กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามีบทที่ 301 สุกสกาวดั่งทางช้างเผือก ขอให้คุณเป็นดอกไม้ไฟในโลกแต่งแต้มภูเขาและแม่น้ำ

บทที่ 301 สุกสกาวดั่งทางช้างเผือก ขอให้คุณเป็นดอกไม้ไฟในโลกแต่งแต้มภูเขาและแม่น้ำ

บทที่ 301 สุกสกาวดั่งทางช้างเผือก ขอให้คุณเป็นดอกไม้ไฟในโลกแต่งแต้มภูเขาและแม่น้ำ

บทที่ 301 สุกสกาวดั่งทางช้างเผือก ขอให้คุณเป็นดอกไม้ไฟในโลกแต่งแต้มภูเขาและแม่น้ำ

เสิ่นอี้โจวเลิกคิ้ว เดินไปที่โซฟาข้างเตียงแล้วนั่งลง พลางมองเธออย่างสบาย ๆ “โอ้ มีข้อห้ามแบบนี้ด้วยเหรอ?”

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าอย่างจริงจัง “แน่นอนสิ”

ตอนนี้เป็นเดือนพฤศจิกายน สำหรับเมืองเตียนเฉิงแล้วอุณหภูมิยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ซึ่งในตอนกลางวันยังคงมีอุณหภูมิอยู่ที่ช่วง 20 องศา

ทุกครั้งที่เสิ่นอี้โจววางเธอบนเตียง เธอก็ไม่สามารถลุกออกไปได้โดยไม่เสียเหงื่อได้เลย

หญิงสาวทนไม่ไหวกับความรู้สึกที่สกปรก และอดไม่ได้ที่จะสระผมเมื่อมีเหงื่อออก ซึ่งจะส่งผลต่อเส้นผมที่ดัดมาของเธอ

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ มุมปากของเสิ่นอี้โจวก็กระตุกขึ้น และพูดว่า “งั้นคุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่า ทำไมครั้งนี้คุณถึงให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกมากขนาดนี้ล่ะ?”

เซี่ยชิงหยวนนั้นสวยมากอยู่แล้ว แม้แต่เสื้อผ้าที่เรียบง่ายก็เข้ากันกับเธอได้ดี แต่ปกติหญิงสาวให้ความสนใจกับการใส่เสื้อผ้าเท่านั้น เพราะสิ่งนี้จะช่วยในธุรกิจขายเสื้อผ้าของเธอ

โดยปกติเธอจะใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบางอย่างเท่านั้น และไม่เคยแต่งหน้าเลย

แต่วันนี้ตอนที่เธอกลับมาบ้าน เขาพบว่าเธอถือถุงใบเล็กกลับมาด้วย ซึ่งมีคำว่าเครื่องสำอางเขียนอยู่

ทำไมภรรยาของเขาเริ่มใส่ใจกับความงามมากกว่าปกติกัน?

เซี่ยชิงหยวนเดินไปที่กระจกแล้วมองดูตัวเองอีกครั้ง เธอพอใจกับการเสริมสวยที่ทำในวันนี้มาก

หากจับคู่กับกระโปรงยาว คิ้วสวย และปากสีแดง เธอจะกลายเป็นสาวฮ่องกงที่สมบูรณ์แบบทีเดียว

เธอไม่หันกลับมามองและตอบช้า ๆ “คนอื่นคิดว่าฉันไปที่เมืองหลวงของมณฑลเพื่อเสพสุขกับตำแหน่งของคุณ แต่มีเพียงฉันเท่านั้นที่รู้ว่าที่นั่นคือบ่อมังกรและถ้ำเสือต่างหาก ซึ่งมันกำลังรอให้ฉันไปตกหลุมพรางอยู่”

เสิ่นอี้โจวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงเบา “คุณไม่พูดเกินจริงไปหน่อยเหรอ?”

เขายื่นมือออกแล้วโบกมือให้เซี่ยชิงหยวนเข้ามาใกล้

เซี่ยชิงหยวนวางมือบนฝ่ามือของชายผู้เป็นสามี และด้วยแรงฉุกเล็กน้อยของเขา เธอก็ล้มลงในอ้อมแขนของเสิ่นอี้โจวแล้ว

เธอเงยหน้าขึ้นพลางมองดูผู้เป็นสามี “ฉันพูดเกินจริงที่ไหน ถ้าฉันจำไม่ผิด ครอบครัวของฉินซูอวี้ก็อาศัยอยู่ที่นั่นด้วยใช่ไหม? นอกจากนี้ยังมีคุณหนูเซี่ยที่ดูอ่อนโยนและอ่อนแออะไรนั่นอีกด้วย”

เธอเหยียดสองนิ้วออก “ฉันยังไม่ทันได้ไปเหยียบที่นั่นเลย แต่กลับมีคู่ต่อสู้สองคนรออยู่แล้ว”

ขณะเดียวกันก็จับใบหน้าของเสิ่นอี้โจว “บอกฉันหน่อยสิ ทำไมคุณถึงดึงดูดพวกผีเสื้อเหล่านั้นได้ขนาดนี้นะ?”

เมื่อเห็นเซี่ยชิงหยวนแสร้งทำเป็นไม่พอใจ เสิ่นอี้โจวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขันอีกครั้ง

เขาจับมือเธอแล้วพูดว่า “คุณมองผมผิดแล้ว ผมไม่เคยมองผู้หญิงคนอื่นด้วยซ้ำ ผมมองแค่คุณคนเดียว”

สีหน้าของเขาจริงจังขึ้น “ฉินซูอวี้มีนิสัยเหมือนเด็ก เธอชินกับการเป็นคนหยิ่งผยองและถูกเอาอกเอาใจ ดังนั้นอย่าสนใจเธอเลย แต่ถ้าเธอมาวุ่นวายมาก ๆ คุณก็แค่สอนบทเรียนไป แล้วผมจะสนับสนุนคุณเอง”

เซี่ยชิงหยวนแสดงสีหน้าปลื้มปีติและยกนิ้วให้เสิ่นอี้โจว “เลขาธิการเสิ่น คุณยอดเยี่ยมมาก!”

เสิ่นอี้โจวจูบเธอเบา ๆ “เรื่องบนเตียงผมยิ่งยอดเยี่ยมกว่าอีกนะ”

เซี่ยชิงหยวนตีเขาทันที “จะมาล้อฉันตอนนี้ทำไมอีกเนี่ย?”

เธอขมวดคิ้ว “อ่อแล้วก็เซี่ยจื่ออี้คนนั้น ช่วยบอกฉันทีสิ ฉันได้รับอนุญาตให้ทะเลาะหรือดุด่าได้ไหมคะ?”

เสิ่นอี้โจวเอนตัวลงบนโซฟา ดวงตาของเขากลอกไปมาขณะที่พูดว่า “ต่อให้คุณต้องการตีเธอ คุณก็ทำได้อยู่แล้ว”

เมื่อเซี่ยชิงหยวนได้ยินแบบนี้ เธอก็รู้สึกประหลาดใจมาก

เสิ่นอี้โจวพูดต่อว่า “จริง ๆ แล้วเซี่ยจื่ออี้ไม่ได้คิดแบบนั้นกับผมหรอก มันก็แค่… ”

เขาคิดอยู่พักหนึ่งและไม่รู้ว่าจะใช้คำพูดอะไรดีถึงจะเหมาะสม “ให้พูดสั้น ๆ คือถ้าคุณได้เจอเธออีกสักสองสามครั้ง คุณจะรู้ได้เอง”

“คุณแค่ต้องเป็นคุณนายเสิ่นก็พอ ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอื่นอีก”

เซี่ยชิงหยวนถูกหลอกโดยคำพูดของเสิ่นอี้โจว

ในความเป็นจริง เซี่ยชิงหยวนก็ยังรู้สึกว่าเมื่อเทียบกับความรู้สึกตรงไปตรงมาของฉินซูอวี้ที่มีต่อเสิ่นอี้โจวแล้ว ความคิดของเซี่ยจื่ออี้นั้นซับซ้อนกว่ามาก เธอดูจะไม่ได้ชอบเขา แต่เหมือนอยากครอบครองมากกว่า

รวมถึงเวลาที่ฉู่ซิงอวี้มาคุยกับเธอ เซี่ยจื่ออี้มักจะมองมาด้วยสายตาที่ไม่ปกติ

เป็นไปได้ไหมว่านี่คือสิ่งที่เรียกว่าความอยากครอบครอง?

‘ฉันไม่ชอบคุณ แต่พวกคุณทุกคนต้องชอบฉัน ห้ามไปชอบคนอื่นเด็ดขาด’

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกว่าความคิดนี้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงไม่น้อย

มุมตาของเธอกระตุก และตอบว่า “ดูเหมือนฉันจะเข้าใจได้นิดหน่อยแล้วล่ะ”

เธอลังเล “แต่ถ้าฉันกับเซี่ยจื่ออี้ทะเลาะกันรุนแรง มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อคุณเหรอ?”

ในสายตาของทุกคน การที่เสิ่นอี้โจวสามารถไต่เต้าขึ้นตำแหน่งอย่างรวดเร็วได้นั้นเป็นเพราะการสนับสนุนของเซี่ยเจิ้ง

เสิ่นอี้โจวลูบหลังมือของเธอ “คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก เซี่ยเจิ้งไม่ใช่คนสายตาตื้นเขิน พูดง่าย ๆ ก็คือไม่ต้องอดทนหากถูกรังแก เพราะไม่อย่างนั้นมันจะขัดกับความตั้งใจเดิมของผมที่มีต่อคุณ”

เซี่ยเจิ้งมีอายุมากแล้ว และจะเกษียณในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ดังคำกล่าวที่ว่าถึงเวลาออกเดินทางแล้ว และเขาก็ต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีก่อนออกเดินทางด้วย

หลังจากเหตุการณ์ที่ฝูเถียน ชื่อของเสิ่นอี้โจวก็เป็นที่รู้จักในแวดวงเมืองหลวง เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ความสูงที่เสิ่นอี้โจวสามารถปีนได้ในอนาคตจะสูงกว่าเซี่ยเจิ้งมากอย่างแน่นอน

ดังนั้นเซี่ยเจิ้งจะไม่ยอมหักกับเสิ่นอี้โจวง่าย ๆ

เซี่ยชิงหยวนยิ้มออกมา “ขอบคุณมากนะ เมื่อไปถึงเมืองหลวงของมณฑล ฉันจะทำงานให้หนักเลย”

เสิ่นอี้โจว “ดีมาก…”

ผ่านไปไม่นานก็ใกล้จะถึงวันออกเดินทางแล้ว

เพื่อนบ้านที่มีสัมพันธ์ที่ดีก็พากันมาอวยพรลาพวกเขา

เซี่ยชิงหยวนและคนอื่น ๆ กล่าวคำอำลากับทุกคน และขึ้นรถไฟไปยังเมืองหลวงของมณฑล

ในทางกลับกัน เสิ่นอี้หลินซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบ ๆ ที่มุมห้องและหลั่งน้ำตา

เซี่ยชิงหยวนปาดน้ำตาของเขาแล้วถามว่า “นายลังเลที่จะไปจากเพื่อนของนายใช่ไหม?”

เสิ่นอี้หลินพยักหน้า กัดริมฝีปากและไม่พูดอะไร

ในตอนนี้เขามีเพื่อนมากมายแล้ว รวมทั้งน้องสาวตัวน้อยที่น่ารักด้วย ซึ่งเขาทนไม่ได้ที่จะจากไป

เซี่ยชิงหยวนยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอกน่า นายจะมีเพื่อนมากขึ้นและมีได้รู้จักสาวสวยมากขึ้นที่เมืองหลวงของมณฑลเลยนะ”

“…” เสิ่นอี้โจวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พูดไม่ออกไปชั่วขณะ

หลินตงซิ่วที่กำลังจะดื่มน้ำก็พ่นน้ำออกมาโดยตรงทันที

แต่เมื่อเสิ่นอี้หลินได้ยินประโยคนี้ เขาก็ร้องไห้ออกมา

พี่สะใภ้แกล้งเขาอีกแล้ว!

ทันทีที่เริ่มร้องไห้ ผู้คนรอบข้างก็มองดูด้วยรอยยิ้มในแววตา

พอเห็นแบบนั้น เสิ่นอี้หลินก็ปิดปากทันที ไม่กล้าร้องไห้อีกต่อไป

แต่โดยไม่คาดคิดว่าหลังจากทำเช่นนั้น เขากลับสะอึก

เซี่ยชิงหยวนกลั้นรอยยิ้มไว้และหยิบแก้วน้ำให้เขา “ดื่มน้ำก่อนสิ”

เธอกับเสิ่นอี้โจวยิ้มให้กันและส่ายหัว

แม้ไม่ได้อยู่ที่เมืองเตียนเฉิงนานมากนัก แต่เธอยังคงรักมันมาก

เมื่อเปรียบเทียบกับเมืองหลวงของมณฑลที่คึกคัก สำเนียงพูดของคนในเตียนเฉิงและรอยยิ้มที่คุ้นเคยของผู้คนทำให้เธอมีความสุขมากกว่า

แค่กลัวจะไม่มีโอกาสกลับมาอีกในอนาคต

ทันใดนั้นก็มีความอบอุ่นจากหลังมือ และมันเป็นเสิ่นอี้โจวที่จับมือเธอไว้

เขายิ้มอย่างอ่อนโยน พร้อมกับความมั่นคงในดวงตา

เมื่อมองดูชายตรงหน้า เซี่ยชิงหยวนก็นึกถึงประโยคหนึ่งขึ้นมา : สุกสกาวดั่งทางช้างเผือก ขอให้คุณเป็นดอกไม้ไฟในโลก*[1] แต่งแต้มภูเขาและแม่น้ำ

* ดอกไม้ไฟในโลก [人间烟火] หมายถึงควันไฟจากปล่องไฟที่เกิดจากการทำอาหาร เป็นอุปมาถึงชีวิตของมนุษย์ธรรมดาทั่วไปบนโลกที่ยังต้องกินต้องดื่ม

———————

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Score 10
Status: Completed
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี ...ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด! เรื่องย่อ หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

Options

not work with dark mode
Reset