แค่ตอบคำถามถูกเท่านั้นเอง ทำไมผมต้องอธิบายอะไรด้วย? จะให้อธิบายอะไร? ก็เพราะผมขยันขึ้นแล้ว  “ป๊าบ………..”

จ้าวหมิงจูตบโต๊ะ และพูดตะคอกว่า ” หลี่มู่หยาง นายคิดว่าพวกเราโง่หรือไง? ข้อสอบในครั้งนี้ฉันเป็นคนออกเอง คำถามฉันก็เป็นคนเลือก มันยากขนาดไหนฉันรู้ดี ……..นายไม่เพียงแค่ส่งกระดาษข้อสอบก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมง แต่นายยังตอบไปประมาณ95% และยังเขียนอธิบายได้ถูกต้องทั้งหมด”

จ้าวหมิงจูกวาดสายตาไปมองเด็กนักเรียนทั้งห้อง และพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า ” พวกเธอเชื่อมั้ย? แต่ยังไงครูไม่มีทางเชื่อได้”

หา…………..

ในห้งเสียงดังอื้ออึง หลี่มู่หยางเขียนคำตอบไปประมาณ95% ? ฉันไม่ได้พักเลยแม้แต่นาทีเดียว แล้วยังมีอีกครึ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้ทำ……”

“ถูกทุกข้อเลยหรอ?เขาเล่นตลกหรือไง? จากคะแนนของเขาแล้วจะเป็นไปได้ยังไง?”

“เขานี่โง่มากจริงๆ ถึงจะทุจริตแต่ยังไงก็ต้องทำเป็นตอบผืดบ้างซิ ไม่มีประสบการณ์ในการทุจริตข้อสอบเลยจริงๆ………….”

………………..

สุดท้ายชุยเสี่ยวซินก็เงยหน้าขึ้นมามองที่โพเดี้ยม เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับว่าถูกลมนอกหน้าต่างพัดเข้ามาทำให้คิ้วขมวดกัน

เธอหันหน้าไปมองหลี่มู่หยางครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็ก้มหน้าทำเรื่องของตัวเองต่อไป

“คุณครูจ้าวครับ……….” หลี่มู่หยางนั่งบนเก้าอี้รูปร่างผอมๆดำๆนั่งตัวตรงเหมือนปากกา ในตอนนั้นเอง เพื่อนร่วมห้องที่ไม่สนใจรูปลักษณ์ของเขาและเพื่อนที่รู้ดีว่ารูปน่างหน้าตาของเขาเป็นอย่างไรก็พบว่า ดูเหมือนหลี่มู่หยางจะสูงขึ้นเล็กน้อย ร่างกายแข็งแรงขึ้น แม้แต่สีผิวก็ดูสว่างขึ้นไม่ได้ดำเหมือนแต่ก่อนแล้ว

เขากลายเป็นวัยรุ่นที่มีจิตวิญญาณและศักดิ์ศรี ไม่ได้เป็นสัตว์ประหลาดที่ถูกพวกเขาโจมตีด้วยความอัปยศอีกแล้ว

จู่ๆต้นกล้าที่แห้งเหี่ยวก็แตกหน่อขึ้นมาใหม่ มันทำให้คนที่เห็นรู้สึกสดใส

ในตอนนี้เอง สีหน้าท่าทางของหลี่มู่หยางก็เคร่งขรึมมาก ราวกับว่ากำลังพูดคุยกันเรื่องที่ยิ่งใหญ่ สำหรับนักเรียนคนหนึ่งแล้ว การที่ถูกคุณครูกล่าวหาว่าเขาทุจริตการสอบ นี่ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่หรอ?

“นักเรียนของครูตอบถูก ถ้าเทียบกับแต่ก่อน……….ถือว่าเขามีความก้าวหน้ามาก ในฐานะที่เป็นคุณครู ไม่ใช่ว่าครูต้องรู้สึกดีใจหรอ?”

“ถ้ามานะพยายามขยันเรียน ค่อยๆบรรลุความก้าวหน้าและความสำเร็จมาทีละขั้นๆ แน่นอนว่าฉันต้องดีใจอยู่แล้ว แต่การที่นักเรียนคนหนึ่งห้าวหน้าและได้คะแนนแบบนี้มาเพราะการทุจริต นอกจากฉันจะผิดหวังในการเรียนของเขาแล้ว ฉันยังผิดหวังในตัวตนของเขาด้วย………….จากที่ฉันดู นักเรียนแบบนี้น่าจะหมดหนทางที่จะเยียวยาแล้ว ฉันรู้สึกอับอายที่มีนักเรียนแบบนี้”

จ้าวหมิงจูตัดสินใจแล้วว่า เธอจะไล่เขาออกไป จะไล่เขาออกไปโดยใช้เหตุปลที่เขาทุจริตในการสอบครั้งนี้ เธอไม่อยากให้เขาอยู่ในห้องเรียนอีกต่อไป เธอไม่ต้องการจะให้เขาเป็นคนที่ส่งผละกระทบต่อการเรียนของคนอื่นๆ จากวันนี้ห่างจากวันที่จะสอบเอ็นทรานซ์มีเลาเหลืออีกหนึ่งเดือนเต็ม เธอและนักเรียนของเธอต้องใช้เวลาระยะสั้นที่เหลืออยู่นี้ ไม่สามารถเสียเวลาให้กับคนไร้ประโยชน์แบบนี้แม้เพียงวินาทีเดียว

ไล่ออกไป!

เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำแบบนี้ จ้าวหมิงจูก็เงียบลง ยกมือขึ้นมาโบกและพูดว่า ” หลึ่มู่หยาง นายไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว เก็บของของนายซะ แล้วไปรอที่ห้องปกครอง เดี๋ยวจะได้จัดการ ตอนนี้เป็นเวลาสอบ ห้ามรบกวนการสอบของเพื่อนๆคนอื่นๆ”

“คุณครูจ้าวครับ…..” ขอบตาของหลี่มู่หยางแดง ขนาดน้ำเสียงในการพูดก็กลายเป็นแหบแห้ง ความโกธ ความน้อยใจในความไม่เป็นธรรม ความเยือกเย็นที่โดนใส่ร้าย

ตั้งแต่เล็กจนโต นอกจากพ่อแม่และน้องสาวแล้ว ไม่มีใครสนิทสนมกับเขา ไม่มีใครรักและปกป้องเขา ไม่มีใครมาแตะไหล่เขาและพูดว่า เพื่อเลิกเรียนแล้วไปร้านเกมส์กัน

เขามักจะอยู่คนเดียวเสมอ เหมือนเป็นคนที่อยู่คนละโลกกับคนอื่น โลกทั้งใบยืนอยู่ตรงข้ามกับเขา ยืนอยู่ห่างไกลจากเขา ชี้มาที่เขาและพูดว่า ” ทุกคนดูสิ นั่นคือตัวประหลาด”

เขาไม่ใช่ตัวประหลาด เขาเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง เป็นวัยรุ่นคนหนึ่ง

เขาต้องการเพื่อน ต้องการการยอมรับ ต้องการมีคนส่งกระดาษข้อความให้เขาในตอนเรียน ต้องการคนที่หลังเลิกเรียนแล้วกอดคอเขาไปกินไอติมกับเขา…………แม้แต่นักเรียนที่เขียนข้อความในกระดาษที่ส่งมาก็เลี่ยงที่จะส่งให้เขา ราวกับว่าถ้าเขาสัมผัสกับกระดาษใบนั้นแล้วตัวหนังสือจะหายไป

เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมทุกคนต้องโหดร้ายกับเขาแบบนี้? นี่มันไม่ยุติธรรมกับเขา

“คุณครูจ้าวครับ………..” หลี่มู่หยางเอียงหน้าด้วยความดื้อรั้น แบบนั้นจะทำให้น้ำตาที่เอ่ออยู่ในดวงตาไม่ร่วงลงมา ไม่งั้นล่ะก็ พวกเขาก็ต้องพูดว่า รีบพูสิหลี่มู่หยางร้องไห้แล้ว ถ่านดำของห้องเราร้องไห้แล้ว……………..

หลี่มู่หยางไม่เคยร้องไห้มาก่อน ขนาดตอนที่ถูกเพื่อนๆจับกดลงบนพื้นและนั่งขี่บนตัวเขา เขาก็ยังไม่ร้องไห้

มันเป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองได้

“คุณครูจ้าวครับ ถ้าคุณครูสงสัยว่าผมจะทุจริตในการสอบ ก็ควรต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนหรือเปล่า หลังจากนั้นแล้วค่อยสรุปว่าผลเป็นอย่างไร?” หลี่มู่หยางมองจ้าวหมิงจู พูดคำหนึ่งหยุดครู่หนึ่งว่า “คุณครูรู้มั้ย คำพูดของครู…………ทำให้ผมรู้สึกอย่างไร?”

น้ำเสียงของหลี่มู่หยางสะอึกสะอื้น เขากังวลว่าเขาจะพูดต่อไปไม่ได้ กังวลว่าเขาจะยืนหยัดไม่ถึงที่สุด ” คุณครูจ้าวครับ นี่มันเหมือนกับครูกำลังฆ่าผม”

Options

not work with dark mode
Reset