กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามีบทที่ 269 ความกระหายและความปรารถนา

บทที่ 269 ความกระหายและความปรารถนา

บทที่ 269 ความกระหายและความปรารถนา

บทที่ 269 ความกระหายและความปรารถนา

เติ้งซูอี้ถามอีกครั้งว่า “เธอเห็นไหมว่าใครใส่มันอยู่?”

“เรื่องนี้…” เซี่ยชิงหยวนกัดริมฝีปากของตนแสร้งทำเหมือนกับเป็นทุกข์ ราวกับพยายามฟื้นความจำ

ขณะเดียวกัน กงเหลียนซินและเติ้งซูอี้ต่างก็มองอย่างประหม่าโดยไม่มีเหตุผล

เซี่ยชิงหยวนตบศีรษะตัวเอง พลางกล่าวว่า “ดูความทรงจำของฉันสิ ผ่านไปไม่นานฉันกลับลืมซะแล้ว”

เธอหยุดชั่วคราว แล้วพูดต่อ “ฉันไม่รู้ว่าเห็นที่ตลาด หรือที่ศาลากลางตอนฉันไปส่งอาหารให้กับอี้โจวน่ะ”

เธอมองเติ้งซูอี้อย่างขอโทษ “ฉันขอโทษด้วยนะ ฉันจำไม่ได้จริง ๆ”

เมื่อได้ยินเซี่ยชิงหยวนพูดถึงศาลากลาง เติ้งซูอี้ก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกโกหกขึ้นมา

บางทีผ้าพันคอนี้อาจไม่ใช่งานฝีมือที่มีอันเดียว เพียงแต่เหอเส้าหยวนโกหกเธอ

หากเป็นกรณีนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้หญิงคนอื่นจะมีผ้าพันคอสไตล์เดียวกัน

แต่ผู้หญิงเกิดมาพร้อมกับสัญชาตญาณที่ละเอียดอ่อนมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

น่าจะเป็นไปได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเหอเส้าหยวน เพราะเคยมีเหตุการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้นมาก่อน

จากนั้นเธอก็คิดว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในห้องเก็บเอกสารนานแล้ว จึงไม่ได้รับข่าวสารที่ดีเท่าที่เคย และเธอก็อาจพลาดเรื่องอะไรบางอย่างไปก็ได้

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หัวใจของเติ้งซูอี้ก็ดิ่งลง

เมื่อเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยถูกหว่านแล้ว มันจะหยั่งรากอย่างรวดเร็วและยากต่อการถอนออกมา

ใบหน้าของเติ้งซูอี้พลันเศร้าหมอง จนเธออยากกลับบ้าน

ผู้หญิงอีกคนก็รู้สึกกระอักกระอ่วน เธอทำเพียงยิ้มให้เซี่ยชิงหยวน แล้วกล่าวว่า “เธอก็เป็นแบบนี้ อย่าถือสาเลยนะ”

เซี่ยชิงหยวนยิ้มอย่างเข้าใจมาก “ไม่หรอกค่ะ”

เซี่ยชิงหยวนมองดูผู้หญิงคนนั้นจากไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอพลางโบกมือ

เมื่อหันกลับมา เซี่ยชิงหยวนพูดกับกงเหลียนซินที่กำลังตกตะลึงกับการแสดงของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า “พี่สะใภ้ เราไปกันเถอะค่ะ”

กงเหลียนซินกลั้นคำพูดมากมายอยู่ในใจ และเธอก็ไม่กล้าถามเซี่ยชิงจนกระทั่งเข้าไปในบ้าน

เธอลดเสียงลง แล้วเอ่ยว่า “จางอวี้เอ๋อคนนั้น เธอ…เธอกำลังเป็นชู้กับคนอื่นเหรอ?”

กงเหลียนซินไม่ใช่คนโง่ เธอสงสัยตั้งแต่ที่เซี่ยชิงหยวนพูดที่ตลาดแล้ว

นอกจากนี้เธอยังเห็นผ้าพันคอของจางอวี้เอ๋ออีกด้วย

อันที่จริงมันก็เหมือนที่เซี่ยชิงหยวนพูด ผ้าพันคอที่อยู่กับเติ้งซูอี้นั้นแตกต่างกันเพียงสีเท่านั้น

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าและพูดว่า “เป็นไปได้มากถึงแปดส่วนค่ะ”

ตอนนี้ปากของกงเหลียนซินอ้ากว้างมากจนสามารถบรรจุไข่ทั้งใบได้แล้ว

เธอยังพูดตะกุกตะกัก “เขา…แต่เขาแต่งงานแล้ว และยังเป็นชายมีอายุอีกด้วยเนี่ยนะ!”

เซี่ยชิงหยวนยักไหล่พลางเป่าผมบางเส้นที่อยู่บนหน้าผากให้กระพือ “แต่บางคนก็ไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก”

กงเหลียนซินไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อเพราะความประหลาดใจ เธอแค่ปิดปากด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อเท่านั้น

จากนั้นเธอพูดว่า “ไม่ได้การแล้ว พี่ต้องการโทรกลับไปบอกจางอวี้เจียวสักหน่อยแล้วล่ะ”

“พี่สะใภ้คะ” เซี่ยชิงหยวนรั้งเธอไว้ “พี่คิดว่าพี่สะใภ้รองไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้จริง ๆ น่ะเหรอ?”

กงเหลียนซินประหลาดใจอีกครั้ง “แต่จางอวี้เอ๋อเป็นน้องสาวของเธอ ทำไมเธอถึง…”

ยังพูดไม่ทันจบ เสียงของเธอก็เบาลงเรื่อย ๆ

ความสัมพันธ์แบบนี้ของจางอวี้เอ๋อ จางอวี้เจียวจะไม่รู้เกี่ยวกับมันอย่างชัดเจนได้ยังไง?

อาจเป็นไปได้ว่าสองพี่น้องกำลังพยายามวางแผนให้เหอเส้าหยวนหย่า

ไม่น่าแปลกใจเลยที่จู่ ๆ จางอวี้เจียวก็พูดพร่ำเหมือนคนบ้า เรื่องน้องสาวจะแต่งงานกับข้าราชการใหญ่ในช่วงเวลานี้

ปรากฏว่าจางอวี้เอ๋อลอบเป็นชู้กับชายที่แต่งงานแล้ว!

เมื่อดูอายุของเหอเส้าหยวน เขาเกือบจะเป็นพ่อของจางอวี้เอ๋อได้เลยนะ! บราวนี่ออนไลน์

พอเห็นใบหน้าของกงเหลียนซินแปรเปลี่ยนเป็นสีฟ้าและซีดเซียว เซี่ยชิงหยวนก็ตบไหล่อีกฝ่ายแล้วพูดว่า “พี่สะใภ้คะ ทุกคนต่างก็มีเส้นทางชีวิตของตัวเอง การพยายามคว้าสิ่งที่ต้องการไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าเป็นการได้จากการทำร้ายผู้อื่นมันก็จะอยู่ได้ไม่นานนักหรอก”

จากนั้นเธอเดินเข้าไปในห้อง ถอดผ้าพันคอออกตรงหน้ากระจก พลางมองดูสาวสวยที่อยู่ในนั้น พลันยิ้มอย่างมีเสน่ห์เย้ายวน

จางอวี้เอ๋อที่อยู่ในศาลากลางก็เท่ากับระเบิดเวลา และหากจางอวี้เจียวยังทำตัวเหมือนเดิมด้วยอีก มันก็มีแต่ทำให้ครอบครัวและคนรอบข้างไม่สงบสุขก็เท่านั้น

เธอไม่ได้อยากจะรั้งตัวเองไม่ให้ทำอะไร แต่บางครั้งเธอแค่ห่วงพ่อแม่ และไม่อยากทำให้เกิดเหตุการณ์น่าเกลียดเกินไปขึ้น

มันเรียกว่าเชือดไก่ให้ลิงดู ถึงเวลาต้องดำเนินการบางอย่างแล้ว

ในช่วงเย็น ทุกคนอาบน้ำและกลับห้องของตน

โต๊ะอ่านหนังสือของเสิ่นอี้โจวถูกเปลี่ยนเป็นโต๊ะเครื่องแป้งของเซี่ยชิงหยวนชั่วคราว

วางผลิตภัณฑ์ดูแลผิวขวดเล็ก ๆ สองสามขวดเท่านั้น ส่วนของอย่างอื่นบนโต๊ะล้วนเกี่ยวกับงานของเสิ่นอี้โจว

เซี่ยชิงหยวนนั่งบนเตียง งอเข่าข้างหนึ่งตามธรรมชาติแล้วดูนิตยสารแฟชั่นที่เธอหยิบมาจากเหล่าไต้

เสิ่นอี้โจวนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งชั่วคราว พลางพลิกเอกสารในมือของเขา และใช้ปากเขียนคำอธิบายประกอบเป็นครั้งคราว

เขาเงยหน้าขึ้นมองเซี่ยชิงหยวนและพูดว่า “ตอนมื้อเย็น ผมเห็นพี่สะใภ้ดูเหมือนมีอะไรบางอย่างในใจนะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

ไม่ใช่ว่าเขากังวลเกี่ยวกับกงเหลียนซิน แต่เขากลัวว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นระหว่างเซี่ยชิงหยวนกับพี่สะใภ้

เซี่ยชิงหยวนเงยหน้าขึ้นแล้วมองดูเขา “คุณสังเกตเห็นงั้นเหรอ?”

เมื่อได้ยินเซี่ยชิงหยวนพูดคำนี้ ก็ชัดเจนว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เสิ่นอี้โจววางเอกสารในมือลง แล้วหันหน้ามาหาเธอ “บอกผมหน่อยสิ”

เซี่ยชิงหยวนนั่งตัวตรงพลางหวีผมไปด้วย “ฉันสงสัยว่าจางอวี้เอ๋อกำลังเล่นชู้กับเหอเส้าหยวนอยู่น่ะ”

“หืม?” เสิ่นอี้โจวเลิกคิ้วและเงียบไปครู่หนึ่ง

เซี่ยชิงหยวนพูดว่า “ไม่เชื่อเหรอ?”

เสิ่นอี้โจวส่ายหัว “แค่แปลกใจนิดหน่อยน่ะ”

เขาทำงานอยู่ในศาลากลางมาพักใหญ่แล้ว ดังนั้นเขาจึงเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับนิสัยส่วนตัวบางอย่างของเหอเส้าหยวนมาบ้าง แต่เมื่อมันไม่เกี่ยวข้องกับเขา เขาก็ได้แต่หัวเราะ

โดยไม่ทันได้คาดคิด คราวนี้มีจางอวี้เอ๋อเข้ามาเกี่ยวข้อง

เซี่ยชิงหยวนเล่าสั้น ๆ กับเสิ่นอี้โจวว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลานี้ ก่อนจะกล่าวว่า “ตอนนี้ความคิดของฉันคือรอให้เติ้งซูอี้กับจางอวี้เอ๋อกัดกันเอง และเมื่อไหร่ที่จางอวี้เจียวทนไม่ได้แล้วกระโดดออกมา ฉันจะร่วมด้วย ฉันจะเก็บกวาดพี่น้องคู่นี้พร้อมกันไปเลย”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เสิ่นอี้โจวก็อดหัวเราะไม่ได้ “คำพูดใหญ่โตเชียวนะ”

เซี่ยชิงหยวนเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดเสียงดัง “ถูกต้อง! ดูด้วยว่านี่คนของใคร!”

เธอไม่ใช่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อีกต่อไปแล้วที่จะยอมปล่อยให้พี่สะใภ้รองกลั่นแกล้งอย่างเดียว

ตอนนี้เธอพัฒนาขึ้นแล้ว และยังได้รับการสนับสนุนจากเสิ่นอี้โจว เพราะงั้นเธอจำเป็นต้องทนใครอีกหรือ?

เมื่อเห็นว่าเธอดูพอใจในตัวเอง เสิ่นอี้โจวรู้สึกมีความสุขมาก

เขาดึงเธอเข้ามากอด พลันจ้องตาแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเมื่อถึงเวลาใช้ประโยชน์จากผม คุณจะขอบคุณผมยังไงเหรอ?”

เมื่อใดก็ตามที่เสิ่นอี้โจวมองเธอแบบนี้ เซี่ยชิงหยวนรู้ว่าเขาต้องการทำอะไรลามกแน่นอน

เธอยิ้มไม่รู้ไม่ชี้ให้เขา “พรุ่งนี้ฉันจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้คุณดีไหม?”

เสิ่นอี้โจวไม่ไหวติง “คุณคิดว่าผมเป็นคนชอบกินขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เซี่ยชิงหยวนอยากจะพูดว่า ‘คุณไม่ใช่คนชอบกิน แต่คุณมีทั้งความกระหายและความปรารถนาต่างหาก!’

แน่นอนว่าเธอไม่กล้าบอกเรื่องแบบนั้นกับเสิ่นอี้โจว เธอมองลงไปที่ปลายนิ้วขาวเรียวของตัวเอง แล้วเสียงของเธอก็ลดต่ำลง “แล้วคุณต้องการอะไรล่ะ?”

———————

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Score 10
Status: Completed
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี ...ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด! เรื่องย่อ หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

Options

not work with dark mode
Reset